อัยการฟ้องข้อหายุยงปลุกปั่น ‘ตะวัน-แฟรงค์’ คดีบีบแตรขบวนเสด็จ อ้างเป็นการท้าทายดูหมิ่นพระเกียรติ
<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-04-02 21:29</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพ แมวส้ม</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>อัยการส่งฟ้อง “ตะวัน-แฟรงค์” คดีบีบแตรขบวนเสด็จเอาวันสุดท้ายของกำหนดฝากขังตามกฎหมาย บรรยายฟ้องเห็นว่าผิดข้อหายุยงปลุกปั่น ยกเหตุการณ์บีบแตรลงคลิปเหตุการณ์ปั่นป่วนทำให้ประชาชนมาละเมิดกฎหมาย และเป็นการท้าทายดูหมิ่นพระเกียรติ ถูกขังต่อระหว่างพิจารณาคดี ศาลนัดสอบคำให้การ 2 พ.ค.67</p>
<p>2 เม.ย.2567
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) อัยการส่งฟ้องทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ต่อศาลอาญา รัชดา ในคดีที่พวกเขาถูกกล่าวหาว่า บีบแตรใส่ขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567 โดยการยื่นฟ้องอัยการเกิดขึ้นในวันสุดท้ายที่ศาลมีอำนาจตามกฎหมายให้ขังได้ไม่เกิน 48 วัน</p>
<p>ณัฐพงษ์ วายุพัฒน์ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นเขียนคำฟ้องพวกเขาในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3), ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ตามมาตรา 397, ข้อหาเรื่องการใช้เสียงแตรรถยาวหรือซ้ำเกินควร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 14, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 368 จากกรณีไม่พิมพ์ลายมือในระหว่างรับทราบข้อกล่าวหา เฉพาะณัฐนนท์ยังถูกกล่าวหาในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 136 อีกหนึ่งข้อหาด้วย</p>
<div class="more-story">
<p>
“แฟรงค์” เพื่อนตะวัน การ์ด WeVo และคดีบีบแตรตำรวจขบวนเสด็จ</p>
</div>
<p>อัยการบรรยายการกระทำของทั้งสองคนที่เป็นความผิดว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567 ขณะที่มีการอารักขาขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ อยู่บนทางพิเศษศรีรัช มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่ทางลงทางด่วนพหลโยธิน 1 ทานตะวันและณัฐนนท์ได้ร่วมกันบีบแตรรถยนต์ตลอดเวลาเสียงดังยาว 1 – 2 นาที และขับรถยนต์แทรกคันอื่น ๆ ที่หยุดรอขบวนเสด็จ เพื่อขับแทรกเข้าไปในเส้นทางของขบวนเสด็จที่กำลังเคลื่อนผ่านบริเวณทางต่างระดับมักกะสันที่รถยนต์ของทั้งสองคนอยู่</p>
<p>ต่อมาเมื่อขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว จำเลยทั้งสองคนได้ขับรถไล่ติดตามขบวนเสด็จไปในระยะกระชั้นชิดและบีบแตรลากยาวโดยไม่มีเหตุอันควรไปจนถึงบริเวณทางลงของทางด่วนพหลโยธิน 1 เป็นระยะประมาณ 800 เมตร แต่เจ้าหน้าที่อารักขาได้สกัดกั้นจำเลยทั้งสองคนไว้ได้</p>
<p>นอกจากนี้ ในขณะเกิดเหตุ ส.ต.อ.นพรัตน์ อินทิแสน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อารักขาขบวนเสด็จ และเข้าสกัดรถยนต์ของทั้งสองคนให้หยุดการกระทำ ได้กล่าวหาว่าณัฐนนท์พูดดูถูกเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวด้วยถ้อยคำหยาบคายทำให้รู้สึกอับอายและถูกลดคุณค่าในขณะที่กำลังปฏิบัติตามหน้าที่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติงาน</p>
<p>จากนั้นในวันที่ 7 ก.พ. 2567 ทานตะวันได้ทำการโพสต์ภาพจากกล้องหน้ารถที่ทั้งสองขับในวันเกิดเหตุ ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยกล่าวแสดงความเห็นว่า</p>
