[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 22 เมษายน 2553 11:53:52



หัวข้อ: พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 เมษายน 2553 11:53:52
(http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg)

http://www.mahaparamita.com/music.mp3



พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ (मञ्जुश्री)หรือ มัญชุศิริมหาสัตวะ ทรงเป็น ๑ ใน ๔ อัครมหาโพธิสัตว์แห่งพระพุทธศาสนามหายาน อันประกอบไปด้วย พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ (มหากรุณา)พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ มหาปัญญาพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ มหาปณิธานและพระสมันตภัทรมหาโพธิสัตว์ (มหากิริยา) ทั้งยังเป็น ๑ ใน ๘ อัครมหาโพธิสัตว์แห่งพระพุทธศาสนาวัชรยาน ทรงเป็น ๑ ใน ๓ มหาบุรุษแห่ง พุทธาวตังสกโลกธาตุและยังเป็นอัครสาวกข้างซ้ายฝ่ายพระโพธิสัตว์แห่งพระศากยุมุนีพุทธเจ้าอีกด้วย
ในมัญชุศรี มหาปรินิพพานสูตร พระศาสดาทรงตรัสกับพระปิณโฑละว่า อันมัญชุศรีผู้นี้ มากล้นไปด้วยมหากรุณาถือกำเนิดในนครสาวัตถี ในตระกูลพราหมณ์มหาศาล เมื่อจะเกิดนั้น ในเรือนอุบัติซึ่งดอกบัว คลอดออกจากซอกแขนขวาแห่งมารดา ผิวกายสีม่วงทอง กอปรด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการและอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ สามารถพูดได้เมื่อแรกเกิด เกิดพร้อมด้วยขุมทรัพย์ทั้ง ๗ ทวยเทพเทวาอัญเชิญให้ออกบวช อาจารย์ทั้ง ๙๕ ลัทธิ มาเชื้อเชิญ แต่ไม่อาจโต้วาทะธรรม มีเพียงตถาคตจึงยอมออกบวชแสวงธรรมนาม “มัญชุศรี”  แปลว่า “มงคลวิเศษ” ที่ได้นามดังนี้ เพราะเมื่อถือกำเนิดนั้น บังเกิดศุภนิมิต ๑๐ ประการ คือ
๑. บังเกิดสายฝนโบกขรพรรษ
๒. บังเกิดขุมทรัพย์ทั้ง ๗
๓. ในยุ้งข้าว ๆ สารกลายเป็นทองคำ
๔. กลางเรือนมีดอกอุบลผุดขึ้น
๕. บังเกิดแสงสว่างไปทั้งเรือน
๖. ไก่ฟักไข่เป็นหงส์
๗. ม้าออกลูกเป็นกิเลน
๘. วัวออกลูกเป็นม้าอัสดร
๙. หมูออกลูกเป็นมังกร
๑๐. บังเกิดคชสาร ๖ งา
นอกจากนี้ยังแสดง อีกว่า เมื่อพระศาสดาทรงดับขันธปรินิพพานล่วงแล้ว ๔๕๐ ปี พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ทรงไปแสดงธรรมโปรดดาบสทั้ง ๕๐๐ จากนั้นดาบสทั้ง ๕๐๐ ก็ติดตามพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ กลับมายังนครสาวัตถีบ้านเกิด พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ทรงประทับใต้ต้นนิโครธ เข้าอารยอุรชคมสมาธิมหาสมาบัติ จากนั้นเข้าเตโชกสิณ เปลวไฟลุกโพลงออกจากทุกรูขุมพระโลมา ดับขันธปรินิพพาน บังเกิดเป็นพระสรีรธาตุแก้วไพฑูรย์ โดยภายในแก้วไพฑูรย์เป็นทองคำ ประดิษฐานอยู่บนบุษบก ต่อมากษัตริย์ทั้ง ๘ แคว้น ได้ร่วมกันสร้างเจดีย์เพื่อประดิษฐานบนยอดเขาวัชระ


หัวข้อ: Re: พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 เมษายน 2553 11:58:23
(http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg)


