|
หัวข้อ: เพียงมายาหรือของไม่เที่ยง หลวงปู่เทสก์ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 11:12:48 (http://statics.atcloud.com/files/comments/65/658339/images/1_display.jpg) เพียงมายาหรือของไม่เที่ยง หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี ตามกระแสพระธรรมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าทุกข์ เป็นของไม่ควรละ แต่เป็นของควรต่อสู้ ความทะยานอยากได้สุขหรือไม่อยากให้มีทุกข์ต่างหากเป็นของที่ควรละ ผู้ที่จะพ้นทุกข์ได้ในโลกนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ยกทุกข์ขึ้นมาเป็นเหตุทั้งนั้น ผู้ที่ไม่เห็นคุณค่าของความเพียรแล้ว อาจคิดว่าความขยันหมั่นเพียร ในภารกิจต่าง ๆ มันเป็นทุกข์ลำบากเหนื่อยยากมิใช่หรือ จริงดังนั้นคนตกน้ำไม่ยอมว่ายมีหวังตายโดยถ่ายเดียว จะรอดมาได้ แต่เฉพาะคนที่ว่ายน้ำได้หมายพึ่งตนเองเท่านั้น ทุกข์กับความเพียรเท่านั้นที่มีค่ามากในโลกนี้ หากไม่มีทุกข์กับความเพียร เสียแล้ว ใคร ๆ ในโลกนี้ จะไม่ทำความดีเพื่อพ้นทุกข์ในโลกนี้และโลกหน้า ตลอดถึงพระนิพพาน สมาธินี้ถ้าสติอ่อน ไม่สามารถรักษาฐานะของตนไว้ได้ย่อมพลัด เข้าไปสู่ภวังค์เป็น “ฌาน” ถ้ามีสติสัมปชัญญะแก่กล้าขึ้นเมื่อไรย่อมกลายเป็น “สมาธิ” ได้เมื่อนั้น เมื่ออยู่ใน “สมาธิ” นั้นเล่า ก็มิไช่ว่าจิตจะโง่เง่าซึมเซอะแต่มันมีความผ่องใส พิจารณาธรรมอันใดก็ปรุโปร่งเบิกบาน “ฌาน” ต่างหาก ที่ทำให้จิตสงบแล้วซึมอยู่กับสุขเอกัคตาของฌาน ขออย่าได้เข้าใจว่า “ฌาน” กับ “สมาธิ” เป็นอันเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ความโง่อันสงบจากนิวรณ์ทั้ง ๕ ยังดีกว่าความกล้า หลงเข้าไปในกามทั้งหลายเป็นไหน ๆ หลักอนัตตา ในทางพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยปัญญาอันชอบ พระองค์มิได้ตรัสว่า.. อนัตตาเป็นของไม่มีตนมีตัว เป็นของว่างเปล่า พระองค์ตรัสว่า ตนตัวคือร่างกายของคนเรา อันได้แก่ขันธ์ทั้ง ๕ นี้ มันมีอยู่แล้ว แต่จะหาสิ่งที่เป็นสาระในขันธ์ ๕ นั้นไม่มีดังนี้ต่างหาก… เมื่อสรุปให้สั้น ๆ แล้ว … ผู้ที่ยังยึดอัตตาอยู่ พระองค์ก็สอนให้ประกอบภารกรรม เพื่อประโยชน์แก่อัตตา โดยทางที่ชอบที่ควรไปก่อน จนกว่าผู้นั้นจะเห็นแจ้ง ด้วยตนเองว่า สิ่งที่เราถือว่าเป็นอัตตาอยู่นั้นแท้จริงแล้วมิใช่อัตตา มันเป็นเพียงมายา หรือของไม่เที่ยง เป็นทุกข์… แล้วพระองค์จึงสอน “อนัตตา” ที่แท้จริง การเห็นความฟุ้งซ่านของจิตนั้น คือ “ปัญญาขั้นต้น” คนใดว่าตนดีคนนั้นยังไม่ดี ใครว่าตนวิเศษวิโสหรือฉลาดเฉียบแหลม คนนั้นคือ คนโง่ พระพุทธศาสนานี้สอนมีจุดที่รวมได้ มีที่สุดหมดสิ้นสงสัยหมดเรื่อง ไม่เหมือนวิชาชีพอื่น เขาสอนไม่มีที่สิ้นสุด… จึงว่าพระพุทธศาสนาสอนถึงที่สุด แต่บุคคลผู้ทำตามนั้น ทำไม่ถึงที่สุด… แท้จริงความนึกคิดมิใช่ทุกข์ แต่การไปยึดความนึกคิดมาเป็นตน จึงเป็นทุกข์ ผู้ใดทำใจให้ถึงความเป็นกลางได้ ผู้นั้นพ้นจากทุกข์ทั้งปวง (http://is200.imagesocket.com/images/2011/02/26/22jpgubmdjpgrptx.jpg) Pics by : Google อกาลิโกโฮม * ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ หัวข้อ: Re: เพียงมายาหรือของไม่เที่ยง หลวงปู่เทสก์ เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 11:35:46 สาธุ อนุโมทนา อ.ป้าแป๋มครับ
หัวข้อ: Re: เพียงมายาหรือของไม่เที่ยง หลวงปู่เทสก์ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 11:46:14 นำมาจาก ผลไม้ในสวนธรรม : http://www.sookjai.com/index.php?topic=4233 (http://www.sookjai.com/index.php?topic=4233) |