13 พฤษภาคม 2567 13:31:44
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
.:::
ชำระหนี้สงฆ์ หลวงพ่อฤาษีฯ
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ชำระหนี้สงฆ์ หลวงพ่อฤาษีฯ (อ่าน 4269 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20
ชำระหนี้สงฆ์ หลวงพ่อฤาษีฯ
«
เมื่อ:
12 กุมภาพันธ์ 2554 16:38:53 »
Tweet
ชำระหนี้สงฆ์
โดย
หลวงพ่อฤาษีฯ
ต่อไปนี้ก็จะขอนำเรื่อง
การชำระหนี้สงฆ์พร้อมทั้งตัวอย่าง
ซึ่งจัดว่าเป็น
เกร็ดความรู้
ที่ได้ประสบมาเอง
มาเล่าให้ฟังเผื่อจะ
เป็นประโยชน์
แก่ท่านทั้งหลาย
จะได้นำไป
ประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง
อีกทั้งจะได้เป็น
เครื่องป้องกันตัวเองและผู้อื่น
ไม่ให้กระทำความชั่วต่างๆ
ที่เกี่ยวกับของสงฆ์อีก
ทั้งนี้ก็เพราะว่า ของทุกอย่างที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมบัติของสงฆ์แล้ว จะเป็นสิ่งของ หรือวัตถุเครื่องใช้อะไรก็ตาม
จะมีราคามากหรือน้อยก็ตาม ผู้ที่นำไปใช้โดยพละการหรือทำสิ่งของเหล่านั้นเสียหายจะต้องนำ
สิ่งของเหล่านั้นมาทดแทนให้เหมือนเดิม ไม่เช่นนั้น
จะทำให้
ผู้ล่วงละเมิด
ลงสู่อเวจีมหานรก
ได้โดยง่าย
ในสมัยนี้ จะหาบุคคล
ที่เล่าเกี่ยวกับ
การชำระหนี้สงฆ์นี่ยากเต็มที
พระขนาดไหนก็ตาม
ไม่ค่อยจะมีใครพูดกัน
เทศน์ก็ไม่เคยฟัง
ได้ฟังอยู่สำนักเดียว
คือสำนักของหลวงพ่อปาน
เท่านั้น หลวงพ่อปานนี่ท่านพูดถึง
การชำระหนี้สงฆ์ทุกปี
พอขึ้นปีใหม่หรือเข้าพรรษาใหม่ๆ
ท่านก็ประกาศขอซื้อของสงฆ์
คำว่าซื้อของสงฆ์นี่
ท่านซื้อไม้ไผ่ ซื้อผลไม้ ซื้อดอกไม้ที่มีในวัดทั้งหมด
ปีละ ๑๐๐ บาท ในสมัยนั้น
ค่าของเงินสูงมาก
ท่านขอซื้อไว้ทั้งหมด
ในเมื่อ
พระสงฆ์สาธุ
ท่านจะมอบเงิน
จำนวนนั้นเป็นสมบัติของสงฆ์ เป็นสิทธิ
ของสงฆ์ที่จะพึงใช้
จะใช้ได้ก็ต้องเอาเงินจำนวนนั้นไปใช้ในการก่อสร้าง หรือบำรุงสงฆ์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านจะชวนพระชำระหนี้สงฆ์
ตัวท่านเอง
ก็ชำระหนี้สงฆ์เหมือนกัน
คราวนี้มาว่ากันถึงการซื้อของสงฆ์หรือชำระหนี้สงฆ์ก่อน ท่านทั้งหลายอาจสงสัยว่า ของต่างๆที่เป็นสิ่งก่อสร้างก็ดี วัสดุเครื่องใช้ต่างๆก็ดี หรือต้นไม้ใบหญ้าก็ดี ของที่อยู่ในวัดทั้งหมดถ้าหากเรารื้อหรือนำเอาไปใช้แล้วเกิดชำรุดเสียหาย ทำไมเราจะต้องสร้างแทนของเดิม ทั้งนี้เพราะทรัพย์สินต่างๆที่เขาสร้างไว้ในวัด เขาไม่สร้างให้พระองค์ใดองค์หนึ่ง
