[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
11 พฤษภาคม 2567 13:09:28 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - ‘สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านฯ’ บุกสภาค้านกฎหมายประมงฯ ฉบับใหม่  (อ่าน 35 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 30 มีนาคม 2567 12:18:37 »

‘สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านฯ’ บุกสภาค้านกฎหมายประมงฯ ฉบับใหม่
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2024-03-30 10:07</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>‘สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านฯ’ บุกสภา ร่อนแถลงการณ์ถึง ‘ปลอดประสพ-กมธ.ประมงฯ’ ค้านกฎหมายประมงฯ ฉบับใหม่ ฉะยกเลิกการคุ้มครองประมงพื้นบ้าน-ชุมชนประมงท้องถิ่นหดเขตทะเลชายฝั่งลงต่ำกว่า 1.5 ไมล์ทะเล เอื้อประโยชน์ให้ประมงพาณิชย์เข้ามาทำประมงด้วยเครื่องมือหนักทำนายทุนครอบงำ “ประมงพื้นบ้าน”  ซ้ำเลิกโทษจำคุก-ลดค่าปรับพวกเหนือกฎหมายได้ประโยชน์ ขณะที่ ‘เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ’ห่วงกฎหมายใหม่ละเลยประเด็นการคุ้มครองแรงงาน-ใช้แรงงานประมงผิดกฎหมาย ชี้ยกเลิกควบคุมการขนถ่ายแรงงาน-สัตว์น้ำกลางทะเลส่อ ‘เข้าข่ายกักขังในทะเล’ เปิดช่อง ‘ค้ามนุษย์’หลังให้เจ้าหน้าที่ใช้วิจารณญาณตีความเหตุจำเป็นรับฝากคนเรือได้ </p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53620200620_42b472fdf4_o_d.jpg" /></p>
<p>เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย เข้ายื่นแถลงการณ์ข้อกังวลต่อการแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ถึงนายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... ผ่านนายพงษ์สรณัฐ ทองลี เลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายวิริภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ.วิสามัญฯ คนที่สอง เป็นตัวแทนรับหนังสือ </p>
<p>โดยแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติรับหลักการพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมงพ.ศ. .... และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ นั้น เครือข่ายสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านฯ เห็นด้วยที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายประมงตามความเหมาะสมเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากร  แต่จากร่างกฎหมายที่มีการเผยแพร่รับฟังความเห็นของรัฐสภา เรามีข้อกังวลใจและเห็นว่าจะมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ชาวประมงพื้นบ้านและชุมชนท้องถิ่นเป็นอย่างมาก จึงขอนำเรียนข้อกังวลและข้อเสนอถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ในประเด็นดังต่อไปนี้</p>
<p>1. มีการยกเลิก ข้อกำหนดวัตถุประสงค์ "เพื่อปกป้องคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนชาวประมงพื้นบ้านและชุมชนประมงท้องถิ่น" ถือเป็นการลดความสำคัญในการช่วยเหลือการประมงพื้นบ้านหรือการประมงขนาดเล็กลง ทั้งที่ทุกฝ่ายทราบดีว่า ชาวประมงพื้นบ้าน กับชาวประมงพาณิชย์ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ควรมีมาตรการ ปกป้องส่งเสริมพัฒนาขีดความสามารถชาวประมงพื้นบ้านขนาดเล็กเอาไว้เป็นการเฉพาะที่มีมาตรการแตกต่างจากการประมงพาณิชย์การกำหนดวัตถุประสงค์ช่วยเหลือการประมงแบบรวม ๆ โดยที่ขีดความสามารถต่างกัน ไม่มีการกำหนดให้ต้องปกป้องชุมชนท้องถิ่น แต่ยังคงกำหนดให้รัฐบาลต้องมีแผนในการส่งเสริมการประมงในน่านน้ำ มีแผนส่งเสริมการประมงนอกน่านน้ำ มีแผนส่งเสริมการเพาะเลี้ยง มีแผนส่งเสริมอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการประมง แต่ไม่มีแผนการส่งเสริมการประมงพื้นบ้านทั้งที่เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้ประกอบการประมงทั้งหมด ข้อเสนอ คือ ให้คงเนื้อหามาตรา 4 (2) ไว้ เช่นเดิม ส่วนที่เพิ่มเติม ให้กำหนดเป็น (3)</p>
