อาณาจักรวรรดิวิชัยนคร : ความมั่งคั่งและความสูญสลาย

(1/1)

Kimleng:
Tweet


จักรวรรดิวิชัยนคร
เป็นจักรวรรดิที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเด็คคาน (มทุไร นาย) ทางตอนใต้ของประเทศอินเดียปัจจุบัน
ก่อตั้งขึ้นโดยพระเจ้าหริหระราชาที่ ๑ และพระอนุชาพระเจ้าบุคคราชาที่ ๑
ภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อาณาจักรวรรดิวิชัยนคร

อาณาจักรวรรดิวิชัยนคร (Vijayanagara Empire) มีอีกชื่อว่า อาณาจักรกรณาฏกะ ตั้งขึ้นในปี พ.ศ.๑๘๗๘ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศอินเดียปัจจุบัน โดยพระเจ้าหริหระราชาที่ ๑ และพระอนุชาพระเจ้าบุคคราชาที่ ๑ ชายพี่น้องสองคนทีมีฝีมือกล้าหาญ    

ราชวงศ์วิชัยนคร เป็นใหญ่ในดินแดนตั้งแต่แม่น้ำกฤษณาลงมาจนตลอดทางใต้  กษัตริย์วงศ์นี้นับถือศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ที่นับถือพระอิศวร นารายณ์เดิม  พระเจ้าแผ่นดินมีพระยศเรียกว่า มหาราชา มีอำนาจอยู่จนถึงปี พ.ศ.๒๑๐๘

วิชัยนครนี้ ว่ากันว่าตั้งที่เมืองกิษกินธ์ (ขีดขิน) โบราณ ตรงที่พระรามทำไมตรีกับสุครีพ ตอนฆ่าพาลีบนฝั่งแม่น้ำปั่มปา (ปัจจุบัน ปั่มปา เรียกเป็น หัมปิ)  ตั้งแต่ราชวงศ์วิชัยนครได้เป็นใหญ่แล้ว ต่างก็เพิ่มพูนอำนาจขึ้นเรื่อยๆ  แล้วก็เกิดรบกันขึ้นในระหว่างราชวงศ์วิชัยนครกับราชวงศ์บาห์มนี   ในปี พ.ศ.๑๙๑๐ สุลต่านโมฮัมเม็ดที่ ๑ ราชวงศ์บาห์มนีได้มีชัยชนะครั้งใหญ่ แต่วิชัยนครก็ยังแข็ง  ถึงสมัยพระเจ้าหริหระ ราชวงศ์วิชัยนคร (พ.ศ.๑๙๔๐) ยิ่งแข็งขึ้นอีก  ปรากฏว่ากษัตริย์องค์นี้ให้สร้างเสาประโคนชัย เรียกว่า ชัยสตัมภ์ ขึ้น ๕๖ เสา ไปปักไว้ตามแคว้นต่างๆ ทั่วไปในราชอาณาจักร ๕๖ แคว้น  

ทางอินเดียใต้ ในระยะต่อมาเป็นเวลาที่ราชวงศ์บาห์มนีหมดอำนาจ  เมื่ออาณาจักรบาห์มนีสลายลงแล้วก็แตกออกเป็น ๕ แคว้น ต่างมีสุลต่านครองเป็นอิสระ   ยังคงมีแต่วิชัยนครแห่งเดียวที่เป็นอาณาจักรมีอำนาจราชศักดิ์ใหญ่โตทางใต้  ตอนวัสโกดากามา ชาวโปรตุเกส แล่นเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮป มาถึงอินเดียเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๐๔๑ เป็นสมัยพระเจ้านรสิงห์ทรงราชย์ในอาณาจักรวิชัยนคร   จึงเป็นที่รู้จักกันดีของพวกโปรตุเกสสมัยนั้น    

วิชัยนครมั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติมหาศาล ศิลปะศาสตร์ต่างๆ เจริญเฟื่องฟู จิตรกรรมและสถาปัตยกรรมได้รับการบำรุงอย่างดีเลิศ นับเป็นอาณาจักรฮินดูที่เด่นที่สุด จบแทบจะกล่าวได้ว่าไม่มีสมัยใดเสมอเสมือน