เขาสร้างถวายบูชาพระพุทธเจ้า
คำว่าของสงฆ์นี่นะ ต้องหมายถึงพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
เป็นของส่วนกลาง
ไม่มีใครหรอกที่จะถือสิทธิว่าเป็นของฉัน
จะมาชี้ว่า
สมบัตินี่เป็นของฉัน เป็นของส่วนตัว
ถ้าทำอย่างนั้นจะต้องลง
นรก
หมด
เรื่องนรกนี่เขาไม่เว้นใครหรอก
หลวงพ่อปานซื้อของสงฆ์เพราะของเหล่านี้มันอยู่ในวัด ท่านเป็นประมุขของวัด ความจริงถ้าเราจะคิดกันอย่างเราๆก็คิดว่า
ท่านควรมีสิทธิ ท่านจะให้ใครก็ได้
ท่านจะกินจะใช้อย่างไรก็ได้ แต
่ทว่าพระวินัยแล้ว
ไม่มีสิทธิ ของในวัดถ้าพระองค์ไหนปลูกไว้ถ้าเขาสึกแล้วก็ตาม เขาตายแล้วก็ตาม ของเหล่านั้นเป็นของสงฆ์ ถ้าหากเขายังบวชอยู่
เขามีอำนาจให้ใครก็ได้ กินเองก็ได้
ถ้าหากว่าเขาตายหรือสึกไปแล้ว พระองค์ใดองค์หนึ่ง
จะถือเป็นทายาท
กินเองก็ดี ใช้เองก็ดี ทำอย่างนั้นไม่ได้
เพราะเป็นของสงฆ์เสียแล้ว
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20
Re: ชำระหนี้สงฆ์ หลวงพ่อฤาษีฯ
«
ตอบ #1 เมื่อ:
12 กุมภาพันธ์ 2554 16:55:48 »
เวลาจะกินจะใช้
ก็ต้องประชุมสงฆ์ สงฆ์ ทั้งหมดต้อง ประชุมอนุมัติว่า เราจะกินจะใช้ของประเภทนี้ด้วยวิธีการอย่างไร
ถ้าหากว่าพระองค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม เด็กก็ตาม ฆราวาสก็ตาม
กรรมการวัดก็เถอะ
ไปถือสิทธิ์
ว่าฉันเป็นเจ้าหน้าที่ในวัด
จะกินลูกไม้ลูกไหนก็ได้ จะเด็ดดอกไม้ดอกไหนก็ได้ จะโค่นต้นไม้ต้นไหนก็ได้ ไม้ลำไหนก็ได้ หน่อไม้หน่อไหนก็ได้ เอามากินมาใช้ส่วนตัว
โดยที่สงฆ์
ไม่ลงมติ
อนุมัติ อย่างนี้มีโทษไป
อเวจี
มหานรก
แน่
วิธีการของหลวงพ่อปาน
ท่านซื้อของสงฆ์ ท่านซื้อแบบไหน ท่านบอกว่าต้นไม้ก็ดี
ต้นเล็กๆไม่ใช่โค่นต้นใหญ่นะ
ไม้ลำหรือไม้หน่อ
บางส่วนไม่ใช่ทั้งหมด
เป็นเพียงส่วนเล็กน้อย หรือว่าลูกไม้ก็ตาม ดอกไม้ก็ตาม
ถ้าใครจะเด็ดเอาไปดมเอาไปบูชา ท่านบอกว่าส่วนเล็กน้อยประเภทนี้ ฉันขอซื้อของสงฆ์ด้วยจำนวนเงิน ๑๐๐ บาท
เพื่อป้องกันโทษของบุคคลผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์
พระสงฆ์ก็สาธุ
