‘จุลพันธ์’ ชง คกก.ชุดใหญ่ตัดสินใจ ใครได้เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทบ้าง คาดโอนได้หลัง เม.ย.67
<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2023-10-25 22:30</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพจาก พรรคเพื่อไทย</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>“จุลพันธ์” เตรียมเสนอกรรมการชุดใหญ่เคาะดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท มี 3 ทางเลือก หนึ่ง ไม่ให้คนได้เงินเดือน 5 หมื่นขึ้นไปและ/หรือมีเงินฝาก 5 แสน สองไม่ให้คนเงินเดือน 2.5 หมื่นขึ้นไปและ/หรือมีเงินฝาก 1 แสน สาม ให้เฉพาะผู้ยากไร้ ส่วนระบบบล็อกเชนให้กรุงไทยพัฒนา โอนได้หลังเม.ย.67 </p>
<p>25 ต.ค.2566
สำนักข่าวไทย และ
The Standard รายงานว่า จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet กล่าวว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปบางประเด็นจึงได้จัดทำข้อเสนอเป็นทางเลือกต่อคณะกรรมการนโยบายนี้ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งเรื่องกลุ่มเป้าหมายที่จะให้ การขึ้นเป็นเงินสด ผู้ที่จะมาพัฒนาระบบ ที่มาของเงิน และมีการคาดการณ์ว่าจะโอนได้หลังเม.ย. 2567</p>
<p>ประเด็นเรื่องกลุ่มเป้าหมายจะเปลี่ยนจากการโอนเงินให้กับทุกคนอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 56 ล้านคน ใช้เงิน 5.6 แสนล้านบาท เป็นการจัดทำทางเลือกกลุ่มเป้าหมายให้คณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจเลือกจาก 3 กลุ่มเป้าหมายคือ</p>
<p>1. ตัดกลุ่มรายได้หรือเงินเดือนมากกว่า 25,000 บาท และ/หรือมีเงินฝาก 1 แสนบาทออก เหลือคนที่ได้รับโอนจำนวน 43 ล้านคน ใช้เงินประมาณ 4.3 แสนล้านบาท</p>
<p>2. ตัดกลุ่มรายได้หรือเงินเดือนมากกว่า 50,000 บาท และ/หรือมีเงินฝาก 5 แสนบาทออก เหลือคนที่ได้รับโอนจำนวน 49 ล้านคน ใช้เงิน 4.9 แสนล้านบาท</p>
<p>3. ให้เฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เป็นกลุ่มผู้ยากไร้ มีจำนวน 15-16 ล้านคน ใช้เงิน 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มควรได้รับการช่วยเหลือ</p>
<p>จุลพันธ์ระบุว่าคณะอนุกรรมการฯ อยากเสนอตัดสิทธิผู้มีรายได้สูง แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบอร์ดชุดใหญ่ตัดสินใจ</p>
<p>รมช.คลังกล่าวถึงประเด็นเรื่องการยืนยันตัวตนจะใช้ระบบ KYC โดยใช้ฐานข้อมูลเดิมจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อเข้าร่วมโครงการ สำหรับบุคคลธรรมดา นิติบุคคล กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้าน ส่วนจะเปิดดำเนินการเมื่อไรจะประกาศอีกครั้ง</p>
<p>จุลพันธ์ระบุถึงการกำหนดแนวทางการใช้จ่ายจะมุ่งเน้นสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลักในเขตอำเภอ เพื่อกระจายรายได้หมุนเวียนในท้องถิ่นถือว่าเป็นพื้นที่ไม่ใหญ่มากเกินไป และต้องใช้จ่ายเงินภายใน 6 เดือน หากใช้ไม่หมดจะถูกตัดส่งคืนคลัง จึงตัดทางเลือกเขตตำบลและระดับจังหวัด สำหรับการขึ้นเงินดิจิทัลเป็นเงินบาท ทำได้เฉพาะร้านค้าอยู่ในระบบภาษี ทั้งการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ผู้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา</p>
<p>ส่วนแหล่งที่มาของเงินรองรับโครงการ ทำข้อเสนอ 3 ทางเลือก คือ</p>
<p>1. การใช้เงินงบประมาณเป็นหลัก</p>
<p>2. การใช้แหล่งเงินกู้ ด้วยหลากหลายวิธี</p>
<p>3. การใช้แนวทางกึ่งการคลัง ตามมาตรา 28 ด้วยการกู้เงินจาก ธนาคารออมสิน ยอมรับว่าเคยสนใจ แต่ขอเป็นทางเลือกสุดท้าย คณะอนุกรรมการฯ มุ่งเน้นเสนอใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ในรูปแบบงบผูกพันต่อเนื่อง 4 ปี ใช้งบประมาณปีละ 1 แสนล้านบาท รวมยอดเงินประมาณ 4 แสนล้านบาท</p>
<p>จุลพันธ์กล่าวถึงผู้บริหารและดำเนินการระบบ ให้ธนาคารกรุงไทยจัดทำแพลตฟอร์มใหม่ที่เป็นระบบบล็อกเชนมีความปลอดภัย เนื่องจากเคยสร้างแอปฯ เป๋าตังมาแล้ว แต่ระบบนี้จะแยกจากแอปฯ เป๋าตัง ด้วยการโอนฐานข้อมูลเดิมเข้ามาใช้ ยืนยันใช้เงินสร้างระบบไม่ถึง 12,000 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าว ยอมรับว่า ขั้นตอนการจัดทำระบบเงินดิจิทัล ต้องทดสอบ เพื่อความปลอดภัย และการใช้งบประมาณอาจทำให้การโอนเงินดิจิทัลมีความล่าช้า หลังเดือนเมษายน 2567 พร้อมกับการใช้งบประมาณโครงการของรัฐ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/10/106520