[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 30 มีนาคม 2559 20:13:44



หัวข้อ: หลวงพ่อขันตี ญาณวโร วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ จ.เลย
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 30 มีนาคม 2559 20:13:44

(http://www.web-pra.com/upload/shopItem2/4411/767944-45bf7.jpg)
หลวงพ่อขันตี ญาณวโร
วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ จ.เลย

"หลวงพ่อขันตี ญาณวโร" เจ้าอาวาสวัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ จ.เลย พระเถระที่ปฏิบัติดี ลูกศิษย์ของหลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ ต.นาอ้อ อ.เมือง และหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย  ปัจจุบัน สิริอายุ 72 ปี พรรษา 51

เกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2486 เป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2507 ที่วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังจากอุปสมบทผ่านไป 1 ปี พ.ศ.2508 ท่านติดตามมาปฏิบัติจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่คำดี ปภาโส ที่วัดถ้ำผาปู่ ต่อมาย้ายไปอยู่จำพรรษาดูแลหลวงปู่ชอบ ที่วัดป่าโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง เนื่องจากในขณะนั้น หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ป่วยเป็นอัมพาต

ต่อมามาสร้างวัดป่าอยู่ที่บ้านห้วยเดื่อ กิ่ง อ.หนองหิน จ.เลย และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส โดยอยู่ที่วัดห้วยเดื่อ เป็นเวลาถึง 25 ปี

ในช่วงเวลาดังกล่าว หลวงพ่อขันตีไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองแซง ก่อนย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดหลวงปู่ขาว อนาลโย และสุดท้ายได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ เป็นเวลานาน 3 ปีแล้ว

สำหรับวัดป่าม่วงไข่ ตั้งอยู่ที่บ้านม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย วัดนี้เดิมเป็นสำนักสงฆ์ ได้ตั้งมานานแล้ว โดยหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านได้มาทำไว้เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการบำเพ็ญภาวนาปฏิบัติธรรม

ครั้งหนึ่ง เกิดเหตุไฟไหม้ป่าเข้ามาในบริเวณที่ตั้งกุฏิไม้ไผ่แห่งนี้ แต่ไฟไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด

ทุกวันนี้ วัดป่าม่วงไข่ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดแล้ว โดยตั้งอยู่บริเวณภูน้อย ติดกับหมู่บ้านม่วงไข่ ห่างจากถนนสายเลย-ด่านซ้าย ที่หมู่บ้านโนนสมบูรณ์ ลึกเข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร

แต่เดิมการเดินทางเข้าวัดป่าม่วงไข่ ต้องเดินเท้าเข้าไป โดยเฉพาะหน้าฝนลำบากมาก แต่ปัจจุบันเส้นทางคมนา คมสะดวกสบายเดินทางราบรื่น

รอบบริเวณวัดป่าม่วงไข่ ยังคงสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เอาไว้ ตั้งแต่ยุคของหลวงปู่ชอบมาจนถึงยุคหลวงพ่อขันตี ด้วยมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก นับว่าวัดป่าม่วงไข่ ยังสามารถคงสภาพป่าที่สมบูรณ์ เหลือไว้เป็นสมบัติทางธรรมชาติต่อไป

หลวงพ่อขันตี อนุรักษ์สิ่งของอัฐบริขารและเสนาสนะต่างๆ ของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เอาไว้ เช่น กุฏิพักหลวงปู่ชอบ โดยเฉพาะกุฏิไม้ไผ่ที่ปลูกอยู่ติดกับต้นมะม่วงป่า มะม่วงป่านั้นมีลูกเล็กๆ สีเหลืองเท่ากับไข่ไก่พื้นบ้าน ต้นใหญ่ประมาณ 2-3 คนโอบ เป็นที่เดินจงกรมและนั่งปฏิบัติธรรมหลวงปู่ชอบ

หลวงพ่อขันตี ยังมอบอาคารผู้ป่วยตึกสงฆ์บูรพาจารย์ให้โรงพยาบาลเลย เนื่องจากพบเห็นความลำบากของผู้ป่วยที่ไม่มีห้องพัก รวมทั้งเวลาพระภิกษุอาพาธไม่มีห้องพักต้องนอนปะปนกับญาติโยม จึงได้แจ้งกับ ผอ.โรงพยาบาลเลย จึงระดมทุนเพื่อก่อสร้างอาคารผู้ป่วยในตึกสงฆ์บูรพาจารย์ดังกล่าวขึ้น โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 และการก่อสร้างได้เสร็จสิ้นแล้ว เป็นอาคารสูง 6 ชั้น ขนาด 126 เตียง

กล่าวได้ว่า ชีวิตในเพศบรรพชิตของหลวงพ่อขันตี ส่วนใหญ่จะออกธุดงค์แสวง หาความวิเวก ตั้งแต่บรรพชาเป็นสามเณร ได้ศึกษาฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานจากพระสายปฏิบัติและสายพระเกจิอาจารย์

ส่วนวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ที่ท่านได้สร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน แม้นค่านิยมทางด้านราคายังไม่สูงมากนัก แต่ด้วยพลังแห่งพุทธคุณที่ปรากฏครบถ้วน

ทั้งนี้ วัตถุมงคลของหลวงพ่อขันตีหลายรุ่นที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกได้รับความนิยมจากนักสะสมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ รูปเหมือน ฯลฯ

วัดป่าม่วงไข่ เป็นแหล่งปฏิบัติธรรม เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมอัฐบริขารของหลวงปู่ชอบ ส่วนหนึ่งที่ควรจะต้องพัฒนาโดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม ตรงบริเวณพิพิธภัณฑ์และศาลาการเปรียญ ที่ยังมีต้นไม้ใหญ่ไม่มากนัก ทำให้พื้นที่ดูโล่ง ดังนั้น วัดและชุมชนต้องร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาวัดแห่งนี้ ด้วยการปลูกต้นไม้ให้ดูเป็นวัดที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม

ในส่วนของหลวงพ่อขันตี ท่านยึดถือในแนวทางปฏิบัติของหลวงปู่ชอบที่เป็นพระอาจารย์

อริยะโลกที่ 6