ไทยลง MOU กับนาซาร่วมกันศึกษามลพิษในอากาศของไทย ส่งเครื่องบิน 2 ลำเก็บตัวอย่างฝุ่น
<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-03-15 13:36</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ไทยลงนาม MOU ร่วมกับนาซาเพื่อทำภารกิจเก็บข้อมูลตัวอย่างมลพิษเหนือน่านฟ้าของไทย คาดหวังที่จะได้ทำความเข้าใจที่มาและประเภทของมลพิษในอากาศทั้งฝุ่น PM2.5 และสารเคมีต่างๆ ไปจนถึงศึกษาพฤติกรรมทิศทางการเคลื่อนที่ของมลพิษในอากาศ </p>
<p>เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มีการลงนามข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่างประเทศไทยและองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ นาซา ในโครงการตรวจสอบมลพิษในอากาศในชื่อโครงการ Airborne and Satellite Investigation of Asian Air Quality (ASIA-AQ) โดยไทยจะเข้าร่วมโครงการนี้เป็นระยะเวลา 1 ปี</p>
<p>โครงการ ASIA-AQ มีประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้ทั้งหมด 5 ประเทศ ได้แก่ สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของเกาหลีใต้, กรมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของ ฟิลิปปินส์, มหาวิทยาลัย Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM) ของมาเลเซีย, สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) หรือ GISTDA ของไทย และกระทรวงสิ่งแวดล้อมของไต้หวัน</p>
<p>ทางองค์การนาซาได้นำเครื่องบินที่ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับและเก็บตัวอย่างมลพิษมาใช้เก็บตัวอย่างในอากาศของประเทศไทยจำนวน 2 ลำตลอดช่วงวันที่ 16 – 26 มี.ค.นี้ โดยเครื่องบินลำแรก DC-8 จะทำการบินเหนือน่านฟ้าประเทศไทยจากอู่ตะเภาถึงเชียงใหม่แล้ววนกลับมาลงที่อู่ตะเภาวันละ 2 รอบ ส่วนเครื่อง G-III จะทำการสำรวจคุณภาพอากาศเหนือกรุงเทพและปริมณฑลเป็นระยะทางรวม 60 กิโลเมตร โดยภารกิจครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะเก็บตัวอย่างอนุภาคมลพิษในอากาศจะทำให้แยกประเภทอนุภาคของมลพิษได้และทำให้ทราบถึงแหล่งที่มาของมลพิษเหล่านี้</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53589108365_320a086fbc_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">DC-8</span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53589108565_417220f8db_b.jpg" /></span></p>
<p style="text-align: center;"><font color="#e67e22">G-III</font></p>
<p>ประเภทของอนุภาคมลพิษที่จะทำการเก็บตัวอย่างจากภารกิจครั้งนี้ได้แก่ ฝุ่นขนาดต่างๆ, โอโซน, ไนโตรเจนไดออกไซด์, ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และ ฟอร์มัลดีไฮด์</p>
<p>นอกจากนั้นในโครงการนี้ไทยยังได้รับความร่วมมือด้านข้อมูลที่จะได้จากดาวเทียม GEMS ของเกาหลีใต้ที่จะมีการบันทึกข้อมูลคุณภาพอากาศในเอเชียซึ่งรวมถึงไทยด้วยทุกชั่วโมงตลอดเวลา 8 ชั่วโมงช่วงกลางวัน โดยดาวเทียมนี้สามารถตรวจจับแยกประเภทอนุภาคของมลพิษได้ด้วย และเมื่อนำมาประสานข้อมูลที่ได้จากเครื่องตรวจจับบนภาคพื้นดินและทำการวิเคราะห์ข้อมูลก็จะทำให้เข้าใจถึงการเคลื่อนตัวและที่มาของมลพิษในอากาศของไทยได้มากยิ่งขึ้น หลังจากเสร็จสิ้นโครงการแล้วจะมีการทำรายงานศึกษาคุณภาพของไทยตามมา</p>
