[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
15 พฤษภาคม 2567 01:33:23 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - องค์กรสิทธิมนุษยขนแจงความคืบหน้ากรณีไอโอโจมตีผู้หญิงนักปกป้องสิทธิฯ  (อ่าน 89 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 30 ตุลาคม 2566 00:21:14 »

องค์กรสิทธิมนุษยขนแจงความคืบหน้ากรณีไอโอโจมตีผู้หญิงนักปกป้องสิทธิฯ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-10-29 13:59</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>องค์กร Protection International ซึ่งทำงานสนับสนุนนักปกป้องสิทธิมนุษยชน แจงความคืบหน้ากรณีไอโอโจมตีผู้หญิงนักปกป้องสิทธิฯ ว่าผู้รายงานพิเศษ UN 6 คณะ ส่งหนังสือถึงรัฐไทยเรียกร้องให้ชี้แจงข้อเท็จจริงจากการขาดความรับผิดและมาตรการคุ้มครองต่อการข่มขู่และการคุกคามทางออนไลน์ต่อ “อังคณา-อัญชนา” พร้อมเสนอ 5 ข้อ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการโจมตีทำร้ายด้วยเหตุแห่งเพศสภาพ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งการใส่ร้ายป้ายสีทางออนไลน์ ด้านผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ได้มีหนังสือตอบกลับระบุเพียงจะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป แต่ยังไม่ได้ตอบข้อคำถาม หรือชี้แจงข้อห่วงกังวลของคณะผู้รายงานพิเศษแต่อย่างใด</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53294117049_6b693500bf_o_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">แฟ้มภาพ 'อังคณา นีละไพจิตร' และ 'อัญชนา หีมมิหน๊ะ'</span></p>
<p>29 ต.ค. 2566 องค์กร Protection International ซึ่งทำงานสนับสนุนนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและอำนวยความสะดวกให้ อังคณา นีละไพจิตร และ อัญชนา หีมมิหน๊ะ ได้เข้าถึงความยุติธรรมกรณีการถูกโจมตีและละเมิดสิทธิออนไลน์โดยการทำไอโอ ได้เผยแพร่เอกสารแปลของผู้รายงานพิเศษสหประชาชาติที่ส่งถึงรัฐบาลไทยเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา โดยคณะผู้รายงานพิเศษสหประชาชาติ 6 คณะซึ่งประกอบด้วย คณะทำงานว่าด้วยการเลือกปฏิบัติต่อต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง , ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพด้านความเห็นและการแสดงออก, ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมอย่างสงบ และการสมาคม , ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยสถานการณ์ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน; ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยความเป็นอิสระของผู้พิพากษาและทนายความ และผู้รายงานพิเศษว่าด้วยความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง สาเหตุ และผลลัพธ์ ได้ส่งหนังสือ(ลำดับที่ AL THA 3/2023 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2566[1]) ถึงรัฐบาลไทยเพื่อให้รัฐบาลไทยชี้แจงข้อเท็จจริงจากการขาดความรับผิดและมาตรการคุ้มครองต่อการข่มขู่และการคุกคามทางออนไลน์ ต่อผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนสองท่าน ได้แก่ อังคณา นีละไพจิตร และ อัญชนา หีมมิหน๊ะ</p>
<p> ในบางช่วงของหนังสือระบุว่า แม้ว่าศาลแพ่งกรุงเทพฯ จะมีคำพิพากษาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีรายงานว่า ศาลตระหนักว่าบุคคลทั้งสองได้รับผลกระทบจากการใส่ร้ายป้ายสีทางออนไลน์ จากการทำหน้าที่ในฐานะผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนซึ่งสมควรได้รับการคุ้มครองจากรัฐ และเป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ รายงานเกี่ยวกับการข่มขู่และคุกคามทางอินเทอร์เน็ตต่อ อังคณา นีละไพจิตร ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ สมาชิกคณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจ องค์การสหประชาชาติ (UN Human Rights Expert- WGEID)  และ  อัญชนา หีมมิหน๊ะ อดีตอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน  ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับการใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกในการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนของตน</p>