ถึงปี พ.ศ.๒๐๕๒ พระเจ้านรสิงห์สวรรคต พระเจ้ากฤษเทวราช ได้ครองราชสมบัติ  กษัตริย์พระองค์นี้เป็นกวี ทรงอุปถัมภ์นักปราชญ์ราชบัณฑิต มีพระนิสัยสุภาพอ่อนโยน ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมมั่นคง ทรงบำรุงศาสนาพราหมณ์จนสิ้นราชวงศ์ ทรงบำรุงศาสนาพราหมณ์ลัทธิพระวิษณุเป็นใหญ่  เมื่อทรงทราบว่าอาณาจักรบาห์มนีสลายลงจนสิ้นราชวงศ์ พวกมะหะหมัดแตกแยกกันเป็นหลายพวก ก็ทรงกรีธาทัพใหญ่ซึ่งมีทหารเดินเท้า ๗๐๓,๐๐๐ ทหารม้า ๓๒,๖๐๐ ทหารช้าง ๕๕๑ พรั่งพร้อมด้วยพวกพ่อค้าวาณิชติดตามเข้ากระบวนทัพอีก ๑๐๐,๐๐๐ ตลอดจนหญิงนครโสเภณี และขบวนเครื่องสัมภาระต่างๆ อีกมากมาย เข้าประชิดเมืองพีชปุระที่อยู่ติดอาณาเขตทางต้นลำน้ำกฤษณา   สุลต่านพีชะปุระนำทัพออกต่อสู้แตกทัพยับเยิน  พระเจ้ากฤษณเทวราชได้ชัยชนะแล้วก็ทรงไว้เกียรติศักดิ์ โดยไม่ทำอันตรายข้าศึก พระนามของพระเจ้ากฤษเทวราชนับเป็นเด่นอยู่ในพงศาวดารองค์หนึ่ง

พระเจ้ากฤษณเทวราชสวรรคต ปี พ.ศ.๒๐๗๒ ต่อมาถึงสมัยพระเจ้ารามราช ซึ่งทรงราชย์ พ.ศ.๒๐๘๕  วิชัยนครเคยเป็นคู่ปรับมากับพวกมะหะหมัด ตั้งแต่ครั้งก่อนๆ  ถึง พ.ศ.๒๑๐๘ ก็เกิดสงครามอีก แต่คราวนี้พวกมะหะหมัดรวมกำลังกัน ๔ นคร มีสุลต่านพีชะปุระ สุลต่านอาห์เม็ดนคร สุลต่านคอลดอนคา และสุลต่านบีดาร์ รวมพลเข้าต่อสู้พระเจ้ารามราชที่เมือตะลิโกฏ  วิชัยนครมีกำลังพล ๕๐๐,๐๐๐ น้อยกว่าทัพรวมของฝ่ายมะหะหมัด ก็แพ้พวกมะหะหมัดยับเยิน  พวกมะหะหมัดจับพระเจ้ารามราชได้ก็ตัดพระเศียรเสียที่กลางสนามรบนั้น  ทหารวิชัยนครแตกกระจาย พวกมะหะหมัดไล่ติดตามฆ่าฟันตายลงประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ น้ำในแม่น้ำแดงเป็นสีเลือดไปทั้งแม่น้ำ

จากนั้น กองทัพก็เข้าปล้นนครหลวงแห่งวิชัยนคร ฆ่าฟันชาวเมืองอย่างที่ไม่เอาไว้จนเด็กในผ้าอ้อม ด้วยความมั่งคั่งของวิชัยนคร ปรากฏว่าทหารทั้ง ๔ นคร แต่ละคนได้ทองและเพชรนิลจินดาพร้อมทั้งสิ่งของอื่นๆ หมดทุกคน ไม่มีที่จะไม่ได้ การปล้นเป็นไปอยู่ห้าเดือน จนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือแล้ว  พวกมะหะหมัดก็ทลายโบสถ์ วิหาร ปราสาทราชวัง ทุบต่อยรูปปั้น รูปศิลปวัตถุ แหลกลาญทั่วทุกหนแห่ง ถึงขั้นสุดท้ายก็เดินถือไต้ติดไฟโพลงไปตามถนนสายต่างๆ จุดเผาอะไรที่จะเผาได้ไหม้วินาศย่อยยับเป็นเถ้าถ่านไปทั้งเมือง

นักประวัติศาสตร์ฝรั่งว่าเป็นการทำลายล้างอย่างพินาศฉิบหายโหดร้ายน่าสยดสยองเป็นที่สุด   ดังนี้ วิชัยนครอันเป็นอาณาจักรรุ่งเรืองใหญ่โตของฮินดู ซึ่งตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.๑๘๗๘ ก็เป็นอันสูญไปจากอินเดียใต้อย่างน่าอเนจอนาจในปี พ.ศ.๒๑๐๘


อ้างอิง
     - ภูมิศาสตร์วัดโพธิ์ โดย กาญจนาคพันธุ์ (ขุนวิจิตรมาตรา)
     - วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