[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ห้องสมุด => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 02 สิงหาคม 2554 19:37:39



หัวข้อ: น้ำปานะไม่ใช่น้ำปลาน่ะ(โว้ย)
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 02 สิงหาคม 2554 19:37:39
(http://forums.212cafe.com/uploads/2011Aug02/boxser-1312291225-58-11-195-48.jpg)


(http://www.seesod.com/storage17/SN6pMsTE5r1254909484/o.jpg)


น้ำปานะเป็นน้ำที่คั้นหรือได้มาจากผลไม้ซึ่งภิกษุสามเณรดื่มได้ในเวลาวิกาลในพระ

วินัยอนุญาตให้ใช้ผลไม้ขนาด ผลมะตูมลงมาทำน้ำปานะ และ กำหนดผลไม้สำหรับทำ

น้ำปานะไว้ดังนี้..............มะม่วง - ชมพู่หรือลูกหว้า - กล้วยมีเม็ด - กล้วยไม่มีเม็ด - มะซาง

ลูกจันทน์หรือองุ่น เหง้าบัว มะปราง ลิ้นจี่ และ ผลไม้อื่น ๆ ที่มีขนาดไม่ใหญ่กว่าผลมะตูม

น้ำปานะจะช่วยบรรเทาความหิวและความอ่อนเพลีย หลังจากที่ภิกษุสามเณรต้องเหน็ด

เหนื่อยออกกำลังปฏิบัติภาระหน้าที่ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

บางโอกาส ภิกษุสามเณรจะได้ฉันสิ่งที่พระวินัยกำหนดไว้ว่าเป็น{เภสัช}เพื่อเสริมแร่

ธาตุบางอย่างแก่ร่างกายเพราะพระมีชีวิตอยู่ได้เนื่องด้วยผู้อื่น อาหารการขบฉัน ก็แล้ว

แต่ชาวบ้านจะจัดนำมาให้ไม่สามารถกำหนดเอาหรือแสวงหาได้ตามปรารถนาจึง

อาจจะขาดธาตุอาหาร ที่จำเป็นต่อร่างกายดังนั้น...................จึงมีพุทธานุญาตให้ภิกษุฉันสิ่งที่

เรียกว่า{เภสัช}คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อยได้

บางฤดูแม่ชีจะเก็บลูกสมอ มะขามป้อม มาถวายแก่ภิกษุ สามเณรในวันโกน ๗ ค่ำ และ

๑๔ ค่ำวันนั้นเป็นวันที่ สดชื่นสำหรับภิกษุสามเณรพอสมควร แต่ก็อาจกลายเป็นวันที่

อ่อนเพลียได้เช่นกัน หากไม่รู้ประมาณในการฉันเพราะสมอและมะขามป้อมจะเปลี่ยน

คุณสมบัติจาก สิ่งเอร็ดอร่อย กลายเป็น{ยาถ่าย}ขนาดรุนแรงขึ้นมาทันทีถ้าฉันมาก

เกินไป............................



{เครื่องดื่ม}น้ำสำหรับดื่ม ที่คั้นจากลูกไม้ (น้ำคั้นผลไม้) จัดเป็นยามกาลิก

ท่านแสดงไว้ ๘ ชนิด คือ..............................................................

๑. อมฺพปานํ น้ำมะม่วง

๒. ชมฺพุปานํ น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า

๓. โจจปานํ น้ำกล้วยมีเม็ด

๔. โมจปานํ น้ำกล้วยไม่มีเม็ด

๕. มธุกปานํ น้ำมะทราง (ต้องเจือน้ำจึงจะควร)

๖. มุทฺทิกปานํ น้ำลูกจันทร์หรือองุ่น

๗. สาลุกปานํ น้ำเหง้าอุบล

๘. ผารุสกปานํ น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่

นิยมเรียกว่า{อัฏฐบาน}หรือ น้ำอัฏฐบาน (ปานะ ๘ อย่าง)



พระพุทธานุญาตน้ำอัฏฐบาน  

ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็น

เค้ามูลนั้นในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่าดูก่อน

ภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตน้ำปานะ ๘ ชนิด คือ..........................................

น้ำปานะทำด้วยผลมะม่วง ๑

น้ำปานะทำด้วยผลหว้า ๑

น้ำปานะทำด้วยผลกล้วยมีเมล็ด ๑

น้ำปานะทำด้วยผลกล้วยไม่มีเมล็ด ๑

น้ำปานะทำด้วยผลมะซาง ๑

น้ำปานะทำด้วยผลจันทน์หรือองุ่น ๑

น้ำปานะทำด้วยเง่าบัว ๑

น้ำปานะทำด้วยผลมะปรางหรือลิ้นจี่ ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตน้ำผลไม้ทุกชนิดเว้นน้ำต้มเมล็ด

ข้าวเปลือก

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตน้ำใบไม้ทุกชนิดเว้นน้ำผักดอง

