03 พฤษภาคม 2567 16:12:17
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ตลาดสด
.:::
นาทีวิกฤติของเหตุหิมะถล่มบนเมานต์เอเวอเรสต์
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: นาทีวิกฤติของเหตุหิมะถล่มบนเมานต์เอเวอเรสต์ (อ่าน 9026 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์
Thailand
กระทู้: 2329
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
นาทีวิกฤติของเหตุหิมะถล่มบนเมานต์เอเวอเรสต์
«
เมื่อ:
15 พฤศจิกายน 2557 12:03:37 »
Tweet
.
น้ำตาอาบภูผา
นาทีวิกฤติของเหตุหิมะถล่มบนเมานต์เอเวอเรสต์
Story
เผยนาทีวิกฤติของเหตุหิมะถล่มบนเมานต์เอเวอเรสต์ที่คร่าชีวิตคนงานปีนเขาชาวเชอร์ปาไปถึง 16 คน
ในวันที่จะกลายเป็นวันวิปโยคที่สุดในประวัติศาสตร์ของภูเขาที่สูงที่สุดในโลก นีมา ชีริง ชาวเชอร์ปาวัย 29 ปีจากหมู่บ้านคุมจุง ย่ำเท้าออกไปทำงานตอนตีสาม เขาแบกถังแก๊สหุงต้มหนัก 29 กิโลกรัมไว้บนหลัง เบื้องหลังเขาคือหมู่บ้านชั่วคราวของเบสแคมป์เอเวอเรสต์ (
Everest Base Camp
) ที่ซึ่งสมาชิกของคณะนักปีนเขานานาชาติราว 40 คณะกำลังหลับใหลอยู่ในเต็นท์ สูงจากเขาขึ้นไปคือแสงจากไฟฉายคาดศีรษะส่องเป็นทางวูบวาบท่ามกลางความมืด ระหว่างที่ชาวเชอร์ปาและคนงานชาวเนปาลเผ่าอื่นๆ กว่า 200 ชีวิต เดินเรียงแถวไปตามทางโตนน้ำแข็งคุมบูซึ่งถือเป็นบริเวณที่อันตรายที่สุด มีลักษณะคล้ายเขาวงกตสูงชัน เคลื่อนขยับตลอดเวลา และเต็มไปด้วยเสาน้ำแข็งง่อนแง่น เหวน้ำแข็ง และน้ำแข็งผิดรูปผิดร่างที่ไหลย้อยเป็นระยะทาง 610 เมตรลงสู่โกรกธารที่อยู่ระหว่างไหล่เขาฝั่งตะวันตกของเมานต์เอเวอเรสต์และนุปเซ ยอดเขาสูง 7,849 เมตรที่ตระหง่านง้ำอยู่เหนือเบสแคมป์
สหายชาวเชอร์ปาหลายคนของนีมา ชีริง ย้ำเท้ามุ่งหน้าสู่โตนน้ำแข็งดังกล่าวก่อนหน้าเขาในเช้าวันที่ 18 เมษายน ก่อนออกเดินทาง พวกเขารองท้องด้วยอาหารเช้าพื้นเมืองประกอบด้วยด้วยชาและโจ๊กทำจากแป้งข้าวบาร์เลย์เรียกว่า ซัมบา จากนั้นจึงยกข้าวของที่แพ็กไว้ตั้งแต่คืนก่อนขึ้นพาดบ่า บางคนลำเลียงเชือก พลั่วตักหิมะ สมอบก และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะใช้ขึงเชือกให้เป็นราวมืออยู่กับที่ขึ้นไปจนถึงยอดสูงสุดของเอเวอเรสต์ที่ระดับความสูง 8,850 เมตร ส่วนคนอื่นๆลากอุปกรณ์สารพัดที่จะใช้ตั้งแคมป์อีกสี่แคมป์ซึ่งอยู่สูงขึ้นไประหว่างทางสู่ยอดเขา
แม้จะต้องแบกหามข้าวของคนละอาจมากถึง 45 กิโลกรัม แต่ชาวเชอร์ปาส่วนใหญ่ก็แข็งแรงพอที่จะปีนระยะทาง 3.3 กิโลเมตรขึ้นไปยังแคมป์หนึ่งได้ภายในสามชั่วโมงครึ่งหรือน้อยกว่านั้น หลังปีนขึ้นมาจากเบสแคมป์ได้หนึ่งชั่วโมง นีมา ชีริง ซึ่งทำงานให้นักปีนเขาจากจีนคณะหนึ่ง ก็รุดมาถึงบริเวณที่เรียกกันว่า ป็อปคอร์นฟีลด์ (
Popcorn Field
) ซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นทางสูงชันขึ้น ต้องปีนผ่านก้อนน้ำแข็งแตกหักระเกะระกะ และมีบันไดพาดเชื่อมจำนวนมาก ถัดจากตรงนี้ขึ้นไปข้างหน้าเป็นพื้นที่ราบเรียกว่า ฟุตบอลฟีลด์ (
