[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ร้านน้ำชา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 20 มีนาคม 2567 12:00:35



หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - เมื่อสูญเสียสัตว์เลี้ยงแสนรัก คนทำงานควรได้รับวันลาหยุดหรือไม่?
เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 20 มีนาคม 2567 12:00:35
เมื่อสูญเสียสัตว์เลี้ยงแสนรัก คนทำงานควรได้รับวันลาหยุดหรือไม่?
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-03-20 11:10</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="summary-box">
<p><strong>Summary</strong></p>
<ul>
<li>ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ เริ่มตระหนักถึงผลกระทบของการสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่มีต่อพนักงานมากขึ้น และกำลังปรับนโยบายเพื่อให้วันลาหยุด แก่พนักงานที่เศร้าโศกเมื่อสูญเสียสัตว์เลี้ยง</li>
<li>ผู้เชียวชาญระบุว่าองค์กรควรสร้างวัฒนธรรมที่ "เน้นความเห็นอกเห็นใจ" ซึ่งการให้สวัสดิการวันหยุดแก่พนักงานที่สูญเสียสัตว์เลี้ยงก็ถือเป็นหนึ่งในแนวทางนี้</li>
</ul>
</div>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53582922085_cc67b48bd8_o_d.png" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: IG/My.Cat.Y</span></p>
<p>ความเศร้าโศกเป็นสัจธรรมของชีวิต เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และมันก็เป็นความเจ็บปวดที่แท้จริง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสูญเสียเพื่อนมนุษย์เท่านั้น แต่ความเศร้าโศกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้เช่นกัน ในสถานที่ทำงาน การลาพักเพื่อไว้ทุกข์นั้นถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับพนักงาน ซึ่งปกติแล้วจะมีนโยบายเพื่อรองรับเรื่องนี้ โดยให้พนักงานมีเวลาและพื้นที่เพียงพอสำหรับการไว้ทุกข์และจัดการธุระต่าง ๆ แต่สำหรับการสูญเสียสัตว์เลี้ยง พนักงานมักไม่ได้รับสิทธิ์หรือพื้นที่เดียวกันนี้ สถานที่ทำงานจำนวนมากกำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ และผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็เห็นด้วยว่าการลาพักเพื่อไว้ทุกข์สำหรับสัตว์เลี้ยงควรเป็นเรื่องปกติในออฟฟิศยุคใหม่</p>
<p>เอริก้า ซินเนอร์ (Erika Sinner) CEO ของ Directorie บริษัทให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ผู้มีสัตว์เลี้ยงถึง 4 ตัว เธอให้คำจำกัดความเกี่ยวกับตำแหน่งว่า CEO ของเธอว่า ไม่ได้เป็นเพียง Chief Executive Officer เท่านั้น แต่เธอยังเป็น “Chief Empathy Officer” (หัวหน้าฝ่ายความเห็นอกเห็นใจ) ควบคู่กันไปด้วย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการสูญเสียและความเศร้าโศกจากสัตว์เลี้ยง หนึ่งในวิธีที่ ซินเนอร์นำความเห็นอกเห็นใจมาสู่สถานที่ทำงานคือการเสนอลาหยุดพักงานเพื่อไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยงให้กับพนักงานของเธอ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยพบเห็น แต่การลาหยุดพักงานเพื่อไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยงก็ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการสนับสนุนพนักงานในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าเสียใจเมื่อสัตว์เลี้ยงตัวโปรดจากไป</p>
<p>ในสังคมปัจจุบัน ผู้คนเลือกที่จะมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นสัตว์เลี้ยงมากกว่ามนุษย์ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่าประมาณ 70% ของคนในยุคนี้มีแนวโน้มที่จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากกว่ามีลูก และ 81% ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นคนรุ่นมิลเลนเนียล บอกว่าพวกเขารักสัตว์เลี้ยงของพวกเขามากกว่าสมาชิกในครอบครัวอย่างน้อยหนึ่งคน</p>