<p>ผู้รายงานพิเศษทั้ง 6 ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรมของบริษัทธรรมเกษตร จำกัด ต่ออังคณา นีละไพจิตร ซึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นด้านสิทธิแรงงานข้ามชาติที่ฟาร์มไก่ของบริษัทไทยแห่งนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้รายงานพิเศษได้นำเสนอ ในจดหมายที่ส่งถึงรัฐบาลไทย เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 (เลขที่ AL THA 3/2020) ด้วย</p>
<p>คณะผู้รายงานสหประชาชาติ ได้ตั้งคำถามรัฐบาลไทยโดยให้รัฐบาลระบุถึงมาตรการ ภายหลังจดหมายก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลของไทยนำมาใช้เพื่อประกันว่า ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเก็บและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน จะสามารถดำเนินงานอันชอบธรรมของตนต่อไปได้ ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเกื้อหนุน โดยไม่ต้องกลัวต่อการข่มขู่หรือความเสี่ยงที่จะถูกตอบโต้และคุกคาม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์</p>
<p>ทั้งนี้คณะผู้รายงานพิเศษสหประชาชาติ ยังได้มีคำถาม 5 ข้อถึงรัฐบาลไทยในการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมอาทิ ให้รัฐบาลไทยระบุถึงมาตรการที่ได้นำมาใช้ เพื่อประกันให้เกิดความรับผิดต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการเข้าถึงความจริง ความยุติธรรม การเยียวยา และการประกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำต่อ อังคณา นีละไพจิตร และ อัญชนา หีมมิหน๊ะ และ ขอให้รัฐบาลไทยระบุถึงมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมที่นำมาใช้ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการโจมตีทำร้ายด้วยเหตุแห่งเพศสภาพ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งการใส่ร้ายป้ายสีทางออนไลน์ต่อผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน รวมถึงให้รัฐบาลไทย ระบุถึงมาตรการที่นำมาใช้เพื่อคุ้มครองบูรณภาพทางกายและใจของ อังคณา นีละไพจิตร และ อัญชนา หีมมิหน๊ะ เมื่อคำนึงถึงการข่มขู่และคุกคามที่เกิดขึ้นกับพวกเธออย่างต่อเนื่อง</p>
<p>“แม้เราไม่ประสงค์จะตัดสินล่วงหน้าเกี่ยวกับความถูกต้องของข้อกล่าวหาเหล่านี้ เราขอแสดงความกังวลต่อรายงานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการข่มขู่และคุกคามทางอินเทอร์เน็ตด้วยเหตุผลด้านเพศสภาพ ต่อ อังคณา นีละไพจิตร และ  อัญชนา หีมมิหน๊ะ ซึ่งเป็นการขัดขวางความพยายามที่จะใช้สิทธิขั้นพื้นฐานที่จะมีเสรีภาพด้านการชุมนุมอย่างสงบ การสมาคม การแสดงความเห็น และการแสดงออกของพวกเธอ รวมทั้งสิทธิที่จะปลอดจากการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศสภาพ” คณะผู้รายงานกล่าว</p>
<p>ทั้งนี้ ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ได้มีหนังสือตอบกลับผู้รายงานพิเศษทั้ง 6 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566[2] ว่าได้รับหนังสือของคณะผู้รายงานพิเศษ สหประชาชาติแล้ว และจะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยหนังสืบตอบกลับไม่ได้ตอบข้อคำถาม หรือชี้แจงข้อห่วงกังวลของคณะผู้รายงานพิเศษแต่อย่างใด</p>
<p>ปรานม สมวงศ์ องค์กร Protection International กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีมากที่ผู้ถืออาณัติของวิธีพิจารณาวิสามัญคือผู้รายงานพิเศษ UN 6 คณะให้ความสนใจและมีคำถามมายังรัฐบาลไทย นั่นหมายถึงว่าต้องการให้มีการให้ความสนับสนุนให้เกิดการคุ้มครองผู้หญิงนักปกป้องสิทธิฯทั้งสองคน รวมถึงให้ระบุถึงมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมที่นำมาใช้ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการโจมตีทำร้ายด้วยเหตุแห่งเพศสภาพ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งการใส่ร้ายป้ายสีทางออนไลน์ต่อผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนท่านอื่นๆด้วย</p>
