[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 พฤษภาคม 2567 18:45:46 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 143 144 [145] 146 147 ... 1132
2881  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เช็กเส้นทาง ขากลับ กทม. หลังปีใหม่ 2567 มาจากภาคไหน ใช้เส้นทางไหนเลี่ยงรถติด เมื่อ: 01 มกราคม 2567 13:08:37
เช็กเส้นทาง ขากลับ กทม. หลังปีใหม่ 2567 มาจากภาคไหน ใช้เส้นทางไหนเลี่ยงรถติด
         


เช็กเส้นทาง ขากลับ กทม. หลังปีใหม่ 2567 มาจากภาคไหน ใช้เส้นทางไหนเลี่ยงรถติด" width="100" height="100  เช็กเส้นทางกลับ กทม. ช่วงหลังปีใหม่ 2567 เส้นทางไหนเลี่ยงรถติด
         

https://www.sanook.com/news/9166114/
         
2882  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เปิดดวง 2567 กับ "หมอช้าง" ตัดเกรดแต่ละราศี เช็กเลย ราศีไหนโคตรปัง ได้เกรด AAA เมื่อ: 01 มกราคม 2567 10:38:01
เปิดดวง 2567 กับ "หมอช้าง" ตัดเกรดแต่ละราศี เช็กเลย ราศีไหนโคตรปัง ได้เกรด AAA
         


เปิดดวง 2567 กับ "หมอช้าง" ตัดเกรดแต่ละราศี เช็กเลย ราศีไหนโคตรปัง ได้เกรด AAA" width="100" height="100  เปิดดวงปี 2567 กับ "หมอช้าง ทศพร" ตัดเกรดแต่ละราศี ราศีไหนปัง ราศีไหนแย่ เช็กด่วน
         

https://www.sanook.com/news/9161358/
         
2883  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - สาวกลับบ้านดึก ไม่มีกุญแจ ใครดูก็อึ้ง เธอโชว์สกิลเข้าบ้าน ผ่านไปได้แบบชิล ๆ เมื่อ: 01 มกราคม 2567 08:07:47
สาวกลับบ้านดึก ไม่มีกุญแจ ใครดูก็อึ้ง เธอโชว์สกิลเข้าบ้าน ผ่านไปได้แบบชิล ๆ
         


สาวกลับบ้านดึก ไม่มีกุญแจ ใครดูก็อึ้ง เธอโชว์สกิลเข้าบ้าน ผ่านไปได้แบบชิล ๆ" width="100" height="100  สาวกลับบ้านดึกแถมไม่มีกุญแจเข้าบ้าน โชว์สกิลเข้าบ้านแบบชิล ๆ ใครเห็นก็อ้าปากค้าง เธอทำได้อย่างไร
         

https://www.sanook.com/news/9165306/
         
2884  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เปิดตัว 70 เด็กฝึกหัด CHUANG ASIA THAILAND 2024 โชว์บนเวทีครั้งแรก พร้อมเพลงธีมรายการ เมื่อ: 01 มกราคม 2567 05:28:31
เปิดตัว 70 เด็กฝึกหัด CHUANG ASIA THAILAND 2024 โชว์บนเวทีครั้งแรก พร้อมเพลงธีมรายการ
         


เปิดตัว 70 เด็กฝึกหัด CHUANG ASIA THAILAND 2024 โชว์บนเวทีครั้งแรก พร้อมเพลงธีมรายการ" width="100" height="100  เปิดตัวเด็กฝึกหัด 70 คน จากรายการ CHUANG ASIA THAILAND มาพร้อมกับเพลง Summer Dream เพลงธีมประจำรายการ กับโชว์บนเวทีครั้งแรกในงานเคาท์ดาวน์ไอคอนสยาม
         

https://www.sanook.com/news/9165174/
         
2885  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 30 วันลงทะเบียนหนี้นอกระบบแล้ว 113,859 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 933 ราย เมื่อ: 01 มกราคม 2567 03:36:14
30 วันลงทะเบียนหนี้นอกระบบแล้ว 113,859 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 933 ราย
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 11:54</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เผยผลการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ 30 วัน ลงทะเบียนแล้ว 113,859 ราย มูลหนี้ 7,350 ล้านบาท และเผยถึงผลการไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว 933 ราย มูลหนี้ลดลงร่วม 131 ล้านบาท และไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้  ดำเนินคดีแล้ว 25 คดี</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53432471563_997cefb3e1_o_d.jpg" /></p>
<p>เพจกระทรวงมหาดไทย PR รายงานเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2566 ว่านายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นวันที่ 30 นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียน โดยจากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เมื่อเวลา 15.30 น. มีมูลหนี้รวม 7,350.828 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 113,859 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 98,595 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 15,264 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 84,313 ราย มีพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก 1. กรุงเทพมหานคร ยังคงมากที่สุด มีผู้ลงทะเบียน 7,119 ราย เจ้าหนี้ 6,228 ราย มูลหนี้ 622.110 ล้านบาท 2. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 4,849 ราย เจ้าหนี้ 4,171 ราย มูลหนี้ 310.241 ล้านบาท 3. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 4,493 ราย เจ้าหนี้ 3,305 ราย มูลหนี้ 290.166 ล้านบาท 4. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 4,346 ราย เจ้าหนี้ 2,838 ราย มูลหนี้ 333.885 ล้านบาท 5. จังหวัดขอนแก่น มีผู้ลงทะเบียน  3,020 ราย เจ้าหนี้ 2,514 ราย มูลหนี้ 231.650 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 168 ราย เจ้าหนี้ 138 ราย มูลหนี้ 8.830 ล้านบาท 2. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน 235 ราย เจ้าหนี้ 154 ราย มูลหนี้ 17.237 ล้านบาท 3. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 305 ราย เจ้าหนี้ 219 ราย มูลหนี้ 9.786 ล้านบาท 4. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน 376 ราย เจ้าหนี้ 260 ราย มูลหนี้ 15.038 ล้านบาท และ 5. จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน 406 ราย เจ้าหนี้ 274 ราย มูลหนี้ 19.645 ล้านบาท</p>
<p>“สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศ พบว่ามีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 4,352 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 933 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 257.270 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 126.009 ล้านบาท มูลหนี้ลดลง 131.261 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 1,138 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 22 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 88.949 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 1.827 ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในจังหวัด ลดลงมากถึง 87.122 ล้านบาท สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งสำนวนแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้ มีการดำเนินคดีไปแล้ว 25 รายทั้งประเทศ ซึ่งจังหวัดที่มีการดำเนินคดีมากที่สุด คือ จังหวัดระนอง ดำเนินคดีแล้ว 6 คดี</p>
<p>นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงมหาดไทยขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการระดมสรรพกำลังและองคาพยพในเชิงพื้นที่ โดยอาศัยผู้นำในแต่ละพื้นที่ นำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านนายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ในการช่วยกันเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้เข้าสู่การลงทะเบียนให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ขั้นตอนต่อไปจะได้มีการประสานบูรณาการการปฏิบัติช่วยกัน ด้วยการนำพาทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้นอกระบบมาพูดคุยเพื่อพิสูจน์ความจริง และดำเนินการเข้าสู่ขั้นตอนของการไกล่เกลี่ย เพื่อเป็นการยุติหนี้นอกระบบ โดยยึดกฎหมายเป็นที่ตั้ง และเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของลูกหนี้ ซึ่งมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองลงพื้นที่เก็บข้อมูล หาข่าว พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้มากขึ้น ทั้งการลงทะเบียนหนี้นอกระบบและการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย</p>
<p>“กระทรวงมหาดไทยยังคงเปิดรับลงทะเบียนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งทางออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือวอร์คอินได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107446
 
2886  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - สลดส่งท้ายปี ผู้ใหญ่บ้านเฝ้าเต็นท์บริการประชาชน เจอสาวใหญ่ขับ SUV พุ่งชนดับ เมื่อ: 01 มกราคม 2567 02:50:27
สลดส่งท้ายปี ผู้ใหญ่บ้านเฝ้าเต็นท์บริการประชาชน เจอสาวใหญ่ขับ SUV พุ่งชนดับ
         


สลดส่งท้ายปี ผู้ใหญ่บ้านเฝ้าเต็นท์บริการประชาชน เจอสาวใหญ่ขับ SUV พุ่งชนดับ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ผู้ใหญ่บ้านนั่งเฝ้าเต็นท์บริการประชาชนช่วงปีใหม่ เจอสาวใหญ่หลับใน ขับ SUV พุ่งชน ล่าสุด ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตแล้ว
         

https://www.sanook.com/news/9165182/
         
2887  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - เปิดเอกสารงบประมาณ 67 'ส่วนราชการในพระองค์' 8 หน้า กับงบประมาณ 8.4 พันล้านบาท เมื่อ: 01 มกราคม 2567 01:41:55
เปิดเอกสารงบประมาณ 67 'ส่วนราชการในพระองค์' 8 หน้า กับงบประมาณ 8.4 พันล้านบาท
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 22:20</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เปิดเอกสารงบประมาณ ปี 67 พบ 'ส่วนราชการในพระองค์' มีเพียง 8 หน้า ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว 1 หน้า กับงบประมาณที่ตั้งไว้ถึง 8,478 ล้านบาท ขณะส่วนราชการที่ขอระดับเดียวกัน เช่น กระทรวงดิจิทัลฯ มีรายละเอียดถึง 366 หน้า</p>
<p>ภายหลังจากเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์สำนักงบประมาณเผยแพร่เอกสารงบประมาณ ซึ่งสภาจะพิจารณาวาระ 1 ในวันที่ 3 - 5 ม.ค.67 นั้น โดยหนึ่งในนั้นคือเอกสารงบประมาณ ฉบับที่ 3 เล่มที่ 17 งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งมีระบุรายละเอียดหน่วยงานสำคัญคือ ส่วนราชการในพระองค์ ปีนี้ลดลงเหลือ 8 หน้าหน้ากระดาษ และตั้งงบประมาณไว้ที่ 8,478,383,000 โดยปีที่แล้วหรืองบประมาณปี 66 นั้นมีจำนวน 9 หน้ากระดาษ</p>
<p>เมื่อเทียบกับหน่วยงานที่รับงบประมาณอื่นๆ ที่ตั้งงบไว้ระดับใกล้เคียงกันแต่มีจำนวนรายละเอียดที่มากกว่า เช่น </p>
<ul>
<li>กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ราว 5,500 ล้านบาท มีรายละเอียดถึง 159 หน้า</li>
<li>กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ราว 8,800 ล้านบาท  มีรายละเอียดถึง 366 หน้า</li>
</ul>
<p>เป็นต้น</p>
<p>โดยมีรายละเอียดส่วนราชการในพระองค์ทั้ง 8 หน้า ดังนี้</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433555439_83b4007230_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433228431_577a7d651f_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433228416_b0a967dfdb_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433555384_1dfb7719cb_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433660780_6b11414bc1_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433380483_e18785cb1e_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433660760_35d000e448_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433380458_6e33a8c33a_o.jpg" /></p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>เผยแพร่เอกสารงบฯ 66 แล้ว 'ส่วนราชการในพระองค์' แจงรายละเอียดงบฯ 9 หน้า</li>
<li>'ก้าวไกล' เสนอ กมธ.แขวนงบส่วนราชการในพระองค์ 8,761 ล้านบาท พบมีเอกสารแค่ 7 หน้า ต้องรอรายละเอียดมากกว่านี้</li>
<li>'พิธา' เผย ‘ราชการในพระองค์’ ปรับวิธีแจงการใช้งบ-ขอหน่วยงานอื่นเลี่ยงต่อท้ายชื่อโครงการด้วย ‘เฉลิมพระเกียรติ’</li>
</ul>
</div>
<p>อนึ่งปี 66 นั้นส่วนราชการในพระองค์มี 9 หน้า ขณะที่ปีนี้หายไป 1 หน้ากระดาษ เนื่องจากมีการปรับลดพันธกิจจาก 8 ข้อ เป็น 6 ข้อ เช่น 8. ปฏิบัติงานอันใดตามพระราชอัธยาศัย ในปี 66 ไม่ปรากฏในปี 67 และมีบางข้อที่เขียนให้กระชับขึ้นด้วย</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107454
 