ลักษณะแห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ ทรงเป็นเทวกุมาร กระทำมวยพระเกศาเป็น ๕ เมาลี จึงได้นามว่า ปัญจสิงขรมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์
พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์วัชระ เป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญา อันจักประหารซึ่งอวิชชาทั้งปวง พระหัตถ์ซ้ายทรงนิลุบล บัวเขียวในดอกอุบลนั้นทรงไว้ซึ่งคัมภีร์มหาปรัชญาปารมิตา ทรงประทับบนประทุมชาติ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ อันปทุมชาติ นั้นอยู่เหนือพญาสีหราช อันเป็นสัญลักษณ์แห่งพระเดชานุภาพ
คัมภีร์ เฉทิกวัชรปรัชญาปารมิตา ได้พรรณความนัยแห่งพระขรรค์วัชระแห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ไว้ความว่า ปัญญาดุจดังวัชระ พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์คือนิรมาณกายแห่งพระปัญญาคุณ ทรงสั่งสอนสรรพชีวิตให้บรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ บัญฑิตพึงขวนขวายเพื่อรู้แจ้งในปวงคัมภีร์ ปัญญานั้นดั่งมหาสมุทร มีเพียงปัญญาเท่านั้น จึงจักสามารถแยกแยะผิดชอบ ละบาป บำเพ็ญบุญ หลีกลี้ปวงธุลี ชำระตนให้วิสุทธิ์ โปรดสรรพชีวิต
เข้าถึงพระนฤพาน มีเพียงพระขรรค์นี้ จึงจะทำลายขันธ์ ๕ เข้าถึงอนัตตา รูปนามเป็นหนึ่ง ไม่แยกจากกัน เข้าถึงสมาธิ มีปกติเป็นสุข
ใน อารยอุรชคมสมาธินามมหายานสูตรแสดงว่า แท้จริงพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ได้ตรัสรู้นานแล้ว โดยมีพระนามที่ พระนาคพันธุ์อติราชตถาคตพุทธเจ้า ครั้งหนึ่งพระศาสดาทรงตรัสว่าการที่ตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ อันกอปรด้วย มหาบุรุษลักษณะ ๓๒ อนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ
บารมีพ้นประมาณ โปรดสัตว์ทั้งทศทิศได้ ก็เป็นเพราะพระคุณแห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์แต่เดิมคืออาจารย์แห่งเรา อดีตอันประมาณไม่ได้แห่งพระพุทธเจ้าอันประมาณมิได้ เราได้เป็นศิษย์แห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ บัดนี้ตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ดุจกุมารได้พบบิดรมารดา พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์คือบิดรมารดาของตถาคตโดยแท้ในอารยอักโษภยสูตรแสดงว่ามงคลวิเศษมหาโพธิสัตว์ คือพุทธมารดาในตรีกาล ตรีกาลคือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต)นามว่าพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์


หัวข้อ: Re: พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 เมษายน 2553 12:02:49
(http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg)


