[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
11 พฤษภาคม 2567 03:57:31 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญจภีรุกชาดก  (อ่าน 1315 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5478


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 22 มีนาคม 2563 17:31:53 »


ภาพวาดพุทธประวัติ โดย อ.คำนวน ชานันโท
ขอขอบคุณที่มาภาพ เว็บไซต์pinterest.com

ปัญจภีรุกชาดก  

กุสลูปเทเส ธิติยา ทฬฺหาย จาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน
วิหรนฺโต อชปาลนิโคฺรเธ มารธีตุปฺปโลภนสุตฺตนฺตํ อารพฺภ กเถสิ ฯ

--------------------

พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงพระปรารภพระสูตรว่าด้วยการประโลมแห่งมารธิดา ณ อชปาลนิโครธ ตรัสเรื่องนี้มีคำเริ่มต้นว่า กุสลูปเทเส ธิติยา ทฬฺหาย จ ดังนี้

เรื่องพิสดารมีว่า ในกาลที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระสูตรนั้นตั้งแต่ต้นจนจบบริบูรณ์ อย่างนี้ว่า นางตัณหา นางอรดีและนางราคา ล้วนแพรวพราวพากันมา พระศาสดาทรงกำจัดนางเหล่านั้นไปเสีย เหมือนลมพัดปุยนุ่นที่หล่นลงกระจายไปฉะนั้น พวกภิกษุพาประชุมธรรมสภา ตั้งเรื่องสนทนากันว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้ทรงลืมพระเนตรแลดูพวกมารธิดาอันจำแลงรูปทิพย์หลายร้อยอย่างแล้วเข้าไปหาเพื่อจะเล้าโลม  โอ ธรรมดาว่าพระพุทธพลน่าอัศจรรย์  พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันการที่ไม่แลดูพวกมารธิดาของเรา ผู้ทำให้อาสวะทั้งหมดสิ้นไปแล้ว บรรลุความเป็นพระสัพพัญญูแล้ว ในบัดนั้นน่ะ  ไม่น่าอัศจรรย์เลย ที่จริงในครั้งก่อน เรากำลังแสวงหาพระโพธิญาณ มิได้ทำลายอินทรีย์ทั้งหลายเสีย แลดูแม้ซึ่งรูปทิพย์ที่พวกนางยักษิณีพากันนิมิตไว้ด้วยอำนาจกิเลส ทั้งที่เรายังมีกิเลส ไปจนบรรลุถึงความเป็นมหาราชได้ แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ ณ พระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระโอรสองค์เล็กที่สุด มีพระพี่ยาเธอตั้ง ๑๐๐ องค์  ความพิสดารทั้งหมด มีนัยดังกล่าวแล้วในตักกสิลชาดกนั้นแล  แปลกแต่ว่าในครั้งนั้น เมื่อชาวเมืองตักกสิลาเข้าไปอัญเชิญพระโพธิสัตว์ ณ ศาลาภายนอกพระนคร มอบถวายราชสมบัติ กระทำการอภิเษกแล้ว ชาวตักกสิลานคร พากันตกแต่งพระนครเหมือนเมืองสวรรค์ ตกแต่งพระราชนิเวศน์เหมือนวิมานอินทร์  ปางเมื่อพระโพธิสัตว์เสด็จเข้าพระนครแล้ว เสด็จขึ้นสู่บัลลังก์รัตน์ ภายใต้เศวตฉัตรในท้องพระโรงหลวง ในพระปราสาทอันเป็นพระราชสถาน ประทับนั่งด้วยลีลาศประหนึ่งท้าวเทวราชา ฝูงอำมาตย์ พราหมณ์ คหบดี และขัตติยกุมาร ต่างแต่งองค์ทรงเครื่อง แวดล้อมเฝ้าโดยขนัด นางบำเรอประมาณหมื่นหกพันนาง ล้วนแน่งน้อย เปรียบได้กับเทพอัปสร ทุกนางต่างฉลาดในการฟ้อนรำ ขับร้อง และบรรเลง  สมบูรณ์ด้วยความพริ้งเพราอย่างสูงสุด  พากันประกอบการฟ้อนรำขับร้องและบรรเลง   พระราชวังได้ครื้นเครงทั่วกัน ด้วยเสียงขับร้องและบรรเลงเพลง ประหนึ่งท้องมหาสมุทรที่กำลังคนองคลื่นเบื้องหน้า แต่เมฆฝนตกกระหน่ำแล้ว  พระโพธิสัตว์ทอดพระเนตรดูศิริเสาวภาคอันบรรลุแก่พระองค์นั้น ทรงดำริว่า ถ้าเราจักดูแลรูปทิพย์ที่นางยักษิณีเหล่านั้นจำแลงเสียแล้วละก็ เราคงถึงสิ้นชีวิตไปแล้ว คงไม่ได้ดูศิริเสาวภาคนี้ดอก แต่เพราะเราตั้งอยู่ในโอวาทของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย ศิริโสภาคนี้จึงบรรลุแก่เรา  ครั้นทรงดำริฉะนี้แล้ว เมื่อจะทรงเปล่งพระอุทาน ได้ตรัสพระคาถานี้ว่า