Football Field
) ซึ่งนักปีนเขามักหยุดแวะพักกัน และเป็นเรื่องปกติที่จะได้ยินน้ำแข็งส่งเสียงครืดคราด ขณะที่ธารน้ำแข็งคุมบูสั่นสะท้านขยับไหลไปข้างหน้าด้วยอัตราความเร็วราวหนึ่งเมตรต่อวัน เหนือฟุตบอลฟีลด์ขึ้นไปเป็นเขตอันตรายมากอีกเขตหนึ่ง เพราะเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งขนาดเท่าคฤหาสน์และแท่งน้ำแข็งยอดแหลมง่อนแง่น หากผ่านช่วงนี้ไปได้ การปีนเขาของนีมา ชีริง จะง่ายขึ้น เพราะธารน้ำแข็งคุมบูจะแผ่ราบเรียบเป็นทุ่งสีขาวกว้างใหญ่ไพศาลที่เรียกว่า เวสเทิร์นคูม (
Western Cwm
)
ราวหกโมงเช้า เหนือฟุตบอลฟีลด์ขึ้นไป นีมา ชีริง ปีนไปถึงฐานของผาน้ำแข็งสูงราว 12 เมตร จากตรงนั้น เขาเริ่มภารกิจการปีนป่ายอันงุ่มง่ามขึ้นทางบันไดอลูมิเนียมมัดเชื่อมต่อกันสามอัน พร้อมสัมภาระนักอึ้งบนหลัง พอไต่ขึ้นถึงยอดผา เขารู้สึกเหนื่อยใจเมื่อเห็นคนงานปีนเขาหลายสิบคนยืนออกันอยู่บนหิ้งน้ำแข็งลาดเอียงขนาดประมาณเท่าห้องอาหาร บางคนเข้าไปเรียงแถวรอปีนลงไปในร่องลึกทางบันไดมัดต่อกันสองอัน ในเช้าวันนั้น น้ำแข็งขยับตัวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ทำให้สมอบกช่วงปลายด้านล่างของบันไดที่ใช้ไต่ลงหลุดออกมา ส่งผลให้การจราจรบนเส้นทางนั้นติดขัด คนที่มาถึงพื้นที่ส่วนนี้ตอนตีห้าเล่าว่าเกิดการล่าช้าอยู่นาน แม้จะตอกสมอบกยึดบันไดเข้าที่แล้ว ตอนที่นีมา ชีริง ไปถึงตรงนั้นอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลัง เขาพบว่า สมอบกก็หลุดออกมาอีก
"ผมว่ามีคนไปอออยู่ตรงนั้นเกินร้อยคน หลายคนไต่ลงไปด้วยการเกาะเชือก ต้องใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะผ่านช่วงคอขวดนี้ไปได้ ตอนนั้นละครับที่ผมรู้สึกกลัวขึ้นมามากๆ" เขาบอก
ในเนปาล ลางสังหรณ์ถึงอันตราย บางครั้งจะรับรู้ได้ในรูปเสียงแหลมสูงอื้ออึง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกกันว่า คานรูนู (
kan runu
) หรือหูร้อง (
crying ear
) นีมา ชีริง ผู้พิชิตยอดเขาเมานต์เอเวอเรสต์มาแล้วสามครั้งเคยได้ยินหูเขาร้องมาก่อนแล้วและรู้ดีเกินกว่าจะเพิกเฉย เขาสับสนลังเลมากว่า จะแบกสัมภาระมุ่งหน้าไปยังแคมป์หนึ่งต่อตามหน้าที่ หรือจะทิ้งถังแก๊สไว้ก่อนเท่าที่มาไกลได้ที่สุด แล้วกลับลงไปทันที เขาพยายามวิทยุติดต่อเซอร์ดาร์ (หัวหน้าลูกหาบ) ที่เบสแคมป์ แต่เจ้านายเขาลงไปจัดหาเสบียงอยู่ที่หมู่บ้านนัมเชบาซาร์ นีมา ชีริงติดต่อกับพ่อครัวที่แคมป์ได้เพียงคนเดียว เขาบอกพ่อครัวว่า หูเขากำลังร้อง และเขาจะทิ้งสัมภาระยึดไว้กับเชือกก่อน แล้วจะกลับลงมา เชอร์ปาคนอื่นๆถามเขาว่า เขาทำแบบนั้นทำไม
"ผมบอกไปว่า 'หูผมร้อง จะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ ผมจะลงเขา พวกนายเองควรไปเหมือนกัน’" เขาเท้าความหลังและคะเนว่า ตอนนั้นน่าจะเป็นเวลาประมาณ 6:15 น.
