[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 20:48:59



หัวข้อ: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 20:48:59
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2270;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)


Sometime ไม่ได้สร้างกระแส"สามเณรปลูกปัญหา"(ปัญญา)แต่ปัญหาอยู่ที่ สามเณรทั้ง 9 รูปนี้จะไปตลอดรอดฝั่งได้

มั๊ย ? ในระหว่าง 30 วันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กในวัยประมาณนี้ 9 - 10 ขวบเป็นวัยสนุกสนานของพวกเขาแต่พวกเขาได้สมัครใจบรรพชา

แล้ว ถือศีล 10 ข้อถ้าเป็นเด็กทั่วไปต้องอยู่ในกรอปและวินัยแล้วย่อมทำให้พวกเขาเกิดความเครียดได้{มัชฌิมาปฏิปทา}ทางสายกลาง

ไม่ตึง - ไม่หย่อนยานเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะนำพาสามเณรทั้ง ๙ รูปไปสู่จุดหมายตามที่พวกเขาได้ตั้งใจไว้ เท่าที่ได้ติดตามดูหลายวันมา

มีการทำวัตรเช้า - เย็น อย่างสม่ำเสมอ ออกบิณฑบาตร ท่องบทสวดได้คล่องนับว่ามีการพัฒนาไปในทางดี ได้หัดเทศน์ได้แสดงออก

Sometime เคยถือ อุโบสถศีล J
แค่ 10 วันแต่นี่สำหรับเด็กในวัยนี้ 30 วันน่านับถือและเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ




และในโครงการณ์นี้มีการบวช{เนกขัมมะ}อีกด้วย



ศัตรูที่ร้ายกาจและน่ากลัวที่สุดคือ"ตัวเรานั่นเอง"



เป็นกระทู้ที่ดีที่สุดเท่าที่ได้เคย POST กระทู้มาทั้งภาพ(ถ่ายเอง)ยกเว้นภาพสามเณรและคลิปวีดีโอ



รสพระธรรมฉ่ำชื่นเย็นยิ่งนัก สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนากับสามเณรทั้ง ๙ รูป

http://www.trueplookpanya.com/true/flvplayer/playerPlookpanya.swf?URLofFile=http://www.trueplookpanya.com/true/flvplayer/player_cms.xml.php?mul_source_id=5845


หัวข้อ: Re: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:08:03
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2270;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)



ความพอดีดังกล่าวมานี้ เรียกได้ว่า ทางสายกลางซึ่งเป็นข้อปฏิบัติส่วนตน ส่วนที่เกี่ยวกับส่วนรวมก็มีทางนำมาประยุกต์ใช้ได้ คืองานของหมู่คณะ จะสำเร็จได้ก็ด้วยอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยึดถือทางสายกลาง ก็ย่อมทำให้งานดำเนินไปได้ด้วย

ดี แม้จะไม่ราบรื่นและไม่เรียบร้อยในตอนแรก แต่ด้วยอาศัยการทำงานแบบทางสายกลาง ก็จะทำให้เกิดความคิด การกระทำและคำพูดที่พอดีต่อกัน ในกลุ่มผู้ร่วมงาน ซึ่งในที่สุดก็ยอมรับกันได้ ไม่เกิดการแบ่งฝ่ายซึ่งทำให้เกิดอุปสรรค



http://www.trueplookpanya.com/true/flvplayer/playerPlookpanya.swf?URLofFile=http://www.trueplookpanya.com/true/flvplayer/player_cms.xml.php?mul_source_id=5848


หัวข้อ: Re: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:13:29
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2270;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)



บทสวดบารมี 30 ทัศที่สามเณรปลูก(ปัญหา)ปัญญาทำวัตรเช้า - เย็น



http://www.youtube.com/v/0vDppgFE_UU?version=3&feature=player_embedded




หัวข้อ: Re: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:18:33
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2270;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)



วันบรรพชาสามเณรทั้ง ๙ ตอนที่ ๒



http://www.youtube.com/v/F6nxPUdjYsc?version=3&feature=player_detailpage



หัวข้อ: Re: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:20:34
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2270;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)



สามเณรปลูกปัญหา(ปัญญา)ตอนที่ ๑



http://www.youtube.com/v/oruYbOArJzM?version=3&feature=player_detailpage




หัวข้อ: Re: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:34:19
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)


(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2270;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)


http://www.youtube.com/v/u_8ppi3m2pg?version=3&feature=player_detailpage



หัวข้อ: Re: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:38:27
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2270;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)

http://www.trueplookpanya.com/true/flvplayer/playerPlookpanya.swf?URLofFile=http://www.trueplookpanya.com/true/flvplayer/player_cms.xml.php?mul_source_id=5847



หัวข้อ: Re: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:44:17
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2270;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)



บทสวดหรือพระคาถาป้องกันภัย ๑๐ ทิศ



http://www.youtube.com/v/janFZf21KU0?version=3&feature=player_detailpage



หัวข้อ: Re: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:47:33
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)

เนกขัมมบารมี

๑. อย่าละความเพียรในการพิจารณาบารมี ๑๐ และกรรมฐานทุกกอง พึงทำให้เจริญอยู่ในจิตทุกเมื่อ พยายามมีสติสัมปชัญญะกำหนดรู้ถึงกิจที่ยังทำไม่จบอยู่เสมอ