พุทธาวตังสกสูตรโพธิสัตว์สถิตวรรคแสดงว่าหนอีสานมีมหาบรรพต นามว่าสีตบรรพต นับแต่อดีตภาคเป็นที่ประทับแห่งพระโพธิสัตว์นับประมาณไม่ได้ บัดนี้เป็นที่ประทับแห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ อันแวดล้อม ด้วยพระโพธิสัตว์อันมีคณนาได้หมื่น บัดนี้พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์มีปกติแสดงธรรมอยู่ ณ.ที่นั้นในมัญชุศิริธรรมรัตนปิฎกธารณีสูตรแสดงว่า สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคทรงตรัสกับพระคุหยปาทวัชระว่าเมื่อ ตถาคตดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว ทางอีสานทิศแห่งชมพูทวีป มีแผ่นดินหนึ่งอันแวดล้อมแล้วด้วยมหาบรรพตทั้ง ๕ อันพระมัญชุศิริกุมารภูติทรงแสดงธรรมแก่สรรพชีวิตอยู่ ณ.ที่นั้นโดยความในพระสูตรนี้ ทำให้ชาวจีนเชื่อว่า เขาอู่ไถ อยู่ในมณฑล ซันซี ประเทศจีนเป็นที่ประทับของพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์
ในมหากรุณาปุษปสูตรแสดงว่า เมื่อสมัยที่พระอมิตาภตถาคตพุทธเจ้าทรงดำรงเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชอยู่นั้น พระโอรสองค์ที่ ๓ แห่งพระเจ้าจักรพรรดิราชพระองค์นั้นได้ตั้งมโนมหาปณิธาน ปรารถนาพระโพธิญาณ ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ต่อหน้าพระพักตร์พระรัตนปิฎกตถาคตพุทธเจ้า โดยเมื่อตนตรัสรู้นั้น ขอให้พุทธเกษตรมีขนาดเท่ากับตรีสหัสโลกธาตุ อันสำเร็จแล้วด้วยสรรพรัตนะอันวิจิตร ไร้ซึ่งอิตถีเพศและความทุกข์ทั้งปวงจากนั้นพระรัตนปิฎกตถาคตพุทธเจ้า จึงทรงมีพุทธพยากรณ์ว่า ด้วยเหตุที่เธอมีมหากรุณาต่อสรรพชีวิต ปรารถนาโพธิญาณเห็นปานนี้ ตถาคตจักขนานนามเธอว่า มัญชุศรี เธอตรัสรู้แล้วจะประทับ ณ.โลกธาตุหนทักษิณ อันมีนามว่า วิสุทธิวิมลรัตนะ เป็นพระตถาคตมีพระนามที่ สรรพทัศนตถาคตพุทธเจ้า
ใน สมาธิสมุทรสูตรแสดงว่าเมื่อพระศาสดาออกจากสมาธิแล้ว พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ทรงตรัสแก่ที่ประชุมว่า ในอดีตกาลนาน ไกล ในสมัยแห่งพระศาสนาของ พระรัตนเตชตถาคตพุทธเจ้า มีบุตรแห่งพราหมณ์ผู้หนึ่งนามว่า ศีลรักษ์ เมื่อคราวคลอดออกจากครรภ์มารดาก็เข้าถึงพระไตรสรณคมน์จนเมื่ออายุได้ ๘ ปี พราหมณ์ผู้เป็นบิดาได้นิมนต์พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น มาเสวยภัตตาหารที่เรือนของตน เมื่อกุมารน้อยผู้นั้นได้พบพระผู้มีพระภาค
ก็ได้เดินตามพระพุทธองค์ แล้วพบว่าทุกย่างพระบาทของพระผู้มีพระภาคนั้น จะเกิดดอกอุบลผุดขึ้น รองรับพระบาทของพระศาสดาไปทุกย่างก้าว
ทั้งร่างกายแห่งพระศาสดาก็ยังมีลักษณะงดงามดุจมหาบุรุษ และยังทอแสงเรืองรองสว่างไสว กุมารได้เห็นบังเกิดจิตยินดี ถวายบังคมพระ
ผู้มีพระภาค เมื่อถวายบังคมพระสุคตแล้ว บาปกรรมแต่อดีตที่เคยมีมาในอนันต์ชาติ ก็มลายหายสิ้น