2888  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - เปิดเอกสารงบประมาณ 67 'ส่วนราชการในพระองค์' 8 หน้า กับงบประมาณ 8.4 พันล้านบาท เมื่อ: 01 มกราคม 2567 00:11:02
เปิดเอกสารงบประมาณ 67 'ส่วนราชการในพระองค์' 8 หน้า กับงบประมาณ 8.4 พันล้านบาท
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 22:20</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เปิดเอกสารงบประมาณ ปี 67 พบ 'ส่วนราชการในพระองค์' มีเพียง 8 หน้า ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว 1 หน้า กับงบประมาณที่ตั้งไว้ถึง 8,478 ล้านบาท ขณะส่วนราชการที่ขอระดับเดียวกัน เช่น กระทรวงดิจิทัลฯ มีรายละเอียดถึง 366 หน้า</p>
<p>ภายหลังจากเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์สำนักงบประมาณเผยแพร่เอกสารงบประมาณ ซึ่งสภาจะพิจารณาวาระ 1 ในวันที่ 3 - 5 ม.ค.67 นั้น โดยหนึ่งในนั้นคือเอกสารงบประมาณ ฉบับที่ 3 เล่มที่ 17 งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งมีระบุรายละเอียดหน่วยงานสำคัญคือ ส่วนราชการในพระองค์ ปีนี้ลดลงเหลือ 8 หน้าหน้ากระดาษ และตั้งงบประมาณไว้ที่ 8,478,383,000 โดยปีที่แล้วหรืองบประมาณปี 66 นั้นมีจำนวน 9 หน้ากระดาษ</p>
<p>เมื่อเทียบกับหน่วยงานที่รับงบประมาณอื่นๆ ที่ตั้งงบไว้ระดับใกล้เคียงกันแต่มีจำนวนรายละเอียดที่มากกว่า เช่น </p>
<ul>
<li>กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ราว 5,500 ล้านบาท มีรายละเอียดถึง 159 หน้า</li>
<li>กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ราว 8,800 ล้านบาท  มีรายละเอียดถึง 366 หน้า</li>
</ul>
<p>เป็นต้น</p>
<p>โดยมีรายละเอียดส่วนราชการในพระองค์ทั้ง 8 หน้า ดังนี้</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433555439_83b4007230_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433228431_577a7d651f_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433228416_b0a967dfdb_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433555384_1dfb7719cb_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433660780_6b11414bc1_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433380483_e18785cb1e_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433660760_35d000e448_o.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433380458_6e33a8c33a_o.jpg" /></p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>เผยแพร่เอกสารงบฯ 66 แล้ว 'ส่วนราชการในพระองค์' แจงรายละเอียดงบฯ 9 หน้า</li>
<li>'ก้าวไกล' เสนอ กมธ.แขวนงบส่วนราชการในพระองค์ 8,761 ล้านบาท พบมีเอกสารแค่ 7 หน้า ต้องรอรายละเอียดมากกว่านี้</li>
<li>'พิธา' เผย ‘ราชการในพระองค์’ ปรับวิธีแจงการใช้งบ-ขอหน่วยงานอื่นเลี่ยงต่อท้ายชื่อโครงการด้วย ‘เฉลิมพระเกียรติ’</li>
</ul>
</div>
<p>อนึ่งปี 66 นั้นส่วนราชการในพระองค์มี 9 หน้า ขณะที่ปีนี้หายไป 1 หน้ากระดาษ เนื่องจากมีการปรับลดพันธกิจจาก 8 ข้อ เป็น 6 ข้อ เช่น 8. ปฏิบัติงานอนใดตามพระราชอัธยาศัย และมีบางข้อที่เขียนให้กระชับขึ้น</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107454
 
2889  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ชาวเน็ตเฉลย "ครูกายแก้ว" ย้ายจากโรงแรมดังไปอยู่ไหน เจอแซวอยู่อย่างเหงา ๆ เมื่อ: 01 มกราคม 2567 00:09:18
ชาวเน็ตเฉลย "ครูกายแก้ว" ย้ายจากโรงแรมดังไปอยู่ไหน เจอแซวอยู่อย่างเหงา ๆ
         


ชาวเน็ตเฉลย &quot;ครูกายแก้ว&quot; ย้ายจากโรงแรมดังไปอยู่ไหน เจอแซวอยู่อย่างเหงา ๆ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;อัปเดตที่ตั้งใหม่ รูปปั้น "ครูกายแก้ว" หลังต้องย้ายออกจากโรงแรมดัง บรรยากาศสุดเหงา
         

https://www.sanook.com/news/9165274/
         
2890  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - พัสตราภรณ์กับการต่างประเทศไทยสมัยใหม่ | หมายเหตุประเพทไทย EP.503 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 22:40:41
พัสตราภรณ์กับการต่างประเทศไทยสมัยใหม่ | หมายเหตุประเพทไทย EP.503
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 20:19</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p style="text-align: center;">
<iframe width="720" height="415" src="https://www.youtube.com/embed/XnhdIEjavCc?si=K60M-2Hk7PI3LqBG" title="YouTube video player" frameborder="0" allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen=""></iframe></p>
<p>หมายเหตุประเพทไทยเทปส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ชานันท์ ยอดหงษ์ และติณณภพจ์ สินสมบูรณ์ทอง แนะนำหนังสือ "พัสตราภรณ์กับการต่างประเทศไทยสมัยใหม่ (Royal Attire and Thailand's Foreign Affairs)" ผลงานของศิบดี นพประเสริฐ (คลิกเพื่ออ่าน) เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ได้มีแค่การแข่งขันด้วยแสนยานุภาพหรือการค้า แต่มีปัจจัยอื่นๆ รวมไปถึงการแต่งกาย เสื้อผ้า หน้าผม อีกด้วย</p>
<p>โดยในบทนำของหนังสือ ท่านผู้เขียนระบุไว้ตอนหนึ่งว่า "การแต่งกายและพัสตราภรณ์นั้นมิใช่มีแต่เพียงมิติด้านความสวยงามเท่านั้น หากแต่ยังมีส่วนส่งเสริมต่อกิจการด้านการต่างประเทศด้วย นับตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมา ที่สยามเริ่มก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระเบียบโลกทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจที่มีอังกฤษเป็นศูนย์กลาง พร้อมกันกับการเข้ามาของลัทธิจักรวรรดินิยมทั้งจากอังกฤษและฝรั่งเศส สยามต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสการเมืองโลกในขณะนั้นพร้อมกับการเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกรวมไปถึงวัฒนธรรมด้านการแต่งกาย โดยที่ชนชั้นนำเป็นผู้เปิดรับและปรับตัวก่อนชนกลุ่มอื่นในสังคม การปรับตัวด้านการแต่งกายนี้มีนัยด้านการต่างประเทศด้วยในแง่ของความ “ศิวิไลซ์” ของชาวสยาม อันมีส่วนส่งเสริมการดำเนินวิเทโศบายของสยามและการดำเนินนโยบายต่างประเทศของไทยภายใต้บริบทการต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปในเวลาต่อมา"</p>
<p>ทั้งนี้พัสตราภรณ์เกี่ยวข้องกับการรับรู้ภาพลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทยในการทูตสมัยใหม่และระเบียบระหว่างประเทศอย่างไร ติดตามได้ในรายการหมายเหตุประเพทไทย</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53422497956_cb8b53504b_k.jpg" /></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107453
 
2891  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - โฆษกอัยการ เผย เคส "เด็ก 14" กราดยิงพารากอน ต้องรักษาให้หายถึงดำเนินคดีได้ เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 21:34:37
โฆษกอัยการ เผย เคส "เด็ก 14" กราดยิงพารากอน ต้องรักษาให้หายถึงดำเนินคดีได้
         


โฆษกอัยการ เผย เคส &quot;เด็ก 14&quot; กราดยิงพารากอน ต้องรักษาให้หายถึงดำเนินคดีได้" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;โฆษกอัยการ ให้ความรู้ กม. เคส เด็ก 14 กราดยิงพารากอน กฎหมายระบุชัดต้องรอแพทย์รักษาจนหายเท่านั้น ถึงจะดำเนินคดีได้ อายุความ 20 ปี
         

https://www.sanook.com/news/9165242/
         
2892  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - เมื่อศิลปะจะเกิดแต่โดนคุมกำเนิดซะก่อน : ศิลปะที่ถูกสร้างข้อจำกัดมากมาย "“ละ【 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 21:10:16
เมื่อศิลปะจะเกิดแต่โดนคุมกำเนิดซะก่อน : ศิลปะที่ถูกสร้างข้อจำกัดมากมาย "“ละ【__】ลาน” รุงลัง Gallery"
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 17:35</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p><span style="color:#e67e22;">น้ำพระทัย รอดสุวรรณ์ : ภาพ/เรื่อง</span></p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เมื่อการงานศิลปะถูกทำให้กลายเป็นเรื่องยาก เพราะมีต้นทุนมากมายที่ต้องจ่ายเพื่อสร้างผลงานแต่ละชิ้น กลุ่มพลังนุ่ม : Fluffy Force จึงขอเป็นตัวแทนเพื่อร้องสิทธิให้แก่กลุ่มคนสร้างสรรค์รุ่นใหม่ โดยการจัดนิทรรศ “ละ【__】ลาน” รุงลัง Gallery แสดงไอเดียความคิดสร้างสรรค์และผลงานมากกว่า 30 ชิ้น</p>
<p> </p>
<p>31 ธ.ค. 2566 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา ณ ลานอาคารร้างหน้าตึก Media Arts and Design หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการจัดนิทรรศการ <strong>“ละ【__】ลาน” รุงลัง Gallery</strong> โดย <strong>‘กลุ่มพลังนุ่ม : Fluffy Force’ </strong>ศิษย์เก่าโครงการ Human ร้าย, Human Wrong และเพื่อนๆ คนรุ่นใหม่ ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานของกลุ่มนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ จำนวน 37 ชิ้น นำเสนอในรูปแบบกล่องรุงลัง โดยข้อเสนอหลักของงานเพื่อต้องการให้ศิลปินตัวเล็กตัวน้อยสามารถเข้าถึงทรัพยากรส่วนสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ ปราศจากข้อจำกัดใดๆในการเข้าถึงหรืออยู่กระจุกตัวกับแค่คนบางส่วน กลุ่มพลังนุ่มจึงมีเป้าหมายเพื่อเรียกร้องและเสนอนโยบายให้กับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนางานสร้างสรรค์เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ๆ สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระและเติบโตได้ในอนาคต</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433188570_8d955ac745_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433188555_400baf07c7_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433188545_5421e38bc5_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53432755636_9b44458ce9_b.jpg" /></p>
<h2><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53432755711_98404011a6_b.jpg" /></h2>
<h2><span style="color:#2980b9;">ความหมายในเชิงพื้นที่</span></h2>
<p>พื้นที่ที่ใช้จัดแสดงนิทรรศการ เป็นส่วนหนึ่งของหอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่เป็นโซนอาคารที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง ซึ่งแต่เดิมเป็นห้องน้ำรองรับของแขกคนสำคัญ ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นร้านหมูกระทะ และถูกปล่อยให้ทิ้งร้างไปในที่สุด แสดงให้เห็นถึงนัยของพื้นที่เปรียบเสมือนศิลปินตัวเล็กตัวน้อยที่กำลังสร้างตัว ไม่มีโอกาสในการแสดงศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่เพราะขาดพื้นที่ในการลองผิดลองถูก รวมถึงการเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆแบบมีเงื่อนไข พื้นที่การจัดแสดงดังกล่าวจึงสะท้อนให้เห็นการเข้าถึงศิลปะที่ดูเหมือนจะง่ายเพราะอยู่ในรั้วหอศิลป์ แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นพื้นที่ห่างไกล ยากที่จะเข้าถึง เพราะไม่ได้ถูกให้คุณค่าในฐานะที่เป็นงานศิลปะแบบนิยามของรัฐ  หรือถูกตั้งโชว์ในอาคารหลัก เหมือนกลุ่มคนสร้างสรรค์ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ถูกปล่อยให้พื้นที่ศิลปะกลายเป็นที่รกร้าง</p>
<p>งานนิทรรศการแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนที่1 ‘ตลาดนัดเฉพาะกิจ Passion Market’ รวบรวมสินค้ามือสองปลดระวางจากคนทำงานสร้างสรรค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมจับจ่ายเพื่อเป็นทุนต่อยอดให้แก่คนทำงานสร้างสรรค์ในอนาคต โซนที่2 ‘ส.ค.ส (เสนอ-ความคิดเห็น-สร้างสรรค์)’ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแสดงข้อคิดเห็น หรือประสบการณ์ทำงานสร้างสรรค์ เพื่อเป็นข้อเสนอนชิงโยบายแก่ภาครัฐหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชากรมส่วนใหญ่ ผู้เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของสังคมอย่างแท้จริง โซนที่3 พื้นที่จัดแสดงไอเดียและผลงานของกลุ่มคนสร้างสรรค์จำนวน 37 ชิ้น ในกล่องลัง</p>
<p>ทั้งนี้เป้าหมายหลักของนิทรรศการ “ละ【__】ลาน” รุงลัง Gallery ก็เพื่อต้องการให้พื้นที่ทดลอง พื้นที่ผิดพลาด พื้นที่ความรู้ เข้าถึงได้ง่าย เป็นเป็นไปอย่างเท่าเทียมโดยปราศจากเงื่อนไขต่างๆ ทั้งด้านค่าใช้จ่าย และการเข้าถึงพื้นที่องค์ความรู้สร้างสรรค์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุด หรือพื้นที่นอกมหาลัย รัฐควรสร้างพื้นที่รับรองแก่กลุ่มสร้างสรรค์โดยไร้เงื่อนไขเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มสร้างสรรค์ตัวเล็กตัวน้อยในเชียงใหม่</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53432755731_22fb62bba5_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433081984_561d853503_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53433188640_d05c96ba82_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53431836047_f0d25a212f_b.jpg" /></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107451
 