<p>“อังคณา” ระบุไทยประกาศตัวสมัครสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ (HRC) จึงควรแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนดังที่ได้ให้คำมั่นต่อประเทศสมาชิกสหประชาชาติ</p>
<p>ขณะที่อังคณากล่าวว่า  นับเป็นเวลาหลายปีที่ต้องเผชิญกับการถูกคุกคามโดยรัฐไม่มีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการยุติการคุกคามในการทำงานในฐานะนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ไม่ยืนเคียงข้างผู้เสียหายและไม่มีความรับผิดชอบใดๆต่อการละเมิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลอดหลายปีที่ผ่านมา หนังสือที่คณะผู้แทนพิเศษทั้ง 6 ส่งถึงรัฐบาลไทยถือว่ามีความสำคัญอย่างมากเพราะน่าจะเป็นครั้งแรก ๆ ที่ผู้รายงานพิเศษด้านต่างๆของสหประชาชาติพร้อมใจกันลงนามในหนังสือถึงรัฐบาลไทยเพื่อแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการคุกคาม การด้อยค่า การใส่ร้ายป้ายสี รวมถึงการใช้เพศเป็นเครื่องมือในการคุกคามผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยทั้งออฟไลน์และออนไลน์</p>
<p>อังคณาระบุเพิ่มเติมว่า “ที่ผ่านมาได้เคยไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนหลายครั้งเพื่อให้หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และยุติการคุกคามนี้ แต่หน่วยงานของรัฐกลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด ทั้งที่ฝ่ายนิติบัญญัติได้นำปัญหานี้มาอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่าหน่วยงานของรัฐอาจเป็นผู้สนับสนุนเว็บไซต์ pulony.blogspot.com ซึ่งเป็นเว็ปไซต์ที่ใส่ร้ายป้ายสี ด้อยค่าและใช้เพศเป็นเครื่องมือในการลดทอนความน่าเชื่อถือในการทำหน้าที่ของผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน กรณีของตัวเองถือเป็นเสมือนยอดของภูเขาน้ำแข็ง เพราะมีผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอีกมากมายที่เป็นเหยื่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดบางประการโดยเฉพาะความกังวลต่อผลกระทบต่อครอบครัวจึงทำให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนหญิงเหล่านี้ไม่กล้าแจ้งความหรือเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะ ผลการถูกคุกคามยังส่งผลอย่างมากต่อสภาพจิตใจของผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ทำให้พวกเธอรู้สึกไร้อำนาจและไร้คุณค่า”</p>
<p>“ในฐานะที่ประเทศไทยประกาศตัวเพื่อสมัครสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ (HRC) ในปี 2568 ประเทศไทยจึงควรแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนดังที่ได้ให้คำมั่นต่อประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ในการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน UPR ทั้งนี้ รัฐบาลไทยต้องไม่อดทนต่อการใส่ร้ายป้ายสี และการใช้เพศเป็นเครื่องมือในการคุกคามผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และต้องมีมาตราเร่งด่วนที่จำเป็นและมีประสิทธิภาพในการยุติการคุกคาม และมีการชดใช้การเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น” – อังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าว</p>
<p>“อัญชนา” ระบุหนังสือที่คณะผู้แทนพิเศษทั้ง 6 ส่งหนังสือถึงรัฐไทยส่งผลดีในแง่ที่ทำให้ศาลไทยเข้าใจถึงแง่กลไกระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้นักปกป้องสิทธิฯ หรือผู้ที่ถูกละเมิดโดยรัฐลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของตนเองเพื่อที่จะทำให้ความรับผิดชอบของรัฐเกิดขึ้น</p>
<p>ขณะที่อัญชนาระบุเช่นกันว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีองค์กรระหว่างประเทศโดยเฉพาะสหประชาชาติให้ความสำคัญกับการทำงานของผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและได้เน้นย้ำในเรื่องของความยุติธรรมที่ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิจะต้องได้รับทั้งในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมและการเยียวยา ซึ่งในกระบวนการต่อสู้ที่ผ่านมาที่เรายังขาดอยู่มันสอดคล้องต่อการลุกขึ้นมาเรียกร้องของเราด้วย</p>