เป็นอันว่า เด็กก็ดี ผู้ใหญ่ก็ดี ที่ได้กินมะม่วงบ้าง ฝรั่งบ้าง ผลไม้ที่มีอยู่ในวัดมีอยู่เยอะ ใครอยากกินอะไรก็เอามากินได้ตามชอบใจเพราะหลวงพ่อปานท่านซื้อแล้ว
พอท่านซื้อท่านก็ให้สิทธิ์อนุญาต
อย่างนี้เอาไปกิน เอาไปใช้ได้
เรื่องชำระหนี้สงฆ์ พอถึงวันเข้าพรรษาคนทำบุญมาก ท่านก็ประกาศแก่คนทุกคนว่าใครจะชำระหนี้สงฆ์บ้าง
ของสงฆ์ตกอยู่ที่ไหนเรียกว่า
ตกน้ำไม่ไหล
ตกไฟไม่ไหม้
อย่างวัดร้างที่ปรากฏเป็นดินเปล่า ไม่มีฐานะแสดงว่าเป็นวัดก็ดี หรือบางแห่งแสดงฐานะว่าเป็นวัดแต่อยู่ในป่าในดงก็ตาม หรือที่มีพระก็ตาม เราจะไปนำสิ่งของอะไรมาก็ตามในเขตนั้น จะเป็นต้นหญ้าสักต้น ไม้หักสักอันก็ตาม
เขาถือว่า ของเหล่านั้นเป็นของสงฆ์
หรือว่าถ้าใครยึดแผ่นดินของสงฆ์ไว้เป็นสมบัติส่วนตัวละก็ ซวยขนาดหนัก แบบนี้
มีผู้เรืองอำนาจรุกรานสงฆ์เคยตกนรก
ขุมที่ ๗ มาแล้ว
ท่านก็บอกว่า คนเราทั้งหมดนี่นะจะรู้ได้อย่างไร ไม้ลอยน้ำมาหน้าบ้าน เราเห็นว่าไม่มีเจ้าของ เอาเข้ามาทำฟืน
แต่ถ้าไม้นั้นมันมาจากวัด
ก็ถือว่าเป็นไม้ของวัด เป็นของสงฆ์ ไปเอาเข้ามันก็บาป ต้นไม้หญ้า ต้นฟาง ที่มันอยู่กลางทุ่ง
สถานที่อย่างนั้น
อาจจะเคยเป็นวัดมาก่อนก็ได้
เขาเคยถวายเป็นของสงฆ์
แต่ว่าสภาพวัดมันสูญไป ของที่อยู่ในวัดนั้นทั้งหมด
แม้แต่แผ่นดิน
ก็ยังเป็นของสงฆ์ เราไปเอาต้นหญ้ามาต้นเดียวก็เป็นบาปแล้ว โทษของสงฆ์นี่หนักมาก
แล้วท่านก็ชวนชาวบ้านชำระหนี้สงฆ์ ว่าใครจะชำระหนี้บ้างด้วยเงินจำนวนเท่าไหร่ก็ตาม
เอามารวมกัน
แล้วประกาศต่อหน้า
สงฆ์
ขอชำระหนี้สงฆ์ว่า
“ถ้าบังเอิญข้าพเจ้าได้เอาของสงฆ์มาจากวัดไหนก็ตาม วัดที่มีพระสงฆ์ก็ดี วัดร้างที่ไม่มีพระสงฆ์อยู่ก็ดี หรือสถานที่เป็นธรณีสงฆ์
โดยไม่ปรากฏเป็นวัดก็ดี
บังเอิญนำมา
ก็ขอชำระหนี้สงฆ์ด้วยเงินจำนวนเท่านี้ ถ้าพระสงฆ์ทั้งหลายเห็นสมควรก็ขอให้สาธุขึ้นพร้อมกัน ถ้าพระสงฆ์ทั้งหลายเห็นไม่สมควรก็ขอให้นิ่งอยู่”
ถ้าพระทั้งหมด “สาธุ” พร้อมกันเป็นอันว่าใช้ได้ ชำระกันแบบนี้ทุกปี
ท่านบอกว่า
ค่อยๆ
ทำไป
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องหนัก เพราะว่าเป็นของสงฆ์นะ
ลำบากมาก
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20
Re: ชำระหนี้สงฆ์ หลวงพ่อฤาษีฯ
«
ตอบ #2 เมื่อ:
12 กุมภาพันธ์ 2554 19:48:53 »
ก็มีตัวอย่างเรื่องหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ มีพระองค์หนึ่ง ชื่อ “
อาจารย์ทิม
” สำหรับอาจารย์ทิมน
ี่รุ่นเดียวกัน อยู่ที่สุพรรณ
เป็นนักก่อสร้าง พระองค์นี้เป็นพระดีมาก ระเบียบวินัยก็ดี เจริญสมถภาวนาก็ดี
แต่ว่าโทษมันมีอยู่อย่างหนึ่ง
แกป่วยครั้งหลังสุดกำลังก่อสร้างโบสถ์ สตางค์ส่วนตัวแกไม่มี
มีปฏิปทาเหมือนๆกัน
คำว่าเงินส่วนตัวไม่มี ได้มาก็จ่ายไป
ทีนี้แกก็ป่วย ป่วยนี่สตางค์ส่วนตัวแกไม่มี หมอเขาบอกว่าจะต้องต้มยาหม้อนี้และซื้อยาหม้อนี้ในราคา ๖๐ บาท ท่านก็เลยบอกพระ
ถ้าอย่างนั้นขอยืมเงินที่เขาสร้างโบสถ์ก่อนนะ
ฉันหายแล้วเวลาใครเขาเอาเงินมาถวายก็จะใช้ให้
๖๐ บาทเท่านั้นนะ
สร้างโบสถ์หลังหนึ่งต่างกับตัวเยอะ ใครถวายสตางค์มาท่านเอาไปก่อสร้างหมด ไม่เคยเก็บ พอปี ๒๕๐๘ ดันตายเสียได้
“เงิน ๖๐ บาทดันเป็นพิษ พระทิมไปนั่งจ๋อที่สำนักพญายม”
เวลาทุ่มเศษๆ กำลังนอนสบายๆเห็นเทวดาองค์หนึ่งเป็นพวกวชิระ มายืนปลายเท้า กราบ กราบ
ถามว่า “มาทำไม”
เขาบอกว่า
“ท่านใหญ่ให้นิมนต์ไปพบครับ”
ก็เลยบอกว่า “แกไปข้างหน้า ฉันตามไป”
ตามไปหน่อยเดียว แกบอกว่า
“เดี๋ยวผมต้องไปตามอีก ๒ องค์”
แกก็ไปตามอีก ๒ องค์ เราก็ตรงไปพอถึง
ก็พบท่านทิมอยู่ที่สำนักพญายม
จึงถามว่า“ไง…มานั่งอยู่ที่นี่เล่า…”
แกก็บอกว่า
“เป็นหนี้สงฆ์อยู่ ๖๐ บาท”
ถามว่า “คนอย่างแกเป็นหนี้สงฆ์ด้วยเรอะ”
แกบอก “เป็นหนี้ตอนใกล้จะตาย เพราะหมอที่สั่งยามาให้แต่ไม่มีเงิน ทุ่มเทเอาไปสร้างโบสถ์หมด
เงินส่วนตัวจริงๆนี่ เรียกว่าตามอัธยาศัยมันไม่เหลือ
ก็เอาเงินส่วนนี้เขาไปซื้อยา”
จึงเข้าไปถาม
ลุง (พญายม)
ถามลุงว่า “ยังไงนี่…”
ลุงบอกว่า “
ยังไม่ว่าไง เดี๋ยวค่อยว่า
คอยอีกสององค์ก่อนยังไม่สอบสวน
”
ถ้าสอบสวนไม่ได้
ของสงฆ์นี่หนักมาก
ปิดปากเลย
ถ้ากรรมมีละก็หนัก
ปิดปาก
กระเบื้องอันเดียวมันปิดปากเลย
เรื่องบุญนี่พูดไม่ได้เลย
พออีกสององค์ไปถึงเรียบร้อยแล้ว ท่านก็เรียกอาจารย์ทิมเข้าไปถามว่า
“ท่านเอาเงินสงฆ์ไปใช้ ๖๐ บาทใช่ไหม”
ท่านตอบว่า “ใช่”
“ไปใช้เพื่ออะไร…”
บอกว่า “มันป่วย หมอเขาสั่งยามา”
“
จิตคิดอย่างไร
…”
“จิตคิดว่า ถ้าใครเขา
เอาเงินมาถวายก็จะชำระ
หนี้สงฆ์”
“แต่นี่ยังไม่ทันชำระใช่ไหม…”