๒. อย่าไว้ใจความไม่เที่ยงของร่างกาย ให้ทำความรู้สึกเอาไว้เสมอว่า ความตายกำลังใกล้เข้ามา หากมัวแต่รอช้าอยู่ ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปโดยไร้ประโยชน์ ถือว่าเป็นความประมาทอย่างยิ่ง สภาพจิตอย่างนี้ไม่พึงมีในจิตของเรา

๓. พิจารณาเนกขัมม บารมีไปถึงไหน (ตอบว่า ถึงจุดที่ว่าเนกขัมมบารมี คือ การมีศีล - สมาธ ิ- ปัญญา เพื่อความดับไม่มีเชื้อ)

๔. เชื้ออะไร (ตอบว่า เชื้อที่ทำให้ต้องเกิด)

๕. เชื้อเกิดคืออะไร (ตอบ คือ กิเลส - ตัณหา - อุปาทาน และอกุศลกรรม หรืออารมณ์โกรธ - โลภ - หลง)

๖. ถูกต้อง แล้วให้พิจารณาว่ามีเนกขัมมบารมี กาย - วาจา - ใจเป็นอย่างไร และไม่มี เนกขัมมบารมีเป็นอย่างไร จุดไหนเป็นคุณ จุดไหนเป็นโทษ ให้รู้ด้วย

ธัมมวิจัย ในอดีต เราพิจารณา เนกขัมมบารมี โดยใช้สัญญาความจำเป็นหลักว่า เนกขัมมบารมี คือ การถือบวชคือบวชใจของเราชั่วคราว ให้ใจเราสงบเป็นสุข บริสุทธิ์ชั่วคราว โดยการระงับนิวรณ์ ๕ หรือความชั่วของจิตทั้ง ๕ ที่ทำปัญญาให้ถอยหลัง คือ กามฉันทะ -ปฏิฆะ - ถีนมิทธะ (ความง่วง) อุทธัจจะ (ฟุ้งซ่าน) และ วิจิกิจฉา (ความสงสัย) จิตบริสุทธิ์ชั่วคราว จิตก็เป็นทิพย์ชั่วคราว จิตก็วิมุติหลุดพ้นจากสมมุติชั่วคราว (ปทังควิมุติ) การฝึกมโนมยิทธิครึ่งกำลังอาศัยหลักนี้เป็นสำคัญ




หัวข้อ: Re: ไฮไล้ท์สามเณรปลูปปัญ(หา)ปัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2555 21:50:22
(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2272;image)

(http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=33890.0;attach=2274;image)

ปัญญาบารมี

๑. ขณะนี้ให้ดูอารมณ์ของจิตอย่างเดียว ตรวจสอบบารมี ๑๐ ทรงไว้ในจิตได้หรือไม่ เพราะจุดนี้เป็นฐานกำลังใจที่สำคัญมาก ถ้าหากไม่รักษากำลังใจให้เป็น ปรมัตถบารมี การปฏิบัติพระกรรมฐานก็เป็นผลได้ยาก

๒. และจงอย่าลืมใช้พรหมวิหาร ๔ คุม บารมี ๑๐ ทุกข้อ จักได้ผลทรงตัวดีต้องใช้ให้เป็นพรหมวิหาร ๔ ควบคู่กับพระกรรมฐานได้ทุกกอง

๓. สำหรับเวทนาทางกายให้กำหนดรู้มันเกิดขึ้น - ตั้งอยู่ - ดับไปเป็นปกติเป็นธรรมดา อย่าไปฝืน อย่าไปผูกใจเกาะติดกับเวทนานั้นให้ลงตัว สังขารุเบกขาญาน เข้าไว้ จิตจักเป็นสุข จุดนี้ต้องใช้ปัญญาพิจารณา

๔. งานทางโลกทำเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักหมด ประการสำคัญก็คืองานทางธรรมนี่แหละ พึงจักมุ่งหมายทำให้จบเข้าไว้ ทำอะไรทุกอย่างก็เพื่อพระนิพพานจุดเดียว ต้องย้ำเจตนาของจิตไว้เสมอ จุดนี้ก็ต้องใช้ปัญญา

๕. เรื่องของการมีบารมี ๑๐ นั้น เป็นเรื่องของคนมีปัญญา ถ้าไม่ทำปัญญาให้แหลมคมเข้าไว้ บารมี ๑๐ ก็ไม่เต็ม จึงต้องหมั่นคิดหมั่นพิจารณาให้บ่อย ๆ ว่า บารมีตัวไหนไม่เต็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญญาบารมี พึงจักมีไว้ในจิตเป็นปกติ

๖. คนไม่มีปัญญาพ้นทุกข์ได้ยาก เพราะจิตมันมืดบอดเสียแล้ว ความรู้ความเห็นตามความเป็นจริงก็ไม่มี ไฉนจึงจักพ้นทุกข์ได้ คนจักเดินทางไปสู่พระนิพพาน จักต้องรู้ต้องเห็นหนทางใดที่เป็นทางเข้าสู่ความพ้นทุกข์ ถ้าไม่รู้ไม่เห็นก็มีหวังไปกันไม่ถึง ไปไม่ถูก จึงต้องเจริญปัญญาบารมีให้เกิดขึ้นแก่จิต ในขณะเดียวกันก็ให้เห็นโทษขงการไม่มีปัญญาบารมีด้วย จักได้ช่วยชี้ชัดให้เห็นคุณของความมีปัญญา


http://www.youtube.com/v/TFkmjiZ2l-I?version=3&feature=player_detailpage