อันนี้เป็นเทปรายการ นานแล้วครับ ราว ๆ สองปี
มีสมาชิืกใน
http://board.trekkingthai.com มาโพสท์ไว้
ภาพผู้หญิงตัวอ้วนๆ ดำๆ เดินกะโผลกกะเผลก อยู่ข้างถนน เจอร้านไหนเธอก็เดินเข้าไปขอข้าวสารบ้าง ขอของกินบ้าง บางทีก็ขอของเล่นบ้าง แต่ขอของเล่นนี่สิ เธอจะเอาไปทำอะไร
ภาพตัดมาที่เจ้าของร้าน "แกมาขอบ่อยแหละ ยิ่งเมื่อก่อนมาเกือบทุกวัน เดี๋ยวนี้บางทีก็ขอปีละครั้ง แกคงเกรงใจน่ะ" เจ้าของร้านให้สัมภาษณ์
ภาพตัดมาที่หญิงอ้วนคนนั้น "ขอไปทำไมคะ" ผู้ดำเนินรายการถาม
"ก็อยากให้เด็กๆ เค้ามีความสุข โรงเรียนอื่นบางทีเค้าก็ไม่จัด แต่โรงเรียนเราจัด เราอยากให้วันนี้เป็นวันสำคัญ อยากให้เค้ารู้สึกว่าเค้าสำคัญ" เธอตอบ
ใช่แล้วครับ เธอเป็นครู แต่ไม่ใช่ครูอย่างที่เห็นตามเมืองใหญ่ เพราะเธอเป็นทั้งครูใหญ่ แม่ครัว นักการภารโรง
เหนือสิ่งอื่นใด เธอเป็น... "ครูผู้ยิ่งใหญ่"
แห่งโรงเรียนวิชาวดี ตั้งอยู่ที่ น.36 ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000
อยู่หลังสถานีรถไฟปากน้ำโพนครสวรรค์ ซึ่งครูใหญ่ที่ดูแลโรงเรียนนื้ คือ ครู บุบผาชาติ หมุนสา ท่านเป็นคนวางนโยบายที่ไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ จากนักเรียน และมีอาหารกลางวันเลี้ยงฟรี...
ครูใหญ่ทำเช่นนี้มานานแล้ว โรงเรียนวิชาวดี มีนักเรียน 90 คน มีเด็กอนุบาล 30 คน ซึ่งรับเลี้ยงให้...ฟรี... ให้อาหารกลางวัน ไม่เก็บค่าใช้จ่ายเหมือนกันทุกระดับชั้นเรียน ครูใหญ่ได้บอกให้ฟังว่า... หากผู้ปกครองท่านใดไม่ได้ไปทำงาน เพราะต้องเลี้ยงลูกหลาน ก็จะทำให้ไม่มีรายได้เข้าบ้าน ความเป็นอยู่ก็จะลำบาก ดังนั้น จะรับเลี้ยงเด็กให้ฟรี เพื่อให้ผู้ปกครองไปทำงาน จะได้มีเงินมาใช้จ่ายในบ้าน และให้โอกาสแก่ทุกคนเท่ากัน ไม่เคยแบ่งแยก
เพราะนักเรียนส่วนมากครอบครัวยากจน อยู่กับปู่ย่า ตายาย หรือญาติ บางครั้งก็ไม่มีบัตรประชาชน เรียนที่ไหนก็ไม่ได้ แต่โรงเรียนวิชาวดีเปิดรับเสมอ โดยการนำของครูใหญ่ บุบผาชาติ หมุนสา คนดีที่อยากจะบอก และโรงเรียนแห่งนี้ยังขาดอุปกรณ์การเรียนการสอนอีกเยอะ วันเด็กของทุกปี ก็ไม่ค่อยมีของขวัญมาให้น้อง ๆ เค้าได้มีความสุขเท่าไร ภารโรงก็ไม่มี เด็ก ๆ และ ครูต้องช่วยกันทำความสะอาดกันเอง
เย็นมาครูใหญ่ก็ทำห่อหมกและทอดมันออกขายที่ตลาด เพื่อเก็บเงินไว้ซื้อกับข้าวและข้าวสารไว้หุงให้นักเรียนได้กินกัน ที่นั่น สอนเรื่องวิชาการไม่เท่าไร แต่สอนการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง สอนให้ทำงาน สอนการเกษตร สอนงานที่จะสามารถทำให้เด็กขยันช่วยตัวเองและครอบครัวได้ บางทีเธอก็ออกมาเดินขอขนม ขอข้าวสารให้เด็กกินกลางวันบ้าง ถ้าเป็นวันปีใหม่ หรือ วันเด็กเธอก็ออกมาขอของเล่น