เบสแคมป์และโตนน้ำแข็งยังอยู่ในเงามืด แต่เหนือขึ้นไปไกลโพ้น ยอดเขาอันเป็นที่สถิตของทวยเทพเชอร์ปาตั้งตระหง่านในแสงเจิดจ้า ตั้งแต่ยอดจรดฐานยังเป็นเช้าอันงดงามบนเมานต์เอเวอเรสต์ จนกระทั่งอีก 11 นาทีต่อมา
เวิ้งหุบรอบเบสแคมป์ของเอเวอเรสต์นั้นกว้างใหญ่ไพศาล จนนักปีนเขามักเห็นหิมะถล่มก่อนได้ยินเสียงเสียอีก เสียงจะตามมาเหมือนฟ้าร้องตามหลังอสุนีบาต เป็นเสียงซู่ซ่าเหมือนคลื่นทะเลซัดซาด ขณะกระแสเชี่ยวกรากของหิมะ น้ำแข็ง และก้อนหินถั่งโถมลงมาตามร่องธาร หรือทะลักลงมาจากปากหุบเขา แต่หิมะถล่มที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน มีเสียงต่างออกไป โดยเฉพาะต่อหูชาวเชอร์ปาที่ได้ยินเสียงนั้นขณะอยู่ในพื้นที่โตนน้ำแข็งพอดี เกือบทุกคนบรรยายตรงกันว่าเป็นเสียง ตุ๊งงงง หนักๆ เหมือนค้อนทุบระฆังใบหนาหนักเสียงทึบๆ
น้ำแข็งรูปทรงเหมือนเขี้ยวสุนัขก้อนมหึมาสูง 34 เมตร หนักราว 7,300 ถึง 13,600 ตัน แตกตัวออกมาจากชั้นน้ำแข็งบนไหล่เขาฝั่งตะวันตกของเอเวอเรสต์ แล้วถล่มลงมาเบื้องล่าง แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และทำให้เกิดผนังลมขนาดใหญ่ขึ้นทางด้านหน้าของน้ำแข็ง ขณะพุ่งด้วยความเร็วสูงขึ้นและมีมวลใหญ่ขึ้น เชอร์ปาบางคนคิดว่าหิมะถล่มที่เห็นคงใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะมาถึงพวกเขา แต่คนอื่นๆ บอกว่า มันพุ่งมาถึงตัวภายในเวลาไม่กี่วินาที นักปีนเขาราว 24 คนอยู่ในเส้นทางหิมะถล่มโดยตรง และอีกจำนวนมากกระจายอยู่ตามริมขอบทั้งด้านบนและด้านล่าง
ไม่กี่ชั่วโมงหลังหิมะถล่มและปฏิบัติการช่วยชีวิตยุติลง ตัวเลขทางการระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 16 คน เป็นชาวเชอร์ปา หรือไม่ก็คนงานชาวเนปาลเผ่าอื่นๆ ในจำนวนนี้สามคนยังสูญหายและคาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว พวกเขาจบชีวิตพร้อมสายรัดนิรภัย ขณะทุ่มเทแรงกายรงกายเพื่อส่งลูกเรียนหนังสือ สร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัว หรือซื้อยาแก้หอบหืดให้พ่อแม่แก่ชรา เด็กๆ 28 คนสูญเสียพ่อ ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 คนพบจุดจบในที่เดียวกัน ซึ่งก็คือตรงสันน้ำแข็งลาดเอียงที่พวกเขารอไต่ลงบันได และบัดนี้อันตรธานไปแล้ว
ความสยดสยองของเหตุการณ์ในวันนั้นร้ายแรงกว่าอุบัติเหตุใดๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้บนเมานต์เอเวอเรสต์ รวมทั้งหายนะเมื่อปี 1922 1970 และ 1974 ที่มีชาวเชอร์ปาเสียชีวิตพร้อมกันเป็นกลุ่ม ทว่าผลกระทบจากโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดนี้เพิ่งจะเริ่มปรากฏ
ภาพ : น้ำตาอาบมหาภูผา
คำบรรยายภาพ : เผยนาทีวิกฤติของเหตุหิมะถล่มบนเมานต์เอเวอเรสต์ที่คร่าชีวิตคนงานปีนเขาชาวเชอร์ปาไปถึง 16 คน
ที่มา - ngthai.com
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...