ประวัติศาสตร์การตั้งราชวงศ์รุสเซีย (รัสเซีย)

(1/1)

Kimleng:
Tweet


ตรานกอินทรีดำสองหัว ตราแผ่นดินรัสเซีย
(blockdit.com - ที่มาภาพ)

ประวัติศาสตร์การตั้งราชวงศ์รุสเซีย (รัสเซีย)

เดิมดินแดนที่เป็นประเทศรุสเซีย หรือ รัสเซีย มีคนพื้นเมืองอยู่ทางตอนใต้หลายชาติ เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ สลาฟ ขึ้นอยู่กับพวกเตอร์ก (ตุรกี) เผ่าหนึ่ง เรียกว่า คาซาร์ ต่อมาราว พ.ศ.๑๓๐๐ เศษ พวกไวกิ้งก์ ได้เข้ามาในดินแดนรุสเซียทางตอนเหนือ แล้วแผ่ลงมาทางใต้จนถึงทะเลดำ  หัวหน้าชาวไวกิ้งคนหนึ่งชื่อว่า รูริก เป็นผู้มีความสามารถและเข้มแข็งในการทำสงคราม เคยยกลงมารบถึงกรุงคอนสแตนติโนเปิล (เมืองหลวงของจักรวรรดิโรมัน ระหว่างปี ค.ศ.๓๓๐ ถึง ค.ศ.๓๙๕) ได้ครองเมืองนอฟโกร็อด ซึ่งมีอาณาบริเวณตั้งแต่ทะเลบอลติกไปจนถึงเทือกเขายูรัล  จึงนับกันว่า รูริก ผู้นี้เป็นผู้ตั้งวงศ์กษัตริย์รุสเซียขึ้นเป็นเริ่มแรก โดยมีเมืองนอฟโกร็อดเป็นเมืองหลวงเดิมของรุสเซีย

รูริกสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ.๑๔๒๓ พระสหายชื่อ โอเล็ก ได้เป็นเจ้าแผ่นดิน ท่านผู้นี้ทำให้รุสเซียได้มีการติดต่อค้าขายกับอาณาจักรไบซันไตน์  พระเจ้าโอเล็กสิ้นพระชนม์ พ.ศ.๑๔๕๕ อิโกร์ โอรสรูริกได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่ครั้งหนึ่งไปรบพวกสลาฟเผ่าหนึ่ง ต้องสิ้นพระชนม์ในที่รบ พระชายาชื่อ โอลกา ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน พระนางองค์นี้มีความสามารถ เก่งกล้า ได้นำทัพออกรบพวกสลาฟแก้แค้นแทนพระสวามีได้ชัยชนะ  ปี พ.ศ.๑๔๙๘ พระนางเสด็จกรุงคอนสแตนติโนเปิล เลยเข้ารีตนับถือศาสนาคริสเตียน ทำให้ศาสนาคริสเตียนเริ่มแผ่เข้าไปในรุสเซียนับแต่ครั้งนั้น

ล่วงมาได้ ๒๐๐ ปีเศษ ถึง พ.ศ.๑๗๖๖ พวกตาต เผ่ามงโกลพวกหนึ่ง (ตาต : ชื่อมองโกลเผ่าหนึ่งที่ชอบรบราฆ่าฟันและอพยพเร่ร่อนอยู่เสมอ บางทีก็เรียกว่า ตาดมองโกล) มีหัวหน้าชื่อ สะบูไต ได้ยกทัพบุกรุสเซียตอนใต้ ได้ชัยชนะแล้วก็ยกทัพกลับ  จนถึง พ.ศ.๑๗๘๐ พวกมงโกล มี บาตู (หลานเจงกิสข่าน) เป็นจอมทัพ ตีเมืองใหญ่น้อยราบเข้ามาจนกระทั่งได้เมืองเกียฟซึ่งเป็นใหญ่ในเวลานั้น บาตูเข้าครอบครองดินแดนตอนใต้ของรุสเซีย ตั้งเป็นอาณาจักรขึ้นซึ่งฝรั่งเรียกว่า โกลเดนฮอร์ด (Golden Horde) เอาเมืองซารายบนฝั่งน้ำโวลกาเป็นราชธานี และปกครองดินแดนรุสเซียทั้งหมดอย่างเมืองขึ้น  ประมุขของมงโกลที่ครองราชธานีนี้เรียกว่า “ข่าน” พวกเจ้าราชวงศ์รูริกและเจ้าเมืองต่างๆ ต้องส่งส่วยถวายข่านอยู่นานถึง ๒๐๐ ปี  ระยะนี้ พวกเจ้านายขุนนางรุสเซียกับตาดมีความสัมพันธ์สนิทสนมกันขึ้น นั้นคือ ฝ่ายรุสเซียสมรสกับหญิงตาต และรับเอาวัฒนธรรมประเพณีตาตมาใช้ การแต่งตัวก็นิยมแต่งอย่างตาตทั่วๆ ไป เช่น มีใส่เสื้อคลุมกรอมยาวเป็นต้น

