12 พฤษภาคม 2567 14:40:49
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
.:::
สมเด็จฯ พระพันปีหลวง ในทรรศนะของหมอสมิธ : เรื่องเล่าของชาวต่างชาติ
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สมเด็จฯ พระพันปีหลวง ในทรรศนะของหมอสมิธ : เรื่องเล่าของชาวต่างชาติ (อ่าน 16578 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5478
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
สมเด็จฯ พระพันปีหลวง ในทรรศนะของหมอสมิธ : เรื่องเล่าของชาวต่างชาติ
«
เมื่อ:
03 พฤศจิกายน 2556 18:52:03 »
Tweet
.
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง
ในทรรศนะของหมอสมิธ
Her Majesty Queen Sri Bajarindra the Queen Mother
in Dr. Malcolm Smith's Perspective
โดย...ศุกลรัตน์ ธาราศักดิ์ นักอักษรศาสตร์ชำนาญการพิเศษ
สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
พระราชประวัติส่วนพระองค์ในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ซึ่งในรัชกาลต่อมาทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง
๑
หลักฐานที่ได้บันทึกไว้อย่างเป็นทางการนั้นอาจจะมีปรากฏอยู่ในหนังสือและเอกสารประวัติศาสตร์ของไทยจำนวนมาก หากแต่เรื่องราวที่นำมาเสนอในที่นี้อาจจะมีรายละเอียดที่แตกต่างไปจากเอกสารที่ฝ่ายไทยบันทึกไว้ เนื่องจากเป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดมาจากประสบการณ์ของชาวต่างชาติผู้หนึ่ง ที่ได้มีโอกาสเข้าไปถวายการรับใช้ใกล้ชิดสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ณ พระราชวังพญาไทมาก่อน ชาวต่างชาติที่กล่าวถึงนี้ก็คือ
นายแพทย์มัลคอล์ม สมิธ
หรือเรียกสั้นๆ ว่า
หมอสมิธ
ชาวอังกฤษซึ่งเป็นแพทย์ประจำพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงศภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
๒
และในเวลาต่อมาได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้ถวายการดูแลพระพลานามัยในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวงด้วย ภายหลังเมื่อเดินทางกลับไปประเทศอังกฤษแล้ว หมอสมิธ ได้เขียนหนังสือขึ้นเล่มหนึ่งชื่อว่า
A Physician at the Court of Siam
ซึ่ง
กรมศิลปากรได้นำมาแปลและจัดพิมพ์
ในชื่อเรื่องว่า
ราชสำนักสยามในทรรศนะของหมอสมิธ
เนื้อหาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับราชสำนักสยามในช่วงรัชกาลที่ ๔ ถึงรัชกาลที่ ๖ และพระราชประวัติส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ตลอดจนสภาพสังคมในช่วงระยะเวลานั้น ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าสนใจและ
มิได้มีบันทึกอยู่ในเอกสารประวัติศาสตร์ของฝ่ายไทย
ใน
หนังสือราชสำนักสยามในทรรศนะของหมอสมิธ
ได้บันทึกไว้ว่า นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๔๕๓ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ได้ทรงย้ายสถานที่ประทับจากพระที่นั่งสุทธาศรีภิรมย์ หรือตำหนักที่บน ภายในพระบรมมหาราชวังมาประทับ ณ พระราชวังพญาไท และประทับอยู่ที่นั่นตราบจนกระทั่งเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๔๖๒ ในครั้งนั้น ได้มีข้าราชสำนักฝ่ายในที่ย้ายติดตามพระองค์มาด้วยกัน ๒ ท่านคือ ท้าววรคณานันท์ หรือเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์ปั้ม มาลากุล และท้าวสมศักดิ์หรือหม่อมราชวงศ์ปุย มาลากุล ธิดาในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นปราบปรปักษ์ หม่อมราชวงศ์ปั้ม มาลากุล หรือที่หมอสมิธเรียกว่า
คุณปั้ม
(Khun Pam)
มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าท้าวนางชั้นสูงสุดในทำเนียบข้าราชบริพารฝ่ายใน รับหน้าที่ดูแลข้าหลวงและข้าราชสำนักฝ่ายใน ดูแลพระราชทรัพย์ ดูแลห้องเครื่อง และรับผิดชอบงานทุกอย่าง ยกเว้นเฉพาะหน้าที่ภายในห้องพระบรรทม ส่วนหม่อมราชวงศ์ปุย มาลากุล หรือที่หมอสมิธเรียกว่า
คุณปุย
(Khun Puey)
มีตำแหน่งเป็นนางสนองพระโอษฐ์ หัวหน้าห้องพระบรรทม มีหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดสุดแต่จะมีพระประสงค์ ท่านมีนามเป็นที่เรียกขานกันในบรรดาข้าราชสำนักฝ่ายในว่า
คุณผู้รับสั่ง
หมอสมิธ
ได้เล่าถึงพระราชจริยาวัตรและพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวงไว้ในหนังสือของเขาว่า
สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง ค่อนข้างที่จะมีพระราชจริยาวัตรผิดแผกไปจากบุคคลธรรมดา
กล่าวคือ จะทรงใช้เวลาบรรทมในช่วงเวลากลางวัน และทรงตื่นบรรทมขึ้นมาปฏิบัติพระราชภารกิจในช่วงกลางคืน ซึ่งในฐานะแพทย์ประจำพระองค์ หมอสมิธได้เคยทูลถามถึงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยได้กราบทูลให้ทรงทราบว่าพระจริยาวัตรดังกล่าวมิได้ก่อให้เกิดผลดีต่อพระพลานามัยของพระองค์เลย แต่สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวงได้ตรัสตอบว่า พระองค์ทรงพอพระทัยเช่นนั้น พระมารดาตลอดจนพระอัยกีของพระองค์ต่างก็ทรงปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้ และด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงไม่อาจมีผู้ใดทัดทานพระองค์ได้
โดยปกติแล้ว สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง จะทรงตื่นบรรทมในราว ๖ โมงเย็นถึง ๒ ทุ่ม หลังจากที่ตื่นบรรทมแล้วก็จะทรงปฏิบัติพระราชภารกิจส่วนพระองค์ตามปกติ หลังจากนั้นก็จะได้เวลาเสวยพระกระยาหารซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นพระกระยาหารมื้อเดียวของทั้งวัน พระกระยาหารที่นำขึ้นเทียบเครื่องเสวยบ่อยครั้งได้แก่ ข้าวต้มปลา ข้าวสวยกับแกงชนิดต่างๆ และเนื้อทอด หมอสมิธได้เขียนเล่าไว้ในหนังสือของเขาว่า
มีพระกระยาหารอีก ๒ ชนิดที่ทรงโปรดปราน
คือ ด้วงมะพร้าวทอด
*
และรวงของผึ้งอ่อน หรือที่เรียกว่ามิ้ม ซึ่งพระกระยาหารทั้งสองชนิดนี้หมอสมิธได้เคยถูกชักชวนให้ลองชิมมาแล้ว และเขาไม่เข้าใจเลยว่า เพราะเหตุใดจึงเป็นที่โปรดปราน หลังจากเสวยพระกระยาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง จะทรงสูดพระโอสถนัตถุ์เป็นกิจวัตร
(จากซ้าย)
กรมหลวงนครราชสีมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ กรมขุนเพชรบูรณ์อินทราชัย
สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง มักจะทรงใช้ช่วงเวลาในระหว่างเสวยพระกระยาหาร ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย อาทิ พระราชทานคำปรึกษาเกี่ยวกับกิจการงานภายในราชสำนัก หรือไม่ก็ทรงรับฟังข่าวสารประจำวันที่มีผู้นำมาเล่าถวายให้ทรงทราบ ตลอดจนทรงให้การรับรองผู้ที่มาเข้าเฝ้าไปด้วยในเวลาเดียวกัน ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงใช้เวลาในการเสวยพระกระยาหารแต่ละครั้งนาน ๒ ถึง ๓ ชั่วโมง ซึ่งหมอสมิธได้เขียนเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในหนังสือของเขาปรากฏความตอนหนึ่งว่า
สมเด็จพระพันปีหลวงทรงใช้เวลาในการเสวยพระกระยาหารแต่ละมื้อค่อนข้างนาน ไม่ใช่เพราะเสวยมาก แต่เป็นเพราะทรงปฏิบัติพระราชภารกิจอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย แท้จริงแล้วการเสวยพระกระยาหารถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญรองลงมาและสามารถดำเนินไปพร้อมๆ กับการสนทนาได้ เมื่อครั้งที่ยังมีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงใช้เวลาในการเสวยพระกระยาหารนาน ๒-๓ ชั่วโมง และช่วงเวลาในการเสวยก็ไม่แน่นอน สุดแต่ว่าจะมีพระราชประสงค์เมื่อใด
