[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ร้านน้ำชา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 05 มีนาคม 2567 02:29:24



หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - 7 องค์กรสิทธิฯขอสื่ออย่าหนุน จนท.รัฐใช้ 'ศาลเตี้ย' แนะส่งเสริมหลักนิติธรรมใน
เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 05 มีนาคม 2567 02:29:24
7 องค์กรสิทธิฯขอสื่ออย่าหนุน จนท.รัฐใช้ 'ศาลเตี้ย' แนะส่งเสริมหลักนิติธรรมในการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-03-05 01:36</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>7 องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ขอเรียกร้องให้ส่งเสริมและเผยแพร่การเคารพหลักนิติธรรมในการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด หลังสื่อเสนออดีตนายตำรวจมือปราบนอกราชการเล่าประสบการณ์ใช้อาวุธปืนปราบปรามอาชญากรรม ด้วยความเด็ดขาด รุนแรง แทนการจับกุมเพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม</p>
<p>4 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน 7 องค์กร นำโดยสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) ออกแถลงการณ์ ขอเรียกร้องให้ส่งเสริมและเผยแพร่การเคารพหลักนิติธรรมในการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด หลังจากกรณีอดีตนายตำรวจมือปราบนอกราชการคนหนึ่ง เล่าประสบการณ์ใช้อาวุธปืนขณะปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามอาชญากรรม ด้วยความเด็ดขาด รุนแรง โดยใช้วิธีการเล่าเรื่องในลักษณะเร้าอารมณ์ และแสดงความภาคภูมิใจ แทนการจับกุมเพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้น</p>
<p>7 องค์กรสิทธิมนุษยชน เรียกร้องต่อสื่อมวลชน รัฐบาลและหน่วยงานที่มีอำนาจใช้กำลังบังคับและใช้อาวุธปืนตามกฎหมาย สื่อมวลชนควรมีจรรยาบรรณไม่ควรนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้สังคมเข้าใจว่าการใช้อาวุธปืนโดยเจ้าเหน้าที่รัฐสังหารผู้ถูกหาว่ากระทำผิดเป็นสิ่งที่สมควรกระทำ สื่อมวลชนไม่สมควรนำมาตีแผ่ตอกย้ำค่านิยมความรุนแรง แต่ควรนำเสนอให้สังคมเข้าใจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่อผู้กระทำผิดตามครรลองของกฎหมาย โดยนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่สนับสนุนการประหัตประหารหรือใช้ “ศาลเตี้ย” ต่อผู้บุคคลใดๆ</p>
<p>แถลงการณ์ระบุถึงเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจใช้กำลังบังคับและใช้อาวุธปืน พึงตระหนักเสมอว่า ทุกชีวิตล้วนมีสิทธิในชีวิต ร่างกาย มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  การใช้อาวุธปืนจนอาจนำสู่การวิสามัญฆาตรกรรมก็เพื่อป้องกันตนหรือผู้อื่นให้พ้นภยันตรายที่ใกล้ถึง เจ้าหน้าที่ที่ใช้อาวุธปืน ไม่มีอำนาจ ในการ  “สังหารบุคคลใดๆ โดยใช้วิธีการนอกระบบกฎหมาย (Extra-judicial Killing)”  รัฐบาลและหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายต้องจัดให้เจ้าหน้าที่ที่ใช้กำลังบังคับและอาวุธปืนต้องคัดเลือกและกลั่นกรองจากผู้มีคุณธรรมและมโนธรรมสำนึก มีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ และต้องพัฒนาเครื่องมือและฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่ให้มีทักษะในการใช้ทางเลือกอื่นแทนการใช้กำลังบังคับและการใช้อาวุธปืน ซึ่งรวมถึงการแก้ไขความขัดแย้งด้วยเทคนิคการเจรจาต่อรอง การไกล่เกลี่ยและสันติวิธีด้วย</p>
<p>รัฐบาลและหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายต้องมีมาตรการในการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและใช้อาวุธ จะต้องไม่มีนโยบายส่งเสริมหรือยุยงให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนอกระบบกฎหมาย ทั้งต้องลงโทษเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาที่ละเลยอย่างจริงจัง รวมทั้งผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ทุกแพลตฟอร์ม ตรวจสอบข้อมูลที่เป็นเนื้อหาความรุนแรง นอกจากจะสร้างความเกลียดชังแล้ว ยังบ่มเพาะการใช้ความรุนแรงในสังคมอย่างต่อเนื่อง</p>
<p>สำหรับ 7 องค์กรที่ร่วมออกแถลงการณ์ประกอบด้วย สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา มูลนิธิมูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม มูลส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และมูลนิธิเพื่อนหญิง</p>
<p>โดยมีรายละเอียดแถลงการณ์ดังนี้ : </p>
<div class="note-box">
<h2><span style="color:#2980b9;">แถลงการณ์ ขอเรียกร้องให้ส่งเสริมและเผยแพร่การเคารพหลักนิติธรรมในการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด</span></h2>