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตน้ำดอกไม้ทุกชนิดเว้นน้ำดอก

มะซาง

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตน้ำอ้อยสด

คำอธิบายจากอรรถกถา

{สาลุกปานะ}นั้นได้แก่ น้ำปานะที่เขาคั้นเง่าอุบลแดงและอุบลเขียวเป็นต้น

ทำผารุสกปานะ นั้นได้แก่ น้ำปานะที่ทำด้วยผลมะปรางอย่างอัมพปานะ

อัฏฐบานเหล่านี้เย็นก็ดีสุกด้วยแสงอาทิตย์ก็ดีย่อมควรสุกด้วยไฟไม่ควร

ด้วยพระบาลีว่า{ฐเปตฺวา ธญฺญผลรสํ}นี้ธัญญชาติ ๗ ชนิด

เป็นอันห้ามแล้วว่าไม่ควรในปัจฉาภัตมหาผล ๙ อย่าง คือ ผลตาลผล

มะพร้าวผลขนุนผลสาเกน้ำเต้าฟักเขียวแตงไทแตงโมฟักทอง

เป็นอันทรงห้ามและอปรัณณชาติทุกชนิดมีคติอย่างธัญญชาติเหมือนกัน.

มหาผลและอปรัณณชาตินั้นไม่ได้ทรงห้ามไว้ก็จริงถึงกระนั้นย่อมเข้ากับ

สิ่งที่เป็นอกัปปิยะเพราะเหตุนั้นจึงไม่ควรในปัจฉาภัต.

น้ำปานะ ๘ อย่างทรงอนุญาตไว้น้ำปานะแห่งผลไม้เล็กมีหวาย

มะชาม มะงั่ว มะขวิด สะคร้อ และเล็บเหยี่ยวเป็นต้นมีคติอย่าง{อฏัฐบาน}

แท้น้ำปานะแห่งผลไม้เหล่านั้น ไม่ได้ทรงอนุญาตไว้ก็จริงถึงกระนั้นย่อม

เข้ากับสิ่งที่เป็นกัปปิยะเพราะฉะนั้นจึงควร

ในกุรุนทีแก้ว่าจริงอยู่เว้นรสแห่งเมล็ดข้าวกับทั้งสิ่งที่อนุโลมเสีย

แล้วขึ้นชื่อว่าน้ำผลไม้อื่นที่ไม่ควรย่อมไม่มีน้ำผลไม้ทุกชนิดเป็นยาม

กาลิกแท้...............................................

http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/07.%20Track%207.wma




หัวข้อ: Re: น้ำปานะไม่ใช่น้ำปลาน่ะ(โว้ย)
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 02 สิงหาคม 2554 20:47:16
(http://s1.onlineoops.com/upload/1/20110729/d44083e2448344ea8464c0487227502c.jpg) <<< น้ำปลานะ




ของแท้ !!



หัวข้อ: Re: น้ำปานะไม่ใช่น้ำปลาน่ะ(โว้ย)
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 03 สิงหาคม 2554 09:19:48
(http://s1.onlineoops.com/upload/1/20110729/d44083e2448344ea8464c0487227502c.jpg) <<< น้ำปลานะ




ของแท้ !!


แหม.........แหม......

น้ำปลายี่ห้อทิพย์รส เดี๋ยวนี้เขาใช้

รสดี อายิโนะโมโต๊ะกันแล้ว หลวงพ่อ McK คงจวนจะสึกแล้ว

สิน่ะ (สึกหรอ) ไม่ใช่สึกจากพระ ฮ่า ฮ่า ฮ่า


(:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:)

ที่วัดชลประทานหลวงพ่อปัญญานันทะ ท่านจะบวชพระทุกต้นเดือน ของทุก ๆ เดือน บวชครั้งละมาก ๆ เพราะเมื่อบวชแล้วจะได้ศึกษาหลักธรรมได้เต็มที่ "ไม่ใช่บวชแล้ว เช้าเอน เพลนอน บ่ายพักผ่อน ตกค่ำจำวัด" มีพระใหม่รูปหนึ่ง เมื่อถึงคราวจะลาสิกขา (สึก) โยมพ่อโยมแม่ก็ไปหาหมดดู ดูเวลาสึก ดูอะไรสารพัด ตามแต่หมอดูจะว่าบอก โดยโยมพ่อได้สั่งพระลูกชายว่า เวลาออกจากวัดต้องเดินออกทางทิศตะวันออกเพื่อ

ให้หน้ารับตะวัน ราศีจะได้ดี เรียกว่า บริสุทธิ์ผุดผ่อง ก่อนจะลาหลวงพ่อกลับบ้าน ก็กราบเรียนถามหลวงพ่อให้มั่นใจว่า "หลวงพ่อครับ! เวลากระผมจะออกจากวัด ออกทางทิศตะวันออก ดวงจะดี ฤกษ์จะดี ราศีจะจับใช่มั้ยครับ" "หลวงพ่อ ตอบว่า วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ถ้าออกไปทางทิศตะวันออกแล้วดวงจะซวย มากกว่า เพราะว่าด้านตะวันออกวัดนะ กำแพงมันสูง และถ้าข้ามไปได้ ก็อาจจะซวยหนักเข้าไปอีก เพราะชาวบ้าน

เขาอาจคิดว่า ไอ้ทิด มันเป็น โจร เดี๋ยวลูกปืนมันจะถามหา" ท่านก็เลยบอกว่า ถ้าให้ฤกษ์ดีจริง ๆ ก็บอกให้ใครเอารถมารับที่วัด หรือว่านั่งรถเมล์กลับบ้าน ตามทางที่คนเดินกันนั่นแหละฤกษ์ดีแท้.......................