<p>ส่วนกรณีที่ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ได้มีหนังสือตอบกลับผู้รายงานพิเศษทั้ง 6 คณะโดยไม่ได้ตอบข้อคำถามหรือชี้แจงข้อห่วงกังวลของคณะผู้รายงานพิเศษแต่อย่างใดแต่ระบุเพียงว่าจะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปนั้น อัญชนากล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ตระหนักถึงคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับสหประชาชาติโดยเฉพาะกระทรวงต่างประเทศที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในเรื่องนี้ต่อการสื่อสารกับสหประชาชาติ กระทรวงยุติธรรมที่จะต้องดำเนินการเพื่อชี้แจงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายต่างๆ มันแสดงให้เห็นถึงกลไกของระบบของความไม่รับผิดชอบและการไม่รับผิดใดๆ ของรัฐในประเทศไทยถึงแม้ ซึ่งเราจะต้องดำเนินการต่อไปเพื่อให้รัฐปรับปรุงในสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างสังคมที่ดี</p>
<p>อัญชนายังกล่าวย้ำว่า หนังสือที่คณะผู้แทนพิเศษทั้ง 6 ส่งหนังสือถึงรัฐบาลไทยส่งผลดีในแง่ที่ทำให้ศาลไทยเข้าใจถึงกลไกระหว่างประเทศ มันไม่ใช่เป็นการแทรกแซงระหว่างประเทศแต่มันทำให้องคาพยพของรัฐในประเทศไทยเข้าใจกลไกระหว่างประเทศมากขึ้นและทำให้รัฐมีความเป็นสากลมากขึ้น อยากบอกให้ทุกคนที่เป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนหรือผู้ที่ถูกละเมิดโดยรัฐลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของตนเองเพื่อที่จะทำให้ความรับผิดชอบของรัฐเกิดขึ้น ทำให้รัฐเปลี่ยนแปลงเรื่องการรับผิดชอบต่อสังคมต่อประชาชนมากยิ่งขึ้น</p>
<p>ด้านสัญญา เอียดจงดี ทนายความกล่าวว่า หนังสือที่ผู้แทนยูเอ็นทั้ง 6 มีออกมาในครั้งนี้นั้นจะมีผลทางนโยบายของรัฐที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตถ้ารัฐบาลปัจจุบันได้รับหนังสือแล้วนำไปอนุวัติต่อ โดยสิ่งที่รัฐตอบกลับผู้แทนยูเอ็นคือได้ส่งต่อหนังสือไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งประเด็นที่เราอยากเห็นความชัดเจนคือการหาตัวคนกระทำความผิดซึ่งหมายความว่าจะเป็นคู่ขนานไปกับการพิสูจน์ในคดีของเรา และเราได้ตั้งไว้แล้วว่าคนทำผิดไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือคนที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่รัฐสุดท้ายแล้วถ้าภาพใหญ่ก็คือรัฐและมันจะนำมาสู่การเยียวยา ซึ่งจะเป็นการเยียวยาโดยอำนาจศาลหรืออำนาจบริหารก็ได้</p>
<p>“แต่การเยียวยาถ้าจะให้ล้ำไปอีกต้องให้เป็นการเยียวยาภายใต้กติกาสากล ซึ่งมันจะหลุดกรอบการพิสูจน์ตามกฎหมายไทยไปอีกระดับหนึ่ง และหลังจากนี้หากมีการดำเนินการเป็นรูปธรรมจริงๆตามคำร้องขอของคณะผู้แทนพิเศษยูเอ็นมันอาจจะอนุวัติมาเป็นกฎหมายภายในหรือมีบทบัญญัติรองรับให้ความเสียหายในส่วนนี้แม้จะพิสูจน์ไม่ได้ว่าใครทำแต่ถ้ามันเป็นความเสียหายที่เกิดจากบุคคลคนนั้นเป็นนักต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิคนอื่นแล้วถูกกระทำ เป็นหน้าที่ของรัฐโดยตรงที่จะต้องเข้ามารับผิดชอบเยียวยาหรือออกบทบัญญัติต่างๆ ออกมารองรับตรงนี้ เพราะเราต้องสร้างคนที่ปกป้องคนอื่นขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อให้ขบวนการสิทธินุษยชนในประเทศไทยก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง”ทนายความระบุ</p>
<p>ที่มาที่ไปของการส่งหนังสือถึงรัฐบาลไทยของคณะผู้รายงานพิเศษสหประชาชาติทั้ง 6 คณะ</p>
<p>สองผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน  อังคณา นีละไพจิตร และ อัญชนา หีมมิหน๊ะ ได้ถูกข่มขู่คุกคามและใส่ร้ายป้ายสีทางออนไลน์และออฟไลน์จากการปฎิบัติหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชน โดยอังคณาได้ถูกบริษัทธรรมเกษตร จำกัดฟ้องคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณากรณีที่ออกมาทวิตสนับสนุนการต่อสู้เรียกร้องด้านสิทธิมนุษยชนให้กับแรงงานข้ามชาติในบริษัทฟาร์มไก่แห่งนี้ ซึ่งในคดีดังกล่าวนี้เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา  ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งยกฟ้องและยังอยู่ในชั้นอุทธรณ์ในการต่อสู้คดี </p>