2893  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - นักวิชาการมองทิศทางการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ 2567 กระเตื้องขึ้น เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 19:39:08
นักวิชาการมองทิศทางการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ 2567 กระเตื้องขึ้น
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 17:40</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>นักวิชาการมองทิศทางการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ 2567 กระเตื้องขึ้น ส่งออกเริ่มเป็นบวก นำเข้าฟื้นตัวแรง ดอกเบี้ยเริ่มขาลง งบ 2567 ขาดดุลลดลง หนี้สาธารณะต่อจีดีพีดีขึ้น สอดคล้อง 13 หมุดหมายภายใต้แผน 13 ตอบสนองทุกช่วงวัย - ห่วง “ช่องว่างทางดิจิทัล” จะทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมย่ำแย่ลง</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/50273322573_d7be14a929_o_d.jpg" /></p>
<p>31 ธ.ค. 2566 รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การเงินและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ อดีตกรรมการ นโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศปี พ.ศ. 2567 หรือ ค.ศ. 2024 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสสี่ปี 66  อัตราการขยายตัวของภาคส่งออกเริ่มเป็นบวก ราคาสินค้าส่งออกหลายประเภทโดยเฉพาะอาหารเพิ่มขึ้น อัตราการขยายของการนำเข้าฟื้นตัวแรงในเดือนพฤศจิกายน และมีการนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มขึ้นถึง 23.9% ภาวะการนำเข้าดังกล่าวสะท้อนภาคการลงทุนเติบโตแข็งแกร่งในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า </p>
<p>คาดว่า อัตราการขยายตัวของการส่งออกปี พ.ศ. 2567 น่าจะขยายตัวได้ประมาณ 3.5-4.5% จากการที่ปริมาณการค้าโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 2.8-3.5% (จากการคาดการณ์ของ ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ และองค์การการค้าโลก) อย่างไรก็ตาม มูลค่าส่งออกของไทยยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่แม้นตัวเลขเดือนพฤศจิกายนสินค้าส่งออกปรับตัวดีขึ้นทุกกลุ่ม การที่มีขยายตัวเพิ่มขึ้นมากในช่วงหนึ่งถึงสองเดือนที่ผ่านมาเป็นปัจจัยเรื่องฐานต่ำเป็นหลัก โดยเฉพาะมูลค่าการส่งออกในเดือนพฤศจิกายนเติบโตกว่า 4.9% YoY ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเทียบกับการติดลบกว่า -5.6% ของเดือนพฤศจิกายน ปี 2565 การแบ่งขั้วของเศรษฐกิจโลกมีความรุนแรงลดลง แต่การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจที่ผ่านมาทำให้รูปแบบ ทิศทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศและระบบห่วงโซ่การผลิตของโลกเปลี่ยนแปลงไป นโยบายเปิดเสรีมีความไม่แน่นอนมากขึ้น การหลอมรวมหรือ เกิด Divergence ทางด้านการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศพันธมิตรความร่วมมือในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น แม้นในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากจีนลงตามลำดับ ลดการนำเข้าจากจีนเมื่อเทียบกับการนำเข้าทั้งหมดจากต่างประเทศลงเหลือประมาณ 16% แต่สัดส่วนนี้จะไม่ได้ลดลงจากระดับนี้มากนักเมื่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศดีขึ้น สหรัฐอเมริกามีการลดการลงทุนโครงการใหม่ๆในจีนลงโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ อาเซียนจะได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนของบรรษัทข้ามชาติสัญชาติตะวันตก ประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออกและนำเข้าในห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบจากการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ แม้นผลกระทบนี้จะเบาลงในปี พ.ศ. 2567 แต่กระแสการเคลื่อนย้ายการลงทุนและการผลิตยังคงเกิดขึ้น เป็นโอกาสของไทยในการดึงดูดการลงทุนหากไทยมีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะระบบการศึกษาและวิจัยที่มีคุณภาพ และ ระบบความเป็นสถาบันของกฎหมายและความยุติธรรม            
             
ภาวะดอกเบี้ยเริ่มขาลงทั้งดอกเบี้ยภายในประเทศและดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกาที่อาจจะเริ่มเห็นสัญญาณของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสสองปีหน้าน่าจะทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกคึกคักขึ้น ทิศทางการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐอเมริกาจะทำให้ “ทองคำ” และ “คริปโตเคอร์เรนซี่” ยังคงได้รับสนใจในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น  </p>
<p>รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า งบ 2567 ขาดดุลลดลงจากระดับ สัดส่วนการขาดดุลงบประมาณต่อจีดีพี 3.83% มาอยู่ที่ 3.63%  หนี้สาธารณะต่อจีดีพีดีขึ้น นั่นหมายความว่า เศรษฐกิจไทยต้องเติบโตตามเป้าหมายที่ระดับ 5.4% จะสามารถทำให้ประมาณการรายรับเป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับ 2.787 ล้านล้านบาท สอดคล้อง 13 หมุดหมายภายใต้แผน 13 อันประกอบไปด้วย 1. ประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง 2. ท่องเที่ยวเน้นคุณภาพและความยั่งยืน 3. ฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสำคัญของโลก ตอบสนองทุกช่วงวัย 4. ศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง 5. ประตูการค้าและยุทธศาสตร์โลจีสติกส์  6. ฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 7. SMEs ศักยภาพสูง แข่งขันได้ 8. เมืองอัจฉริยะน่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน 9. มีความยากจนข้ามรุ่นลดลง ความคุ้มครองทางสังคมเพียงพอ 10. เศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ 11. ลดความเสี่ยงจากผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 12. กำลังคนสมรรถนะสูงตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต 13. ภาครัฐทันสมัย มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ประชาชน  </p>
<p>ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลนั้นมีลักษณะเป็นเศรษฐกิจสังคมนิยมผ่านการแบ่งปัน (Sharing) และผ่านแนวคิดสังคมเครือข่ายความร่วมมือ (Collectivism) แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจแบ่งปันผ่านแนวคิดเครือข่ายความร่วมมือคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี  2567 วิกิพีเดีย (Wikipedia) เป็นตัวอย่างอย่างชัดเจนถึงแนวคิดแบ่งปันและแนวคิดสังคมเครือข่ายความร่วมมือ วิกีพีเดียเป็นชุดข้อมูลเอกสารเป็นแหล่งความรู้ที่ผู้คนช่วยกันสร้างขึ้นมา ใครก็ได้และทุกคนสามารถเขียน เพิ่ม แก้ไข หรือปรับเปลี่ยนข้อความได้ วาร์ด คันนิงแฮม (Ward Cunningham) ผู้สร้างวิกิพีเดียซึ่งเป็นเว็บระบบทำงานร่วมกัน (Collaborative) มีสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons) เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายและเกื้อหนุนให้ผู้คนยินยอมให้ใช้สิทธิ์ในรูปภาพ ข้อความ หรือผลงานเพลงของตัวเองและดัดแปลงแก้ไขได้อย่างถูกกฎหมายโดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตอีก พูดอีกอย่างก็คือ การแบ่งปันเนื้อหาและการแจกจ่ายตัวอย่างเนื้อหาเป็นตัวเลือกใหม่ในการตั้งค่ามาตรฐาน การขยายตัวของเว็บไซต์แบ่งปันไฟล์งานเกิดขึ้นมากมายหลังการเกิดขึ้นของ วิกิพีเดีย เช่น ทอร์ หรือ TOR (The Onion Router), เรดดิต (Reddit), พินเทอเรสต์ (Pinterest), ทัมเบลอร์ (Tumblr) เป็นต้น เว็บไซต์เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตัวกรองด้วยความร่วมมือกันจากผู้ใช้เพื่อส่งเสริมสิ่งใดก็ตามที่ดีที่สุดในขณะนั้น เกือบทุกวันจะมีบริษัทเปิดใหม่สักแห่งหนึ่งออกมาแนะนำแนวทางใหม่ๆอย่างภูมิใจที่จะนำพลังจากความร่วมมือของชุมชนออนไลน์มาใช้ประโยชน์ การพัฒนาเหล่านี้แสดงให้เห็นทิศทางที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่ “สังคมนิยม” และ “สังคมเครือข่าย”  Jeffrey Sachs นักเศรษฐศาสตร์ได้เสนอยุทธศาสตร์เกี่ยวกับหลักการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circularity and Decoupling) แนวคิดหลัก ๆ ของเศรษฐกิจหมุนเวียนคือการนำของเสียวนเข้ากลับมาในวัฏจักรการผลิตเพื่อนำไปสู่การบริโภคหรือการบริการ แนวคิด Decouple เริ่มเป็นที่ถูกพูดถึงเพราะโลกมีแนวโน้มประชากรที่เพิ่มขึ้นหากอ้างอิงจากเว็บไซต์ worldometers.info ซึ่งรวมข้อมูลการเกิดและการตายของประชากรทั่วโลก โดยในปี ค.ศ. 2021 มีจำนวนประมาณ 7,800 ล้านกว่าคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปีหลังๆ ซึ่งการที่ประชากรในโลกเพิ่มขึ้นนำมาสู่การบริโภคและการผลิตที่มากขึ้นส่งผลมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น เมื่อมีการผลิตสินค้าที่มากขึ้นจะนำไปซึ่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน เช่น จำนวนขยะพลาสติกทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.3 พันล้านตันตั้งแต่ช่วงต้น ค.ศ.1950 ระดับของ Decoupling สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับด้วยกัน 1. Absolute decoupling ซึ่งคือระดับของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น ในขณะที่มีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมลดลง 2. Relative decoupling ซึ่งคือระดับของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น มากกว่าผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น</p>
<p>สังคมนิยมแบบดิจิทัลโดยใช้เศรษฐกิจแบบเครือข่ายแบ่งปันกันนั้นต่างจากระบบสังคมนิยมที่ใช้การสั่งการโดยรัฐบาลแบบบนลงล่างที่มีลักษณะแบบวางแผนจากศูนย์กลาง มีลักษณะที่เราเรียกว่า Centralized and Command Economy แต่สังคมนิยมแบบดิจิทัลเป็นระบบเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์ (Distributed and Decentralized Economy) สังคมนิยมแบบดิจิทัลจึงมีรากฐานจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้พรมแดน หน่วยเศรษฐกิจหรือผู้คนสามารถประสานความร่วมมือกันได้อย่างเหนียวแน่น การสื่อสารและการทำงานแบบเครือข่ายก่อให้เกิดสังคมแบบกระจายศูนย์แบบสุดขั้ว แทนที่จะใช้การรวบรวมผลผลิตในระบบนารวมแบบในประเทศสหภาพโซเวียตหรือประเทศจีนในสมัยเหมา เจ๋อ ตุง ก็ใช้เทคโนโลยีรวบรวมผลงานของทุกคนผ่านเครือข่ายทางด้านไอทีที่เชื่อมโยงกัน สามารถแบ่งปันข้อมูล ผลงานต่างๆกันได้ เป็นลักษณะการทำงานโดยหน่วยย่อยโดยกลุ่มคนรวมตัวกันเป็นชุมชนจัดการบริหารและจัดสรรผลประโยชน์ร่วมกันที่เราอาจเรียกว่าเป็น Peer Production เมื่อผู้เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต ไม่ว่าจะเป็นทุน แรงงาน ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดประกอบการ เครื่องจักรอุปกรณ์หรือที่ดิน พยายามทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันและแบ่งปันผลผลิตกันจนเป็นภาวะปรกติในระบบเศรษฐกิจ และพร้อมร่วมแรงร่วมใจในการไม่รับตอบแทนจากปัจจัยการผลิตหรือค่าจ้าง พร้อมกับพอใจกับสิ่งที่ตัวเองได้รับตอบแทนโดยไม่ต้องจ่ายเงิน เราย่อมเรียกระบบเศรษฐกิจดังกล่าวว่า มีลักษณะความเป็นสังคมนิยมอยู่แต่เป็นเศรษฐกิจสังคมนิยมแบบดิจิทัล ซึ่งนักวิชาการบางท่านเรียกว่า เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน นั่นเอง ในโลกสังคมออนไลน์นั้นผู้คนต่างแบ่งปันข้อมูล ข่าวสาร ภาพถ่ายกันมากมาย นอกจากนี้ยังมีโพสต์อัปเดตสถานะ การระบุตำแหน่งบนแผนที่ มีคลิปวิดิโอมากมายที่ถูกโพสต์ในยูทูบ เราเห็นเนื้อหาต่างๆถูกแบ่งปันเกิดขึ้นโดยทั่วไปอันเป็นลักษณะอย่างหนึ่งของเศรษฐกิจสังคมนิยมแบบดิจิทัล </p>
<p>การแบ่งปันของชุมชนออนไลน์สามารถปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ต่างๆได้เหมือนเป็นการร่วมกันทำงาน (Cooperation)  เว็บไซต์อย่าง เรดดิต และ ทวิตเตอร์ อาจสร้างการชี้นำความคิดของประชาชนได้มากกว่าหนังสือพิมพ์หรือสถานีโทรทัศน์ขนาดใหญ่ โลกออนไลน์ในระบบเศรษฐกิจแบบดิจิทัล เครือข่ายที่ทำงานร่วมกันย่อมได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่าผลงานที่ต่างคนต่างทำ การร่วมกันทำงานแบบเครือข่ายออนไลน์นั้นเป็นการทำงานข้ามพรมแดนรัฐชาติและมีลักษณะเป็นนานาชาติ </p>
<p>ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมเครือข่ายความร่วมมือ (Collectivism) และ ประสานความร่วมมือเชิงลึก (Collaboration) ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทำให้การแบ่งปันในระบบเศรษฐกิจสามารถเกิดขึ้นในขอบเขตกว้างขวางและขยายตัวอย่างก้าวกระโดดผ่านสังคมเครือข่ายความร่วมมือ มีคนมาช่วยกันทำงานเป็นกลุ่มทางออนไลน์มากมาย ยกตัวอย่างเช่น วิกิพีเดียก็มีผู้ใช้ลงทะเบียนเกือบ 25 ล้านคนเข้ามาช่วยสร้างเนื้อหาโดยมีผู้เขียนประจำอยู่มากกว่า 150,000 ราย อินสตาแกรมมีผู้ใช้ที่เข้าโพสต์เป็นประจำมากกว่า 350 ล้านคน แต่ละเดือนมีกลุ่มมากกว่า 700 ล้านกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมในเฟซบุ๊ก (Facebook) เว็บไซต์แบบเรดดิต (Reddit) ใช้เทคนิค Collaborative Filtering  เพื่อคัดเลือกหัวข้อที่อยู่ในกระแสสนใจนั้น มีผู้เข้าชมที่ไม่ใช่บุคคลซ้ำกัน (Unique Visitors) มากถึง 170 ล้านคนต่อเดือนและมีชุมชนออนไลน์ที่ทำกิจกรรมร่วมกันทุกวันมากกว่า 15,000 ชุมชน Youtube ผู้ใช้บริการมากกว่า 2 พันล้านคนต่อเดือน ซึ่งผู้ใช้บริการเหล่านี้ ต่างเป็นผู้ช่วย Youtube ในสร้างชุมชนขนาดใหญ่ด้วยการผลิตวิดิโอและนำวิดิโอมาโพสต์ลงบนยูทูบ Youtube จึงเป็นกลายเป็นสื่อที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสถานีโทรทัศน์และบริษัทโฆษณาทั้งหลาย </p>
<p>เศรษฐกิจแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์นั้นถูกขับเคลื่อนและดำเนินไปโดยแรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างในส่วนสำคัญของกิจการ ผู้คนเป็นพันล้านคนใช้เวลามากมายในแต่ละวันเพื่อสร้างเนื้อหาให้เฟซบุ๊กฟรีๆโดยรายงานเหตุการณ์ต่างๆ แสดงความคิดเห็น นำเสนอเรื่องราวต่างๆพร้อมโพสต์รูปภาพต่างๆ โพสต์วิดิโอต่างๆ สิ่งที่อาจจะพิจารณาว่าเป็นค่าจ้างได้ ก็คือ การสื่อสารถึงกลุ่มคนต่างๆและความสัมพันธ์ใหม่ หากโพสต์มีคนเข้าชมหรือมีส่วนร่วมมากพอก็อาจได้รับส่วนแบ่งจากโฆษณาเพียงเล็กน้อย ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมและได้รับประโยชน์ที่เหมาะสมในเงื่อนไขที่เหมาะสม ในอนาคตการแบ่งปันข้อมูลอาจจะขยายไปยัง ข้อมูลการเงินส่วนบุคคล ปัญหาสุขภาพ หรือชีวิตส่วนตัว ก็ได้</p>
<p>รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวแสดงความห่วงใยว่า “ช่องว่างทางดิจิทัล” จะทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมย่ำแย่ลง เวลาเราพูดถึง ช่องว่างทางดิจิทัล เรามักหมายถึง ช่องว่างระหว่างกลุ่มที่เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลกับกลุ่มที่เข้าไม่ถึง ความแตกต่าง ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่สะท้อนความสามารถทางการเงิน ฐานะทางเศรษฐกิจ ทักษะและศักยภาพของบุคคลที่แตกต่างกันอีกด้วย เราจึงเห็นความแตกต่างของการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศด้อยพัฒนา ระหว่างพื้นที่ในเมืองใหญ่กับชนบท ความไม่สามาถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ทำให้เป็นอุปสรรคในการประกอบอาชีพ การศึกษา ข้อมูลข่าวสารและโอกาสทางเศรษฐกิจต่างๆ ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึง การใช้ และผลกระทบจาก เทคโนโลยีโทรคมนาคมและการสื่อสารของผู้คน ตั้งแต่อดีตจนก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลในระยะต่อมา ทำให้ความไม่เท่าเทียมนี้ถูกเรียกในภายหลังว่า “ช่องว่างทางดิจิทัล” หรือ Digital Divide ซึ่งแปลความให้ง่ายก็คือ ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต</p>
<p>ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยีและช่องทางในการติดต่อสื่อสารของมนุษย์เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติของการใช้โทรเลขของโลก ตั้งแต่ ค.ศ. 1849 หรือ พ.ศ. 2392 เป็นต้นมา พบว่าช่องว่างทางด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีหรือความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงระบบโทรเลขของประเทศต่างๆในยุโรปตะวันตก มีแนวโน้มลดลงหรือในบางกรณีกลับเป็นตรงกันข้ามและช่องว่างนี้มีความเชื่อมโยงกับความไม่เท่าเทียมประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น ความไม่เท่าเทียมทางด้านเศรษฐกิจและการศึกษา</p>
<p>จากข้อมูลที่เผยแพร่โดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) เมื่อปี ค.ศ. 2019 พบว่าประชากรทั้งโลกซึ่งมีอยู่ประมาณ 7,700 ล้านคน มีประชากรเพียง 53.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ประชาชนจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะคนในแอฟริกา ละตินอเมริกาและเอเชียใต้</p>
<p>ขณะเดียวกัน ข้อมูลของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ยังพบว่า ปัญหาของครัวเรือนในไทยที่ใหญ่กว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านคือ การไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ที่บ้าน  หากเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ประเทศไทยมีสัดส่วนครัวเรือนที่มีคอมพิวเตอร์เพียงร้อยละ 21 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่ร้อยละ 49 และค่าเฉลี่ยของประเทศกำลังพัฒนาที่ร้อยละ 38 ขณะที่ ประเทศไทยมีสัดส่วนครัวเรือนที่มีอินเทอร์เน็ตที่บ้านร้อยละ 68 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่ร้อยละ 55 และค่าเฉลี่ยของประเทศกำลังพัฒนาที่ร้อยละ 44 ในปี พ.ศ. 2563 การเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของครัวเรือนยิ่งยากมากขึ้นหากเป็นครัวเรือนที่มีฐานะยากจน จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ในปี 2560 ในประเทศไทย ครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปีน้อยกว่า 2 แสนบาทมีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพียงร้อยละ 3 ของครัวเรือนทั้งหมด ขณะที่ครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปี 2 แสนบาทขึ้นไปมีคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตร้อยละ 19 ของครัวเรือนทั้งหมด ความไม่เท่าเทียมจากการเข้าถึงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตที่ผู้คนทั้งโลก เกิดจากปัจจัยอย่างน้อยที่สุด 3 ประการคือ ประการที่หนึ่ง เกิดจากช่องว่างในการเข้าถึงการใช้เทคโนโลยี (วัดจากจำนวนและการกระจายตัวของเทคโนโลยี เช่น จำนวนโทรศัพท์ จำนวนคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เป็นต้น) ประการที่สอง เกิดจากช่องว่างจากความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (วัดจากทักษะและปัจจัยเสริมอื่นๆ) ประการที่สาม เกิดจากช่องว่างที่มีผลกระทบต่อการใช้งาน (วัดจากผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ การเงิน หรือการวัดผลด้านอื่น)
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107452
 
