ข้อมูลอีกด้านจาก "ศิลปวัฒนธรรม" เสานี้ไม่แน่ในว่าเสาอะไร มีผ้าหลากสีผูกลักษณะคล้ายหลักเมือง อยู่ข้างองค์เจดีย์
แผ่นหินลักษณะคล้ายใบเสมาตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าเสา
เจดีย์ที่ไม่มีใครรู้จัก กลายเป็น “เจดีย์ยุทธหัตถี” เพราะ “รีบสรุป” ก่อนศึกษาในจารึกสุโขทัยหลักที่ 1 (ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าสร้างขึ้นในยุคสมัยใดแน่) มีความตอนหนึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์
เมื่อครั้งที่ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดยกทัพมาตีเมืองตาก พ่อขุนรามคำแหงซึ่งสมัยนั้นมีพระชนม์ได้ 19 พรรษา ได้เสด็จร่วมทัพ
ของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ด้วย และเป็นผู้ไสช้างเข้าช่วยพระราชบิดา เอาชนะขุนสามชนได้ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
จึงพระราชทานนามให้พระองค์ว่า “พระรามคำแหง”
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คนยุคหลังนำไปผูกเรื่องว่า เจดีย์องค์หนึ่งในอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก จะต้องสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ
ให้กับพ่อขุนรามคำแหงเป็นแน่ และพากันเรียกเจดีย์องค์ดังกล่าวว่า เจดีย์ชนช้าง หรือเจดีย์ยุทธหัตถีของพ่อขุนรามคำแหง
แต่ความเชื่อดังกล่าวของชาวบ้านเพิ่งจะมีขึ้นได้ไม่ถึงร้อยปี ดังที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงกล่าวถึงเจดีย์องค์นี้
หลังเสด็จไปเมืองเชียงใหม่เมื่อ พ.ศ. 2464 และได้แวะทอดพระเนตรเมืองเก่าของตาก ว่า
“มีของสำคัญอยู่ที่เมือกตากเก่าอย่าง ๑ คือมีพระเจดีย์เหมือนอย่างแบบสุโขทัยสร้างไว้บนยอดดอยองค์ ๑
สูงสัก ๑๐ วา ยังอยู่บริบูรณ์ดี พวกชาวเมืองไม่รู้จักเรียกกันว่าพระปรางค์ และไม่มีใครรู้ว่าใครสร้าง”
และเป็นพระองค์เองที่ทรงสันนิษฐานว่า มูลเหตุการสร้างเจดีย์องค์นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชนช้างในครั้งนั้น ดังความในลายพระหัตถ์
ของพระองค์ที่มีไปถึงสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ว่า เจดีย์ดังกล่าว
“ได้รูปและสัณฐานเหมือนพระเจดีย์องค์กลาง ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงสร้างไว้ในวัดเจดีย์เจ็ดยอดแถวเมืองศรีสัชนาลัย
และพระเจดีย์ที่วัดตระพังเงินเมืองสุโขทัยไม่มีผิด ลายปั้นหน้าราหูยังอยู่ดีบริบูรณ์ดี สันนิษฐานว่า
น่าจะเป็นพระเจดีย์สร้างเฉลิมพระเกียรติพ่อขุนรามคำแหงที่ชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดที่เมืองตาก
แต่จะสร้างในรัชกาลไหนข้อนี้สงสัยอยู่ แต่คงในราชวงศ์พระร่วงสร้าง…”
นับแต่นั้นมา ข้อสันนิษฐานของพระองค์ก็กลายเป็น “ข้อเท็จจริง” ที่ผู้คนยึดถือ และเชื่อต่อๆ กันมาว่า
เป็นเจดีย์ที่มีอายุกว่า 700 ปี สร้างขึ้นในสมัยพ่อขุนรามคำแหง