โดยปกติ
แล้ว สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง มักจะทรงปฏิบัติพระราชภารกิจต่างๆ บนพระแท่นบรรทม เนื่องจากในช่วงระยะหลังของพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงมีพระอาการประชวรต่อเนื่องมาโดยตลอด หากมิได้เสด็จไปในงานพระราชพิธีสำคัญๆ ใดๆ พระองค์ก็แทบจะมิได้ทรงลุกจากพระแท่นบรรทมเลย หมอสมิธได้เล่าถึงห้องพระบรรทมของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงว่า
"ห้องบรรทมมีขนาดไม่ใหญ่โตนัก ความกว้างอยู่ในราว ๑๕ ฟุต ยาว ๒๕ ฟุต ตรงกลางห้องกั้นพระวิสูตร ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือ
มุ้งลวด
พระแท่นบรรทมตั้งอยู่ภายในพระวิสูตร พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชสำนักที่มาเข้าเฝ้าจะประทับและนั่งอยู่ภายนอกพระวิสูตร ซึ่งโดยปกติจะมีผู้มาเข้าเฝ้าครั้งละไม่เกิน ๔-๕ คน ส่วนสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวงจะประทับอยู่บนพระแท่นเกือบจะตลอดเวลา..."
พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชสำนักที่มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง ณ พระราชวังพญาไทในแต่ละวันนั้นมีจำนวนมากมาย พระราชโอรสที่เสด็จฯ มาเข้าเฝ้าพระราชมารดาอย่างสม่ำเสมอได้แก่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงศภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา และเจ้าฟ้ากรมขุนสุโขทัยธรรมราชา (ภายหลังเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗) ส่วนพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นๆ ก็มีอาทิ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์
หมอสมิธได้บันทึกถึงพระอุปนิสัยในสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง ไว้ในหนังสือของเขาดังปรากฏความตอนหนึ่งว่า
"..สมเด็จพระพันปีหลวงทรงสนพระทัยในความเป็นไปของบ้านเมืองในทุกๆ ด้าน แต่มิได้ทรงเข้าไปมีส่วนร่วมในภารกิจนั้นๆ ยุคสมัยของพระเจ้าอยู่หัวองค์ใหม่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่สมเด็จพระพันปีหลวงมิได้ทรงเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งเหล่านั้น ภายในราชสำนักเล็กๆ ของพระองค์ วิถีชีวิตทุกอย่างยังคงรักษารูปแบบไว้เหมือนเมื่อในอดีต กิริยามารยาทอันงดงามตลอดจนการถวายการปรนนิบัติรับใช้ด้วยความอ่อนน้อมล้วนแต่เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงได้รับมาจนเคยชิน และการกระทำประการหลังนี้ยังคงดำรงอยู่อย่างเต็มเปี่ยมจนถึงวาระที่พระองค์สวรรคต..."
สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวงทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้หมอสมิธเข้าเฝ้าพระองค์เกือบจะทุกวัน ทั้งนี้มิได้เป็นเพราะทรงวิตกกังวลในพระพลานามัยของพระองค์เองแต่ประการใด หากแต่มีพระประสงค์จะสนทนากับเขาเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นไปของโลกภายนอก นอกเหนือไปจากในราชสำนักของพระองค์ พระองค์ทรงรอบรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระราชวงศ์ของยุโรปเป็นอย่างดี และนี่คือเรื่องราวส่วนหนึ่งจากคำบอกเล่าของหมอสมิธ
"สมเด็จพระพันปีหลวงทรงรอบรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระราชวงศ์ของยุโรปที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่เป็นอย่างดี และทรงรู้ไปถึงวงศ์วารของพระราชวงศ์เหล่านั้นดีเสียยิ่งกว่าตัวข้าพเจ้า..."
