หัวข้อ: พุทธธรรมเพื่อประชาชน เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 08 มกราคม 2553 09:38:18 (http://i191.photobucket.com/albums/z119/bee_99/IMG0004.jpg)
http://www.4shared.com/embed/190464121/391b7ba ดุจแสงแห่งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ สามารถขับไล่ความมืดได้ฉันใด เช่นเีดียวกัน ขณะที่ผู้คนผ่านไปในโลก ก็จะสามารถทำลายความมืดของสรรพสัตว์ได้ฉันนั้น ทำให้พระโพธิสัตว์จำนวนมากมาย ได้เข้าอาศัยอยู่ในเอกยานในที่สุด เพราะฉะนั้นบุคคลที่มีปัญญา เมื่อได้ฟังว่าบุญกุศลที่ได้รับอย่างดีเลิศอย่างไรแล้ว หลังจากเราเข้าสู่ความดับแล้ว .........................................ควรจะน้อมรับพระสูตรนี้................................................. .....................คำอธิบาย.......................... ..............คำว่าในที่สุดหรือท้ายที่สุด............ นั้นหมายถึงการเผยแผ่ธรรมออกไปให้กว้างขวาง คำว่าเข้าอาศัยในเอกยาน หมายถึง บุคคลควรที่จะอาศัยอยู่ในเอกธรรมหรือคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาพระพุทธเจ้า คำว่า บุคคลผู้นั้น หมายถึงมนุษย์ปุถุชนในชั้นรู้สัจธรรมและไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคต่าง ๆ นา ๆ พุทธมรรค หมายถึงขั้นสุดท้าย คือขั้นที่ 6 ของการปฏิบัติ พระไตรปิกฏไตรแปลว่า 3 ปิกฏ แปลว่า ตะกร้า ซึ่งเป็นที่รวมของวัตถุสิ่งต่างนำมาใช้เปรียบเหมือนกับการรวบรวมคำสอนให้เป็นหมวดเป็นหมู่ได้ 3 คำภีร์หรือเรียกกันว่า............. ปิกฏ 3 คือ พระวินัย พระสูตร พระอภิธรรม จะศึกษาปิกฏไหนก่อนก็แล้วแต่อัธยาศัย พระวินัยเน้นเรื่องศึล เรื่องการขัดเกลาความประพฤติไม่ดี พระสูตรแสดงถึงธรรมะที่พระ พุทธเจ้าทรงแสดงแก่บุคคลต่างๆ และสถานที่ต่าง ๆ พระอภิธรรมแสดงถึงสภาพธรรมะควรเริ่มจากการรู้จักธรรมะว่าธรรมะคืออะไร ? ธรรมะคือทุกสิ่ง.......................................................... มีปัจจัยให้เกิด - ปรากฏขึ้น - บังคับบัญชาไม่ได้ - ทำกิจหน้าที่ของตนเองแล้วดับไปไม่ กลับมาเลย รวดเร็วมาก เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็เป็นปัจจัยให้ธรรมะอื่นเกิดพร้อมหรือเกิดต่อธรรมะเป็นของยากละเอียด - ลึกซึ้ง เพราะเป็นปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ธรรมะที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ทนต่อการพิสูจน์ ธรรมใดที่ปฏิบัติตามไม่ได้ จะไม่ทรงสั่งสอนเพราะฉะนั้น หากมีโอกาสได้ยินได้ฟังพระ ธรรม นั่นคือมีโอกาสเพื่อการปฏิบัติตามได้และสามารถเข้าถึงธรรมะได้แต่ต้องอาศัยเวลาวัตถุประสงค์ของการศึกษาธรรมะ เพื่อให้รู้ คือมีปัญญา - เพือการละ - มิใช่เพื่ออย่างอื่น เลยคือ มิใช่เพื่อการให้ได้รู้เรื่องราวธรรมะมาก ๆ จำเรื่องราวธรรมะได้มาก ๆ หรือเพื่อการสอบได้ หรือได้รับการยกย่องใด ๆ ธรรมะเกิดปรากฏอยู่ทุกขณะ - แม้ขณะนี้แต่ไม่เคยรู้เลย ธรรมะเกิดปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ขณะที่ปรากฏทางหนึ่งทางใดใน 6 ทวารแล้วผ่านเลยไปตั้งแต่เกิดจน กระทั่งเดี๋ยวนี้ จนกระทั้งถึงวันจากโลกนี้ไป เพราะฉะนั้นจึงต้องรู้จักธรรมะจากสิ่งที่เกิด ปรากฏตามความเป็นจริง - ในชีวิตประจำวันนี่เอง ธรรมะเกิดขึ้นปรากฏทำหน้าที่ของตน ๆ เรียกว่าปฏิบัติหน้าที่ตามธรรมชาติของตน |