สมาชิกรัฐสภาอาเซียนฯ ประณามการบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารของรัฐบาลเมียนมา
<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-02-23 21:59</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ชาวเมียนมาแห่ขอวีซาไทย หน้าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง (ที่มา
เฟซบุ๊ก กัณวีร์ สืบแสง)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ APHR ออกแถลงการณ์ประณามการบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารของรัฐบาลเมียนมา ซึ่งจะบังคับให้พลเมืองเมียนมาเพศชายอายุ 18-35 ปี และเพศหญิง อายุ 18-27 ปี เข้ารับราชการทหารเป็นเวลาอย่างน้อยสองปี</p>
<p>23 ก.พ. 2567 วานนี้ (22 ก.พ.)
เว็บไซต์สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ APHR เผยแพร่แถลงการณ์ประณามการบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารของรัฐบาลเมียนมา</p>
<p>กษิต ภิรมย์ คณะกรรมการรัฐสภาอาเซียน และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า</p>
<p>“เรามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับผลกระทบที่กฎหมายเกณฑ์ทหารจะมีต่อคนหนุ่มสาวในเมียนมา นี่เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่น่าอับอายของรัฐบาลทหารในการปกครองด้วยความหวาดกลัวและการบ่อนทำลาย” </p>
<p>
บีบีซีไทยรายงานอ้างคำพูด พล.ต.ซอ มิน ตุน โฆษกของรัฐบาลทหาร บอกกับผู้สื่อข่าวบีบีซี แผนกภาษาพม่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 ก.พ.) ว่า มีความต้องการเกณฑ์ทหารจำนวน 5,000 คน ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย โดยทางรัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติจำนวน 18 คน เพื่อดูแลการบังคับใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหาร ต่อจากนี้จะจัดตั้งหน่วยเกณฑ์ทหารในระดับภูมิภาค รัฐ อำเภอ และตำบล หากผู้ใดหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี</p>
<p>บีบีซีไทยรายงานด้วยว่า สำหรับกฎหมายเกณฑ์ทหารของเมียนมา เคยถูกเสนอขึ้นมาเมื่อปี 2553 แต่ไม่เคยบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ การบังคับเกณฑ์ทหารอาจขยายได้ถึง 5 ปี ในช่วงที่ประเทศอยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยบุคคลที่ไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกอาจถูกลงโทษจำคุกเท่ากับจำนวนปีที่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร</p>
<p>“กฎหมายฉบับนี้มุ่งทำลายขบวนการต่อสู้ที่นำโดยกลุ่มเยาวชนที่ต่อต้านเผด็จการ และจงใจทำให้พวกเขาหลายคนหันมาเผชิญหน้ากับกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่พวกเขาเองสนับสนุน การประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงความขี้ขลาดอย่างยิ่งของรัฐบาลเมียนมา พวกเขาไม่สามารถสู้ด้วยตัวเองได้แล้ว” กษิต กล่าว</p>
<p>การประกาศดังกล่าวส่งผลให้คนหนุ่มสาวในเมียนมาและครอบครัวของพวกเขารู้สึกไม่มั่นใจ พวกเขาไม่ปรารถนาที่จะรับราชการภายใต้ระบอบเผด็จการทุจริตที่เต็มไปด้วยการใช้ความรุนแรง และก็ไม่ได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ</p>
<p>คณะกรรมการรัฐสภาอาเซียน และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า</p>
<p>“เราขอเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนและประชาคมระหว่างประเทศช่วยเหลือเยาวชนเมียนมาที่ต้องการหลบหนีไปยังประเทศอื่นให้สามารถเข้าถึงวีซาและโอกาสทางการศึกษาได้ และเราขอให้ประชาคมระหว่างประเทศรับรู้ว่า </p>
<p>นี่เป็นความพยายามเฮือกสุดท้ายจากระบอบการปกครองที่กำลังจะล้มเหลวในการรักษาอำนาจ ขอเรียกร้องให้ช่วยดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยของเมียนมาเพื่อนำมาซึ่งจุดจบของการปกครองโดยรัฐบาลทหาร"</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/02/108186