2894  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - สาวคนดังสร้างเรื่องอีก ถอดสิ่งนี้มาเป็นยางมัดผม ใครเห็นก็อึ้ง กลางห้างดังยังก เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 19:01:40
สาวคนดังสร้างเรื่องอีก ถอดสิ่งนี้มาเป็นยางมัดผม ใครเห็นก็อึ้ง กลางห้างดังยังกล้า
         


สาวคนดังสร้างเรื่องอีก ถอดสิ่งนี้มาเป็นยางมัดผม ใครเห็นก็อึ้ง กลางห้างดังยังกล้า" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;อดีตพยาบาลสาวแซ่บ คัพ E สร้างเรื่องอีก โชว์ถอดสิ่งนี้กลางห้างดัง เอามาทำ DIY เป็นยางมัดผม
         

https://www.sanook.com/news/9165030/
         
2895  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ประธานอนุกรรมการรับฟังความเห็นฯ ยืนยันคำถามประชามติ มาจากภาคประชาชน เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 18:03:55
ประธานอนุกรรมการรับฟังความเห็นฯ ยืนยันคำถามประชามติ มาจากภาคประชาชน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 12:19</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ประธานอนุกรรมการรับฟังความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันคำถามประชามติ มาจากภาคประชาชน นำรวมรายงานส่ง ครม.แล้ว พร้อมเปิดเผยสรุปผลรับฟังความเห็นประชาชน</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/50401044531_6b887d390c_k_d.jpg" /></p>
<p>สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2566 ว่านายนิกร จำนง ประธานอนุกรรมการรับฟังความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กล่าวถึงกรณีข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญระบุ “ทำให้ภาคประชาชนผิดหวัง” นั้น ว่ากลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประกอบด้วยนิสิต นักศึกษา เยาวชน คนรุ่นใหม่ คงผิดหวังจริงที่ผลอาจไม่ออกมาตามความต้องการของกลุ่มตามที่ได้มีโอกาสรับเชิญเข้าไปในทำเนียบเป็นกลุ่มแรกสุด เพื่อรับฟังความเห็น และอีกส่วนหนึ่งก็ได้เข้าไปให้ความเห็นแบบตรงไปตรงมา ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับตัวแทนเฉพาะของกลุ่มประชาชน แล้วความเห็นดังกล่าวได้ถูกบันทึกไว้ในรายงานเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเรียบร้อย มิต้องกังวลว่าจะตกหล่นไปอย่างแน่นอน</p>
<p>นายนิกร กล่าวเพิ่มว่า รายงานผลการรับฟังประชาชนทุกกลุ่ม เฉพาะทุกกลุ่ม ทุกภาคนั้น ได้สรุปผลส่งไปยังคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ซึ่งครม.คงจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบ โดยการรับฟังสรุปความเห็นที่ตอบจากทุกกลุ่ม ไม่ว่าประชาชนทั่วไปจากกลุ่มอาชีพ และทุกภาคที่เห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยไม่แก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 หรือแม้แต่ความเห็นส่วนมากของวุฒิสมาชิก ที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขทั้งฉบับ แต่กลับเห็นด้วยกับการแก้ไขเป็นรายยมาตรา จุดนี้ ยังมีความสุ่มเสี่ยงกับการไม่ผ่านความเห็นชอบถึง 1ใน3 ของวุฒิสมาชิก ซึ่งไม่ต้องไปถึงการแก้ทั้งฉบับไม่ยกเว้นสองหมวดดังกล่าวที่เขาได้แสดงความชัดเจนมาตลอดว่าไม่เห็นชอบด้วย</p>
<p>“นอกจากนั้นมีการนำเสนอข้อมูลปัญหาของประชาชนกลุ่มต่างๆ และในภูมิภาคต่างๆ ที่มีปัญหามากมายที่ต้องการให้แก้ไขในหมวดต่างๆ เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรงที่ไม่ใช่หมวด 1 หรือหมวด 2 จึงเรียกร้องให้ทุกคน ทุกกลุ่ม รับฟังความเห็นเบื้องต้นนี้อย่างใจกว้าง และให้ตั้งอยู่บนเป้าหมายให้เกิดผลความสำเร็จในการมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยของประชาชน ทุกกลุ่ม ทุกภาคส่วน มิใช่เป็นของประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ ดังนั้น ขอให้ช่วยกันพิจารณาสรุปผลจากการรับฟังประชาชนกลุ่มเฉพาะที่จะขอเปิดเผยให้ทราบในโอกาสนี้ เพื่อจะได้ร่วมกันพิจารณาด้วยความรอบคอบให้เกิดผลสัมฤทธิ์สำหรับประชาชนไทยต่อไป” นายนิกร กล่าว</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107447
 