เธอบอกว่า "ได้กำไรจากการขาย ทอดมันและห่อหมกประมาณ 200 กว่าบาท ก็เอาเงิน 200 กว่าบาทเนี้ยไปซื้อข้าวและอาหารมาทำให้เด็กกินในวันรุงขึ้น" ผมดูแล้วน้ำตาคลอเลยครับ....( หลายคนคงสงสัยว่าทำไมกำไรน้อยจัง ก็เธอขายกระทงละ 10บาทเองครับ )
ภาพก็ตัดมาที่แม่ค้าท่านนึง... "ก็ให้แกไปทุกทีแหละ สงสารแก" แม่ค้าบอกพิธีกร
เธอไม่ได้ขอให้ตัวเอง ไม่เคยขอให้ตัวเอง ตลอดสี่สิบสองปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยขออะไรให้ตัวเอง ไม่แม้แต่จะขอขึ้นเงินเดือน เลื่อนขั้น หรือย้ายไปสอนที่อื่น เธอขอทุกอย่างให้เด็กๆ
เธอบอกว่า "เด็กๆ เป็นภาระของเธอ" ผมนึกในใจ
ครูแบกภาระมามากแล้วควรให้คนอื่นเขาทำบ้าง
ได้ยินเธอตอบผู้ดำเนินรายการว่า "ถ้าเธอสั่งสอนเด็กได้ไม่ดี ต่อไป เด็กก็จะเป็นภาระของสังคม น่าจะดีกว่าถ้าเด็กเป็นภาระของเธอ" "ไม่เหนื่อยเหรอคะ" ผู้ดำเนินรายการถามต่อ
"เธอเหลือบตามองฟ้า เธอบอกยึดหลักคำสอนของในหลวง ถ้าเธอเหนื่อยพระองค์ทรงเหนื่อยกว่าเธอมากมายหลายเท่านัก" แล้วเธอก็สะอึก น้ำตาปริ่มขอบตา
ไม่ใช่เธอคนเดียว... ผมก็เหมือนกัน
เธอ... ขอหลายๆอย่าง แต่สำคัญคือเธอไม่เคยขอเพื่อตัวเอง เธอขอให้เด็กๆ เป็นการขอเพื่อให้ที่ยิ่งใหญ่จริงๆครับครู .....ขอให้ครูมีความสุข อายุยืนนานนะครับ......................................................................... ผมดูจนจบเล่นเอาน้ำตาผมไหลเลยครับ...ครูคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นครูผมเองครับ ผมดูแล้วเลยอยากช่วยครูที่สั่งสอนผมมาบ้าง...ถึงแม้จะได้ไม่มากก็ตาม
( ถ้าจะบริจาคเป็นสิ่งของส่งมาทางรถไฟลงสถานีปากน้ำโพจะสะดวกกว่าทางอื่นครับ )
.....โรงเรียนวิชาวดี แห่งนี้ อยู่หลังสถานีรถไฟ ปากน้ำโพครับ....
ตั้งอยู่ที่ น.36 ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000... เบอร์โทร 084-619-2001, 056-255-169 หรือ จะบริจาคเป็นเงินก็ได้ครับแล้วแต่ศรัทธา หมายเลขบัญชีนะครับ
โรงเรียนวิชาวดี บัญชี ออมทรัพย์ 605-183-7981
ธ. กรุงไทย สาขานครสวรรค์
บริจาคอะไรก็ได้ครับที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนการสอน เช่น สมุด,ดินสอ,ยางลบ,ไม้บรรทัด,เสื้อผ้านักเรียน, สื่อการเรียนการสอน ต่างๆ, ของเล่นที่ไม่ได้เล่นแล้วแต่อยู่ในสภาพที่ดี หรือ จะเป็นข้าวสารอาหารแห้ง ก็ได้ครับ..ฯลฯ
ที่มา : >>
Click<<