<p>ซินเนอร์กล่าวเสริมว่า สิ่งนี้หมายความว่า สัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวจริง ๆ และยิ่งไปกว่านั้น ความโศกเศร้าที่ผู้คนรู้สึกเมื่อสัตว์เลี้ยงจากไปนั้น ควรได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกันกับคนในครอบครัว เธอบอกกับ StudyFinds ว่าเมื่อหัวหน้าทำงานด้วยความเห็นอกเห็นใจ ใส่ใจสุขภาพจิตของพนักงานอย่างแท้จริง บริษัทและพนักงานก็จะประสบความสำเร็จ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">สร้างวัฒนธรรมเน้นความเห็นอกเห็นใจให้กับคนในองค์กร</span></h2>
<p><img alt="" src="https://blackwhite.pictures/media/c/0805/dog-cheerful-hunting-head-happy-beach-retriever-canine-pas-pet-animal-lovaki-psi-ljubimac-retriver-509.jpg" /></p>
<p>แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยังไม่ค่อยแพร่หลาย แต่บริษัทบางแห่งได้ริเริ่มนโยบายเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ บริษัทเหล่านี้รวมถึง Mars Inc. ผู้ผลิตขนมและอาหารสัตว์เลี้ยง บริษัทแห่งนี้มอบการสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ เช่น วันหยุดพักงาน เวลาทำงานที่ยืดหยุ่น หรือตัวเลือกการทำงานทางไกลให้แก่พนักงานที่กำลังรับมือกับการสูญเสียสัตว์เลี้ยงเลี้ยง ในทำนองเดียวกัน โรงแรมและร้านอาหารในเครือของบริษัท Kimpton Hotels &amp; Restaurants ในซานฟรานซิสโก ซึ่งโดดเด่นในฐานะหนึ่งในฐานะผู้บุกเบิกเรื่องนี้ มีสวัสดิการลาหยุดเพื่อไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยงเป็นเวลา 3 วัน</p>
<p>แม้จะมีความริเริ่มที่ก้าวหน้าเหล่านี้ แต่แนวคิดเรื่องการลาหยุดพักงานเพื่อไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยงก็ยังคงเป็นเรื่องใหม่สำหรับสถานที่ทำงานส่วนใหญ่</p>
<p>ซินเนอร์ ชี้ว่าไม่ใช่เพียงแค่เชื่อมั่นในผู้นำองค์กรที่มีความเห็นอกเห็นใจเท่านั้น เธอยังเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการซื่อตรงต่อความโศกเศร้าของตัวเอง มันจะส่งผลอย่างไรต่อการมีส่วนร่วมกับสุขภาพจิตของพนักงานของเธออย่างรอบคอบยิ่งขึ้น เธอบอกว่า ก้าวแรกคือการยอมรับความเจ็บปวด จากนั้น นายจ้างควรพิจารณาการให้พนักงานหยุดงานเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดนั้น</p>
<p>ซินเนอร์ เปิดเผยประสบการณ์ความโศกเศร้าของตัวเองอย่างไม่ลังเล โดยเล่าว่าหลังจากการจากไปของสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง เธอประหลาดใจกับความรุนแรงของความเจ็บปวด "ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าตอนที่สูญเสียคนรู้จักไปเสียอีก" และตามที่คนอื่น ๆ ให้ข้อมูล เธอก็ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่มีอาการเช่นนี้ ตั้งแต่การพาสัตว์เลี้ยงไปเที่ยวพักร้อน ไปจนถึงการให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของพวกมันเหนือสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ เจ้าของสัตว์เลี้ยงได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเปรียบเสมือนเหมือนคนในครอบครัวไปแล้ว</p>
<p>ความหลงใหลในสัตว์เลี้ยงของซินเนอร์นั้นชัดเจน  "ฉันเชื่อจริง ๆ ว่าสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนคนในครอบครัว พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคุณ เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรของคุณ ไม่ว่าคุณจะเดินไปส่วนไหนในบ้าน คุณก็มีแต่ความทรงจำเกี่ยวกับพวกมัน หรือไม่ก็นึกถึงว่าพวกมันกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่" เธอกล่าวต่อ "บางตัวนอนบนเตียงของคุณด้วย ฉันไม่รู้ว่าจะมีอะไรที่ใกล้ชิดเราไปมากกว่านี้อีกแล้ว"</p>