ระหว่างการสนทนาแม้ว่าพระองค์จะมิได้ตรัสเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็ทรงรู้คำศัพท์มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นศัพท์เกี่ยวกับการเมืองและการทูตที่ไม่มีคำภาษาสยามอธิบายได้อย่างชัดแจ้ง ถ้อยคำเหล่านี้มักจะสอดแทรกอยู่ในพระราชดำรัสราวกับลูกเกดที่กระจัดกระจายอยู่ในก้อนขนมปัง พระองค์ไม่เคยผูกขาดการสนทนาแต่เพียงผู้เดียว แนวพระราชดำริอันชาญฉลาดของพระองค์ทำให้การสนทนาดำเนินไปอย่างราบรื่นตามที่ควรจะเป็น.
๑
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถฯ พระนามเดิม พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระปิยะมาวดี รัชกาลที่ ๕ ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถในคราวเสด็จประพาสยุโรป เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐ รัชกาลที่ ๖ เฉลิมพระปรมาภิไธยเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง.
๒
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงศภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เป็นพระราชโอรสลำดับที่ ๔ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ไปทรงศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ และเสด็จฯ ไปประทับอยู่ในราชสำนักสมเด็จพระเจ้านิโคลัสที่ ๒ แห่งรัสเซีย เป็นราชทูตพิเศษเมื่อเสด็จฯ ไปประทับอยู่ในยุโรป ครั้นถึงรัชกาลที่ ๖ โปรดให้บัญชาการกรมทหารมหาดเล็กแทนพระองค์ พ.ศ. ๒๔๕๔ ได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงฯ เสด็จทิวงคต ณ ประเทศสิงคโปร์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ พระชนมายุ ๓๘ เป็นต้นราชสกุล จักรพงศ์
*
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนเล่าว่า ท่านเป็นผู้มีโอกาสได้เคยเห็นเครื่องต้นและเครื่องเสวยเจ้านายมาแล้วอย่างน้อย ๔ รัชกาล เพราะท่านเป็นคน ๔ แผ่นดิน เครื่องต้นและเครื่องเสวยเจ้านายนั้น ไม่เห็นมีความวิจิตรพิสดารแต่อย่างไร ความประณีตในการตระเตรียมในการหุงหานั้น ย่อมมีเป็นที่แน่นอน แต่ชนิดของกับข้าวไม่ว่าจะเป็นแกง เป็นผัด เป็นน้ำพริก หรือเครื่องจิ้มอื่นๆ ก็เป็นอย่างที่ชาวบ้านกินกันทั้งนั้น ชั่วแต่ว่าทำด้วยความระมัดระวังหน่อย มิใช่สุกเอาเผากินอย่างชาวบ้าน จะผิดแผกไปจากของที่ชาวบ้านเขากินกันก็ประเภทอาหารแมลง เช่น ด้วงโสน ด้วงมะพร้าว ซึ่งชาวบ้านรังเกียจเห็นว่าเป็นหนอน ไม่กินเป็นอันขาด หรือจะหาคนกินได้ก็มีน้อย
ภาพจาก :
www.reurnthai.com
ในการเข้าเฝ้า
สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงแต่ละครั้ง ผู้ที่มาเข้าเฝ้าทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามจะต้องรอจนกว่าจะมีพระราชเสาวนีย์ให้เข้าเฝ้า ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้เวลานาน ๒-๓ ชั่วโมง แต่สำหรับหมอสมิธซึ่งอยู่ในฐานะแพทย์ประจำพระองค์ เขาได้รับสิทธิให้เข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวงได้โดยไม่ต้องเสียเวลารอนานนัก ทันทีที่ตื่นบรรทมจะมีผู้แจ้งให้เขาทราบทางโทรศัพท์ และเขาก็จะรีบเดินทางมาเข้าเฝ้าโดยเร็ว หมอสมิธได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ ความว่า