แกตอบว่า “ใช่”
แล้วท่านถามว่า “จะว่าอย่างไร”
บอกว่า
“ไม่มีเรื่องจะว่า”
ลุงพุฒิ ท่านก็หันมาถามพวกเราว่า “ท่าน ๓ องค์จะว่าอย่างไร”
บอกว่า
“ยังมีเรื่องว่าอยู่”
“ว่ายังไงล่ะ…”
“ทำอย่างไรพระองค์นี้จะต้องไปเป็นพรหม เขาได้ฌานสมาบัติด้วย ควรจะไปเป็นพรหม”
ท่านก็เลยบอกว่า “
เวลาตายก่อนจะดับจิต อารมณ์อยู่ในฌาน
”
บอกว่า “นี่เขาได้สมาบัติ ๘ แต่อีตอนนั้นทำไมเข้า ฌาน ๒
พอจะตายจริงๆไม่ได้
ตั้งอยู่ในฌาน
ฌานยังตั้งไม่ได้
”
เลยถามว่า “
เรื่องนี้พอจะให้อภัยกันได้ไหม
…”
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20
Re: ชำระหนี้สงฆ์ หลวงพ่อฤาษีฯ
«
ตอบ #3 เมื่อ:
12 กุมภาพันธ์ 2554 20:01:34 »
ท่านก็เลยบอกว่า
“ของสงฆ์
อภัย
ให้กันไม่ได้ มันต้อง
ชำระ
หนี้สงฆ์”
ก็บอกว่า “ตกลง ฉันช่วยชำระ ๖๐ บาทเรื่องเล็ก”
ท่านบอกว่า
“ไม่ได้ ชำระด้วยเงินไม่ได้”
ถามว่า “แล้วจะเอาอะไร”
ท่านบอกว่า “ต้องสร้างพระพุทธรูป ๑ องค์ หน้าตัก ๑๒ นิ้ว”
เราเลยบอกว่า “เรื่องเล็ก เอาสัก ๑๐ องค์ก็ยังได้”
ท่านบอกว่า “องค์เดียวพอ แล้วพระอีกสององค์ท่านก็รับไปคนละองค์ รวมเป็น ๓ องค์”
เราบอกว่า “อย่างนี้ ฮ้อ…ตกลง”
ท่าน
ก็เลยบอกว่า
“ถ้าอย่างนั้นไปได้ตามผลของความดี”
ตอนนั้นเลยบอกกับท่านทิมว่า “
อย่าเพิ่งไป อยู่ที่นี่ก่อน
”
ถามลุงว่า
“การสอบสวนขอพักเดี๋ยวได้ไหม…”
ท่านบอกว่า “ได้”
เราก็เลยบอกท่านทิมว่า
“จำอารมณ์
หนึ่ง
ได้ไหม…”
เขาถามว่า “อะไรล่ะ…”
ก็เลยบอกว่า “
เอกัคคตากับอุเบกขาน่ะ
”
บอก “จำได้”
“จำได้ขอให้ไปตามนั้น”
นั่นมันฌาน ๔ ท่านทิมเลยไปเป็นพรหมชั้นที่ ๑๑ ถ้าไปตอนนั้นก็ไปด๊อกแด๊กอยู่แค่
กามาวจร
ต้องช่วยกระตุกตรงนี้ มันพ้นตอนที่เรารับปากจะให้
อารมณ์ที่
ปิดปาก
อยู่ก็หมด
ลุงพุฒิแกตั้งใจช่วยเลยให้คนมาตาม ไม่ได้ตั้งใจคอยใคร ขนาดมาตามเลยนะ ที่ตามก็มีพระอีก ๒ องค์ อีกองค์หนึ่งเป็นพระอยุธยา หนุ่มเลยล่ะองค์นั้น ตอนนั้นฉันอายุซัก ๔๐ กว่าๆ องค์ที่อยู่อยุธยาก็อยู่ในเกณฑ์ ๓๐ เศษๆ แต่ว่าไม่รู้ว่าวัดไหน รูปร่างสูงๆดำๆ อีกองค์หนึ่งรูปร่างหน้าตาดีไม่รู้ว่าอยู่วัดไหน เวลาไปตามก็มี ๓ องค์ เลยเล่นกำไรเสียเลย พระพุทธรูป ๓ องค์เรื่องเล็ก
พระ ๑๒ นิ้ว กับคนที่จะไปเป็นพรหม
ราคามันไม่เท่ากัน