<p>นริศรา ทองบุญชู จากคณะวิศวกรรมเคมี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อธิบายว่าไทยเผชิญปัญหามลพิษในเขตเมืองมาเป็นเวลา 20 ปีและก็พบว่าเจอว่ามีไนโตรเจนไดออกไซด์สูงมากในพื้นที่กรุงเทพฯ และมาบตาพุดก็หวังว่าส่วนตัวแล้วก็หวังว่าภารกิจการบินเก็บตัวอย่างครั้งนี้จะผ่านพื้นที่มาบตาพุดด้วยเพื่อทราบสถานการณ์มลพิษบริเวณนั้นด้วย</p>
<p>นริศรากล่าวว่า ไทยสามารถเก็บข้อมูลภาคพื้นดินแล้วและมีข้อมูลจากดาวเทียมประกอบกันแล้ว แต่สำหรับการเอาเครื่องบินขึ้นนี้ก็จะทำให้เห็นข้อมูลได้ในหลายระดับชั้นบรรยากาศก็จะทำให้เข้าใจปรากฏการณ์และทิศทางการเคลื่อนของมลพิษที่ไปตามลมมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาไทยขาดเทคโนโลยีในการเก็บตัวอย่างเพื่อจำแนกมลพิษในอากาศมาตลอดและรอคอยมาถึง 12 ปีแล้ว</p>
<p>ปกรณ์ เพ็ชรประยูร จาก GITSDA ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงประเด็นที่ไทยจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีอะไรบ้างจากความร่วมมือครั้งนี้ เขาอธิบายว่าเทคโนโลยีที่เข้ามาครั้งนี้เป็นเทคโนโลยีที่สูงมากแต่ก็มีค่าใช้จ่ายและกำลังคนในการติดตั้งและดำเนินเนินงานสูงมาก แต่ก็ทำให้รู้ธรรมชาติของฝุ่นในบ้านเราเมื่อศึกษาครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่ต้องทำบ่อยเหมือนเวลาได้รู้จักแล้วก็จะรู้จักกันเลย แม้การวัดบ่อยครั้งจะดีกว่าแต่เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบำรุงรักษาเครื่องมือแล้ว ตัวโครงการเองเมื่อทำการศึกษาจนเข้าใจแล้วหลังจากนี้ก็จะใช้เทคโนโลยีอื่นที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าแทน เช่นเทคโนโลยีดาวเทียมที่มีความแม่นยำและได้รายละเอียดมากขึ้นแทน</p>
<p>ปกรณ์กล่าวว่า ส่วนเทคโนโลยีที่ไทยจะใช้ในการเก็บข้อมูลต่อก็คือเครื่องมือวัดจากพื้นโลกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศและประสานข้อมูลจากพื้นโลกกับข้อมูลจากดาวเทียมได้ ก็จะเป็นเครื่องมือที่เป็นไปตามศักยภาพของไทยที่จะทำได้</p>
<p>ภายหลังจากการแถลงข่าว ทางนาซาได้นำสื่อมวลชนชมเครื่องบินทั้งสองลำและพูดคุยกับนักวิทยาศาสตร์และนักบินประจำเครื่องเกี่ยวกับภารกิจและวิธีการเก็บข้อมูลจากตัวอย่างที่ได้จากอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องทั้งสองลำ</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53588665581_eb70240838_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">อุปกรณ์ที่ติดตั้งนอกตัวเครื่อง DC-8</span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53588665641_7a9ca65503_b.jpg" /></span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">เจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง DC-8 กำลังอธิบายการทำงานของอุปกรณ์</span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53587795747_814a1c928a_b.jpg" /></span></p>
<p style="text-align: center;"><font color="#e67e22">แผนที่แสดงเส้นทางการบินเก็บข้อมูลของ DC-8</font></p>
<p style="text-align: center;"> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่า
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108435