|
หัวข้อ: พระเพชรบูรณคณาวสัย (แพ ธัมมธริโก) วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 10 มีนาคม 2563 09:45:40 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/39642380633287_view_resizing_images_1_320x200.jpg) พระเพชรบูรณคณาวสัย (แพ ธัมมธริโก) วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พระเพชรบูรณคณาวสัย (แพ ธัมมธริโก) วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ พระสังฆาธิการที่มีคุณูปการต่อคณะสงฆ์เพชรบูรณ์ เป็นผู้วางรากฐานการศึกษา จัดตั้งสำนักเรียนปริยัติธรรม แผนกนักธรรมและบาลี เป็นแห่งแรกของจังหวัด และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง รวมทั้งเป็นสหธรรมิกของหลวงพ่อทบ พระเกจิชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ และหลวงปู่นาค วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ มีนามเดิมว่า แพ บุญแย้ม (ต่อมาได้รับพระราชทานนามสกุล สืบกระแส) เกิดเมื่อวันที่ 8 มี.ค.2430 ที่บ้านตาลานใต้ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่ออายุได้ 8 ขวบ บิดานำไปฝากกับเจ้าอาวาสวัดตาลานใต้ เพื่อศึกษาเล่าเรียน เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดตาลานใต้ แต่บวชได้เพียง 2 พรรษา บิดา-มารดา ต้องการให้ออกมาทำงานรับราชการ เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล โดยเข้ารับราชการเป็นเสมียนสรรพากร อ.เมือง จ.สระบุรี รับราชการได้ 6 ปี เกิดความเบื่อหน่ายอาชีพราชการ จึงได้ลาออกมาประกอบอาชีพส่วนตัวด้วยการรับจ้างเป็นผู้เขียนหนังสือให้แก่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และบุคคลทั่วไป พร้อมกับฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้านดนตรีไทยกับบิดาของครูพริ้ง ดนตรีรส ที่มีความชำนาญในเครื่องดนตรีไทย ใช้ชีวิตหนุ่มโสดมานาน บิดาเห็นว่าบุตรชายควรจะมีภรรยาได้แล้ว จึงได้ไปหมั้นหญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกัน โดยไม่ได้บอกให้ท่านรับทราบ กระทั่ง เมื่อทราบภายหลังจึงได้หลบหนีไปอยู่ที่ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร และตัดสินใจอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2471 ที่วัดตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร โดยมี พระศีลธรารักษ์ (ยิ้ม) เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมธริโก เมื่ออุปสมบทได้ระยะหนึ่ง ได้ไปจำพรรษาที่วัดต้นชุมแสง อ.ตะพานหิน เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก พ.ศ.2478 ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหาดแตงโม อ.ตะพานหิน ว่างลง คณะญาติโยมและทายกทายิกาได้ไปอาราธนานิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาส ในปีเดียวกัน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลทับคล้อ อ.ตะพานหิน ต่อมา เจ้าคณะมณฑลเล็งเห็นว่าเป็นพระสังฆาธิการที่มีศีลาจารวัตรงดงาม ประกอบกับที่ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ไม่มีพระสงฆ์ที่ได้รับการศึกษาด้านพระปริยัติธรรม ดังนั้น เพื่อที่จะได้วางรากฐานทางด้านการศึกษาพระปริยัติธรรมให้แก่พระสงฆ์ใน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จึงได้สั่งการให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอชนแดนเป็นองค์แรก โดยอยู่จำพรรษาที่วัดสว่างอรุณ ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เมื่อพระสังฆาธิการในจังหวัดเพชรบูรณ์ มรณภาพและลาสิกขาไปหลายรูป ไม่มีพระสังฆาธิการคอยดูแลด้านการปกครองคณะสงฆ์ เจ้าคณะสังฆมณฑลได้สั่งการให้ท่านมาอยู่จำพรรษาที่วัดมหาธาตุ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พ.ศ.2497 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระเพชรบูรณคณาวสัย สำหรับด้านวัตถุมงคล ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และมีธรรมิกสหายอย่างหลวงพ่อทบ พระเกจิชื่อดังของจังหวัด และหลวงปู่นาค วัดระฆังโฆสิตาราม ฝั่งธนบุรี วัตถุมงคลที่ร่วมปลุกเสกกับหลวงพ่อทบ เมื่อปี พ.ศ.2519 ได้รับความนิยมสูง ได้แก่ ตะกรุดโทน ปัจจุบันเป็นวัตถุมงคลที่หายากมาก รูปหล่อลอยองค์ และเหรียญรูปไข่ พุทธาภิเษกพร้อมกับตะกรุด ภายหลังจากการมรณภาพ ทางวัดได้ออกวัตถุมงคลหลายรุ่น ที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่ รุ่นปี 2535 เป็นรูปหล่อลอยองค์และเหรียญ จนถึงวันที่ 24 เม.ย.2523 พระเพชรบูรณคณาวสัย มรณภาพอย่างสงบ ด้วยวัย 93 ปี ข่าวสดออนไลน์ |