หัวข้อ: เพิ่งรู้ตัวว่า มีวาสนาได้ใกล้ชิดกับ"นิยตโพธิสัตว์"(องค์จริง)มากเพียงไหน.. เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 15 มิถุนายน 2553 20:28:00 "หน่อพุทธวงศ์"ผู้เป็นพระมหาโพธิสัตว์อันประเสริฐที่จะได้ตรัสรู้พระปรมาภิเษกเป็นองค์สมเด็จพระสรรเพชญ์สัมมาสัมพุทธเจ้าแน่แท้มิแปรผัน ตามที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโยมีความเคารพนับถืออย่างยิ่งในเบื้องหน้า แท้จริงแล้วก็คือ พระเดชพระคุณพระราชอุดมมงคลหรือหลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรีนั่นเอง..!!!!!! (http://www.gmwebsite.com/upload/phuttawong.net/webboard/MSG-061022212631115.jpg) "ช่างเป็นบุญเหลือเกิน....ช่างเป็นบุญเหลือเกิน..." (http://www.gmwebsite.com/upload/phuttawong.net/webboard/pics-334.jpg) "หลวงพ่ออย่าทิ้งลูกหลานน๊ะ...หลวงพ่ออย่าทิ้งลูกหลานเน้อ...!?!?" หลวงพ่ออุตตมะกับหลวงปู่บุญมี โชติปาโล พระอริยเจ้าชั้นสูงแห่งวัดสระประสานสุข อุบลราชธานีชุดนี้ "พุทธวงศ์"เป็นผู้บันทึกไว้ด้วยตัวเองเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เมื่อครั้งตามหลวงพ่ออุตตมะไปพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระแก้วครั้งหนึ่ง (http://www.gmwebsite.com/upload/phuttawong.net/webboard/pics-108.jpg) หลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระอรหันตเจ้าผู้ยิ่งด้วยปัญญาแห่งวัดป่าสาลวัน นครราชสีมายังเคยกล่าวรับรองถึงพระผู้เที่ยงแท้ต่อพระโพธิญาณองค์นี้ไว้กับศิษย์หลวงปู่มา วัดสันติวิเวกอย่างน่าตื่นใจเป็นที่สุดว่า "ได้รับพยากรณ์แล้ว และเป็นหนึ่งในอนาคตวงศ์อีกด้วยน๊ะ..!!!???" ซึ่งความลับแห่งฟ้าดินอันสำคัญยิ่งนี้ "พระครูแสวง" ศิษย์เอกหลวงปู่มา วัดสันติวิเวก ร้อยเอ็ด ซึ่งเคยได้เรียนกรรมฐานเพิ่มเติมกับหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้ยินเรื่องนี้จากปากของหลวงพ่อพุธโดยตรงเลยทีเดียว.... (http://www.gmwebsite.com/upload/phuttawong.net/webboard/ts-051.jpg) http://www.phuttawong.net/index.aspx?sp=GMWEB-05113016262100147&id=Webboard (http://www.phuttawong.net/index.aspx?sp=GMWEB-05113016262100147&id=Webboard) หัวข้อ: Re: เพิ่งรู้ตัวว่า มีวาสนาได้ใกล้ชิดกับ"นิยตโพธิสัตว์"(องค์จริง)มากเพียงไหน.. เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 15 มิถุนายน 2553 20:28:31 ”ทำเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้ามากกว่าในปัจจุบัน...”
เรื่องที่เกี่ยวกับ”มโนปรารถนา”บนเส้นทางแห่ง”พุทธภูมิ”ของหลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านได้เคยบอก”เป็นนัย”ไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว (อยู่ที่ว่าใครจะ”ตีความ”ออกหรือไม่เท่านั้น)ตอนที่ท่านไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ถึงวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ก่อนที่หลวงปู่แหวนจะ”นิพพาน”ได้ไม่นาน ซึ่งหลวงปู่แหวนก็ได้ถามหลวงพ่ออุตตมะถึงการ”ปฏิบัติ”ว่า เป็นเช่นไร หลวงพ่ออุตตมะก็ได้แต่กราบเรียนหลวงปู่แหวนไปอย่าง”ตรงๆ”ว่า ”ปฏิบัติ”อัตหิต”น้อย ปรหิตมาก” แปลความแบบง่ายก็คือ ”ทำเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้ามากกว่าในปัจจุบัน...” หรือหากจะให้เข้าใจง่ายที่สุด ก็ต้องว่า ”ไม่ได้เอามรรคผลนิพพานส่วนตัวในชาตินี้หรอก แต่หวังไปสำเร็จพุทธภูมิเพื่อส่วนรวมในอนาคตมากกว่า” ก็ว่าได้นั่นแล ช่างสมกับที่ท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ก็ยังเคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนหลวงพ่ออุตตมะถึงวัดวังก์วิเวการาม เมื่อสามสิบกว่าปีก่อนพร้อมกับกล่าวสรรเสริญไว้อย่างสูงยิ่งครั้งหนึ่งเสียจริงๆที่ว่า ”หลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ มีบารมีมากล้น แม้ชาตินี้ หากท่านต้องการ.... ท่านก็สามารถถอยจิตมาเจริญกรรมฐาน สำเร็จพระอรหันต์ได้ในทันทีเลยทีเดียว.....” แต่...... (http://www.gmwebsite.com/upload/phuttawong.net/webboard/DSC07529.gif) ”หลวงพ่ออุตตมะท่านยังไม่เอาหรอกนะ...!?!!”