2896  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - รัฐบาลจีนใช้วิธีไหนในการส่งอิทธิพลแทรกแซงการเลือกตั้งไต้หวัน เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 16:24:43
รัฐบาลจีนใช้วิธีไหนในการส่งอิทธิพลแทรกแซงการเลือกตั้งไต้หวัน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 14:08</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ทางการจีนอาศัยเครื่องมือต่างๆ ในการส่งอิทธิพลต่อประเด็นการรวมไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และส่งอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในไต้หวันที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 13 ม.ค. นี้ เช่นปฏิบัติการไอโอทางโซเชียลมีเดียอย่างโต่วอิน/ติ๊กตอก รวมถึงการโทรไปข่มคนที่ซื้อหนังสือเนื้อหาต่อต้านการรุกรานของจีน</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52269244055_5c38ef5396_o_d.jpg" /></p>
<p>คนทำงานเอ็นจีโอชาวไต้หวันชื่อ ซินเทีย อียัน เคยซื้อหนังสือที่ชื่อ "ถ้าหากจีนโจมตี" จากร้านหนังสือแห่งหนึ่งในไต้หวัน ไม่กี่เดือนถัดจากนั้นเธอก็เริ่มได้รับสายเรียกเข้าจากเบอร์แปลกๆ เธอตัดสินใจรับสายหนึ่ง ในสายนั้นเธอต้องพูดกับคนถึง 3 คนและทุกคนต่างก็แสร้งทำตัวว่าตนมาจากไต้หวัน แต่ซินเทียบอกว่าเธอเห็นได้ชัดเจนว่าคนเหล่านี้เป็นชาวจีน</p>
<p>ในตอนแรกซินเทียนึกว่ามันเป็นแค่การสแกมหรือหลอกลวงต้มตุ๋นออนไลน์ แล้วก็คาดเดาว่าบทสนทนาจะกลายเป็นการขอเบอร์บัตรเครดิตหรือข้อมูลธนาคารของเธอ แต่กลับมีเรื่องที่ทำให้ซินเทียต้องแปลกใจ เพราะมีคนหนึ่งที่ปลายสายเปิดเผยว่าเขารู้ชื่อจริงของเธอ รู้ชื่อของหนังสือที่เธอสั่งเมื่อหลายเดือนก่อน และรู้ว่าเธอสั่งซื้อมันมาจากที่ไหน คนกลุ่มนั้นบอกว่าพวกเขาสงสัยว่าซินเทียคิดอย่างไรกับหนังสือ "ถ้าหากจีนโจมตี" แล้วถามว่าทำไมเธอถึงซื้อหนังสือเล่มนี้มาตั้งแต่แรก</p>
<p>"พวกเขายังต้องการให้ฉันรู้ด้วยว่าหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและอ่อนไหว อีกทั้งยังนับเป็นโฆษณาชวนเชื่อด้วย" ซินเทียกล่าว</p>
<p>คนที่ปลายสายโทรศัพท์บอกกับซินเทียว่าถ้าหากมีสงครามเกิดขึ้นระหว่างจีนกับไต้หวันจริง กำลังทัพของไต้หวันจะไม่มีทางสู้กับกองทัพจีนได้</p>
<p>พอถึงจุดนี้ ซินเทียก็รับรู้แล้วว่าเธอกำลังตกเป็นเป้าหมายสงครามจิตวิทยาของจีน</p>
<h2><span style="color:#3498db;">จีนใช้แอพ โต่วอิน/ติ๊กตอก ทำสงครามจิตวิทยาต่อชาวไต้หวัน</span></h2>
<p>สำหรับจีนแล้วพวกเขามองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศพวกเขา แต่รัฐบาลปัจจุบันจองไต้หวันมองว่าพวกเขาเป็นประเทศที่มีอธิปไตยเป็นของตัวเองและมีระบอบการปกครองของตัวเองที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของจีน เรื่องนี้ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างสองพื้นที่ และจีนก็เคยประกาศว่าพวกเขาไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ออกไปในเรื่องที่จะใช้กำลังยึดครองเอาไต้หวันมาเป็นของตัวเอง</p>
<p>และในช่วงที่ผ่านมาก็ดูเหมือนว่าจีนกำลังพยายามใช้สงครามจิตวิทยาผ่านทางระบบโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่างโต่วอิน (Douyin) ซึ่งเป็นชื่อเรียกติ๊กตอกสำหรับจีน</p>
<p>สื่อไทเปไทม์รายงานว่าทางการจีนกำลังมุ่งเป้าโจมตีผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนรุ่นใหม่ในไต้หวันผ่านทางวิดีโอในแอพโต่วอินที่มีเนื้อหาสร้างความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในรัฐบาลไต้หวันและกองทัพไต้หวัน เช่นมีกรณีที่อ้างว่าชาวไต้หวันที่เกณฑ์เข้าไปเป็นทหารจะเป็นการทำลายอนาคตของตัวเอง และอ้างว่าการลงคะแนนโหวตให้ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าไต้หวัน (DPP) จะเป็นการนำไปสู่สงคราม</p>
<p>วิดีโอที่จีนสร้างขึ้นโดยเน้นผู้รับชมเป็นคนรุ่นใหม่ชาวไต้หวันนั้น มีเป้าหมายอยู่ 4 อย่าง คือ เพื่อสร้างความรู้สึกที่ว่าสงครามจะคืบคลานเข้ามาถ้าหากพรรค DPP ซึ่งเป็นพรรคสนับสนุนอธิปไตยไต้หวันได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง เป้าหมายต่อมาคือเพื่อให้ร้ายนโยบายการเกณฑ์ทหารของไต้หวัน, เพื่อสร้างความรู้สึกสนับสนุนจีน และเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อนโยบายที่เป็นประเด็นสำคัญ</p>
<p>ในสื่อที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนอย่างโกลบอลไทม์และสื่อจีนอื่นๆ ยังได้ตีพิมพ์เผยแพร่รายงานในเชิงใส่ร้ายป้ายสีพรรค DPP เพื่อทำให้เกิดความคิดเห็นด้านลบต่อพรรค DPP ในไต้หวันด้วย แหล่งข่าวที่ให้ข่าวต่อไทเปไทม์ระบุว่า นักการเมืองไต้หวันที่อยู่ฝ่ายสนับสนุนจีนก็รับลูกวาทกรรมจากไอโอจีนด้วย โดยอ้างว่าการโหวตให้ DPP จะกลายเป็นการ "ส่งคนหนุ่มสาวสู่สนามรบ" นักการเมืองกลุ่มนี้ให้ความร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการสร้างวาทกรรมเพื่อขู่ชาวไต้หวัน</p>
<p>แหล่งข่าวกล่าวว่าทางการจีนจงใจใช้สงครามจิตวิทยาในแบบที่เรียกว่า "สงครามด้านกระบวนความคิด" (cognitive warfare) ในการสร้างภาพลักษณ์ในแง่ลบต่อพรรครัฐบาล DPP ของไต้หวันในสายตาของคนรุ่นเยาว์ในไต้หวันด้วย ซึ่งมีเป้าหมายต้องการส่งอิทธิพลต่อผลการเลือกตั้งของไต้หวัน</p>
<p>ในไต้หวันมีการห้ามไม่ให้ข้าราชการใช้โซเชียลมีเดียของจีน รวมถึง โต่วอิน และ ติ๊กตอก (โต่วอินฉบับนานาชาติ) มาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว</p>
<p>เมื่อเดือน ธ.ค 2565 สภาบริหารของไต้หวันก็บอกว่ามันไม่มีมูลเหตุทางกฎหมายให้ต้องจำกัดการใช้งานโต่วอินและติ๊กตอกในระดับประชาชนทั่วไป และบอกว่าอาจจะมีการปรึกษาหารือกับประเทศอื่นๆ กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในไต้หวันเพื่อพิจารณาว่าจะแก้ไขกฎหมายดีหรือไม่ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่มีความคิบหน้ามาก โดยมีการอ้างถึงกรณีที่สหรัฐฯ และออสเตรเลียแบนติ๊กตอกในหมู่ข้าราชการ ขณะเดียวกันก็มีการเตือนว่าการแบนติ๊กตอกในระดับประชาชนทั่วไปจะทำให้คนจำนวนมากต่อต้านโดยเฉพาะคนรุ่นเยาว์ที่ใช้งานแอพเหล่านี้</p>
<h2><span style="color:#3498db;">"สงครามด้านกระบวนความคิด"</span></h2>
<p>ซินเทีย เป็นคนที่เผชิญกับวาทกรรมจากจีนที่ต้องการส่งผลต่อการเลือกตั้งในไต้หวันเช่นกัน คนจากโทรศัพท์ปริศนาบอกกับเธอว่าการที่เธอจะหลีกเลี่ยงสงครามได้นั้นเธอจะต้องโหวตลงคะแนนเสียงให้กับพรรคฝ่ายค้านปัจจุบันคือพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) แทนพรรค DPP โดยที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีและ ส.ส. ในไต้หวันนั้นกำลังจะมีขึ้นในวันที่ 13 ม.ค. ที่จะถึงนี้</p>
<p>ทางการจีนปฏิเสธที่จะทำการเจรจากับพรรค DPP ในขณะเดียวกันก็อ้างว่า DPP เป็น "กลุ่มแบ่งแยกดินแดน" ซึ่งพรรค DPP ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้และบอกว่ามันขึ้นอยู่กับประชาชนในไต้หวันที่จะเลือกผู้นำของตัวเองและกำหนดอนาคตของตัวเอง</p>
<p>ซินเทียบอกว่า การโทรศัพท์มาหาเช่นนี้เป็นเรื่องน่าตลก แต่ก็มีความกังวลว่าทำไมคนที่โทรหาเธอถึงเก็บข้อมูลส่วนตัวของเธอได้มากขนาดนั้น เธอบอกว่าเรื่องนี้น่ากลัวเพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าคนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนโทรหาเธอเพื่อบอกว่า "พวกเรารู้ว่าคุณคือใครและพวกเรารู้ว่าคุณกำลังต่อต้านจีน"</p>
<h2><span style="color:#3498db;">จีนเอียงข้างก๊กมินตั๋ง</span></h2>
<p>ทางการจีนเคยแสดงออกถึงความชอบพอส่วนตัวต่อพรรคการเมืองไต้หวันให้เห็นต่อหน้าสาธารณะด้วยเช่นกัน เช่น เจ้าหน้าที่ทางการจีนใช้คำขวัญแบบเดียวกับพรรค KMT ในการเรียกการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นว่าเป็น "การเลือกระหว่างสันติภาพและสงคราม" อีกทั้งสำนักงานกิจการไต้หวันของรัฐบาลจีนยังเคยบอกกับรองประธานพรรค KMT ว่าพร้อมที่จะสานสัมพันธ์กับพรรคให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย</p>
<p>ในทางตรงกันข้ามทางการจีนไม่ยอมหารือกับพรรค DPP เลยหลังจากที่ไช่อิงเหวินได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2559 แต่กลับข้้ามขั้นตอนการติดต่อสื่อสารไปพูดคุยกับกลุ่มผู้นำการเมืองและเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นของไต้หวันโดยตรงโดยไม่ผ่านรัฐบาลพรรคกลาง DPP ของไต้หวัน</p>
<p>นอกจากนี้จีนยังเคยสั่งให้เจ้าหน้าที่ทางการจีนสืบสวนเรื่องภาษีของบริษัทไอทีไต้หวัน "ฟ็อกซ์คอนน์" ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างรายได้ราวร้อยละ 70 จากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในจีนด้วย คำประกาศให้สืบสวนนี้มีขึ้นหลังจากที่ซีอีโอของฟ็อกซ์คอนน์ Terry Gou ประกาศว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในฐานะผู้สมัครอิสระ ซึ่งเป็นการกระทำที่สื่อจีนระบุว่าจะเป็นการแบ่งขั้วฝ่ายค้านและเป็นประโยชน์กับพรรค DPP</p>
<p>หลังจากที่เรื่องการถูกสอบภาษีเปิดเผยต่อสาธารณะ Gou ก็ยกเลิกกิจกรรมหาเสียงหลายที่ และในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นก็ยกเลิกการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่ประสานงานกันจากรัฐบาลจีน</span></h2>
<p>นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนเพิ่มการปฏิบัติการต่อไต้หวันในช่วงเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งท้องถิ่นปี 2561 และการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2563 ก็เคยมีปฏิบัติการแบบนี้</p>
<p>แต่ในครั้งนี้มีทั้งเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์และการใส่ร้ายป้ายสีอย่างเป็นขบวนการเกิดขึ้นด้วย เมื่อต้นเดือน ธ.ค. 2566 กูเกิลเคยเตือนเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์ต่อภาคส่วนต่างๆ ของรัฐบาลไต้หวันเพิ่มขึ้นตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และในเดือน ส.ค. บริษัทเมตาเจ้าของเฟสบุคและอินสตาแกรมทำการปราบปรามปฏิบัติการสร้างอิทธิพลจากจีนผ่านบัญชีผู้ใช้งานมากกว่า 7,500 บัญชีทั้งสองแพลตฟอร์ม ซึ่งมีจำนวนมากที่เป็นการโจมตีไต้หวัน</p>
<p>Ai-Men Lau นักวิเคราะห์เรื่องปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของจีนจาก ดับเบิลธิงแล็บ กล่าวว่ามีหลักฐานชี้ไปในทางที่ว่าปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารเหล่านี้มาจากจีน เพราะบัญชีผู้ใช้งานบางส่วนมีปฏิบัติการแค่ในช่วงเวลาราชการของจีนเท่านั้นคือระหว่าง 9 โมงเช้า - 5 โมงเย็น และหยุดทำการช่วงพักเที่ยง และมักจะโพสต์เนื้อหามากกว่า 200 เนื้อหาต่อวันซึ่งผิดวิสัยผู้ใช้งานทั่วไป</p>
<p>Ai-Men Lau บอกอีกว่า ทางการจีนยังเริ่มใช้คนที่เป็นปากเสียงในไต้หวันเองมาเป็นเครื่องมือ เช่นนักข่าวในไต้หวัน อินฟลูเอนเซอร์โซเชียล หรือตัวแทนในไต้หวัน เพื่อเป็นคนคอยช่วยส่งสารให้</p>
<p>ฝ่ายข่าวกรองของไต้หวันประกาศว่าปฏิบัติการแทรกแซงที่ตั้งเป้าหมายเป็นไต้หวันนั้นเป็นปฏิบัติการที่มีการประสานงานมาจากกลุ่มผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน</p>
<p>โดยที่ข่าวกรองไต้หวันระบุว่า ผู้นำระดับที่ 4 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือ Wang Huning เคยจัดประชุมในช่วงต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาระหว่างกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าความพยายามหลายอย่างของพวกเขาในการส่งอิทธิพลต่อการเลือกตั้งไต้หวันจะทำได้สำเร็จ</p>
<p><strong>เรียบเรียงจาก</strong>
CCP targets voters with Douyin: source, Taipei Times, 18-12-2023
How Beijing is changing the way it involves itself in Taiwan’s election, Aljazeera, 19-12-2023</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107450
 
2897  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เฉลยแล้ว "ปูอัด" ทำมาจากอะไร? อ.เจษฎา แจงละเอียดยิบ ขั้นตอนการทำปูอัด เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 16:21:59
เฉลยแล้ว "ปูอัด" ทำมาจากอะไร? อ.เจษฎา แจงละเอียดยิบ ขั้นตอนการทำปูอัด
         


