มาว่ากันต่อที่เรื่องของนางกวักนางกวัก เป็นเครื่องรางบูชา ที่มีรูปลักษณะเป็นสตรีไทยสมัยโบราณ ผมยาวประบ่า ห่มผ้าสไบเฉียง นุ่งผ้ายกดอก ประกอบด้วยพาหุรัด ทองกร และสร้อยสังวาลนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนแท่นทอง หัตถ์ขวายกงอขึ้นในลักษณะท่ากวักมือ หัตถ์ซ้ายจะถือถุงเงิน
มีความเชื่อกันว่า นางกวัก สามารถดลบันดาลโชคลาภให้บังเกิดแก่ผู้ไหว้บูชา ทำมาค้าขึ้น ซื้อง่าย ขายคล่อง และมีเสน่ห์มหานิยมแก่ผู้พบเห็นอีกด้วย
โดยเฉพาะในมวลหมู่ผู้มีอาชีพค้าขายด้วยเชื่อว่านามของนางกวัก มีความหมายในทางทำมาหากินคล่องเจริญก้าวหน้า ตามร้านค้าจึงพบเห็นรูปนางกวักบนหิ้งบูชา หรือแม้กระทั่งรถเข็นค้าขายในตะกร้าเก็บสตางค์ หรือมุมเล็กๆ ต้องมีรูปนางกวักอยู่ด้วยเสมอ
ตามประวัตินางกวัก ต้องย้อนไปในสมัยพุทธกาล ที่เมืองมิจฉิกาสีณฑนคร มีครอบครัวหนึ่ง ประกอบอาชีพซื้อขายสินค้าต่างๆ เลี้ยงชีพ สองสามีภรรยา มีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ "สุภาวดี"
ต่อมา สุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อ ได้ขยายกิจการซื้อเกวียนมา 1 เล่ม นำสินค้าไปเร่ขายในต่างถิ่น บางครั้งบุตรสาวขออนุญาตเดินทางไปด้วยเพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ
การไปค้าขายกับบิดา ทำให้สุภาวดีได้มีโอกาสพบและรับฟังธรรมจาก "พระกัสสปเถรเจ้า" และ "พระสีวลี"
หลังจากสุภาวดีฟังธรรมเทศนาอย่างตั้งใจแล้ว พระกัสสปเถรเจ้าและพระสีวลี ได้ประสิทธิ์ประสาทพรให้สุภาวดี
ด้วยกุศลที่นางสุภาวดี ได้รับประสาทพรจากพระอรหันต์ถึง 2 องค์ ส่งผลให้บิดาทำการค้าได้กำไรไม่เคยขาดทุน เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัว
จนกลายเป็นที่มาของนางกวัก