'จักรภพ เพ็ญแข' กลับไทย หลังลี้ภัยทางการเมืองเกือบ 15 ปีเต็ม
<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2024-03-28 16:30</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: จักรภพ เพ็ญแข </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'จักรภพ เพ็ญแข' กลับไทยหลังลี้ภัยทางการเมืองเกือบ 15 ปี เปรยเสียดายเวลา ขอตั้งใจกลับมารับใช้ชาติ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เตรียมเสนอตัวเป็นผู้ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลับมาสู้คดีในไทย</p>
<p> </p>
<p>สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (27 มี.ค.)
จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียุคสมัคร สุนทรเวช และผู้ลี้ภัยทางการเมืองตั้งแต่ปี 2552 โพสต์ภาพบนสื่อโซเชียลมีเดีย 'เฟซบุ๊ก' เมื่อเวลาประมาณ 11.21 น. เปิดเผยว่า ตนจะกลับถึงไทยในวันที่ 28 มี.ค. 2567 เวลา 7.35 น. </p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="497" scrolling="no" src="
https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpermalink.php%3Fstory_fbid%3Dpfbid02FGNpY4Uk2rJsVDz9fmX22VCsGKtTHsnL3UoDGr7CCvjxCLH6JtRTssm9St3M5XFEl%26id%3D100046673393139&show_text=true&width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<p>28 มี.ค. 2567 เว็บไซต์
มติชน ออนไลน์ รายงานวันนี้ (28 มี.ค.) ระบุว่า จักรภพ จะเดินทางถึงสุวรรณภูมิ และจะออกทางประตู 9 ชั้น 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยไฟลต์บินลง 07.35 น. จากนั้น จะเดินทางไปกองปราบปรามฯ กรณีมีหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ที่ฟ้องโดยศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศาลอาญา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นคนพามาที่กองปราบฯ เพื่อทำบันทึกการจับกุม </p>
<p>เมื่อเวลา 9.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานที่กองบังคับการปราบปราม โชคชัย อ่างแก้ว ทนายความประจำตัวของจักรภพ ได้เดินทางมา โดยให้สัมภาษณ์สื่อก่อนขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่ โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้น จะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และเหตุผลที่เขาตัดสินใจกลับมา ตั้งใจกลับมาทำงานรับใช้ประเทศเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังไม่ขอให้ความเห็น เนื่องจากวันนี้เขามาในฐานะทนายความ</p>
<p>ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่ามีการพาตัวจักรภพ ขึ้นไปบนอาคารของกองบังคับการปราบปรามแล้ว โดยไม่ได้เข้าจากทางด้านหน้าอาคารที่ผู้สื่อข่าวหลายสำนักดักรออยู่</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/7116/6895471170_0baa4ff9a8_o.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">จักรภพ เพ็ญแข เมื่อปี 2555</span></p>
<p>ต่อมา เว็บไซต์
มติชน ออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 13.36 น. จักรภพ ได้เดินมาออกมาให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว หลังพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อบันทึกการจับกุม และให้การเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง เบื้องต้น จักรภพ กล่าวว่า เขากลับประเทศไทยครั้งนี้ เพื่อกลับมารับใช้ชาติ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตอนนี้ตนมีหมายจับดำเนินคดีอยู่ 2 ข้อหา คือครอบครองอาวุธปืนที่ศาลจังหวัดอยุธยา และศาลอาญา โดยจักรภพ เผยว่า เบื้องต้น ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวทั้ง 2 ข้อหา และพนักงานสอบสวนให้ประกัน 2 ข้อหา ข้อหาละ 200,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข</p>
<p>ทั้งนี้ ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน จักรภพ ได้ก้มลงกราบพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 </p>