เฉลยแล้ว &quot;ปูอัด&quot; ทำมาจากอะไร? อ.เจษฎา แจงละเอียดยิบ ขั้นตอนการทำปูอัด" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;อ.เจษฎา โต้คลิปกระบวนการทำปูอัด เห็นก้อนสีขาว ๆ วัตถุดิบนี้ทำจากเยื่อกระดาษ เฉลยปูอัดทำมาจากอะไร พร้อมขั้นตอนการทำปูอัด
         

https://www.sanook.com/news/9164930/
         
2898  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยปี 2566 คนถูกขัง 'นาน' - ขังข้ามปี 'เยอะ' ทุบ เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 14:53:38
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยปี 2566 คนถูกขัง 'นาน' - ขังข้ามปี 'เยอะ' ทุบสถิติ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 13:19</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยปี 2566 มีผู้ต้องขังคดีการเมืองอย่างน้อย 37 คนในเรือนจำจะถูกขังข้ามปีต่อเนื่องไปยังปี 2567 มากที่สุดในรอบอย่างน้อย 2 ปี โดยรอยต่อปี 2564-65 มีคนถูกขังข้ามปี อย่างน้อย 22 คน และรอยต่อ 2565-66 มีอย่างน้อย 19 คน</p>
<p><img alt="" src="https://tlhr2014.com/wp-content/uploads/2023/12/FB-%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87-1536x807.png" /></p>
<p>31 ธ.ค. 2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่าปี 2566 นี้อาจนับได้ว่ามีผู้ถูกคุมขังในคดีการเมืองเป็นจำนวน ‘มากที่สุด’ ในรอบหลายปี เพราะตลอดทั้งปีที่ผ่านมามีประชาชนและนักกิจกรรมทางการเมืองทยอยเข้าเรือนจำอย่างต่อเนื่องในหลายคดี อย่างน้อย 56 คน มากกว่าปี 2565 ที่มียอดคนถูกคุมขังอยู่ตลอดทั้งปีที่อย่างน้อย 46 คน </p>
<p>เมื่อนับรวมกับผู้ที่ถูกคุมขังต่อเนื่องมาจากปี 2565 อย่างน้อย 19 คน จะทำให้ตลอดทั้งปี 2566 นี้มีคนถูกคุมขังในเรือนจำ อย่างน้อย 67 คน </p>
<p>จากจำนวนผู้ถูกคุมขังกว่า 67 คนข้างต้น อย่างน้อย 37 คนยังไม่ถูกปล่อยตัวและทำให้พวกเขาจะต้องถูกคุมขังข้ามปีไป 2567 นับว่าเป็นจำนวนที่มากกว่า 2 ปีที่ผ่านมา โดยรอยต่อปี 2564 – 2565 มีอย่างน้อย 22 คน และรอยต่อปี 2565 – 2566 มีอย่างน้อย 19 คน </p>
<p><img alt="" src="https://lh7-us.googleusercontent.com/XmMewcTzGAtNWGrCUDzCFEMepsrc3hJKwntMKhXGZXJ4NH8wvfNp0kLLKOcn8GdDNS9bBsgJytLBkRc1pL0UDMPvQYFwW1fBXyEEBfTWgnr8xd7B-hV8-HlM1HqESCPmg7RU-pYUMz9eROMczhzHjDc" /></p>
<p>อ่านรายงานนี้ฉบับเต็มในเว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/12/107449
 
2899  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "ส.ว.วันชัย" เปิดคำทำนาย ปีมังกรทองของรัฐบาลเศรษฐา ลุ้นไม่นานเปลี่ยน "อุ๊งอิ เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 13:46:03
"ส.ว.วันชัย" เปิดคำทำนาย ปีมังกรทองของรัฐบาลเศรษฐา ลุ้นไม่นานเปลี่ยน "อุ๊งอิ๊งค์" เป็นนายกฯ
         


&quot;ส.ว.วันชัย&quot; เปิดคำทำนาย ปีมังกรทองของรัฐบาลเศรษฐา ลุ้นไม่นานเปลี่ยน &quot;อุ๊งอิ๊งค์&quot; เป็นนายกฯ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/9164698/
         