ใช่ไหม
… เราสร้างพระ ๑๒ นิ้วเดี๋ยวเดียว คนที่บำเพ็ญบารมีเป็นพรหมมันง่ายเสียเมื่อไหร่ล่ะ
คราวนี้มันก็มีปัญหาอยู่ว่า ทำไม ท่านถึง
เจาะจงมาเอาฉันไปช่วย
ถ้าลงได้เป็นแบบนี้ล่ะก้อ
จะต้องเป็นเครือเดียวกัน
เป็นพวกเดียวกัน เดินทางแนวเดียวกัน อาจารย์ทิมกับฉันรู้จักกันมานานตั้งแต่ตอนบวชอยู่ใหม่ๆ ส่วนอีก ๒ องค์ไม่รู้ว่า เขารู้จักกันมาเมื่อไหร่ แต่ทั้งสององค์นั้นต้องเป็นเชื้อสายเดียวกัน
และปฏิปทาการปฏิบัติก็ต้องเหมือนกัน
และแถม ๒ องค์นั่น บ้าๆบวมๆ เหมือนๆกัน เงินส่วนตัวไม่มี
ฉันถามอีกองค์หนึ่งที่รูปร่างหน้าตาดีๆ บอกว่าอยู่สิงห์บุรี จากนั้นฉันก็ไม่ได้สนใจ
ถามถึงปฏิปทา
เขาก็บอกว่า ผมกับท่านบ้าๆบวมๆเหมือนกัน สตางค์ไม่เหลือ อาจารย์ทิมก็บ้าเหมือนกัน แต่ดันบ้าตายก่อน มันจะลงนรกเราให้ลงไม่ได้
ทีนี้วิธีกระตุ้นๆนิดเดียว ถ้าบอกว่าอาจารย์ทิมเริ่มนั่งเข้าฌานละก็ซวยเลย ใครจะไปเข้าฌานได้ยังไง เขาต้องถามถึงอารมณ์เดิมนิดเดียว ถามว่า
จำอารมณ์หนึ่ง
ได้ไหม
เอกัคคตากับอุเบกขา
บอกจำได้เท่านี้ก็พอแล้ว
จำได้ก็เป็นฌาน ๔ จิตก็ตั้งอยู่พอดี
พอพูดปั๊บจิตก็ตั้งอยู่ฌาน ๔ พอตั้งอยู่ฌาน ๔
สภาพก็เป็นพรหม
ตัวแกก็เป็นพรหม แจ๋ว เลยบอก ไปตามอัธยาศัย ข้าจะกลับวัด เดี๋ยวลูกศิษย์ข้าคอย
ที่เล่าให้ฟังนี่
มันเป็นเรื่องของ
ผู้ที่ไม่มีเจตนาโกง
เงินสงฆ์
พวกที่มีเจตนาโกง
ไม่มีทางช่วย
เรี่ยไรมา ๑๐ บาท เอาของเขาใช้ไป ๙ บาท ๑๐ สตางค์ อีก ๑๐ สตางค์เอาเข้ากระเป๋า
อย่างนี้ลงอเวจีมหานรก
ของสงฆ์นี่แม้แต่กระเบื้องแตกๆก็เก็บไม่ได้ ของที่สงฆ์เขา
ไม่ใช้แล้วเห็นว่ามันดีนี่
เอาไปบ้านหน่อย
อย่างนี้เอวัง….
ตกดังตูม
…อเวจี
.
http://www.kusolsuksa.com/webboard/index.php?board=41.120
G
o
o
gle
อกาลิโกโฮม
*
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ
บันทึกการเข้า
คำค้น:
เกร็ดความรู้
เกี่ยวกับ
ของสงฆ์
หลวงพ่อปาน
แสดงวิธี
ชำระ
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
คนใกล้จะตายควรแนะนำอย่างไร โดย หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง
ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
That's way
0
3002
10 กุมภาพันธ์ 2555 10:12:29
โดย
That's way
กำลังโหลด...