ในระยะที่ตาตเป็นใหญ่ ได้ย้ายเมืองหลวงเดิมคือนอฟโกร็อดมาที่เมืองเกียฟ ทำให้เมืองมอสโกเป็นเมืองสำคัญขึ้น  เจ้าผู้ครองมอสโก นับเป็นหัวหน้าของรุสเซียทั่วไป  ในสมัยเจ้าดมิตรีดอนสกอย (ครองมอสโก พ.ศ.๑๙๐๒-๑๙๓๒) ได้เริ่มแข็งเมืองกับตาด มีการรบกันแต่ไม่ถึงขั้นแตกหัก  ถึงสมัยพระเจ้าอีวานที่ ๓ (ครองมอสโก พ.ศ.๒๐๐๕-๒๐๔๘) รุสเซียเริ่มแข็งขึ้น พระเจ้าอีวานก็จัดการปราบปรามรวบรวมเอาเมืองต่างๆ เข้าไว้ในอำนาจได้จนถึงเมืองนอฟโกร็อด  

พ.ศ.๒๐๑๕ พระเจ้าอีวาน ได้สมรสกับ เจ้าหญิงโซเฟีย หลานสาวของพระเจ้าคอนสแตนติน กษัตริย์ไบซันไตน์องค์สุดท้าย (ที่เสียกรุงคอนสแตนติโนเปิลแก่ตุรกี)  การอภิเษกสมรสคราวนี้เป็นเรื่องสำคัญในประวัติศาสตร์ เมื่อเจ้าอีวานได้หลานสาวของพระเจ้าคอนสแตนตินซึ่งเคยเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรไบซันไตน์ และอาณาจักรนี้สูญไปแล้ว  เท่ากับพระเจ้าอีวานได้สืบเชื้อวงศ์กษัตริย์กรีกโบราณ มีฐานันดรศักดิ์ยิ่งใหญ่ขึ้น ดังนั้น เจ้าอีวานจึงรับเอาตราแผ่นดินของอาณาจักรไบซันไตน์ คือ ตรานกอินทรีย์ดำสองหัว มาใช้เป็นตราแผ่นดินรุสเซีย และเรียกนามตำแหน่งของพระองค์ว่า Tsar หรือ Czar ซึ่งมาจากคำว่า Caesar อันเป็นตำแหน่งราชาธิราชกรุงโรม (ไบซันไตน์ คือ โรมันตะวันออก) ตำแหน่งพระเจ้าแผ่นดินรุสเซียจึงได้เรียก พระเจ้าซาร์ มาแต่นั้น และถือกันมาว่า พระเจ้าอีวานที่ ๓ เป็นพระมหากษัตริย์องค์แรกของรุสเซีย

สิ่งทื่พระเจ้าอีวานทรงทำเกี่ยวกับการเฉลิมพระเกียรติยศเป็นซาร์ มีบูรณะตกแต่งพระราชวังเครมลินใหม่ ให้ใหญ่โตงดงาม ทรงตั้งพระราชพิธีต่างๆ ประจำราชสำนักขึ้น และทรงวางลำดับฐานันดรศักดิ์เจ้านายและขุนนางให้เป็นชั้นสูงต่ำต่างๆ