สำหรับข้าพเจ้าการเข้าเฝ้าดูจะเป็นขั้นตอนที่ง่ายกว่าการที่จะได้กลับออกมา เพราะถ้าหากสมเด็จพระพันปีหลวงทรงอยู่ในพระอารมณ์ที่ทรงอยากจะพูดคุย กว่าข้าพเจ้าจะได้กลับออกมาจากเข้าเฝ้าก็กินเวลา ๒-๓ ชั่วโมงเสมอ โดยปกติแล้วสมเด็จพระพันปีหลวงจะทรงตื่นบรรทมในราว ๖ โมงเย็น ถึง ๒ ทุ่ม ดังนั้นกว่าข้าพเจ้าจะได้เข้าเฝ้าก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน
หมอสมิธ
ได้บรรยายถึงพระอุปนิสัยในสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวงว่าทรงเป็นผู้ที่มีน้ำพระทัยกว้างขวาง พระองค์ทรงมีพระราชทรัพย์มากมายนอกเหนือจากเบี้ยหวัดเงินปีที่ได้รับพระราชทานเป็นประจำแล้ว สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง ยังทรงมีรายได้ที่เกิดจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซึ่งประมาณการแล้วน่าจะอยู่ในราว ๘๐,๐๐๐ – ๙๐,๐๐๐ บาทต่อปี หากแต่พระองค์มิได้ทรงใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งก็จะพระราชทานความช่วยเหลือให้แก่ข้าราชสำนักของพระองค์เสมอ หมอสมิธเองก็เคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวงเช่นกัน โดยในคราวที่เขาตัดสินใจสร้างบ้านพักอาศัยของเขาเอง เขาก็ได้รับพระราชทานเงินช่วยเหลือในการก่อสร้างถึง ๓,๐๐๐ ปอนด์ และเมื่อบ้านสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์ยังได้พระราชทานชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยเงิน รวม ๒๐ ชิ้น ให้เป็นของขวัญอีกด้วย และด้วยเหตุที่สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวงและหมอสมิธต่างก็ประสูติและเกิดในปีกุนทางนักษัตรเช่นเดียวกัน เครื่องใช้ทุกชิ้นที่พระราชทานจึงได้ออกแบบให้มีรูปหมูอยู่ตรงกลาง รวมทั้งแก้วน้ำก็ได้สลักรูปหมูไว้ที่ด้านข้างของแก้วด้วย
สมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง
ทรงโปรดเครื่องอาภรณ์เพชรพลอยเช่นเดียวกับหญิงสาวชาวสยามทุกคน เมื่อครั้งที่ยังเยาว์พระชันษาจะทรงประดับเครื่องอาภรณ์เพชรพลอยครบชุดตามธรรมเนียมนิยมในสมัยนั้น แต่มาในระยะหลังเมื่อพระชนมายุมากขึ้น พระองค์มิได้ทรงใส่พระทัยในเครื่องประดับเหล่านี้แล้ว หากจะทรงสวมพระธำมรงค์บ้างก็เฉพาะในโอกาสพิเศษ เมื่อทรงมีพระประสงค์ที่จะพระราชทานให้แก่ผู้ใดก็จะทรงนำออกมาให้บุคคลผู้นั้นเลือกดู เครื่องประดับเพชรพลอยส่วนใหญ่จะเป็นของห้างฟาแบร์เช่
(Fabarge’)
*
ซึ่งงานฝีมือของห้างฟาแบร์เช่นั้น มีความงดงามและมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใคร
สมเด็จพระราชชนนี พันปีหลวง ทรงคุ้นเคยกับการบรรทมดึกจนเป็นกิจวัตร ยิ่งเมื่อทรงย้ายมาประทับ ณ พระราชวังพญาไท พระนิสัยบรรทมดึกของพระองค์ก็ยิ่งทวีมากขึ้น จนบางครั้งกว่าจะเสด็จเข้าที่บรรทมได้ก็เมื่อล่วงเข้าสู่เวลา ๖-๗ นาฬิกาของวันใหม่ ในระหว่างเวลานั้นราชสำนักทั้งหมดจะตกอยู่ในความเงียบสงัด การกระทำใดๆ ที่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนจะถูกสั่งห้ามมิให้กระทำ จนหมอสมิธเองถึงกับกล่าวเปรียบเปรยไว้ในหนังสือของเขาว่า “...บรรยากาศภายในราชสำนักดูเงียบสงบวังเวง ราวกับพระราชวังของเจ้าหญิงนิทราในนิทาน...”
