หัวข้อ: หวังหลาง ลูกกตัญญู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 27 มกราคม 2553 15:56:09 (http://www.wantup.com/images/139_P123000_9.jpg) (http://www.wantup.com/view-139_P123000_9.jpg)
ฝากรูป (http://www.wantup.com) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/04.mp3 ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี ไม่ว่าใครหากได้พกพาความกตัญญูติดตัวไปด้วยละก็ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นคนดีผู้คนจะยกย่องสรรเสริญ ในสมัยซือฮั่นมีลูกกตัญูคนหนึ่งชื่อ หวังหลาง ครอบครัวของเขายากจนมากในขณะที่พ่อป่วยหนักหมดทางเยียวยาก่อนตายพ่อ ปรารฎว่า อยากกินแกงปลาสักถ้วยหนึ่ง เวลานั้นเป็นฤดูหนาว อากาศหนาวจัด น้ำในลำธารกายเป็น้ำแข็งหมด ไม่สามารถจับปลาได้ เมื่อไปถึงลำธาร หวังหลาง ถอดเสื้อผ้าออกหมด ทอดร่างอันเปลือยเปล่านอนราบลงไปบนธารน้ำแข็ง เพื่อใช้ไออุ่นจากร่างกาย ของตนละลายน้ำแข็ง ในที่สุดน้ำแข็งก็ละลายจนเป็นโพลง ไม่น่าเชื่อเลยว่าปลาในน้ำจะกระดดดขึ้นฝั่งโดยที่เขาไม่ต้องลงไปจับเลยนับว่า สวรรค์มีตา..........เห็นแก่ความกตัญญูของเขาที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อให้พ่อได้กินแกงปลา หากคนในปัจจุบันเอาเยี่ยงอย่าง หวังหลาง มีความรัก - ความเคารพและกตัญญูต่อพ่อ - แม่ของตน ความวุ่นวายคงลดน้อยลงมาก กระแสเศรษฐกิจของสังคมโลกยุคปัจจุบันส่งผลต่อศีลธรรมในใจของผู้คนมากเหลือเกิน ปัญหาความแตกแยกภายในครอบครัวทำให้พ่อ - แม่ - ลูกไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากัน บางครอบครัวพ่อ - แม่ต้องออกไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเพื่อส่งเงินมาให้ลูก แต่ไม่อาจส่งอ้อมกอดมาให้ลูกได้ ทำให้ลูกเข้าใจผิดคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก จึงทำตัวเหลวแหลกหากลูกถูกสะกิดความคิดจากผู้มีปัญญาสักนิดว่าพ่อแม่ยอมลำบากเพื่อให้ลูกสบายให้ลูกได้เล่าเรียนเผื่อวันหน้าจะได้เป็นเจาคน นายคน ลูกทุกคนจึงควรแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ด้วยการประพฤติตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคมไม่เบียดเบียนไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นสิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นของขวัญล้ำค่าที่พ่อ - แม่ปรารถณามากกว่าสิ่งใด ๆ ในโลกมาลัยดอกสีขาวบริสุทธิ์ยังไม่หอมชื่นเท่ากับน้ำใจที่แสดงออกถึงความห่วงใยเวลาที่ท่านต้องการกำลังใจเหมือนบทประพันธ์ที่ผู้รู้ถ่ายทอดไว้ว่า.................................... หัวข้อ: Re: หวังหลาง ลูกกตัญญู เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 27 มกราคม 2553 15:58:53 (http://www.wantup.com/images/139_P123000_9.jpg) (http://www.wantup.com/view-139_P123000_9.jpg)
ฝากรูป (http://www.wantup.com) พ่อกับแม่มีแต่จะแก่เฒ่า จะเลี้ยงเจ้าเรื่อยไปนั้นอย่าหมาย มีวิชาเลี้ยงตนไปจนตายลูกสบายแม่กับพ่อก็พอใจ ยามแก่เฒ่าหมายเจ้าเฝ้ารับใช้ ยามป่วยไข้หมายเจ้าเฝ้ารักษา ถึงคราวดับดิ้นสิ้นชีวา หวังเจ้าช่วยปิดตาคราสิ้นใจ เราอาจบอกรักใครได้วันละหลาย ๆ หนแต่มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งรอฟังคำว่า รัก จากลูกมากว่าครึ่งค่อนชีวิตแต่ไม่เคยได้ยินเลย เพราะลูกอายกลัวคนอื่นจะได้ยิน ไม่กล้าก้มกราบแทบเท้าแม่กลัวคนอื่นจะเห็น คนที่ดีจะไม่อายที่จะบอกรักพ่อแม่แต่อายที่จะทำความชั่วเราเป็นคนดีหรือคนชั่วดูจากความกล้าในเรื่องนี้ก็พอจะรู้แล้ว................................... Wednesday, January 27, 2010 คัดมาจากในหนังสือ กระเป๋าสติ โดย โรมรันต์ เสวิคาร |