<p>จักรภพ กล่าวว่าเขากลับมาจากต่างประเทศเพื่อมอบตัวสู้คดี 2 คดี คือข้อหาครอบครองอาวุธฯ ที่ศาลจังหวัดอยุธยา และศาลอาญา ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาวันนี้เขามีการประสานงานล่วงหน้ากับทนายความโชคชัย อ่างแก้ว จึงนำมาสู่การประสานกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด และวันนี้ตนต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ว่าทำให้เขาตอบคำถามได้อย่างมั่นใจ และทำให้เขามั่นใจในการสู้คดีได้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ขอกลับมารับใช้ชาติ แต่ยันไม่สร้างความวุ่นวาย</span></h2>
<p>จักรภพ กล่าวว่า เขารู้สึกเสียดายเวลาที่จากบ้านเกิดไปเกือบ 15 ปีเต็ม ทำให้เสียดายเวลาที่จะรับใช้ชาติ และก็พร้อมที่จะทำอะไรก็ได้เพื่อช่วยเหลือ</p>
<p>“รู้สึกว่าเสียดายเวลาที่จะได้รับใช้ประเทศชาติไปเยอะ เพราะฉะนั้น จากนี้ไปอะไรที่ทำได้ก็จะทำ การเมืองก็เป็นวิถีทางหนึ่ง การทำงานทางด้านการต่างประเทศ ผมก็จะรับทำต่อไปเรื่อยๆ” จักรภพ กล่าว และระบุหลังจากนี้ถ้าพ้นเรื่องคดีความแล้ว จะขอทำตัวให้มีประโยชน์ต่อชาติในเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิต</p>
<p>จักรภพ กล่าวว่า การรับใช้ประเทศชาติ การเมืองเป็นหนึ่งในนั้น แต่ไม่ได้คิดที่จะมาเปลี่ยนแปลงอะไร หรือสร้างความวุ่นวายอะไร และมาสร้างบทบาทเล็กๆ ของเรา แต่เมื่อไรที่มีบทบาท ซึ่งมันเป็นการเสริมสร้างขึ้นมา ค่อยเข้ามาตรงนั้น</p>
<p>ส่วนบทบาทของสื่อจะได้กลับมาเห็นไหม จักรภพ มองว่า บทบาทสื่อถ้ายังต้องการคนหัวโบราณ เขาค่อยไปเสริมตรงนั้น ใจอยากให้คนไทยพร้อมต่อความเปลี่ยนไป โลกเปลี่ยนไปเยอะมาก ยกตัวอย่างเทคโนโลยี AI ถ้าไม่ปรับตัวคนอาจตกงานค่อนประเทศ หรือการเปลี่ยนแปลงด้านสภาวะภูมิอากาศ (climate change) </p>
<p>จักรภพ กล่าวว่า เขาเคยไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม หลังการทำรัฐประหารปี 2549 โดยคณะ คมช. (คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) ตอนนั้นไม่มั่นใจจริงๆ เขาคงไม่คิดจะย้อนไปแก้ไข โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมาได้คิดอะไรขึ้นเยอะ และประเทศไทย เปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก โดยเฉพาะการเมืองในภาพใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบอบประชาธิปไตยอนุญาตให้เจริญเติบโตขึ้น ซึ่งตรงนี้จะทำให้ทุกอย่างมั่นคงแข็งแรง ดีกว่าเอาหัวไปชนกำแพง </p>
<p>จักรภพ กล่าวย้ำว่า ไม่ได้มีการพูดคุยว่ากลับมาแล้วจะกลับมาทำอะไรต่อ พูดแต่เพียงว่าเรากลับมาเพราะกระบวนการยุติธรรม เราพูดแต่เพียงว่าเรากลับมาสู้กระบวนการยุติธรรม เพราะว่ามีความถูกต้องมีความดีงาม เป็นที่พึ่งในการแก้ไขปัญหาได้ พอได้ตรงนั้นก็ไม่ยาก</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ยันไม่มีดีลลับ กลับมาเพราะว่าเชื่อกระบวนการยุติธรรมและการเมืองภาพใหญ่ดีขึ้น</span></h2>
<p>จักรภพ กล่าวว่า เรื่อง “ดีล” อาจจะฟังดูไม่ค่อยดี แต่ทุกอย่างที่มาถึงขนาดนี้ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยไม่มีการพูดคุยกันมาก่อน “แต่การคุยไม่ได้หมายความว่า กลับมาแล้วแลกกับอันนั้นอันนี้ ยืนยันว่าไม่มี” ถึงเวลาหรือยังที่เราจะหาจุดร่วม แทนที่จะหาจุดต่าง และรอกัน 10 กว่าปี มันเสียเวลาไปเยอะ</p>
<p>“มันเป็นไปได้ เพราะว่าการเมืองในภาพใหญ่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ซึ่งพูดไม่ได้มากกว่านี้ สิ่งที่พัฒนาขึ้นตรงนั้นทำให้การพูดจากัน จากเดิมพูดไม่ได้ กลับมาพูดได้” จักรภพ กล่าว</p>
<p>อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า คนที่ยึดอำนาจในอดีตปรับวิธีไปเยอะ มันเกิดขึ้นได้เพราะว่าฝ่ายที่ต้องการประชาธิปไตยมุ่งมั่นสร้าง ฝ่ายที่ทำลายประชาธิปไตยลดบทบาทลง ตรงนี้ทำให้บรรยากาศดีขึ้น แต่อาจจะไม่ได้เปลี่ยนทันใจ </p>
