ถ้าหาก น้ำพุ หรือคุณ วงศ์เมือง นันทขว้าง ยังมีชีวิตจนถึงปัจจุบัน อายุของเขาก็คงราวๆ 51 ปี แม้จะล่วงเข้าสู่วัยกลางคน แต่ประเมินจากอายุขัยโดยเฉลี่ยของคนทั่วไป เขาก็น่าจะยังมีชีวิตอยู่ได้อีกยาวนาน
แต่ข้อเท็จจริงก็เป็นอย่างที่หลาย ๆ คนรับรู้กัน น้ำพุ ลูกผู้ชายคนเดียวในพี่น้องทั้งหมดสี่คนของคุณสุวรรณี สุคนธา นักเขียนหญิงชั้นบรมครูของเมืองไทย เจ้าของงานเขียนอมตะมากมาย เขาชื่อกานต์คนเริงเมือง เก้าอี้ขาวในห้องแดง ความรักครั้งสุดท้าย ทะเลฤาอิ่ม ทองประกายแสด ฯลฯ เสียชีวิตจากการวินิจฉัยของหมอว่าหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ปี 2517 ขณะมีอายุได้เพียง 18 ปี ทว่าจากข้อเขียนของคุณสุวรรณีในบทนำของหนังสือชื่อ เรื่องของน้ำพุ ที่จัดพิมพ์เพื่อรำลึกถึงการจากไปของเขาและเพื่อเป็นอุทาหรณ์แด่คนรุ่นหลัง ระบุตรง ๆ ว่า ใคร ๆก็รู้ว่า น้ำพุไปเพราะยาเสพติด
มากยิ่งไปกว่านั้น ข้อเขียนของคุณสุวรรณีในหนังสือเล่มเดียวกัน ยังได้เล่าอะไรอีกหลายๆอย่างเกี่ยวกับเด็กหนุ่มผู้ต้องปิดฉากชีวิตไปก่อนวัย อันควร ตั้งแต่การที่เขาเป็นคนรักและหวงแม่ของตัวเอง ความว้าเหว่ของน้ำพุจากการเป็นลูกผู้ชายคนเดียว และเข้ากันพี่ๆน้องๆที่เป็นผู้หญิงได้ยากเย็น ไปจนถึงการที่ชีวิตของเขาต้องพลัดหลงออกไปจากเส้นทางของคนปกติสู่วิถีของยา เสพติด แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความสำนึกในผิดชอบชั่วดี ด้วยการสารภาพความจริงกับคุณสุวรรณี และเดินทางไปสำนักสงฆ์ถ้ำกระบอกเพื่อเลิกยาซึ่งก็คล้าย ๆว่าจะประสพความ สำเร็จตามที่ตั้งใจ
ไม่ว่าจะอย่างไร ถ้าหากจะมีข้อความตรงไหนที่อาจใช้สรุปความนึกคิดของคุณสุวรรณีต่อความเลว ร้ายทั้งมวลที่เกิดขึ้นกับเธอในตอนนั้น มันก็อยู่ในประโยคที่เธอได้เขียนไว้ในหนังสือเล่มนั้นว่า
มีคนถามข้าพเจ้าเสมอ หลังจากที่น้ำพุได้สิ้นชีวิตแล้วว่าเลี้ยงลูกยังไงถึงได้ปล่อยให้ติดเฮโรอีน
ทำให้ต้องนิ่งและไม่อาจจะหาคำ ตอบได้ แต่ถ้าจะให้ตอบจริงๆแล้ว ก็จะต้องโทษตัวเองว่า เลี้ยงลูกไม่เป็น
และในอีกช่วงหนึ่งของบทความหนึ่งที่เป็นจดหมายที่เธอเขียนถึงลูกชายโดยตรง นี่เป็นความผิดของแม่คนเดียวหรอก ไม่ใช่ของใครเลย และบัดนี้แม่ก็รับเวรกรรมอันนั้นแล้ว
เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับหลายๆคนที่อาจจะโตไม่ทัน คุณสุวรรณียังได้นำเรื่องราวชีวิตของน้ำพุมาถ่ายทอดอีกครั้งในรูปของนิยาย ขนาดยาวที่ใช้ชื่อว่า พระจันทร์สีน้ำเงิน ตีพิมพ์ในปี 252 โดยจับความในช่วงที่ น้ำพุ หรือ รอม ชื่อของตัวละครในเรื่องเริ่มโตเป็นเด็กวัยรุ่น และเผชิญผลกระทบจากการที่พ่อแม่แยกทางกัน บวกกับการที่แม่ซึ่งเป็นนักเขียนต้องปากกัดตีนถีบหาเลี้ยงครอบครัว จนกระทั่งไม่มีเวลาให้ลูกชาย ทั้งหมดทั้งปวง มันกลายเป็นเงื่อนไขที่ชักนำให้ชีวิตของเขาต้องแหกโค้งลงข้างทาง
หนังเรื่อง น้ำพุ ของคุณยุทธนา มุกดาสนิท ถูกสร้างและออกฉายหลังจากนั้นสามปี หรือถ้าจะระบุอย่างเจาะจง รอบปฐมทัศน์ของ น้ำพุ ตรงกับวันพฤหัสที่ 7 มิถุนายน ปี 2527 ณ.โรงภาพยนตร์เอเธนส์ ทั้งนี้โดยอาศัย พระจันทร์สีน้ำเงินเป็นกรอบหลักในการเล่าเรื่องแต่ถึงอย่างนั้นหนึ่งในความพิเศษอันโดดเด่นของหนังอยู่ตรงที่มันไม่ได้ถูกล่ามไว้กับตัว หนังสือของคุณสุวรรณี และนอกเหนือจากหนังจะแสดงถึงการใช้ภาษาเฉพาะของตัวเองในการบอกเล่าเรื่องราว ทั้งงานด้านภาพเสียง การตัดต่อ เพลงประกอบ ฯลฯ หลายครั้งหลายครา ยังถึงขั้นตีความบางแง่มุมตามทัศนะของตัวคนทำหนังเอง