2900  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 24-31 ธ.ค. 2566 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2566 13:22:12
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 24-31 ธ.ค. 2566
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-12-31 12:29</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p><strong>เตือนรถโดยสารสาธารณะช่วงปีใหม่หากพบทำผิดลงโทษขั้นสุด</strong></p>
<p>นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เนื่องด้วยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่จะมาถึงนี้เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง (ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567) โดยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ โดยการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกกำกับ ดูแล และคุ้มเข้มการปฏิบัติหน้าที่ของรถโดยสารสาธารณะอย่างเคร่งครัด</p>
<p>ทั้งนี้รมช. กระทรวงคมนาคม ได้เตือนผู้ประกอบการและพนักงานขับรถต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและอย่าฉวยโอกาสในช่วงวันหยุดยาวเอาเปรียบผู้โดยสาร กรณีรถโดยสาร พนักงานขับรถต้องมีความพร้อมสำหรับการบริการตามมาตรการด้านความปลอดภัย ปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กำหนด ห้ามเรียกค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด สภาพรถต้องมีความพร้อม</p>
<p>ส่วนพนักงานขับรถต้องมีความพร้อมก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ โดยต้องมีค่าแอลกอฮอล์เป็นศูนย์และขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด กรณีรถแท็กซี่ รถสามล้อสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ ห้ามปฏิเสธผู้โดยสาร ต้องส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลงกันไว้ เมื่อรับผู้โดยสารต้องกดมิเตอร์ทุกครั้งและไม่เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด และต้องไม่เมาสุราหรือของมึนเมาขณะขับรถ ทั้งนี้ พนักงานขับรถโดยสารธารณะต้องมีใบอนุญาตขับรถถูกต้องและตัวรถต้องจดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะ (ป้ายเหลือง)</p>
<p>นายสุรพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกกำกับ ดูแล จัดรถโดยสารให้เพียงพอต่อการเดินทางของประชาชนและจัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ออกตรวจตามสถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดจอด รวมถึงจุดที่มีประชาชนเรียกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ</p>
<p>ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ ที่ทำผิดกฎหมายกรมการขนส่งทางบกจะนำระบบการตัดคะแนนใบอนุญาตรถสาธารณะมาบังคับใช้ เพื่อกำกับดูแลให้ผู้ให้บริการขับรถโดยสารสาธารณะปฏิบัติตามกฎหมาย หากพบพนักงานขับรถทำผิดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจะดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุดและมีโอกาสถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้ ถ้าประชาชนพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะสามารถแจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง</p>
<p>ที่มา: โพสต์ทูเดย์, 30/12/2566</p>
<p><strong>คนไทยความพร้อมก่อนวัยเกษียณต่ำ เงินออมน้อย 10% อยู่รอดวัยชราต้องใช้เงิน 3-5 ล้านบาท</strong></p>
<p>ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รัฐชัย ศีลาเจริญ หัวหน้าภาควิชาการธนาคารและการเงิน คณะบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ผลสำรวจจากประชาชนวัยทำงาน ปี พ.ศ. 2566 ทั่วทุกภาคของประเทศไทยกว่า 2,400 คน ชี้ให้เห็นว่า ตัวเลขดัชนีความพร้อมในการเกษียณอายุ (NRRI) ของคนไทยอยู่ที่ระดับ 49.3%</p>
<p>สะท้อนว่าคนไทยมี ความพร้อมก่อนวัยเกษียณ ในระดับปานกลาง และสูงขึ้นเล็กน้อยจากผลสำรวจในปี พ.ศ. 2564 ที่อยู่ระดับ 48.4%</p>
<p>ทั้งนี้ ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณ จำแนกตามกลุ่ม พบว่า</p>
<p>1.ปัจจัยเรื่องเพศ “ไม่มีผล“ ต่อความแตกต่างของค่าเฉลี่ย ทั้งด้านความพร้อมด้านการเงิน และความมั่นคงในชีวิต</p>
<p>2.ปัจจัยเรื่องอายุ มีผลต่อความแตกต่างของค่าเฉลี่ย “เล็กน้อยมาก” โดยกลุ่มอายุ 50-59 ปี มีความพร้อมด้านการเงินและความมั่นคงในชีวิตมากกว่ากลุ่มอายุ 18-29 ปี และภาพรวมกลุ่มอายุ 50-59 ปี ในผลสำรวจปี 2566 ดีขึ้นในทุกมิติเมื่อเทียบกับปี 2564</p>
<p>3.ปัจจัยภูมิภาค “ไม่ใช่คีย์หลักที่สร้างความแตกต่างในความพร้อม” แต่จากผลสำรวจ พบว่า ภาคกลางและภาคใต้ ในปี 2566 มีความพร้อมด้านการเงิน (F-RRI) สูงขึ้น ขณะที่ภาครวมกรุงเทพดีขึ้น</p>
<p>4.ปัจจัยอาชีพ “มีผลมากสุด” ต่อความพร้อมในวัยเกษียณ โดยพบว่า เจ้าของกิจการ ข้าราชการ และ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พร้อมในแทบทุกด้านดีกว่า ลูกจ้าง อาชีพอิสระ และอื่น ๆ</p>
<p>ตัวอย่างกลุ่มข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 17.3 มีการออมเงินมากกว่า 15% ของรายได้ และมีค่ามัธยฐานรายได้หลังเกษียณที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 20,000 บาท/เดือน</p>
<p>ตัวอย่างกลุ่มเจ้าของกิจการ ร้อยละ 24 ออมเงิน 10-15% ของรายได้ และมีค่ามัธยฐานรายได้หลังเกษียณที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10,000 บาท/เดือน</p>
<p>ตัวอย่างกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 29.9% ออมเงินไม่เกิน 5% ของรายได้ และมีค่ามัธยฐานรายได้หลังเกษียณที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5,000-9,000 บาท/เดือน</p>
<p>ตัวอย่างกลุ่มอาชีพอิสระ รับจ้างทั่วไป และลูกจ้าง ร้อยละ 28.7 ไม่มีเงินออมเลย และมีค่ามัธยฐานรายได้หลังเกษียณที่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5,000-9,000 บาท/เดือน</p>
<p>ผศ. ดร. รัฐชัย กล่าวต่อไปว่า ความพร้อม “ด้านการเงิน” ของคนไทยยังอยู่ในระดับต่ำที่น่ากังวล โดยพบว่า วัยทำงานออมเงินค่อนข้างน้อย ไม่ถึง 10% ของเงินเดือน</p>
<p>“นโยบายความพร้อมทางด้านการเงินแห่งชาติ เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจาก ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ประชากรสูงวัยจะมีโอกาสประสบปัญหาด้านรายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิ ค่ารักษาพยาบาล ในขณะที่รายได้คงที่หรือลดลง ทำให้เกิดความยากลำบากด้านการเงิน”</p>
<p>ขณะที่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับผู้สูงอายุที่จะใช้ได้เพียงพอจนถึงอายุ 80-85 ปี ต้องมีเงินเก็บไม่น้อยกว่า 3-5 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 10,000-15,000 บาท/เดือน ซึ่งคำนวณโดยใช้ค่าเงินปัจจุบันและการคิดเผื่อเงินเฟ้อในอนาคต</p>
<p>โดยปัจจัยสำคัญที่ควรได้รับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน ได้แก่ การพัฒนาทักษะทางการเงินและการลงทุนของประชาชน และการสนับสนุนด้านการออมอย่างทั่วถึงจากภาครัฐและภาคเอกชน</p>
<p>ที่มา: การเงินการธนาคาร, 29/12/2566</p>
<p><strong>รมว.แรงงานเผยมีแรงงานไทยกลับจากอิสราเอลขอเงินเยียวยาแล้ว 81.04%</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า มีแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล ยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาจากสถานการณ์ไม่สงบในอิสราเอล รายละ 50,000 บาทแล้ว จำนวน 8,032 ราย จากจำนวนทั้งหมด 9,697 คน คิดเป็น ร้อยละ 81.04 โดยผ่านการพิจารณาจากคณะทำงาน กระทรวง/จังหวัด แล้ว 4,192 ราย และหน่วยงานตรวจสอบและขออนุมัติการจ่ายเงินแล้ว 193 ราย ซึ่งขณะนี้เริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้มีสิทธิ หรือทายาทของแรงงานแล้ว</p>
<p>ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, 29/12/2566</p>
<p><strong>จับแรงงานจีนลอบทำงานก่อสร้างในภูเก็ต ค่าแรงวันละ 3,000 บาท</strong></p>
<p>เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2566 ตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดภูเก็ต บุกเข้าจับกุมแรงงานข้ามชาติสัญชาติจีน ทั้งชายและหญิง 28 คน ซึ่งลักลอบเข้ามาทำงานในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่กำลังสร้างโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง</p>
<p>หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายสืบว่าสถานที่ก่อสร้างแห่งนี้ มีชาวจีนเข้ามาทำงานก่อสร้างและตกแต่งภายในเป็นจำนวนมาก เมื่อเข้าไปตรวจตรวจสอบ พบกลุ่มคนงานชาวจีนกำลังทำงานก่อสร้างและตกแต่งภายใน ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัว โดยพบว่าแรงงานบางส่วนแสดงท่าทางลุกลี้ลุกลน พยายามหลบหนี</p>
<p>หลังเจ้าหน้าที่สอบสวนกลุ่มแรงงานผ่านล่ามแปลภาษา โดยชาวจีนทั้ง 28 คน อ้างว่า เดินทางมาจากประเทศจีนในรูปแบบนักท่องเที่ยว และมี "นายเหอ" ซึ่งเป็นชาวจีน เป็นคนมารับจากสนามบินภูเก็ต งานที่ต้องรับผิดชอบ คือก่อสร้างอาคารและตกแต่งภายใน มีหน้าที่แตกต่างกันไปตามได้รับมอบหมาย โดยไม่มีการบังคับขู่เข็ญ</p>
<p>พวกเขาจะเริ่มทำงานตอน 8 โมงเช้า จากนั้นพักเที่ยง และกลับมาทำงานช่วงบ่าย ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่งจนถึง 5 โมงเย็น จากนั้นจะกลับเข้าที่พักซึ่งอยู่ใกล้ๆ ที่น่าสนใจคือ แต่ละคนได้ตกลงค่าแรงสูงถึงวันละ 500-600 หยวน ซึ่งคิดเป็นเงินไทยคือประมาณ 2,500-3,000 บาท/วัน และเมื่อครบกำหนด 2 เดือนจะได้รับค่าแรง โดย "นายเหอ" จะเป็นผู้จัดการทั้งเรื่องที่พัก อาหาร และความเป็นอยู่ทั้งหมด</p>
<p>ล่าสุดเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา "เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต" พร้อมคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย</p>
<p>ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลางและกองบังคับการตำรวจทางหลวง เพิ่งจับกุมผู้ต้องหาขนแรงงาน พร้อมกับแรงงานข้ามชาติได้ในพื้นที่ ต.หนองบัวใต้ ต่อเนื่อง ต.น้ำรึม อำเภอเมืองตาก หลังตำรวจทางหลวงออกตรวจพื้นที่ในเขตความรับผิดชอบ แล้วไปพบรถกระบะ 2 คันขับมาด้วยความเร็ว จึงขอให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจค้นพบกลุ่มแรงงานโดยสารมาเกือบ 20 คน โดยในจำนวนนี้เป็นชาวจีนถึง 4 คน</p>
<p>ที่มา: Thai PBS, 28/12/2566</p>
<p><strong>นายกฯ รับไม่มีความสุขหลังค่าแรงขึ้นน้อย ถามกลับไตรภาคี ให้นึกถึงใจเขาใจเรา ไม่เอาเรื่องกฎหมายมาคุยอย่างเดียว</strong></p>
<p>นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2566 ถึงกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่า ต้องพิจารณาตามบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป เพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปตลอดเวลา และเชื่อว่าทุกท่านก็เห็นอยู่ว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก หลายๆเรื่องที่จะดึงผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาในประเทศก็มี War of Talent มันคือสงครามที่ดึงคนเก่ง ขณะเดียวกันสมัยก่อนเวลาออกไปดึงดูดนักลงทุนไม่มีใครพูดเรื่องพลังงานสะอาดเลย แต่วันนี้เรื่องนี้กลับมามีความสำคัญ</p>
<p>ส่วนที่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีถูกล็อกด้วยธรรมนูญจะมีการทำอย่างไรนั้น เห็นว่ามันกว้าง มันมีขอบเขตพื้นที่ให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำยังไม่จบ ซึ่งเมื่อวานนี้หลังจากประชุมครม. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แจ้งไปแล้วในเบื้องต้น ซึ่งจะต้องดูแลแต่ละอาชีพแตกต่างกันออกไป</p>
<p>“ผมไม่มีความสุข ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานก็ไม่ได้มีความสุขและอึดอัดเช่นกัน แต่ยอมรับว่า มันก็มีกลไกในการกำหนดค่าแรงอยู่ อย่างที่ผมบอกว่ามันเป็นเรื่องจิตใต้สำนึกความเหมาะสม ของแต่ละประเทศ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้เจอกับ นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ยังบอกกับผมว่าถ้าเกิดไม่สามารถยกค่าแรงขั้นต่ำ ความเจริญเติบโตของประเทศก็จะต่ำไปด้วย ซึ่งเมื่อคืนได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว” นายกรัฐมนตรี กล่าว</p>
<p>นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่าแรงขั้นต่ำเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา  300 บาท วันนี้ 337 บาท ขึ้นไป 12% ซึ่งได้เปรียบเทียบ ว่าในทางกลับกัน หากลูกของผู้ประกอบกิจการทั้งหลาย  หรือคนที่เรียนจบเมืองนอกเมื่อ 9 ปีที่แล้วเงินเดือน 30,000 บาท  มาถึงวันนี้เงินเดือนขึ้นเพียง 33,700 บาท จึงถามกลับว่า ขึ้นมาแค่กว่า 10% แฮปปี้ไหม อยากให้นึกถึงใจเขาใจเรา เรื่องของไตรภาคีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของกฎหมายและข้อบังคับก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หลายหลายเรื่องคนไทยอยู่ด้วยกัน ด้วยความอยากให้ทุกคนมีความสุข และมีกินมีใช้ตามความเหมาะสม</p>
<p>“พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ค่าแรงขึ้นไปเพียงแค่ 2 บาทต่อเดือน ซึ่งทุกคนจะพูดว่าตนหรือนายกไม่มีอำนาจ แต่การขึ้นค่าแรงมันเป็นเรื่องของไตรภาคี ส่วนตัวเข้าใจหมดทุกอย่าง แล้วก็รู้ว่าทุกคนเข้าใจเรื่องกฎหมาย แต่เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมันไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมาย จึงอยากให้เอาความเข้าใจซึ่งกันและกันมาพูดคุยกันได้ไหม ในภาวะที่เดือดร้อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว</p>
<p>ผู้สื่อข่าวถามว่าเงื่อนไขในเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนายกไม่มีอำนาจกับไตรภาคี ซึ่งจะมีการหารือกันแบบผู้ใหญ่คุยกับผู้ใหญ่หรือไม่  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องพยายามต่อไป ในการแก้ไขปัญหา  ซึ่งก็ต้องพูดจาให้มันมีความชัดเจนและต้องขอร้องอ้อนวอน วิงวอน ถึงเหตุผล แล้วอย่าเอาเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาพูด เช่นประเด็นการย้ายฐานการผลิตมาพูด เพราะมันไม่ใช่</p>
<p>เมื่อถามว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละปีสามารถขึ้นได้หลายหลายรอบใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สามารถปรับได้หลายรอบตามความเหมาะสม จากที่ผ่านมาเราเคยพูดรายจังหวัดรายอำเภอ ซึ่งบางอำเภอนั้น ก็อาจจะมีความต้องการแรงงานที่แตกต่างกันออกไป เราเองก็ต้องฟังจากฝั่งนายจ้างเช่นเดียวกัน ไม่ใช่จะไม่ฟัง และต้องฟังตามอาชีพตามความต้องการตามความชำนาญด้วย  ซึ่งมีหลายมิติที่จะต้องพูดคุยกัน ส่วนตัวไม่ได้อยากใช้พื้นที่ของสื่อมวลชนมากดดันทุก ๆ ฝ่าย เราควรพูดจากันด้วยจิตใจอุปมาปราศรัย เราก็เห็นใจซึ่งกันและกัน</p>
<p>ส่วนความคาดหวังกับเศรษฐกิจในปีหน้าอย่างไรบ้าง  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังว่าจะดีขึ้น ตนมาทำงาน และมาอยู่ตรงนี้ เพื่อต้องการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ให้ดีขึ้น ก็ต้องทำให้ดีขึ้นในหลายหลายมิติตนไม่ได้มาทำแค่ เรื่องค่าแรงขั้นต่ำอย่างเดียว ยังต้องดูเรื่องการลงทุน การเจรจา สนธิสัญญาการค้า และต้องดูเรื่องสิทธิพื้นฐาน เพศสภาพ การประกอบอาชีพ หรือแม้กระทั่งสิทธิเสรีภาพเล็ก ๆ เช่นเรื่องของสภาพอากาศที่สะอาด ซึ่งทุกคนล้วนต้องการสิ่งเหล่านี้</p>
<p>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวันหยุดปีใหม่ นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการที่จะเดินทางไปพื้นที่ภาคเหนือ ไปช่วยกำกับ ว่า เรื่องสภาพอากาศต้องดีขึ้น ซึ่งมีหลายมิติที่ต้องทำ ทั้งนี้หลังปีใหม่ ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายใหม่ ที่จะต้องช่วยทำงานและช่วยดูแลพี่น้องประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น</p>