<h2><span style="color:#3498db;">กระแสการลาหยุดพักงานเพื่อไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยง</span></h2>
<p><img alt="" src="https://blackwhite.pictures/media/c/2406/white-view-animal-pet-portrait-green-1270.jpg" /></p>
<p>เช่นเดียวกับการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อน คนเราก็ต้องการเวลาในการไว้อาลัยสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจหมายถึงการอนุโลมให้พนักงานสามารถหยุดงานเพื่อเยียวยาจิตใจและจัดการกับความสูญเสียอย่างเต็มที่ การกระทำนี้ไม่เพียงส่งผลดีต่อพนักงานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนภาพลักษณ์ที่เห็นอกเห็นใจขององค์กรและฝ่ายบริหารโดยรวม ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองฝ่าย</p>
<p>"ฉันคิดว่าแม้จะมีแค่การระบุวันลาไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยงเพียงวันเดียวในนโยบายของบริษัท ก็ส่งสัญญาณไปยังพนักงานว่า ชีวิตนอกเหนือจากงานส่งผลกระทบต่อพวกเขา บริษัทเข้าใจว่าพวกเขากำลังเจ็บปวด" ซินเนอร์ กล่าว</p>
<p>ตามธรรมเนียมเดิม การลาหยุดพักงานเพื่อไว้ทุกข์ (bereavement leave) มีไว้เพื่อให้สมาชิกใกล้ชิดในครอบครัวมีเวลาในการวางแผนงานศพ และจัดการกับภารกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรณีการลาหยุดพักงานเพื่อไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยง ก็ยังคงมีความคล้ายคลึงกันอยู่ในบางระดับ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจอันยากลำบากเกี่ยวกับการุณยฆาต (euthanasia) ไปจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายและการฝังร่างของเพื่อนขนฟูฟองอันเป็นที่รักของเรา การลาหยุดพักงานเพื่อไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยงจึงมีความสำคัญเช่นเดียวกัน</p>
<p>เพื่อให้การลาหยุดพักงานเพื่อไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยงแพร่หลายมากขึ้น องค์กรจำเป็นต้องมีทรัพยากรและการฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสนับสนุนพนักงานที่กำลังเผชิญกับการสูญเสียสัตว์เลี้ยง ซินเนอร์เชื่อว่า ผู้จัดการไม่ได้รับการเตรียมพร้อมอย่างเพียงพอที่จะเข้าใจและตอบสนองความต้องการทางด้านจิตใจและอารมณ์ของเพื่อนร่วมงานได้อย่างแท้จริง พนักงานควรได้รับการสนับสนุนอย่างไร? "การพูดคุยกันแบบตัวต่อตัว ถามพนักงานของคุณว่า คุณเป็นอย่างไรบ้าง?" เธอแนะนำ</p>
<p>เมื่อพิจารณาว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ มองสัตว์เลี้ยงเป็นแหล่งความสบายใจที่พึ่งพาได้ มักจะหาสัตว์เลี้ยงมาอยู่ใกล้ ๆ เวลาเครียด รู้สึกมีความสุขที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย และคิดถึงสัตว์เลี้ยงเมื่ออยู่ห่างกัน การไว้อาลัยสัตว์เลี้ยงจึงอาจเป็นเรื่องที่ยากกว่าเดิม การแค่ถามพนักงานของคุณว่าเป็นอย่างไรบ้าง อาจมีค่ามากสำหรับคนที่กำลังเผชิญกับการสูญเสียสัตว์เลี้ยงแสนรัก</p>
<p>แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่ใช่ทุกคนที่สะดวกใจในการแสดงความรู้สึก ซินเนอร์แนะนำว่า "ส่งอีเมล ส่งข้อความใน Slack ส่งข้อความ เป็นการสื่อสารว่า 'เฮ้ ฉันเดาว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องคุยกับฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ฉันแค่อยากให้คุณรู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้เพื่อคุณ' หรือ 'ฉันหวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย'"</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ความโศกเศร้าในสถานที่ทำงาน</span></h2>