หัวข้อ: Re: พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 เมษายน 2553 12:07:42
(http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg)


นับแต่นั้นมากุมารน้อยนั้นได้เวียนว่ายตายเกิดนับประมาณมิได้ ได้พบพระผู้มีพระภาคเป็นจำนวนนับได้อประไมยอสงไขยโกฏิ ทุก ๆ
ชาติล้วนมีนามว่า จันทสมุทร เมื่อกุมารน้อยได้กระทำการสักการะพระผู้มีพระภาคนั้น จิตได้บริบูรณ์ จักได้มีความบกพร่องแต่ประการได ๆ ก็หาไม่
พร้อมกันนั้นได้ระลึกพุทธลักษณ์แห่งพระตถาคตเจ้า ด้วยบุญบารมีที่สั่งสมมาอันประมาณมิได้ จึงได้เข้าถึงสมาบัติและมหาธารณีทั้งอประไมยอสงไขยกัลป์ ณ.กาลนั้น พระผู้มีพระภาคอันประมาณมิได้ ได้ปรากฏแต่เบื้องหน้า แสดงอนัตตลักขณธรรม ทันใดนั้นกุมารน้อยก็พลันบรรลุธรรม เข้าถึงอารยอุรชคมสมาธิมหาสมาบัติจากนั้นพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ จึงกล่าวสรุปว่า กุมารน้อยในหนนั้น ก็คือเรามัญชุศรีในหนนี้เมื้อสิ้นธรรมกถาแห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ พระผู้มีพระภาคจึงตรัสแก่พระอานนท์ว่าดูกรอานนท์ เธอพึงทรงจำถ้อยคำแห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ แล้วสาธยายประกาศให้แพร่ไปเพื่อว่าสรรพชีวิตในภายหลังจักได้รู้ว่า การรำลึกการได้สักการะ ในพระตถาคตเจ้า มีคุณเห็นปานนี้ ผู้ใดกระทำได้เช่นนี้ ย่อมมีกุศลดังพระมัญชุศรีมหา
โพธิสัตว์ทุกประการ จักแตกต่างอย่างไรก็หาไม่นอกจากนี้ใน มัญชุศรีมหาปรินิพพานสูตรแสดงไว้ว่า มาตรว่าชนใด ได้ยินนาม หรือได้ยลรูปเคารพแห่งพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ ร้อยพันกัลป์ย่อมไม่ตกลงสู่อบาย มาตรว่ากระทำการรำลึกถึงพระนาม แม้กระทำกรรมหนัก ก็จะไม่ตกอเวจีมหานรก
ทั้งจักยังมีปกติบังเกิดในวิสุทธิเกษตร ได้ฟังสัทธรรม เข้าถึงวิมุตติภาวะ
นิรมานกายแห่งพระ มัญชุศรีมหาโพธิสัตว์นั้น พุทธศาสนาวัชรยานและมหายานมีการกล่าวถึงมากมาย ๑ ในนั้นได้แก่ พระอาจารย์ ซงเกอปา ผู้ก่อตั้ง
พุทธศาสนาวัชรยานนิกายเกลุก นิกายหมวกเหลืองชาวจีนเชื่อว่าเขาอู่ไถเป็นที่ประทับของพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ มีเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ และภูเขาอู่ไถมากมาย โดยเรื่องมีเรื่องหนึ่งกล่าวว่าในสมัยราชวงศ์ถัง มีพระภิกษุได้พบพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ ซึ่งนั่นก็คือคือพระอาจารย์อู๋เจอะ ในปีต้าหลี่ที่ ๒ (พ.ศ. ๑๓๑๐) พระอาจารย์อู๋เจอะได้จาริกไปยังเขาอู่ไถ โดยพำนักที่วัดหัวเอี๋ยน ๑ วัน ขณะที่เที่ยวชมเจดีย์ปัญญาอยู่นั้น เห็นนกมงคลบินผ่านมา โดยบินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ วันต่อมาก็เห็นลำแสงสีขาวพุ่งตรงมากจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือเช่นกัน
ซึ่งทิศทางเป็นที่ตั้งของถ้ำวัชระ พระอาจารย์อู๋เจอะตื่นเต้น ปรารถนาจะพบพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ จึงเดินทางไปยังถ้ำวัชระ เมื่อไปถึงจึงกระทำการสักการะ แล้วนั่งสมาธิ
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนกำลังจูงวัวมากินน้ำ เมื่อลืมตาจึงพบว่าเป็นตาแก่คนหนึ่งซึ่งใส่กางเกงขาสั้นและรองเท้าฟาง
พระอาจารย์อู๋เจอะลุกขึ้นทักทายถามว่า....................................................................
นี่โยมมาจากไหนละ? ตาเฒ่าตอบว่า ข้ามาจากนอกเขา มาหาเสบียงเอาไปใช้บนเขาอู่ไถแล้วถามพระอาจารย์อู๋เจอะกลับว่า แล้วพระคุณเจ้ามาจากที่ไหน มาทำอะไรละ?พระอาจารย์อู๋เจอะตอบว่า ได้ยินมาว่าที่นี่มีถ้ำวัชระ ก็เลยจะมานมัสการพระโพธิสัตว์จากนั้นตาเฒ่าบอกว่าที่นี่มีสถานที่สวยงาม จะพาพระอาจารย์ไปเที่ยวชม ว่าแล้วก็นำทาง พอเดิน ๆ ไปก็ไปเจอวัดแห่งหนึ่ง ตาเฒ่าตะโกนร้องเรียกก็มีเด็กมาเปิดระตูรับ


หัวข้อ: Re: พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 22 เมษายน 2553 12:16:46
(http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg)