<p>จากการทำงานร่วมกับ Protection International และทีมทนายความ อังคณา และอัญชนา ยังได้ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล กอ.รมน. และกองทัพบก เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเมิด ตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 กรณีสนับสนุนการทำไอโอเพื่อด้อยค่า เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนใส่ร้ายผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนทางโลกออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ Pulony.blogspot.com</p>
<p>โดยคดีดังกล่าวนี้แม้ศาลจะมีคำพิพากษายกฟ้อง แต่ได้รับรองว่าทั้งสองเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและรับรองว่าการดำเนินการของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนได้รับความคุ้มครองตามกติการะหว่างประเทศ โดยเมื่อพิจารณาข้อมูลการละเมิดหรือข้อความทั้ง 13 โพสต์ในเว็บไซต์พูโลนี (pulony.blogspot.com) ตามคำฟ้อง ศาลเห็นว่าเป็นถ้อยคำที่โพสต์โดยไม่สุจริต เป็นการใส่ความ ทำให้อังคณา และอัญชนาได้รับความเสียหาย และรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการเยียวยาความเสียหายเมื่อมีการละเมิดละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยคดีดังนี้อยู่ในชั้นการยื่นอุทธรณ์เช่นกัน</p>
<p>ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติได้รับรายงานเกี่ยวกับคดีและการคุกคามต่างๆที่เกิดขึ้นกับสองผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ในวันที่ 24 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมาคณะผู้รายงานพิเศษของ UN ทั้ง 6 จึงส่งหนังสือถึงรัฐบาลไทย เพื่อให้รัฐบาลชี้แจงใน 5 ประเด็นสำคัญที่จะต้องแก้ไขปัญหาการคุกคาม 2 ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดให้รัฐบาลไทยส่งคำตอบกลับไปยังผู้รายงานพิเศษภายในเวลา 60 วัน (นับแต่วันที่ออกหนังสือ โดยหลังจากนั้นหนังสือของคณะผู้รายงานพิเศษทั้ง 6 จะเผยแพร่สาธารณะ ผ่านเว็บไซต์ขององค์การสหประชาชาติ ข้อมูลดังกล่าวยังจะถูกรวมอยู่ในรายงานที่ผู้รายงานพิเศษยื่นต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติต่อไปอีกด้วย</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106566
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - ศาลอนุมัติหมายจับเจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงมูโนะ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 409 กระทู้ล่าสุด 02 สิงหาคม 2566 14:49:17
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - องค์กรพิทักษ์สัตว์เรียกร้องให้เพิ่มเรื่องสวัสดิภาพสัตว์และห้ามใช้ยาปฏิชีวน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 426 กระทู้ล่าสุด 05 สิงหาคม 2566 15:31:10
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - คาดแบงก์พาณิชย์ไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กนง.
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 323 กระทู้ล่าสุด 06 สิงหาคม 2566 18:04:42
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ประเทศไทยกำลังเดินถอยหลังเรื่องความคุ้มครองความยากจนผู้สูงอายุ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 329 กระทู้ล่าสุด 17 สิงหาคม 2566 17:55:22
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - เผยนักกิจกรรมชายแดนใต้ถูกคุกคามหลังไลฟ์สดการปิดล้อม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 244 กระทู้ล่าสุด 20 สิงหาคม 2566 15:35:02
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.55 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 23 เมษายน 2567 04:25:59