[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 04 เมษายน 2557 16:54:01



หัวข้อ: หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล วัดรังสีปาลิวัน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 04 เมษายน 2557 16:54:01
.

(http://www.dhammajak.net/gallery/albums/userpics/%CB%C5%C7%A7%BB%D9%E8%E0%A2%D5%C2%B9%20%B0%D4%B5%CA%D5%E2%C5~0.jpg)

หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล
วัดรังสีปาลิวัน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์


พระอริยเวที” หรือ “หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล” เป็นพระเถราจารย์ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นที่น่าเคารพสักการบูชาของบรรดาศิษยานุศิษย์ฯ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า รวมทั้งเป็นเพื่อนสหธรรมิกกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) และพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน) ตั้งแต่ครั้งสมัยที่ท่านทั้งสามยังมีอายุพรรษาไม่มากนัก

หลวงปู่เขียน มีนามเดิมว่า เขียน ภูสาหัส เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีฉลู ณ บ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ โยมบิดาชื่อ นายสังข์ โยมมารดาชื่อนางค้อม สกุล ภูสาหัส

การบรรพชาและอุปสมบท
เมื่ออายุครบ ๑๕ ปี ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ณ วัดบ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์

ครั้นอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ณ พัทธสีมาวัดสุทธจินดา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา  ในพ.ศ.๒๔๘๕ สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค ในสังกัดสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

งานด้านการศึกษาสงฆ์
พ.ศ. ๒๔๗๘–๒๔๘๑ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดสุทธจินดา และวัดศาลาทอง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
พ.ศ. ๒๔๘๒ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และสำนักเรียนวัดพระศรีมหาธาตุ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

ตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๔๘๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสังฆสภา
พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา
พ.ศ. ๒๔๙๔ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา

สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้รับพระราชทางแต่งตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระอริยเวที”

ปฏิปทา
ปี พ.ศ. ๒๔๘๗ หลวงปู่เขียนได้เข้ากราบฟังธรรม ปฏิบัติธรรม และถวายตัวเป็นศิษย์ในสำนักของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต หลังจากที่จบเปรียญธรรม ๙ ประโยคใหม่ๆ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) นำไปฝาก ทั้งนี้ เพื่อประสงค์ให้ท่านได้เป็นศาสนทายาทที่มีความหนักแน่นมั่นคง ทั้งด้านปริยัติและด้านปฏิบัติ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่พระภิกษุสามเณรในภายภาคหน้า เมื่อได้ฟังธรรม และรับคำแนะนำในการปฏิบัติเป็นอย่างดีแล้ว จึงได้ออกเดินธุดงค์กัมมัฏฐานไปตามป่าเขาลำเนาไพรในจังหวัดต่างๆ จนออกไปถึงประเทศลาว และแวะเวียนมา กราบฟังธรรมเป็นระยะๆ

ด้วยผลานิสงส์แห่งการปฏิบัติธรรมจากสำนักของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ทางด้านวิปัสสนาธุระของประเทศไทย หลวงปู่เขียนได้กล่าวปฏิญาณตนอย่างเด็ดเดี่ยวต่อหน้าพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ว่า “ขอมอบกายถวายชีวิตทั้งหมดนี้ให้แก่พระพุทธศาสนา สาสเน อุรํ ทตฺวา ขอให้ท่านอาจารย์โปรดเป็นสักขีพยานด้วยเถิด”
 
มรณภาพ
ต่อมา หลวงปู่เขียน ได้ลาออกจากหน้าที่บริหางานคณะสงฆ์ คือตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา และตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แล้วออกธุดงค์กัมมัฏฐานอย่างจริงจังอยู่ในป่าในถ้ำ จนเป็นที่พอแก่กาลแล้ว จึงกลับมาสู่มาตุภูมิและสร้างวัดรังสีปาลิวันในปัจจุบัน เพื่อนำพระภิกษุสามเณร ประชาชนศึกษาธรรมและประพฤติธรรมจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

ท่านได้เริ่มเจ็บป่วยเป็นอัมพาต ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ จนกระทั่งละสังขารมรณภาพ เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖ สิริรวมอายุ ๙๐ พรรษา ๖๘ ทั้งนี้ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน) ได้มีเมตตาอนุเคราะห์เป็นอเนกประการ นับแต่เป็นประธานสรงน้ำศพ เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖, เป็นประธานจัดงานจัดงานประชุมเพลิงศพ แสดงพระธรรมเทศนา และรับผ้าป่าช่วยชาติ เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และเป็นประธานวางศิลาฤกษ์เจดีย์พิพิธภัณฑ์ฯ แสดงพระธรรมเทศนา และรับผ้าป่าช่วยชาติ ในงานวันทำบุญครบ ๑ ปี แห่งการมรณภาพ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗


(http://www.dhammajak.net/board/files/268_1198469045.jpg_845.jpg)
พระบรมธาตุเจดีย์ฐิตสีลมหาเถรานุสรณ์

คณะศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้เห็นปฏิปทาอันงดงาม หนักแน่นมั่งคงในหลักพระธรรมวินัย เป็นผู้มักน้อยสันโดษ มีปกติอยู่ในป่าของหลวงปู่เขียน ฐิตสีโล จึงพร้อมใจกันเพื่อจะจัดสร้าง “พระบรมธาตุเจดีย์ฐิตสีลมหาเถรานุสรณ์” ขึ้นเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยการนำพาของ พระอาจารย์บุญมี ธมฺมรโต เจ้าอาวาสวัดป่าศรัทธาถวาย (วัดถ้ำเต่า) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี (ท่านเคยอยู่จำพรรษา ณ วัดรังสีปาลิวัน กับหลวงปู่เขียน ฐิตสีโล ประมาณ ๑๐ กว่าปี และ ณ วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี กับหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ประมาณ ๑๐ กว่าปีเช่นกัน และพระครูสันติธรรมประภาส (สงบ สุปภาโส) เจ้าอาวาสวัดรังสีปาลิวันรูปปัจจุบัน ทั้งนี้ ด้วยความอุปถัมภ์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน) โดยมีวัตถุประสงค์ในจัดสร้างเพื่อ
๑. เป็นปูชนียสถานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งประทานโดยเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน), พระอรหันตธาตุ, อัฐิธาตุของพระบุรพาจารย์กรรมฐานสายพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต และอัฐิธาตุของหลวงปู่พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) เป็นต้น
๒. เป็นเจติยานุสรณ์แด่หลวงปู่พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดรังสีปาลิวัน
๓. เป็นพิพิธภัณฑ์จัดเก็บอัฐบริขาร ชีวประวัติของหลวงปู่พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) และชีวประวัติของพระบุรพาจารย์สายกรรมฐาน ทั้งนี้ เพื่อเป็นศาสนสถานที่กราบไหว้ สักการบูชา ที่ศึกษาค้นคว้า ยึดถือเป็นทิฏฐานุคติ แล้วน้อมนำไปปฏิบัติของพุทธศาสนิกชน เป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา อันเป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ และจะยังหิตานุหิตประโยชน์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายตลอดกัลปาวสาน
...ข้อมูล หนังสือพิมพ์ข่าวสด

(http://www.dhammajak.net/board/files/paragraph__146.jpg)

(http://www.dhammajak.net/board/files/paragraph__162.jpg)