ปี พ.ศ.๒๐๒๓ พวกตาตยกทัพมาประชิดกรุงมอสโก แต่ถูกพระเจ้าอีวานตีแตกกลับไป  ตั้งแต่นั้นพวกตาตก็หมดอำนาจในรุสเซีย  พระเจ้าอีวานทรงรวบรวมรุสเซียซึ่งแตกกระจายเป็นเมืองใหญ่น้อยต่างๆ เข้าไว้ได้เป็นปึกแผ่นมั่นคง ทั้งขยายอาณาเขตกว้างขวางออกไปอีก พระองค์จึงได้รับสมญาว่า มหาราช

พระเจ้าอีวานมหาราช มีพระโอรสกับพระราชินีโซเฟีย มีนามว่า บาซิล ได้ครองราชสมบัติสืบสันตติวงศ์ (พ.ศ.๒๐๔๘-๒๐๖๗)  เมื่อพระเจ้าบาซิลสวรรคต พระโอรสนาม อีวาน อายุ ๓ ขวบได้ราชสมบัติ พออายุได้ ๑๗ ปี ก็ได้เข้าพิธีราชาภิเษก สวมมงกุฎเป็น ซาร์ นับว่าเป็น ซาร์ พระองค์แรกที่ได้ราชาภิเษกตามแบบพิธีการ (พระเจ้าอีวานมหาราช เป็นองค์แรกที่รับเอาตำแหน่งซาร์มาใช้)  พระเจ้าอีวานที่ ๔ นี้ดุ ประหารชีวิตคนอย่างโหดร้ายทารุณมาก รัชกาลนี้ได้ดินแดนเพิ่มขึ้นอีกมากถึง ๔ เท่าตัว ดินแดนอันกว้างใหญ่ที่ได้มาก็คือ ไซบีเรียในทวีปเอเชีย

พระเจ้าอีวานที่ ๔ สวรรคต พ.ศ.๒๑๒๗ พระโอรสนาม ทีโอดอร์ ได้ราชสมบัติแต่อ่อนแอ ทำให้บ้านเมืองเป็นจลาจลปั่นป่วนยุ่งเหยิงอยู่หลายปี ถึง พ.ศ.๒๑๕๖ ไมเกิลโรมานอฟ เป็นลูกขุนนางผู้ใหญ่ที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง ทั้งมีเชื้อสายเจ้านับเนื่องเป็นเหลนพระเจ้าอีวานที่ ๔  ด้วย ได้ราชสมบัติตั้งราชวงศ์ใหม่เป็น วงศ์โรมานอฟ บ้านเมืองก็ค่อยเป็นปรกติขึ้น

พระเจ้าไมเกิลสวรรคต พ.ศ.๒๑๘๘ โอรสนาม อเล็กซิส ได้ราชสมบัติ พระเจ้าอเล็กซิสเป็นกษัตริย์ที่เข้มแข็งและสามารถองค์หนึ่ง ทรงวางระเบียบแบบแผนการปกครองบ้านเมืองเข้ารูปเป็นอย่างดี ทำให้รุสเซียมีฐานะมั่นคงขึ้นจนได้รับฉายาว่า พระบิดาของประเทศชาติ แต่พระองค์ยังมีโอรสที่ดีหนักขึ้นไปอีก นั่นคือ พระเจ้าปีเตอร์มหาราช ซึ่งทรงราชย์ตั้งแต่ พ.ศ.๒๒๓๒ ถึง พ.ศ.๒๒๖๘

(โปรดติดตามตอนต่อไป)


อ้างอิง
     - ภาพหรูซปีตะสบาก โดย กาญจนาคพันธุ์ (ขุนวิจิตรมาตรา)  ปีที่พิมพ์เผยแพร่ พ.ศ.๒๕๑๒
     - วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี
     - dict.longdo.com
 

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