ในวัดนั้นพื้นทั้งหมดปูด้วยแก้วไพฑูรย์ สิ่งปลูกสร้างอาคารล้วนเป็นทองคำ งดงามราวกับไม่ใช่โลกมนุษย์ ตาเฒ่านั่งลงบนตั่งงา
ช้างแล้วเชิญให้พระอาจารย์อู๋เจอะนั่งลงในที่ข้าง ๆ จากนั้นเด็กน้อยนำน้ำชามาต้อนรับ เมื่อดื่มแล้วพระอาจารย์อู๋เจอะรู้สึกสบายกายอย่างบอกไม่ถูก พระอาจารย์อู๋เจอะจึงถามตาเฒ่าเจริญพรขอถาม ธรรมสถานแห่งนี้ใครเป็นผู้ดูแล?ตาเฒ่าตอบว่า งูมังกรอยู่ ปะปน อริยะปุถุชนอยู่ร่วมกัน
พระอาจารย์อู๋เจอะถามต่อว่าแล้ว
ที่นี่มีคนพักอยู่กี่คน?ตาเฒ่าตอบว่าหน้าสาม สาม หลังสามสามจากนั้นตาเฒ่าถามว่าตอนพระคุณ เจ้าจะบวช ปรารถนาอะไร?พระอาจารย์อู๋เจอะตอบว่าปรารถนามหายานโพธิญาณ ตาเฒ่าถามว่าตอนนี้พระคุณเจ้าอายุเท่าไรแล้ว? พระอาจารย์อู๋เจอะตอบว่า ๓๐ แล้ว ตาเฒ่ากล่าวต่อว่าพระคุณเจ้าจิตใจสะอาด พออายุ ๓๘ ก็จะดีแล้ว จากนั้นก็ให้พระอาจารย์อู๋เจอะรีบกลับ พอจะกลับ ตาเฒ่าก็กล่าวบทกลอนขึ้นมาลอย ๆ ว่าแค่จิตบริสุทธิ์ คือโพธิจากเม็ดทรายสรรค์สร้างเป็นเจดีย์ แท้จริงแล้วเจดีย์คือธุลี เพียงจิตสะอาดคือตรัสรู้จากนั้นเด็กน้อยจึงนำทางพระอาจารย์อู๋เจอะออกจากถ้ำวัชระ พอมาถึงปากถ้ำ พระอาจารย์อู๋เจอะจึงถามเด็กน้อยว่า ลืมถามไปว่าอารามเมื่อกี้ชื่อว่าอะไร?เด็กน้อยหัวเราะพลางถามพระอาจารย์อู๋เจอะว่าแล้วถ้ำนี้เรียกว่าอะไรล่ะ ?
พระอาจารย์อู๋เจอะตอบว่า ก็ถ้ำวัชระเด็กน้อยถามต่อว่า แล้วคำที่ต่อจากวัชระล่ะ ?พระอาจารย์อู๋เจอะตอบว่า ก็ปรัชญาปารมิตา วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร
เท่านั้นเอง พระอาจารย์อู๋เจอะจึงคิดได้ว่า ที่แท้ตาเฒ่าคนนั้นก็คือนิรมาณกายของพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ พอจะหันมาพูดกับเด็กคนนั้น ก็พบว่าเด็ก
คนนั้นหายไปแล้ว จากนั้นก็พลันมีเสียงเด็กคนนั้นพูดว่าใบหน้าที่ไร้โทสะคือ การบูชาที่แท้จริง คำพูดที่ไร้โทสะคือความหอมที่แท้จริง จิตที่ไร้โทสะถึงจะเป็นทรัพย์สมบัติที่แท้จริง บริสุทธิ์สะอาดคือความปกติที่แท้จริงจากนั้นมาตาเฒ่าเด็กน้อย และวัดปรัชญาปารมิตา ก็หายสาบสูญไป ต่อมาพระอาจารย์อู๋เจอะออกปลีกวิเวกที่เขาอู่ไถซัน และไม่เคยมีใครพบท่านอีกเลยคาถามหาธารณีแห่งพระมัญชุศรี มหาโพธิสัตว์นั้น มีมากมาย อาทิเช่น พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ เอกอักขรคาถาพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ปัญจ อักขรคาถาพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ฉอักขรคาถาพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์อัฏฐอักขรคาถา๑
ในนั้นคาถาที่มีผู้รู้จักมากที่สุดคือ พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ปัญจอักขรคาถา หรือที่มีอีกชื่อว่า พระปัญจสิงขรมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ปัญจอักขรคาถา
ซึ่งคาถามีดังนี้........................................................
อม อรา ปัญจะ นะ ติ คาถานี้หมั่นสวดสาธยาย จักช่วยให้มีปัญญาแตกฉาน สามารถแทงตลอดในพระสัทธรรม พ้นจากความไม่รู้และข้อสงสัยในอรรถและพยัญชนะแห่งพระสัทธรรมทั้งปวง เมื่อจะสาธยายนั้น ให้รำลึกถึงพระมหากรุณาแห่งพระปัญจสิงขรมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ จากนั้นตั้งปณิธาน จะสลายสิ้นซึ่งโมหะอวิชชา และวิจิกิจฉาแห่งสรรพชีวิตทั้งปวง เมื่อเวลาสาธยายพระคาถา ให้จินตภาพว่าพระปัญจสิงขรมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ทรงประทับอยู่เบื้องนภากาศ ทอแสงรัศมี สาดส่องสรรพชีวิต พระขรรค์วัชระ ประหารทำลายแล้วซึ่งโมหะอวิชชา และวิจิกิจฉาแห่งสรรพชีวิตทั้งปวง



...........................นำโมออนีทอฮุก นำโมออนีทอฮุก นำโมออนีทอฮุก..........................



.......................นำโมกวงซีอิมผ่อสัก นำโมกวงซีอิมผ่อสัก นำโมกวงซีอิมผ่อสัก..............



.........................นำโมตี่ฉั่งอ๊วงผ่อสัก นำโมตี่ฉั่งอ๊วงผ่อสัก นำโมตี่ฉั่งอ๊วงผ่อสัก....................