กุลสูปเทเส  ธิติยา  ทฬฺหาย  จ
อวตฺถิตตฺตา  ภยภีรุตาย
น  รกฺขสีนํ  วสมาคมิมฺห
ส  โสตฺถิภาโว  มหตา  ภเยน  เม

แปลว่า เราไม่ลุอำนาจแห่งพวกนางรากษส เพราะเด็ดเดี่ยวมั่นคงในคำชี้แจงของท่านผู้ฉลาด และเพราะไม่หวาดหวั่นต่อความเป็นภัย และความสยดสยองสวัสดิภาพจากภัยอันใหญ่หลวงนั้น จึงมีแก่เรา ฯ

มีอรรถาธิบายว่า เพราะความเด็ดเดี่ยวมั่นคง คือเพราะความเพียรอันเด็ดขาดแน่นอน ในคำชี้แจงของท่านผู้ฉลาดทั้งหลาย คือในโอวาทของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย และเพราะไม่หวาดหวั่นต่อภัยเล็กน้อยที่ทำจิตต์ให้สะดุ้ง ทั้งต่อภัยใหญ่ที่ทำให้ร่างกายสวั่น หมายความว่าภัยแม้ทั้งสองถึงจะเป็นอารมณ์ที่น่าสยดสยองว่า ขึ้นชื่อว่ายักษิณีเหล่านี้มักกินมนุษย์ทั้งนั้น เพราะความไม่หวาดหวั่นสยดสยองเสียเลย คือถึงจะเห็นอารมณ์ที่น่าสยดสยอง ก็ไม่ยอมท้อถอย  จึงไม่ต้องมาสู่อำนาจแห่งนางรากษสเหล่านั้น ในทางอันกันดารด้วยยักษ์ ท่านกล่าวความข้อนี้ไว้ว่า เราได้มีความเด็ดเดี่ยวมั่นคงแล้วในคำชี้แจงแห่งท่านผู้ฉลาด และเราได้มีสภาวะไม่ถอยหลัง เพราะไม่มีความกลัวและความหวาดเสียว เหตุใด เหตุนั้นเราจึงไม่มาสู่อำนาจของพวกรากษส ดังนี้ สวัสดิภาพ คือความเกษมจากภัยอันใหญ่หลวง คือจากทุกข์โทมนัสที่เราต้องประสบในสำนักของพวกนางรากษส ของเรานั้น ก็คือความมีปีติโสมนัสอย่างเดียวนี้เกิดแล้วแก่เราในวันนี้ ฯ

พระมหาสัตว์ทรงแสดงธรรมด้วยพระคาถานี้ ด้วยประการฉะนี้ ทรงครองราชสมบัติโดยธรรม บำเพ็ญบุญมีให้ทานเป็นต้น เสด็จไปตามยถากรรม ฯ

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า เราตถาคต ได้เป็นราชกุมารผู้ไปครองราชย์สมบัติ ณ กรุงตักกสิลา ในครั้งนั้นแล ฯ


จบปัญจภีรุกชาดก  

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.281 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 06 พฤษภาคม 2567 06:30:55