...
วิหารเทพวิทยาคม เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา (อาคารปริสุทธปัญญา)
ชั้นบนสุดของหลังคาพระวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลา และรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
(ซูมจากภาพถ่าย คิดว่าน่าจะใช่พระพุทธรูปปางลีลา)
จุดเด่นสำคัญของวัดบ้านไร่ คือ
วิหารเทพวิทยาคม อุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาดใหญ่
สร้างเสร็จในปี ๒๕๕๔ ลักษณะเป็นอาคารประติมากรรมช้าง ตั้งอยู่บนพื้นที่บึงน้ำขนาด ๓๐ ไร่
เป็นอาคารสูง ๕ ชั้น รวมชั้นใต้ดิน (ชั้นบาดาล) และชั้นดาดฟ้า อาคารตั้งอยู่บนลานทรงกลมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๖๕ เมตร
จัดเป็นพุทธสถานในนิกายเถรวาทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในเอเชีย
พระวิหารแห่งนี้ สร้างขึ้นตามเจตนารมณ์ของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่
โดยมีวัตถุประสงค์เป็นศูนย์กลางการสืบสานและเผยแผ่แก่นคำสอนของพระพุทธศาสนา นั่นก็คือ “พระธรรม”
รวมทั้งปริศนาธรรมต่างๆ ผ่านงานศิลปะกระเบื้องเซรามิกชิ้นเล็กๆ กว่า ๒๐ ล้านชิ้น แฝงอยู่ทั่วพระวิหาร
โดยอาศัยแรงงานชาวบ้านเป็นผู้ติดอย่างละเอียดด้วยจิตศรัทธาและสมาธิ เพราะ ๑ วัน ๑ คน
สามารถติดเซรามิกโมเสกชิ้นเล็กที่สุดเท่าเม็ดถั่วเขียวได้เพียงไม่เกิน ๑ ตารางเมตร
ตัวเสาค้ำพระวิหาร เพนท์เซรามิกบอกเล่าเรื่องราวชาดก ๕๓๗ ชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หลังคาพระวิหารออกแบบเป็น ๖๔ กลีบ แทนทิศทั้ง ๖๔ ที่พระบารมีของพระพุทธเจ้าแผ่กระจายออกไป
ภายในวิหารถูกออกแบบให้เป็น
มหาวิหารแห่งพระไตรปิฎก เป็นที่รวบรวมพุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอน
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ทั้งหมด เพื่อจรรโลงพระศาสนาให้เป็นไปตามพุทธบัญญัติ
ที่นี่จึงเป็นสถานที่แห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่นำเอาพระไตรปิฎกมาแสดงและให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป
ก่อนข้ามสะพานไปยังพระวิหาร ที่หัวสะพานมีรูปปั้นพญานาค ๑๙ เศียร ๒ ตัว
รวมกันจะได้ ๓๘ เศียร สื่อความหมายถึง "มงคล ๓๘ ประการ"
อันเป็นคุณธรรมที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ ที่ใครปฏิบัติตามย่อมเป็นเหตุนำมาซึ่งความสุข ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
'มุมสวย' พญานาค ๗ เศียร ในสระน้ำข้างวิหารเทพวิทยาคม