<p>‘นำคลิปหลักฐานมาให้ชมค่ะ ว่ามีการปิดถนนจริง ๆ เราเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องขบวนเสด็จไปแล้ว แต่กลับไม่มีผู้ใหญ่คนไหนตอบ ซ้ำยังยัดคดี ม.112 และถอนประกันจนเข้าคุก นี่คือคำตอบที่ผู้ใหญ่ในประเทศนี้ให้กับเรา วันนั้น เราได้ขับรถไปทำธุระส่วนตัว เจอขบวนเสด็จพอดีและปิดถนนเหมือนเดิม เราไม่ได้รอและขับออกไปเลย เพราะทุกคนก็รีบเหมือนกัน เราขับรถไปตามเส้นทางที่จะต้องไปทำธุระ ไม่ได้จะเร่งไปเพื่อหาขบวนเสด็จ และมันก็มีแต่คำถามในหัวว่า ทำไมถึงมีรถคันไหนไปได้สะดวกกว่ารถของประชาชน?’</p>
<p>‘ครั้งนี้ ผู้ใหญ่ทั้งหลายในเมืองพุทธนี้ จะให้คำตอบเด็กอย่างเราแบบไหนคะ’</p>
<p>อัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองคนที่ต่อเนื่องกัน เป็นการสร้างความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องถึงขนาดที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง และเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย อันมิใช่การกระทำมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ และมิใช่การติชมโดยสุจริต</p>
<p>นอกจากนั้น เนื้อหาการโพสต์ของจำเลยที่ 1 หรือทานตะวัน เป็นการอวดอ้างพฤติกรรมของทั้งสองคนที่ขับรถแทรกรถยนต์ของประชาชนในบริเวณนั้นเพื่อพยายามแซงไปข้างหน้าให้ใกล้กับขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ และยังบีบแตรส่งเสียงดังแสดงความก้าวร้าว เป็นการต่อต้านท้าทายดูหมิ่นพระเกียรติยศ</p>
<p>อีกทั้งทั้งทำให้ประชาชนที่ติดตามเฟซบุ๊กของทานตะวัน เข้าใจว่าขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มโซเชียลมีเดีย อันเป็นการกระทำที่อาจสร้างความปั่นป่วนในหมู่ประชาชน และเป็นภัยอันตรายต่อความปลอดภัยทางสาธารณะ</p>
<p>จากนั้นศาลได้นัดถามคำให้การทั้งสองคนในชั้นพิจารณาคดีวันนี้ และเบิกตัวณัฐนนท์มาที่ศาลแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อตะวันได้ โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ให้เหตุผลว่า ทานตะวันพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ในขณะนี้แต่ไม่สามารถติดต่อกับโรงพยาบาลได้ จึงไม่สามารถเบิกตัวมาตามนัดได้ ศาลจึงให้เลื่อนนัดถามคำให้การไปเป็นวันที่ 2 พ.ค. 2567</p>
<p>ทั้งนี้ศูนย์ทนายความฯ มีข้อสังเกตต่อความเห็นสั่งฟ้องของอัยการว่าหลังเกิดเหตุไม่พบว่าจะมีการนำเสนอข่าว หรือผู้ใดที่กระทำการสร้างความวุ่นวายตามฟ้องของอัยการในฐานความผิดยุยงปลุกปั่น</p>
<p>บันทึกจับกุม ยังได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทานตะวันที่นั่งอยู่ข้างคนขับ ได้เปิดกระจกรถต่อว่าตำรวจที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวว่า เดือดร้อนภาษีประชาชน และเมื่อขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว ก็ได้เปิดการจราจรให้รถยนต์จากทางร่วมฯ วิ่งไปได้ตามปกติ โดยเห็นว่ารถของผู้ต้องหาทั้งสองคนมีพฤติการณ์ขับรถเร็ว ซึ่งตำรวจลงความเห็นว่าอาจเป็นการอันตรายต่อขบวนเสด็จ จึงได้แจ้งทางวิทยุให้เจ้าหน้าที่รายอื่นที่ปฏิบัติงานถวายความปลอดภัยทราบถึงพฤติกรรมของรถยนต์คันดังกล่าว</p>
<p>จากนั้นรถของตะวันก็ได้ขับเข้าประชิดกับรถปิดท้ายขบวนเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่รถปิดท้ายขบวนได้สกัดเอาไว้ได้ จึงทำให้ไม่สามารถแทรกเข้าไปในขบวนเสด็จได้ </p>
<p>ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของศูนย์ทนายความฯ เพิ่มเติมเรื่องกระบวนการปล่อยตัวทั้งสองคนหลังครบกำหนดฝากขังว่าเป็นอย่างไร ทราบว่าเนื่องจากทางอัยการดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลแล้วทำให้พวกเขาทั้งสองคนถูกขังต่อในชั้นพิจารณา</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/04/108671