<p><img alt="" src="https://blackwhite.pictures/media/c/1905/puppy-animal-pet-portrait-nose-golden-1124.jpg" /></p>
<p>สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การพิจารณาการอบรมเกี่ยวกับวิธีที่ผู้จัดการสามารถพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานได้ เมื่อพวกเขาเปิดใจเกี่ยวกับความโศกเศร้า มันเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าจะตอบสนองอย่างไรเมื่อเพื่อนร่วมงานกำลังประสบกับการสูญเสีย</p>
<p>ซินเนอร์กล่าวเสริมว่า "การฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการตอบสนองเมื่อพนักงานแจ้งข่าวร้ายกับคุณนั้น มีประโยชน์อย่างมาก เมื่อใครบางคนพูดว่า 'โอ้ พระเจ้า! สุนัขของฉันเพิ่งตาย ฉันเสียใจมาก ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำงานวันนี้ได้ไหม' แม้แต่การสอนให้ผู้จัดการหยุดสักพัก หายใจ ฟังข้อมูล รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น จากนั้นค่อยตอบสนองอย่างใจเย็น [เป็นสิ่งสำคัญ]"</p>
<p>เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนที่เคยประสบกับความโศกเศร้าจากการสูญเสียสัตว์เลี้ยง ยังเคยประสบกับความโศกเศร้าที่สังคมมักจะมองข้าม หรือความโศกเศร้าที่สังคมมักจะเพิกเฉย (disenfranchised grief) พนักงานไม่ควรต้องรู้สึกอับอายหรือไม่มั่นใจในการสื่อสารกับนายจ้างเกี่ยวกับความโศกเศร้าและความต้องการของตนเองเมื่อสูญเสียสัตว์เลี้ยง</p>
<p>"และความจริงก็คือ มันเป็นความเจ็บปวดที่แท้จริง และการพูดถึงมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่มีวันไหนที่เป็นความทรงจำเลวร้าย มันคือความรักที่ไม่หวังผลตอบแทน" ซินเนอร์ กล่าว "และสัตว์เลี้ยงนั้นสามารถเข้าไปอยู่ในส่วนลึกของหัวใจคุณได้จริงๆ ในแบบที่คุณจะไม่ไว้ใจให้มนุษย์คนไหนเข้าไป"</p>
<p>การสูญเสียสัตว์เลี้ยงเป็นความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ไม่ควรละเลย สำหรับซินเนอร์ สัตว์เลี้ยงของเธอไม่ได้เป็นแค่ "เจ้าตัวขนฟู" เลย พวกมันคือลูก ๆ ของเธอเลยทีเดียว</p>
<p>ในหนังสือเล่มใหม่ของเธอ "สัตว์เลี้ยงคือครอบครัว" (Pets Are Family) ซินเนอร์ เน้นย้ำว่า เหตุใดนายจ้างจึงควรลงทุนกับสุขภาพจิตของพนักงาน และพวกเขาสามารถนำนโยบายต่าง ๆ เช่น การลาหยุดพักงานเพื่อไว้ทุกข์สัตว์เลี้ยง มาใช้ได้อย่างไร ตลอดทั้งเล่ม ซินเนอร์ เล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวของเธอเอง ในการต่อสู้กับความโศกเศร้าจากการสูญเสียสัตว์เลี้ยงแสนรักของเธอ</p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
Rise Of Pet Bereavement: Should Employees Have Time Off To Mourn Beloved Animals? (Jenny Somers, StudyFinds, 16 February 2024) (https://studyfinds.org/pet-bereavement-employees-time-off-to-mourn-animals/)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">รายงานพิเศษ[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-category field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สังคม[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">แรงงาน[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">คุณภาพชีวิต[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-tags field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สัตว์เลี้ยง[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สวัสดิการ[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%94" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">วันหยุด[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108495