และเมื่อเรื่องนี้ได้แพร่งพรายไปถึงหูเพื่อนธรรม บางคนอดรนทนเก็บความสงสัยไว้มิได้ ถึงกับบุกไปถามหลวงพ่อท่านตรงๆเลยทีเดียวว่า ”หลวงพ่อปรารถนาพุทธภูมิหรือครับ...??” ”อือ..อือ..”หลวงพ่ออุตตมะตอบเรียบเฉยที่สุดเหมือนไม่อยากจะอวดอ้างใดๆ ”แล้วหลวงพ่อบำเพ็ญแนวไหน ปัญญา ,ศรัทธาหรือวิริยะขอรับ....” ”วิริยะ..วิริยะ....” หลวงพ่อ”อุตตมรัมโภ”(ผู้มีความพากเพียรสูงสุด)วิสัชนา หมายเหตุ, คงจะต้องขออธิบายความเพิ่มเติมสักเล็กน้อยว่า ในการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ เพื่อการได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระโพธิสัตว์แต่ละองค์จะต้องบำเพ็ญบารมี 30 ทัศ ใน 3 ระดับชั้น ตาม”จริต”และ”อุปนิสสัย”แห่งตนดังนี้คือ 1. พระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งด้วยปัญญา(ความเฉลียวฉลาด) บำเพ็ญบารมีไวที่สุด ด้วยระยะเวลาเพียง 20 อสงไขย กำไรแสนมหากัป ก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(พระปัญญาธิกะพุทธเจ้า)ได้ อย่างเช่น พระสมณโคดมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันของเราพระองค์นี้เป็นต้น 2.พระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งด้วยศรัทธา(ความเชื่อความเลื่อมใส) บำเพ็ญบารมีปานกลาง ใช้ระยะเวลารวม 40 อสงไขยกำไรแสนมหากัป ก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(พระสัทธาธิกะพุทธเจ้า)ได้ อาทิเช่น พระกกุสันธะพุทธเจ้า,พระโกนาคมพุทธเจ้า,พระกัสสปพุทธเจ้า เป็นต้น 3.พระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งด้วยความวิริยะ(ความพากเพียร) บำเพ็ญบารมีนานที่สุด มากที่สุด ถึง 80 อสงไขย แสนมหากัป จึงจะสามารถตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(พระวิริยาธิกะพุทธเจ้า)ได้ มีพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้าในอนาคตกาลเป็นต้น ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่รู้แน่ได้อย่างหมดข้อสงสัยว่า หลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านก็บำเพ็ญ”โพธิสัตว์บารมี”ในระดับเดียวกับ”พระศรีอริยเมตไตรย” คือเป็นแบบ”วิริยาธิกะ” อันยิ่งด้วย”ความพากเพียร”นั่นเอง ช่างน่าอนุโมทนาสาธุการอย่างที่สุดโดยแท้แล้ว....และหนึ่งในคำถามยอดนิยมของวงการพุทธศาสนิกชน เกี่ยวกับผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิก็คือ "ได้รับพุทธพยากรณ์แล้วหรือยัง..??" ถ้าคำตอบมีว่า "ยัง" ก็เรียกได้ว่า "ยังไม่แน่นอน" อาจถอนความปรารถนา ถอยมาเป็น"สาวกภูมิ" เข้านิพพานเฉพาะตัวได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าคำตอบมีว่า "ได้รับพุทธยากรณ์"แล้ว ก็มั่นใจได้เต็มร้อยว่า "ต้องได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่ๆ.." ไม่มีการถอนคืนหรือเปลี่ยนแปรเป็นอื่นได้อย่างเด็ดขาดและสิ้นเชิง เพราะคำพูดของพระพุทธเจ้า"เป็นหนึ่งไม่มีสอง"ดังนี้ฯ และสำหรับหลวงพ่ออุตตมะ จะเป็นพระโพธิสัตว์ระดับใดนั้น "การันตี"ที่ฟันธงไหน ก็ไม่เท่ากับที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมาเคยตอบตรงแบบไม่มีอ้อมไว้ก่อนมรณภาพไม่นานว่า "หลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว...!!!" และที่น่าตื่นใจที่สุดก็คือ "หลวงพ่ออุตตมะเป็นหนึ่งในสิบแห่งอนาคตวงศ์อีกด้วย..!!!!????!!!!" (http://www.dhammajak.net/board/files/paragraphparagraph_135.jpg) สรีระของหลวงพ่ออุตตมะในปราสาทเก้ายอด ณ วัดวังก์วิเวการาม http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-080630120528075 (http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-080630120528075) |