<p>2. มีการกำหนดให้สามารถลดเขตทะเลชายฝั่งลงได้อีกให้น้อยกว่า 1.5 ไมล์ทะเล เช่นนี้เท่ากับเปิดให้ประมงพาณิชย์สามารถเข้ามาทำการประมงใกล้เขตทะเลชายฝั่งมากขึ้น และการแก้ไขเขตทะเลชายฝั่งให้หดแคบลงน้อยกว่า 1.5 ไมล์ทะเล (น้อยกว่า 2,800 เมตร) เป็นการถดถอยล้าหลัง ยิ่งกว่า ปี พ.ศ. 2515 (ประกาศ ห้ามอวนลากอวนรุนเข้า 3,000 เมตร) และลดเขตอำนาจรับผิดชอบของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดลงด้วย ทำให้พื้นที่สำหรับอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนลดลงจนส่งผลต่อปริมาณสัตว์น้ำ และส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้านที่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการอนุรักษ์ทรัพยากร และทำการประมงด้วยเครื่องมือศักยภาพต่ำ</p>
<p>3. มีการกำหนด ให้กรรมการภาคประชาชนในคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด มาจากการแต่งตั้ง โดยระบุให้เป็นอำนาจโดยตรงของผู้ว่าราชการจังหวัด ทำให้ไม่มีหลักประกันว่าจะมีการสรรหาคัดสรรอย่างไรให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมและครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้จริง และควรมีสัดส่วนจากองค์กรสาธารณะประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่แสวงหากำไรอยู่ด้วย เราเสนอให้ แก้ไขให้มีกลไกการ สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดใหม่ และกระจายอำนาจให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดกำหนดแผนการจัดการทรัพยากรประมงระดับจังหวัดบนฐานข้อมูล ระบบนิเวศน์ในพื้นที่ และควรกำหนดเขตรับผิดชอบของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดให้ครอบคลุมพื้นที่อย่างน้อย 12 ไมล์ทะเลนับจากแนวชายฝั่ง</p>
<p>4. มีการเปิดช่องให้กลุ่มทุนประมงพาณิชย์ สามารถแทรกแซงครอบงำ "ประมงพื้นบ้าน" ได้  โดยฝ่ายบริหารไม่สามารถกำกับควบคุม ปกป้องสิทธิประโยชน์ของชุมชนประมงท้องถิ่นได้ โดยปัจจุบันมีการเปิดช่องให้ "อวนลากคู่ อวนลากเดี่ยว อวนล้อมจับ อวนปั่นไฟจับปลากะตัก อวนล้อมจับกะตัก เรือคราดทุกชนิด ที่ใช้กับเรือต่ำกว่าสิบตันกรอส ซึ่งเดิม เป็นประมงพาณิชย์ให้ถือเป็นประมงพื้นบ้าน และสามารถมีใบอนุญาตประมงดังกล่าวได้ไม่จำกัดจำนวน โดยจงใจตัดคำว่า "จะออกใบอนุญาตให้แก่บุคคลใดเกินจำนวนที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดมิได้" ที่มีในกฎหมายเดิมทิ้งไป </p>
<p>5. เอื้อประโยชน์ให้ผู้ต้องการละเมิดกฎหมาย โดยนอกจากยกเลิกการจำคุกแล้ว ยังลดอัตราค่าปรับในการทำผิดให้น้อยลง และให้ประกันเรือออกไปทำประมงได้ซ้ำอีก ทั้งที่กฎหมายประมงฉบับ 2558 ได้ยกเลิกการลงโทษ "จำคุก" ทั้งหมดไปแล้ว และเปลี่ยนเป็นลงโทษด้วยการ "ปรับ" ในอัตราที่สูงขึ้นแทนอย่างเดียว เพื่อลงโทษผู้กระทำผิดให้หลาบจำ การที่ร่างกฎหมายประมงใหม่กำหนดให้ลดค่าปรับลง และเมื่อจ่ายค่าปรับแล้ว ให้ถือว่ายุติคดี กล่าวคือไม่ต้องส่งฟ้องศาล ไม่ต้องรับโทษริบเรือ หรือใด ๆ อีก และสามารถให้ญาติ ที่เป็น "ข้าราชการ" หรือ สินทรัพย์ ไป "ประกันเรือ"ออกไปทำประมงได้ปกติ โดยไม่ต้องถูกกักไว้ ระหว่างรอค่าปรับซึ่งจะยิ่งส่งเสริมการทำความผิดไม่สนใจผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้าน อีกต่อไป  </p>