จากการที่หมอสมิธได้มีโอกาสเข้าไปถวายการรับใช้ใกล้ชิดสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวงอยู่เป็นเวลาหลายปี จึงเป็นที่มาของถ้อยคำของเขาที่ว่า
“...ในบรรดาชาวต่างชาติที่จะได้มีโอกาสเห็นภาพชีวิตภายในราชสำนักฝ่ายในเหล่านี้ ก็เห็นจะมีแต่เพียงแพทย์ที่ปฏิบัติงานอยู่ภายในราชสำนักเท่านั้น...” และจากตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าว ทำให้เขาได้ประจักษ์ในพระอุปนิสัยและพระปรีชาสามารถของพระองค์เป็นอย่างดี โดยเขาได้กล่าวยกย่องสมเด็จพระบรมราชชนนี พันปีหลวง ไว้ในหนังสือของเขาว่า
“ทรงเป็นเจ้านายที่มีพระสติปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ และไม่เคยที่จะทรงผูกขาดการสนทนาแต่เพียงผู้เดียว ทรงมีความรู้กว้างขวางในเรื่องทุกเรื่อง รวมถึงทรงรอบรู้ในเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งภายในบ้านเมืองของพระองค์เอง และข่าวคราวความเคลื่อนไหวของประเทศต่างๆ เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังทรงแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งส่งผลให้การสนทนากับพระองค์ดำเนินไปอย่างราบรื่น”
พระราชประวัติส่วนพระองค์ในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ที่นำมาถ่ายทอดในที่นี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหนังสือ
A Physician at Court of Siam
หรือราชสำนักสยามในทรรศนะของหมอสมิธ งานเขียนของ
Dr. Malcolm Smith
ซึ่งในหนังสือเล่มดังกล่าวยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับราชสำนักฝ่ายในให้ได้ศึกษาอีกมาก อย่างไรก็ดี เนื่องจากผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นชาวต่างชาติ อาจมีเนื้อหาหรือถ้อยคำบางตอนที่ผู้เขียนอาจมีทัศนคติและมุมมองที่ผิดแผกแตกต่างไปจากคนไทย ดังนั้น ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการอ่านประกอบด้วย.
*
ฟาแบร์เช่
(Fabarge’)
เป็นห้างร้านที่มีชื่อเสียงในการออกแบบทำเครื่องทองและอัญมณี เป็นร้านค้าที่ได้รับพระราชทานตราตั้งให้เป็นร้านค้าประจำราชสำนักรัสเซีย ตั้งแต่สมัยพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ ๓ จนถึงสมัยพระเจ้าซาร์นิโคลาสที่ ๒ ต่อมาชื่อเสียงของห้างฟาแบร์เช่ได้แพร่กระจายไปยังราชสำนักยุโรป และราชสำนักไทยซึ่งเป็นราชสำนักเดียวในภาคพื้นตะวันออกที่ซื้อและสั่งประดิษฐ์ศิลปวัตถุต่างๆ จากห้างฟาแบร์เช่
ที่มา :
นิตยสารศิลปากร
จัดพิมพ์เผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการ สำนักบริหารกลาง กรมศิลปากร
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พฤศจิกายน 2558 13:51:40 โดย กิมเล้ง
»
บันทึกการเข้า
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
[ไทยรัฐ] - ส.ผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ประสานพบ “สี จิ้นผิง” ดันงาน “150 ปีพุฒาจารย์โต สมเด็จฯ คู่แ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด
0
190
27 ตุลาคม 2565 22:50:45
โดย
สุขใจ ข่าวสด
ประวัติหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) - พระนิพนธ์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
สุขใจ ห้องสมุด
Kimleng
0
188
09 สิงหาคม 2566 14:57:46
โดย
Kimleng
กำลังโหลด...