<p>ที่มา: สำนักข่าวไทย, 27/12/2566</p>
<p><strong>แรงงานไทยจากอิสราเอลยื่นขอรับเงินเยียวยาแล้ว 7,622 ราย</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา มีแรงงานมายื่นคำร้องเพื่อขอรับเงินเยียวยารายละ 50,000 บาท จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลแล้ว 7,622 ราย จากจำนวนทั้งหมด 9,697 ราย คิดเป็น 78.60% แยกเป็น กรณีมายื่นด้วยตนเอง 7,575 ราย กรณีเสียชีวิต 22 ราย กรณี Re-Entry 25 ราย สำหรับจังหวัดที่มีผู้มายื่นคำร้องมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุดรธานี 1,061 ราย เชียงราย 932 ราย นครพนม 595 ราย นครราชสีมา 470 ราย น่าน 421 ราย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้แรงงานไทยได้รับสิทธิครบทุกราย โดยจะเร่งดำเนินงานให้เร็วที่สุด</p>
<p>ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, 27/12/2566</p>
<p><strong>ครม.เคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2-16 บาท เริ่ม 1 ม.ค. ตั้ง กก.พิจารณาอีกครั้ง มี.ค. 67</strong></p>
<p>นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการรัฐมนตรีว่าในวันนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้นำมติของคณะกรรมการไตรภาคี เสนอเพื่อทราบผลที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยยืนยันตามมติเดิมคือขึ้นค่าแรงขั้นต่ำระหว่าง 2-16 บาท ทั่วประเทศ โดยมีลำดับค่าจ้าง 17 ขั้น โดยขึ้นจาก 328 บาทเป็น 330 บาท ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขั้นที่ 1 เพิ่มขึ้นสูงสุดที่ จ.ภูเก็ต เป็น 370 บาท จาก 354 บาท</p>
<p>โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุอีกว่า รมว.แรงงาน ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าถึงแม้ค่าจ้างขั้นต่ำนี้ จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมติกรรมการไตรภาคีเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 แต่วันที่ 17 ม.ค.2567 จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการไตรภาคีอีกครั้ง เพื่อตั้งอนุกรรมการ ขึ้นมาเพื่อจะพิจารณา รายละเอียดของค่าจ้างขั้นต่ำ โดยต้องลงลึกรายละเอียดทุกสาขาอาชีพ</p>
<p>โดย รมว.แรงงาน อยากได้ตัวแทนของสภาพัฒน์ฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยว และธนาคารแห่งประเทศไทย เข้ามาพิจารณาเพื่อลงลึกรายละเอียดถึงค่าแรงขั้นต่ำ ในแต่ละสาขาที่ต่างๆ จะต้องปฏิรูปให้มากขึ้น และ รมว.แรงงาน ได้ให้คำมั่นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การตั้งอนุกรรมการชุดพิเศษขึ้นมานี้ จะนำไปสู่ข้อสรุป เพื่อเสนอค่าแรงขั้นต่ำรอบใหม่ ไม่เกินสิ้นเดือน มี.ค.2567</p>
<p>ที่มา: Thai PBS, 26/12/2566</p>
<p><strong>เผยประชุม คกก.ไตรภาคีชุดใหญ่ 17 ม.ค. 67 ตั้งอนุ กก. ศึกษาค่าจ้างขั้นต่ำรายเทศบาล-รายอาชีพ</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วันนี้ได้นำเรื่องค่าแรงขั้นต่ำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบอีกครั้ง ซึ่งมติคณะกรรมการไตรภาคียังคงยืนยันเหมือนเดิม ซึ่งที่ประชุมครม.รับทราบเรียบร้อย และแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบว่าในวันที่ 17 มกราคม 2567 คณะกรรมการไตรภาคีจะประชุมอีกครั้ง เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไตรภาคี ซึ่งจะลงไปศึกษาให้ลึกถึงระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลและเทศบาล หากประกาศเป็นรายจังหวัดจะสะท้อนภาพที่เป็นจริงมากกว่า อย่างกรณีประกาศค่าแรงขั้นต่ำทางจังหวัดในเทศบาลมีสภาวะเศรษฐกิจที่ดี แต่เมื่อออกจากอำเภอเมืองก็จะเข้าสู่สังคมชนบท ซึ่งเศรษฐกิจคงจะไม่ดีเหมือนกับที่เห็นในตัวอำเภอเมือง</p>
<p>“จะให้คณะอนุกรรมการไตรภาคีขอข้อมูลจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒน์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเป็นองค์ประกอบการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งซึ่งจะสามารถประชุมแล้วเสร็จ และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่ภายในเดือนมีนาคม เพื่อจะประกาศให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะสะท้อนภาพสาขาอาชีพใดที่ไหนที่สามารถปรับค่าแรงขั้นต่ำให้ได้สูงกว่าปัจจุบัน ซึ่งการหารือระหว่างสภาพัฒน์ กับที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่จะไม่เอาปี 2563 และ 2564 มาเป็นตัวคำนวณแน่นอน เพราะเมื่อคำนวณอย่างไรก็จะกลับไปที่เดิม เหมือนที่ประกาศ จึงจะขอเอาข้อมูล ปี 2565 เป็นเกณฑ์และข้อมูลดิบในปี 2566 เป็นตัวชี้วัดอีกแนวทางหนึ่งประกอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว</p>
<p>นายพิพัฒน์ กล่าวว่า  ส่วนประเด็นข้อกฎหมายไม่ขัดข้อง แต่คณะกรรมการไทยภาคีชุดใหญ่ไม่สามารถก้าวข้ามคณะกรรมการไตรภาคีจังหวัดที่นำเสนอขึ้นมาในการประชุมวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะยืนยันเหมือนเดิม แต่เมื่อตั้งคณะอนุกรรมการมาศึกษาใหม่จะต้องลงไปหารือถึงได้จังหวัดด้วย โดยสรุปว่าภายในจังหวัดจะขึ้นค่าแรงไม่เท่ากัน</p>
<p>ที่มา: สำนักข่าวไทย, 26/12/2566</p>
<p><strong>เผยตลาดแรงงานปี 2567 สิ่งที่นายจ้างและลูกจ้างต้องการ</strong></p>
<p>ดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จากัด เผยผลสำรวจ จาก Global Talent Survey ซึ่งเป็นการสำรวจผ่านเว็บไซต์และการวิเคราะห์ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ Boston Consulting Group (BCG) และTheNetworkในปี2565 ซึ่งมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 90,547 คน จาก 160 ประเทศ ในหลากหลาย อุตสาหกรรม แบบสำรวจยังยังโฟกัสตลาดแรงงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีตอบแบบสำรวจจำนวน 97,324 คน จาก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียโดยที่ประเทศไทยมีจำนวนผู้ร่วมตอบแบบสำรวจชดุนี้ทั้งสิ้น 2,636 คน ผลสำรวจเป็นดังนี้</p>
<p>สำหรับตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการระดับโลก เอเชีย รวมถึงประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ดิจิทัล การจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐหรือ AI คิดเป็น 37% 2. งานด้านสื่อ ศิลปะ และการออกแบบ 36% 3. งานการบริการและการต้อนรับ 34% 4.งานบริการทางการเงิน 30% และ 5.งานบริการด้านสุขภาพและสังคม 30%</p>
<p>“5 สายงานดังกล่าว มาแรงและเป็นที่ต้องการของตลาด สอดรับกับประเทศไทยที่กำลังเดินหน้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทำให้ทุกธุรกิจต้องการบุคลากรที่เข้าใจงาน และพร้อมเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ 5 สายงานยังมีจุดเชื่อมโยงด้านทักษะการวางแผน การสื่อสาร เกี่ยวเนื่องถึงการเงิน สุขภาพ ซึ่งปีหน้าอาจพบธุรกิจใหม่มากขึ้น”</p>
<p>บริษัท นายจ้างมองหาและอยากได้คนเก่งด้านดิจิทัล เอไอ หรือทักษะอื่นๆที่ตอบโจทย์ธุรกิจแต่ละเซ็กเตอร์ ทว่า ฝั่งลูกจ้าง พนักงาน ฯ ยุคนี้ ไม่ได้มองแค่ผลตอบแทน เงินเดือน ความมั่นคงอีกต่อไป แต่มีองค์ประกอบอื่นๆที่เติมเต็มการใช้ชีวิตด้วย โดย 3 อันดับแรกที่จะจูงใจ มัดใจผู้สมัครอยู่กันยาวๆ ได้แก่ อันดับ 1 งานที่มั่นคงและมีสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานหรือ Work Life Balance สัดส่วนสูงถึง 77% อันดับ 2 ทำงานในบริษัทที่ดี และมีโอกาสเติบโตสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น 55% อันดับ 3 ต้องการมี “ธุรกิจส่วนตัว” ที่ประสบความสำเร็จเป็นของตัวเองด้วย</p>
<p>“ปัจจัยหลักที่ทำให้ปฏิเสธงานทันที คือ ค่าตอบแทนและความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน และยังเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจรับข้อเสนองานเช่นเดียวกับผู้สมัครงานทั่วโลก ส่วนคุณค่าของการได้ร่วมงานกบัองคก์รที่มีชื่อชื่อเสียงหรือความหมายของงานเป็นข้อพิจารณาที่ใหค้วามสำคัญน้อยลงมา”</p>
<p>ดังนั้น รูปแบบการทำงานของผู้ประกอบการไทยจึงต้องปรับตัว โดยเฉพาะระบบทำงานเต็มเวลาที่สำนักงานหรือออฟิศ เพราะปัจจุบันจากผลสำรวจพบว่าบุคลากรมีการคำนึงถึงเวลาทางานที่มีความต้องการแบบ hybrid working สูงมากขึ้น ทั้งนี้ เจาะลึกผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทย “ลังเล” ที่จะกลับไปทางานเต็มเวลาที่ออฟฟิศ โดยมีเพียง 22% เท่าน้ันที่ต้องการกลับไปทางานที่ออฟฟิศ ต่างจากทั่วโลกที่ผู้ตอบแบบสำรวจ 35% พร้อมทำงานเต็มเวลาที่ออฟฟิศมากกว่าทำงานที่บ้าน นอกจากนี้ คนไทย 69% ต้องการทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ และ 21% ต้องการทำงานแบบพาร์ทไทม์</p>
<p>“ถ้าผู้ประกอบการกำลังมองหาวิธีดึงดูดผู้สมัครที่ตรงกับความต้องการ ต้องมีข้อเสนอที่ดี เงินเดือนและสิทธิประโยชนท์ที่ดีกว่าบริษัทเดิม ตำแหน่งงานที่สูงกว่า และทำให้ผู้สมัครงานเห็นว่าโอกาสก้าวหน้าในที่ทำงานดีกว่าเดิม”</p>
<p>นอกจากข้อเสนอที่ดีแล้ว ประสบการณ์ที่ดีในระหว่างกระบวนการสมัครงานและการ คัดเลือกเข้าทำงาาน วิธีการและช่องทางที่ผู้สมัครให้ความสนใจ และมีอิทธิพลในการตัดสินใจ หากผู้ประกอบการหรือองค์กรละเลยประเด็นดังกล่าว อาจเป็นข้อผิดพลาดได้ ดังนั้น การพฒันากระบวนการสรรหาที่ตรงกับความตอ้งการของแรงงานในปัจจุบันสามารถเพิ่มความโดดเด่นให้กับองค์กรได้ด้วย โดย 59% ของผู้ตอบแบบสำรวจพึงพอใจมาก หากข้ันตอนการสรรหา สมัครงานมีความราบรื่น มี ระยะเวลาที่เหมาะสม และ 35% มองว่าประสบการณเ์ชิงลบระหว่างการสมัครงานเป็นเหตุผลสาคัญที่ปฏิเสธงานแม้ข้อเสนอจะน่าสนใจก็ตาม</p>
<p>“แม้ผลสำรวจจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ผู้สมัครงานจะมีอานาจต่อรองสูง มีโอกาสเลือกข้อเสนองาน แต่ผู้ประกอบการไม่ต้องวิตกกังวลกับข้อต่อรองต่างๆ ควรเปิดโอกาสให้เสนอและต่อรอง ให้พื้นที่และเวลาในการตัดสินใจแก่ผู้สมัครงานและติดต่อกลับเพื่อพูดคุยหลังจากนั้น ไม่ควรคิดว่ากระบวนสรรหาจบลงที่ขั้นตอนการเสนองานเท่านั้น”</p>
<p>ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ, 25/12/2566</p>
<p><strong>ผลการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมไม่เป็นทางการ ทีมประกันสังคมก้าวหน้ากวาด 6 จาก 7 ที่นั่ง</strong></p>
<p>ผลการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกของประเทศไทย มีผู้ประกันตนใช้สิทธิเลือกตั้งเพียงประมาณ 150,000 คน หรือ 18.36 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 50 เปอร์เซ็นต์ จากยอดผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิกว่า 850,000 คน</p>
<p>ผู้สมัครเป็นคณะกรรมการสำนักประกันสังคมที่ได้รับชัยชนะอย่างไม่เป็นทางการในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งหมด 14 คน ได้แก่</p>
<p>ผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน</p>
<p>1. รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 71,917 คะแนน</p>
<p>2. ธนพงษ์ เชื้อเมืองพาน ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต 69,403 คะแนน</p>
<p>3. ชลิต รัษฐปานะ สมาชิกสหภาพคนทำงาน 69,264 คะแนน</p>
<p>4. ศิววงศ์ สุขทวี ที่ปรึกษาเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ 69,256 คะแนน</p>
<p>5. นลัทพร ไกรฤกษ์ นักสื่อสาร-นักรณรงค์เรื่องสิทธิความเท่าเทียมสำหรับผู้พิการ 68,133 คะแนน</p>
<p>6. ลักษมี สุวรรณภักดี ประธานสหภาพแรงงาน มอลลิเก้ เฮลท์ แคร์ ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ 67,113 คะแนน</p>
<p>7. ปรารถนา โพธิ์ดี ประธานเครือข่ายพนักงานราชการไทย 15,080 คะแนน</p>
<p>โดยอันดับ 1-6 เป็นผู้สมัครจากทีมประกันสังคมก้าวหน้า ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ส่วนอันดับที่ 7 มาจากทีมสมานฉันท์ร่วมกันปฏิรูปประกันสังคม</p>
<p>ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง</p>
<p>1. ดร.มนตรี ฐิรโฆไท บริษัท กะรัต เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) 409 คะแนน</p>
<p>2. วิภาพรรณ มาประเสริฐ  บจก.รักษาความปลอดภัย ดูอิ้งเวล แอนด์ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิสเซส 403 คะแนน</p>
<p>3. สิริวัน ร่มฉัตรทอง บจก.อีคอท ดีเวลลอปเม้นท์ เซ็นเตอร์ 368 คะแนน</p>
<p>4. สมพงศ์ นครศรี  บจก.สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล 319 คะแนน</p>
<p>5. สุวิทย์ ศรีเพียร บจก.ไทยจิระพัฒน์ 315 คะแนน</p>
<p>6. ทวีเกียรติ รองสวัสดิ์ บจก.นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศไทย อินเตอร์ซิตี้ 258 คะแนน</p>
<p>7. เพชรรัตน์ เอกแสงกุล บมจ.อีซึ่น แอนด์ โค 252 คะแนน</p>
<p>พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงถึงภาพรวมการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่สำนักงานประกันสังคมสำนักงานใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ว่า สำหรับบอร์ดชุดนี้จะมีวาระ 2 ปี โดยการเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องปรับวิธีการเลือกตั้งใหม่ และต้องมีการประชาสัมพันธ์มากขึ้น เพื่อให้ผู้ประกันตนและนายจ้างตระหนักถึงสิทธิและหน้าที่</p>
<p>"ครั้งนี้เป็นครั้งแรก นายจ้างและลูกจ้างอาจยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแสดงตนใช้สิทธิเลือกตั้ง อย่าลืมว่าผู้ประกันตนทุกมาตราต้องส่งเงินสมทบทุกเดือน การออกมาเลือกตั้งผู้แทนของท่านจะช่วยรักษาสิทธิประโยชน์ของท่านได้"</p>
<p>ทั้งนี้ บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่า สำนักงานประกันสังคมจะประกาศผลการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมอย่างเป็นทางการ หลังจากมีการประชุมการเลือกตั้งระหว่างสำนักประกันสังคมและกระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณารับรองผลภายในสัปดาห์หน้า ประมาณวันที่ 26-28 ม.ค. 2566 หลังจากพิจารณารับรองแล้วจึงประกาศผล และจะมีการประชุมบอร์ดครั้งแรกภายใน 30 วัน หรือช่วง ม.ค. 2567</p>
<p>อย่างไรก็ตาม จะมีระยะเวลาในการพิจารณาการยื่นอุทธรณ์หรือยื่นคำร้อง เพื่อทบทวนผู้สมัครแต่ละรายว่าสมควรได้รับการเลือกตั้งหรือไม่</p>
<p>ที่มา: ไทยรัฐพลัส, 25/12/2566</p>
<p><strong>เผยภาพรวมเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมต่ำกว่าคาด ใช้สิทธิแค่ 18.36%</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และเจ้าหน้าที่ ข้าราชการในสังกัด สปส.ไปตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ที่สำนักงานประกันสังคม จ.นนทบุรี พร้อมรับฟังรายงานภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งแรกของประเทศไทย ภายหลังการปิดหน่วยเลือกตั้งในเวลา 16.00 น.</p>
<p>ทั้งนี้ ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งวันนี้ มีนายจ้างและผู้ประกันตนไปใช้สิทธิเลือกตั้งรวม 158,335 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 958,819 คน แบ่งเป็น 1.ฝ่ายผู้ประกันตน มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้ง 854,414 คน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 156,870 คน คิดเป็นร้อยละ 18.36 โดยสถานที่ที่มีผู้ประกันตนมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด คิดจากสัดส่วนผู้มีสิทธิต่อผู้มาใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้ง 5 อันดับ ได้แก่ 1.โรงเรียนสมุทรปราการ จำนวน 7,526 คน 2.สำนักงานเทศบาลนนทบุรี 4,014 คน 3.ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ 5,177 คน 4.โลตัส สาขามีนบุรี 4,577 คน และ 5.เทศบาลเมืองบ้านสวน 4,436 คน</p>
<p>ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, 24/12/2566</p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่า
หน้า:  1 ... 143 144 [145] 146 147 ... 1132
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.996 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 24 กันยายน 2566 17:49:05