<p>ขณะที่นายปิยะ แย้มเทศ  นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เราเห็นด้วยกับการแก้ไข พ.ร.ก.การประมง 2558 แต่เราเห็นว่าต้องแก้ให้เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อเรือประมงขนาดเล็ก โดยเรามองว่าในเรื่องเจตนารมณ์ วิสัยทัศน์ หรือเป้าหมายของการแก้กฎหมายในครั้งนี้ ซึ่งกฎหมายเดิมในมาตรา 4 (2) เขียนชัดเจนว่าต้องการช่วยเหลือสนับสนุนประมงพื้นบ้านและองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น แต่ร่างกฎหมายของพรรคการเมืองตัดเรื่องนี้ทิ้งไป ดังนั้นเราจำเป็นต้องยื่นหนังสือถึงนายปลอดประสพและกมธ.วิสามัญฯ ทั้งคณะเพื่อให้ทบทวนในเรื่องนี้   เรากังวลเรื่องการให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดสามารถลดหรือเพิ่มแนวเขตการทำประมง  หากเพิ่มๆ ได้ไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล ส่วนถ้าลดๆ ได้น้อยกว่า 1.5 ไมล์ทะเล  เราต้องการให้อำนาจคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดมีอำนาจเต็มในการกำหนดเขต 12 ไมล์ทะเล และบริหารจัดการว่าเครื่องมือประเภทใดควรอยู่ใน 12 ไมล์ทะเลนี้ แต่ถ้าไปมองว่า 3 หรือ 1.5 ไมล์ทะเลเป็นเขตของประมงพื้นบ้านหรือประมงพาณิชย์ มันจะเป็นการแย่งชิงพื้นที่มากกว่ามองเรื่องการบริหารจัดการ </p>
<p>นายปิยะ กล่าวว่า นอกจากนั้นเรายังกังวลเรื่องบทกำหนดโทษ ซึ่งพ.ร.ก.การประมง 2558 นั้น ระบุว่ามีค่าปรับ 5 เท่า ที่อาจเป็นเงินหลายล้านบาท โดย กมธ.วิสามัญฯ ชุดนี้เห็นว่าเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไป จึงอยากปรับลดลง ซึ่งเราเห็นด้วยว่ามันสามารถปรับลดลงได้ แต่ควรมีมาตรฐานขั้นต่ำ เช่น ลักลอบจับปลาได้ 1 ล้านบาท  ควรมีค่าปรับ 3 ล้านบาท หรือในกรณีที่จับปลาไม่ได้เลย ก็ควรมีมาตรฐานขั้นต่ำในเรื่องนี้ไว้ด้วยเช่นกัน  ส่วนในเรื่องอำนาจของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดและที่มาของคณะกรรมการฯ ควรมีสัดส่วนและมีวาระการประชุมต่อปีที่ชัดเจน คณะกรรมการฯ ต้องรู้บทบาทและอำนาจหน้าที่ว่าเข้ามาเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรที่เป็นของส่วนรวม ไม่ใช่เข้าไปเพื่อเพิ่มอำนาจหรือสิทธิประโยชน์ให้กับอาชีพของคนที่คณะกรรมการฯ  รวมถึงมีข้อห่วงใยเรื่องการเปลี่ยนแปลงนิยามการประมงพื้นบ้าน ที่ให้ 7 เครื่องมือ เช่น อวนลากคู่ อวนลากเดี่ยว อวนล้อมจับ อวนล้อมจับปลากระตัก หรือคราดหอยประเภทต่างๆ เข้ามาทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง โดยอาศัยอำนาจคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำประมงพื้นบ้านได้ </p>
<p>“เราอยากให้มีความเข้าใจที่ตรงกันว่า เราอยากให้แก้กฎหมาย แต่แก้แล้วมันต้องมีความยั่งยืนและสร้างมาตรฐานที่มันเป็นสากล”นายปิยะ กล่าว </p>
<p>นายปิยะ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะมีการยื่นหนังสือถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อทวงถามถึงข้อเรียกร้องของชาวประมงพื้นบ้าน 18 ข้อ เช่น การสนับสนุนน้ำมันราคาต่ำ การทำท่าเทียบเรือ เรื่องบ้านริมน้ำ เรื่องประมง เรื่องกองทุน เป็นต้น ข้อเรียกร้องของชาวประมงพื้นบ้านที่ผ่านมามันยังไม่ได้รับการแก้ไข ยังมีความลักลั่นและความเหลื่อมล้ำของการทำประมงพาณิชย์อยู่ ซึ่งประมงพาณิชย์เรียกร้องไป 19 ข้อและได้รับการแก้ไขไปแล้ว 18 ข้อ จึงต้องมีมาตรฐานในการแก้ปัญหาให้คนในประเทศอย่างเท่าเทียมกันด้วย </p>
