ถามมา - ตอบไป

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/1857dc4f.jpg

ถามมา - ตอบไป

สัตว์โลกต่างมีเป้าหมาย เพื่อ ความพ้นทุกข์ ทั้งสิ้นแต่การหาทางดับทุกข์ จะทำได้แค่ไหนขึ้นกับ ความรู้ เป็นสำคัญ
รู้ แค่กายมนุษย์หยาบ ก็หาความสุขทางกาย เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ ความสุขที่จะสนอง need ของกายมนุษย์ เป็นที่สุด
ใครที่แสวงหาสิ่งเหล่านี้ได้มาก ก็ได้รับการนับหน้าถือตา ว่ามีความสามารถ
หากรู้ว่าเรามิได้มีแค่กายมนุษย์หยาบ คือเชื่อว่าเราตายไปแล้วยังมีโลกหน้า คราวนี้ต้องรู้โลกให้แจ่มแจ้งมากขึ้น
รู้ ถึงกายฝัน กายสัมภเวสี ก็ไปเชื่อ ไปเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ทรงจ้าวเข้าผี
รู้ สุดถึงสวรรค์ ก็ปรารถนาจะไปอยู่กับพระเจ้าในสรวงสวรรค์
รู้ สุดถึงพรหม อรูปพรหม ก็มีความเชื่อเรื่องพระอิศวร พระศิวะ ฯลฯ
พุทธศาสนารู้ถึงนิพพาน ชาวพุทธก็อยากจะไปนิพพาน เพื่อให้พ้นการเวียนว่ายตายเกิด(ในภพ3) เพราะรู้ว่าการไปสวรรค์ หรือพรหม ก็ยังไม่มั่นคง ยังต้องตาย และกลับมาเวียนว่ายตายเกิดได้อีก แต่ผู้ที่เชื่อในนิพพาน กลับมีความเห็นเรื่องนิพพานไม่ตรงกัน มีข้อโต้แย้งจากการตีความในพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นความรู้ทางปริยัติ มาถกเถียงกัน
สายอื่นเชื่อเรื่องนิพพานว่าเป็นสูญ เป็นอนัตตา นึกสภาพคล้ายหลับ แล้วไม่ต้องตื่นอีกเลย ไม่มาเวียนตายเวียนเกิดอีกเลย เชื่อว่าสภาพนี้คือ ความสุขความพ้นทุกข์ ถาวรสุดยอด
สายธรรมกายเชื่อว่า นิพพานเป็นอีกภพภูมิหนึ่งซึ่งไกลจากภพ3 ไปถึงแล้วไม่กลับมาเวียนตายเวียนเกิดในภพ3อีก เป็นสุขนิรันดร์อยู่ที่นั่น
แต่ต่าง...........ก็เชื่อว่ากายมนุษย์ตกอยู่ในไตรลักษณ์คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
อันนี้ต้องดูให้ดี เรารู้ไปไกลก็จริง แต่ความเห็นยังอยู่แค่กายมนุษย์ มองเห็นความเป็นไตรลักษณ์ในกายมนุษย์ แต่ยังไม่เห็นไตรลักษณ์ หรือไม่ใช่ไตรลักษณ์ในภพภูมิอื่นมันจะต้องมีความเชื่อสุดท้ายอันหนึ่งที่ถูก คงถูกทั้งคู่ไม่ได้ เพียงแต่แนวทางตอนแรกๆ เท่านั้นที่เราตรงกัน
เอาเป็นว่าสุดท้ายเราเลือกพุทธศาสนาก็แล้วกัน.................................

<a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma" target="_blank">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma</a>