<p><span style="color:null;">ต่อประเด็นจะไปพบรัฐบาล หรือที่พรรค หรือไม่ </span>จักรภพ ระบุว่า จะเข้าไปพบพรรคการเมืองแน่นอน แต่ไม่ได้ไปสร้างความขัดแย้ง </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">มีการพบทักษิณ?</span></h2>
<p>จักรภพ กล่าวว่า มีการโทรศัพท์คุยกันครั้งหนึ่งเพื่อถามไถ่สุขภาพ แต่เราก็ต้องต่างคนต่างทำการบ้านของเรา ในเรื่องคดีการเมือง มีการคุยกัน แต่ไม่ได้มีการปรึกษา เขายืนยันว่ามีแผนจะเข้าไปสวัสดีทักษิณ ชินวัตร </p>
<p>อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า ต่อจากนี้ เขาจะเตรียมเสนอตัวเป็นคนที่ช่วยเหลือคนที่จะกลับมา และเขายินดีช่วยเรื่องคดีความอย่างจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย </p>
<p>จักรภพ กล่าวต่อว่าเรื่องการช่วยเหลือจะช่วยอย่างไรนั้น ต้องให้ความมั่นใจโดยใช้ตัวเองเป็นหนูทดลองยา และ 2. เมื่อมั่นใจแล้ว นำมาสู่การทำการบ้านในเรื่องคดี และเราสู้ข้อกฎหมายแบบไหน </p>
<p>จักรภพ กล่าวว่า จากนี้จะเข้ามารายงานตัวและสอบปากคำในวันที่ 22-23 เม.ย. 2567 และจากนี้จะไปไหว้อัฐิพ่อแม่ หลังจากที่ลี้ภัยไปนานกว่า 15 ปี </p>
<p>ทั้งนี้
ข้อมูลจาก iLaw ระบุว่า จักรภพ เคยถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ คดีมาตรา 112 จากการกล่าวปาฐกถา หัวข้อ "ระบบอุปถัมภ์ ในฐานะที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความเป็นประชาธิปไตย" เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2550 ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) แต่คดีนี้ อัยการสั่งยกฟ้องเมื่อช่วงเดือน ก.ย. 2554</p>
<p>อีกคดีคือ คดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ 496/53 กล่าวหาข้อหามาตรา 112 เหตุจากเขียนบทความในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เมื่อเดือนมิถุนายน 2552-2 กรกฎาคม 2552 เนื้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ โดยทาง
iLaw ระบุว่าอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน เท่านั้น</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">"เศรษฐา" ยัน จักรภพต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม</span></h2>
<p>ในวันเดียวกัน เว็บไซต์
Thai PBS รายงานว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความยุติธรรมอยู่แล้ว ใครที่มีปัญหาในอดีต ถ้ากลับเข้ามาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามกรณีของนายจักรภพ ว่ามีรายละเอียดอย่างไร เมื่อนักข่าวถามมา ก็ต้องบอกว่าต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอใช้คำนี้เป็นหลัก</p>
<p>ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จักรภพ ไม่ได้ประสานมาทางกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง ปกติถ้ามีบุคคลที่ฝ่ายความมั่นคงเป็นกังวลจะหารือมาที่กต. และไม่ใช่หน้าที่ของ กต.โดยตรง</p>
<p>เมื่อถามว่า ผู้ที่ลี้ภัยในต่างประเทศหากต้องการกลับประเทศ สามารถประสานมาที่ กต.ได้หรือไม่ ปานปรีย์ กล่าวว่า คงจะแจ้งมาได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครประสานมาที่ กต. น่าจะเกี่ยวข้องกับฝ่ายความมั่นคง และทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมากกว่า ยืนยันยังไม่ได้รับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น และยังไม่ได้รับรายงานด้วย</p>
<p>เมื่อถามว่า ปกติคนที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ทาง กต.จะต้องติดตามพฤติกรรมของเขาด้วยหรือไม่ ปานปรีย์ กล่าวว่า ถ้าไม่มีปัญหา หรือไม่มีประเด็นอะไร ก็ไม่ได้ติดตามอะไรอย่างใกล้ชิด เพียงแต่รับรู้ เพราะมีสถานทูตอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว ไม่ได้ไปติดตามความเคลื่อนไหวอะไร เพราะเขาก็อยู่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศนั้นๆ อยู่แล้ว</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108603