<p>ด้านนายอดิศร เกิดมงคล ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (Migrant Working Group : MWG)  กล่าวว่า  ทางเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ มีข้อสังเกตและข้อกังวลใจ โดยเฉพาะในเรื่องผลกระทบต่อการจ้างงานและการคุ้มครองแรงงานในงานประมงต่อการพิจารณาการแก้ไขร่างพระราชกำหนดการประมง ดังนี้ </p>
<p>1. การตัดการแสดงเจตนารมณ์ของกฎหมายในเรื่องการคุ้มครองแรงงานและการใช้แรงงานประมงที่ผิดกฎหมายในมาตรา 4(4) ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและการใช้แรงงานประมงผิดกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่ามีกฎหมายคุ้มครองแรงงานประมงอยู่แล้ว อาจจะทำให้ละเลยประเด็นเรื่องการคุ้มครองแรงงานและการป้องกันการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมายที่ปรากฏอยู่ในส่วนอื่น ๆ ของกฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศคู่ค้า และมาตรการการค้าระหว่างประเทศได้ให้ความสนใจ การบัญญัติข้อความเจตนารมณ์ของกฎหมายว่ากฎหมายฉบับนี้มุ่งให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองแรงงานและการแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานประมงอย่างผิดกฎหมาย จึงเป็นรากฐานที่สำคัญอันหนึ่งของการพัฒนาการประมงของไทยอย่างยั่งยืน </p>
<p>2. การยกเลิกการควบคุม การขนถ่ายกลางทะเลของสัตว์ทะเลที่จับได้ และการขนถ่ายลูกเรือกลางทะเลระหว่างการประมง โดยมีการแก้ไขแก้ไขมาตรา 87 ให้เรือประมงที่จดแจ้งต่อศูนย์ควบคุมเรือเข้าออกสามารถขนถ่ายสัตว์น้ำได้เช่นเดียวกับเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ  และยังได้แก้ไขมาตรา 92 ให้เรือประมงทีได้จดแจ้งสามารถนำเข้าสัตว์น้ำเข้ามายังท่าเทียบเรือได้ จากการแก้ไขทั้งสองมาตราข้างต้นจึงแสดงให้เห็นว่าร่างกฎหมายเปิดโอกาสให้มีการขนถ่ายสัตว์น้ำได้ทั้งประมงในและนอกน่านน้ำไทย ในอดีตการไม่ควบคุมในทั้งสองประเด็นนี้ ทำให้เกิดการควบคุมแรงงานประมงให้ทำงานอยู่บนเรือเป็นเวลานาน ในลักษณะที่เข้าข่ายเป็นการกักขังในทะเล ซึ่งกลายเป็นที่มาของการบังคับใช้แรงงานซึ่งมีผลกระทบต่อธุรกิจอาหารทะเล เมื่อต้องทำการค้าขายกับผู้ค้าในหลายประเทศ </p>
<p>3.การรายงานคนประจำเรือ (Crew List) และการแก้ไขรายชื่อลูกเรือหลังจากออกจากท่า โดยการแก้ไขมาตรา 82 โดยกำหนดให้เรือประมงไม่จำเป็นต้องแจ้งจำนวนรายชื่อและหนังสือคนประจำเรือ หรือหลักฐานการอนุญาตตามมาตรา 83 ของคนประจำเรือที่จะออกไปพร้อมกับเรือประมง ยิ่งไปกว่านั้นยังได้บัญญัติมาตรา 83/1 ในร่างของพรรคฝั่งรัฐบาลรวมถึงร่างของพรรคก้าวไกล โดยมีข้อความว่า “ในกรณีที่มีความจำเป็น เรือประมงที่จะออกจากฝั่งเพื่อไปทำการประมง สามารถรับฝากคนประจำเรือหรือลูกเรือที่มีใบอนุญาตและหนังสือประจำตัวแล้วออกไปกับเรือเพื่อนำส่งให้กับเรือประมงลำอื่นที่ได้รับอนุญาตแล้วได้” ซึ่งจะส่งผลให้มีการนำคนงานขึ้นเรือเพิ่มเติมได้หลังจากการตรวจสอบที่ท่าเรืออย่างเป็นทางการแล้วเสร็จ ซึ่งจะเปิดโอกาสต่อความเป็นไปได้ในการค้ามนุษย์และการเอารัดเอาเปรียบแรงงานรวมถึงการใช้แรงงานที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน อีกทั้งเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ใช้วิจารณญาณที่ต้องมาตีความว่าเป็นเหตุจำเป็น</p>
<p>4.ในเชิงการบริหารจัดการการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการมาตรการทางการปกครอง มีข้อสังเกตที่ว่า การตัดผู้แทนจากกระทรวงแรงงานออกจากคณะกรรมการตามมาตร 112 เดิม ทำให้คณะกรรมการในร่างกฎหมายใหม่ไม่มีผู้บังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ซึ่งอาจนำมาซึ่งข้อจำกัดไม่สามารถใช้มาตรการทางปกครองได้หากมีกรณีละเมิดสิทธิแรงงานเกิดขึ้นบนเรือประมงเนื่องจากคณะกรรมการขาดความรู้ความเข้าใจในบริบทการคุ้มครองแรงงาน รวมทั้งการกระจายอำนาจให้แก่นักการเมืองท้องถิ่นในเขตทำประมง อาจทำให้อำนาจในการตรวจสอบผู้กระทำความผิดเป็นไปได้ยากมากขึ้น เนื่องจากโดยปกติแล้วผู้กระทำความผิดส่วนใหญ่มักเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่น จากการช่วยเหลือและดำเนินคดีค้ามนุษย์ในเรือประมงในช่วงที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ต้องหาที่เป็นผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัด รวมถึงคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาที่ใช้เรือประมงในการขนย้ายผู้อพยพ ก็ได้มีการดำเนินคดีกับนักการเมืองท้องถิ่นตั้งแต่ระดับเทศบาลไปจนถึงนักการเมืองหลายระดับ</p>
<p>“จากข้อสังเกตข้างต้น เครือข่ายองค์กรองค์กรด้านประชากรข้ามชาติและองค์กรภาคี ยืนยันในหลักการการแก้ไขปัญหาประมงทะเลไทย ต้องวางบนฐานของการลดทอนความยุ่งยากของระบบราชการ เคารพและคุ้มครองในสิทธิแรงงาน ทำการประมงที่รักษาสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน เพื่อให้กิจการประมงและอาหารทะเลไทยยืนหยัดในเวทีการค้าระหว่างประเทศอย่างมีศักดิ์ศรี และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทยและเศรษฐกิจไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จะนำประกอบการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อจะไปมุ่งไปสู่การประมงไทยที่ยั่งยืนและยืนยันในหลักการการแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานประมงที่ผิดกฎหมายต่อไป”ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ กล่าว </p>
<p>ขณะที่นายพงษ์สรณัฐ กล่าวว่า จะส่งข้อเรียกร้องของภาคประชาชนไปให้ กมธ.วิสามัญฯ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในการจัดทำร่างกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ในส่วนของรัฐสภาพร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำร่างกฎหมายต่างๆ อย่างเต็มที่</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108620
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวด่วน] - เพื่อไทยแถลงวันรัฐธรรมนูญ ขอคนไทยร่วมผลักดันการจัดทำ รธน.ฉบับใหม่ ระบุชัดรัฐปร
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 142 กระทู้ล่าสุด 10 ธันวาคม 2565 12:20:57
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ไต้หวันออกกม. #MeToo ฉบับใหม่ แต่นักกิจกรรมมองว่ายังไม่ครอบคลุมพอ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 116 กระทู้ล่าสุด 15 สิงหาคม 2566 19:23:20
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ไต้หวันออกกม. #MeToo ฉบับใหม่ แต่นักกิจกรรมมองว่ายังไม่ครอบคลุมพอ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 93 กระทู้ล่าสุด 16 สิงหาคม 2566 01:34:27
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - 'พริษฐ์' เผยไพ่ตาย 3 ใบของรัฐบาล ลดทอนอำนาจ ปชช. ล็อกสเปก รธน.ฉบับใหม่
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 40 กระทู้ล่าสุด 05 เมษายน 2567 00:34:49
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - 'พริษฐ์' เผยไพ่ตาย 3 ใบของรัฐบาล ลดทอนอำนาจ ปชช. ล็อกสเปก รธน.ฉบับใหม่
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 32 กระทู้ล่าสุด 05 เมษายน 2567 12:56:17
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.711 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 08 พฤษภาคม 2567 17:07:47