<p>ตามที่ปรากฏในสื่อมวลชนกระแสหลักและสื่อสังคมออนไลน์นำไปเผยแพร่ซ้ำ กรณีอดีตนายตำรวจมือปราบนอกราชการคนหนึ่ง เล่าประสบการณ์ใช้อาวุธปืนขณะปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามอาชญากรรม ด้วยความเด็ดขาด รุนแรง โดยใช้วิธีการเล่าเรื่องในลักษณะเร้าอารมณ์ และแสดงความภาคภูมิใจที่ขณะที่เป็นเจ้าหน้าตำรวจได้ใช้อาวุธปืนสังหารบุคคลที่ต้องสงสัยว่ากระทำผิดทางอาญา ผู้มีอิทธิพลและมือปืน โดย ใช้คำว่า “ล่าได้” “ฆ่าได้” เป็นต้น โดยอ้างว่าได้รับคำสั่งและแต่งตั้งจากผู้บังคับบัญชาให้เป็นหัวหน้าชุดในการปฏิบัติการ “ฟาด” บุคคลที่อาจเป็นอันตรายต่อสังคมได้ในท้องที่ 24 จังหวัดภาคกลาง แทนการจับกุมเพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รายละเอียดปรากฏในสื่อมวลชนโดยทั่วไปนั้น</p>
<p>สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) และองค์กรสิทธิมนุษยชนท้ายแถลงการณ์นี้ ขอแสดงความห่วงใยและวิตกกังวลต่อการเผยแพร่ของสื่อมวลชน และการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย ในกรณีดังกล่าวด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้</p>
<p>1. บุคคลทุกคนมีสิทธิในชีวิตและร่างกายโดยได้รับรองไว้โดยปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ที่ประเทศไทยมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และประมวลกฎหมายอาญา โดยที่เจ้าหน้าที่รัฐคนใดก็ตาม ไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะละเมิดสิทธิดังกล่าวโดยพละการหรือ “ศาลเตี้ย” โดยการสังหาร เข่นฆ่า และทำร้ายบุคคลใดๆ รวมทั้งผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาว่าเป็นอาชญากร เว้นแต่จะโดยคำพิพากษาของศาลยุติธรรม ที่ได้พิจารณาคดีโดยเป็นธรรม และเป็นที่สุดแล้วเท่านั้น</p>
<p>2. หลักการพื้นฐานสหประชาชาติว่าด้วยการใช้กำลังบังคับและการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย<a href="#_ftn1" name="_ftnref1" title="" id="_ftnref1">[1][/url] มีความมุ่งหมายในการคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม การคุ้มครองสิทธิในชีวิตเสรีภาพในความมั่นคงปลอดภัยของบุคคล และเพื่อให้ความสำคัญเกี่ยวกับคุณสมบัติ การฝึกอบรมและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หลักการนี้มีสาระสำคัญโดยย่อระบุว่า ในกรณีที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้การใช้อาวุธปืนต้องจำกัดเพียงให้พอเหมาะแก่ความจำเป็นตามความร้ายแรงของสถานการณ์ และในกรณีพิเศษเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายจะใช้อาวุธปืนได้เพื่อป้องกันอันตรายใกล้ถึงตนเองหรือป้องกันผู้อื่นให้พ้นภยันตรายที่ใกล้ถึง หรือป้องกันอาชญากรรมร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อชีวิต หรือเพื่อทำการจับกุมบุคคลที่กำลังจะทำอันตรายแก่ชีวิต ต่อสู้ขัดขวางต่อเจ้าหน้าที่ผู้นั้น การใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่จึงมิได้หมายถึงการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้อาวุธปืนยิงผู้กระทำผิด “เสียให้ตาย” และมิได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจ “ยิงทิ้ง” ผู้ที่ถูกหาว่ากระทำผิดร้ายแรงได้ตามอำเภอใจแต่ประการใด</p>
<p>3. การสื่อสารให้สังคมเข้าใจว่าการใช้อาวุธปืนในการ “ไล่ล่าเอาชีวิต” หรือ การแสดงความเห็นในเชิงคดีหมดอายุความแล้ว แต่ยังไม่หมดอายุแค้น หรือ ในชีวิตราชการได้ดำเนินการฆ่าผู้ก่ออาชญากรรมมานับเป็นสิบๆ คน รวมถึงการใช้ถ้อยคำเรียกผู้ถูกหาว่ากระทำผิดว่า “ไอ้” ย่อมเป็นการขัดต่อหลักการพื้นฐานดังกล่าว และเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ตายและครอบครัว ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่สังหารโดยปราศจากคำพิพากษาของศาลว่าเป็นผู้กระทำผิด  เมื่อมีการพูดในสื่อสาธารณะอาจทำให้สังคมเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการใช้อาวุธจะปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดโดยการใช้ความรุนแรงด้วยวิธีการอย่างไรก็ได้ โดยไม่ต้องนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งในการบ่มเพาะให้สังคมเคยชินต่อการใช้ความรุนแรงในการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด อาจทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐบางคนเกิดความเข้าใจผิด ไขว้เขว นิยมความรุนแรง อันเป็นการขัดต่อหลักสิทธิในกระบวนการยุติธรรมและหลักนิติธรรมอย่างชัดเจน</p>
<p>ด้วยเหตุผลดังกล่าว สสส. และองค์กรสิทธิมนุษยชนท้ายแถลงการณ์นี้ จึงขอเรียกร้องต่อสื่อมวลชน รัฐบาลและหน่วยงานที่มีอำนาจใช้กำลังบังคับและใช้อาวุธปืนตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้</p>
