พิมพ์หน้านี้ - พระเทพวราลังการ (หลวงปู่เคน สุภโร) วัดประชาบำรุง จ.มหาสารคาม

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/79625025308794_bud04050859p1_1_.jpg)
พระเทพวราลังการ หรือ "หลวงปู่เคน สุภโร"
อดีตเจ้าอาวาสวัดประชาบำรุง และอดีตเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม

"พระเทพวราลังการ" หรือ "หลวงปู่เคน สุภโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดประชาบำรุง และอดีตเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม (ธ) พระเถระชั้นผู้ใหญ่เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวมหาสารคาม

มีนามเดิมว่า เคน หาระมี เกิดเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2458 ที่บ้านปอแดง ต.อุ่มเม่า อ.ยาง ตลาด จ.กาฬสินธุ์ หลังจบการศึกษาชั้น ป.5 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน ออกมาช่วยครอบครัวทำไร่ทำนาเลี้ยงชีพ เมื่ออายุ 16 ปี พ.ศ.2474 บรรพชาที่วัดบึงพระลานชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

กระทั่งอายุครบ 20 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พระอุโบสถ วัดสุปัฏนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มี พระครูประจักษ์ อุบลคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระศรีธรรมวงศาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ภายหลังอุปสมบท มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2477 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ นอกจากนี้ยังศึกษาบาลี สามารถสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยคในปี พ.ศ.2488 จากสำนักเรียนวัดสุปัฏนาราม

ด้วยความประสงค์ช่วยพัฒนาสร้างสรรค์ความเจริญให้กับวัดบ้านเกิด จึงเดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านปอแดง ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

หลังช่วงเทศกาลออกพรรษาทุกปี ท่านออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรหลายแห่งในภาคอีสาน เพื่อแสวงหาความหลุดพ้นตามรอยพระตถาคต

พ.ศ.2507 ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุเมธีธรรมภาณ ต่อมาไปอยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดประชาบำรุง ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม

พ.ศ.2510 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดประชาบำรุง พร้อมกับขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม (ธ) และเป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ

หลวงปู่เคนเป็นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ใส่ใจต่อภาระในศาสนาด้านคันถธุระและด้านวิปัสสนาธุระ ท่านได้สร้างความเจริญและความสงบเรียบร้อยแก่พระพุทธศาสนาอย่างมากมาย

ด้านการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา หลวงปู่เคนได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาบูรณปฏิสังขรณ์วัดที่ขาดแคลนในถิ่นกันดาร และออกตรวจการณ์คณะสงฆ์ตามวัดต่างๆ ในปกครองปีละหลายครั้ง

ด้านการเผยแผ่หลักธรรม หลวงปู่ออกเผยแผ่หลักธรรมทางพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมออย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ท่านอบรมศีลธรรมแก่พุทธศาสนิกชนตลอดปี และให้ความสำคัญการศึกษาพระปริยัติธรรม

นอกจากนี้ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาทำให้วัดประชาบำรุงมีความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถ อาคารเรียนพระปริยัติธรรม กำแพงแก้ว ศาลาการเปรียญ เป็นต้น

หลวงปู่เคนปฏิบัติหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์อย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างให้คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองปฏิบัติตาม ตลอดเวลาที่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม (ธ) เป็นที่ศรัทธาเชื่อถือของพุทธศาสนิกชนทั่วไปในวงกว้าง ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวัดประชาบำรุงจึงมีพุทธศาสนิกชน มาร่วมทำบุญ และรับฟังเทศน์จากหลวงปู่เคนเป็นจำนวนมาก

พ.ศ.2526 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชวินยาภรณ์ จนถึงปี พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ "พระเทพวราลังการ"

ล่วงเข้าสู่ปัจฉิมวัย มีอาการอาพาธบ่อยครั้ง เนื่องจากความชรา ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น สุดท้ายเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2551 มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 93 พรรษา 73

สร้างความเศร้าสลดแก่คณะสงฆ์และชาวเมืองมหาสารคามยิ่ง
อริยะโลกที่ 6