<p>1. สื่อมวลชนควรมีจรรยาบรรณไม่ควรนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้สังคมเข้าใจว่าการใช้อาวุธปืนโดยเจ้าเหน้าที่รัฐสังหารผู้ถูกหาว่ากระทำผิดเป็นสิ่งที่สมควรกระทำ สื่อมวลชนไม่สมควรนำมาตีแผ่ตอกย้ำค่านิยมความรุนแรง แต่ควรนำเสนอให้สังคมเข้าใจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่อผู้กระทำผิดตามครรลองของกฎหมาย โดยนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่สนับสนุนการประหัตประหารหรือใช้ “ศาลเตี้ย” ต่อผู้บุคคลใดๆ</p>
<p>2. เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจใช้กำลังบังคับและใช้อาวุธปืน พึงตระหนักเสมอว่า ทุกชีวิตล้วนมีสิทธิในชีวิต ร่างกาย มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  การใช้อาวุธปืนจนอาจนำสู่การวิสามัญฆาตรกรรมก็เพื่อป้องกันตนหรือผู้อื่นให้พ้นภยันตรายที่ใกล้ถึง เจ้าหน้าที่ที่ใช้อาวุธปืน ไม่มีอำนาจ ในการ  “สังหารบุคคลใดๆ โดยใช้วิธีการนอกระบบกฎหมาย (Extra-judicial Killing)” ที่ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่กระทำโดยเจ้าที่รัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้”</p>
<p>3. รัฐบาลและหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายต้องจัดให้เจ้าหน้าที่ที่ใช้กำลังบังคับและอาวุธปืนต้องคัดเลือกและกลั่นกรองจากผู้มีคุณธรรมและมโนธรรมสำนึก มีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ เจ้าหน้าที่ต้องได้รับการฝึกอบรมและทดสอบการใช้กำลังและใช้อาวุธอย่างมีมาตรฐาน มีการฝึกอบรมเป็นพิเศษให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องจริยธรรม สิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมอาชญากรรม</p>
<p>4. รัฐบาลและหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายต้องพัฒนาเครื่องมือและฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่ให้มีทักษะในการใช้ทางเลือกอื่นแทนการใช้กำลังบังคับและการใช้อาวุธปืน ซึ่งรวมถึงการแก้ไขความขัดแย้งด้วยเทคนิคการเจรจาต่อรอง การไกล่เกลี่ยและสันติวิธีด้วย</p>
<p>5. รัฐบาลและหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายต้องมีมาตรการในการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและใช้อาวุธ จะต้องไม่มีนโยบายส่งเสริมหรือยุยงให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนอกระบบกฎหมาย ทั้งต้องลงโทษเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาที่ละเลยอย่างจริงจัง</p>
<p>6. ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ทุกแพลตฟอร์ม ตรวจสอบข้อมูลที่เป็นเนื้อหาความรุนแรง นอกจากจะสร้างความเกลียดชังแล้ว ยังบ่มเพาะการใช้ความรุนแรงในสังคมอย่างต่อเนื่อง</p>
<p> </p>
<p>ด้วยความเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของมนุษย์ สิทธิมนุษยชนและนิติธรรม</p>
<p>แถลง ณ วันที่ 4 มีนาคม 2567</p>
<ol>
<li>สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)</li>
<li>มูลนิธิผสานวัฒนธรรม</li>
<li>สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.)</li>
<li>มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา</li>
<li>มูลนิธิมูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม</li>
<li>มูลส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน</li>
<li>มูลนิธิเพื่อนหญิง</li>
</ol>
</div>
<div>
<hr size="1" />
<div id="ftn1">
<div class="note-box">
<p><a href="#_ftnref1" name="_ftn1" title="" id="_ftn1">[1][/url] รับรองโดยที่ประชุมองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด ครั้งที่ 8  ณ กรุงฮาวานา ประเทศคิวบา เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมถึง 7 กันยายน 1990</p>
</div>
</div>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่าว[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-category field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สิทธิมนุษยชน[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-tags field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">หลักนิติธรรม[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ตำรวจ[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">กระบวนการยุติธรรม[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">วิธีการนอกระบบกฎหมาย[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/extra-judicial-killing-0" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">Extra-judicial Killing[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108314