11 พฤศจิกายน 2567 02:20:27
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
.:::
เรื่องเล่าถึงวันวาน ‘ตะรุเตา’ สู่วันนี้ อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของไทย
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: เรื่องเล่าถึงวันวาน ‘ตะรุเตา’ สู่วันนี้ อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของไทย (อ่าน 410 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2457
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
เรื่องเล่าถึงวันวาน ‘ตะรุเตา’ สู่วันนี้ อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของไทย
«
เมื่อ:
22 ธันวาคม 2566 14:04:59 »
Tweet
เรื่องเล่าถึงวันวาน
‘ตะรุเตา’
สู่วันนี้ อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของไทย
ที่มา - คอลัมน์ รายงานพิเศษ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 - 21 ธันวาคม 2566
เผยแพร่ - วันพฤหัสที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2566
“ตะรุเตา” เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของไทยมาตั้งแต่ปี 2516 ครอบคลุมพื้นที่เกาะกลางทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย 52 เกาะ รวม 152 ตารางกิโลเมตร ห่างแผ่นดินแม่คือ จ.สตูล 43.8 กิโลเมตร และห่าง “เกาะลังกาวี” มาเลเซีย 4.8 กิโลเมตร กับห่าง “เกาะอาดัง-ราวี” 40 กิโลเมตร กับอีก 2 กิโลเมตรสุดท้ายคือ “ลิเป๊ะ” หรือ “หลีเป๊ะ” ที่รู้จักกันดี
ที่นี่มีธรรมชาติทางทะเลสวยงามน่าสนใจ และมีประวัติศาสตร์วันวานชวนติดตาม จนคนทั่วไปคิดวางแผนต้องเดินทางไปให้ถึงอย่างน้อยสักครั้งหนึ่ง แม้ปีหนึ่งทะเลแถบนี้จะปลอดมรสุม 7 เดือน มีคลื่นลมทะเลตีรวนนาน 5 เดือนก็ตามที…นั่นดูจะมิใช่ปัญหานักเดินทางท่องเที่ยว ที่ต้องการไปสู่ถิ่นซึ่งเคยลี้ลับมาก่อนอย่างช่องแคบมะละการะหว่างตะรุเตา-ลังกาวี
“ตะรุเตา”
เป็นภาษามลายูเพี้ยนจาก
“เตอลุกตาวาร์”
บ้างก็ว่า
“ตะโละเตรา”
แปลว่า
“อ่าวน้ำจืด”
ด้วยมีแหล่งน้ำจืดและมีพันธุ์ไม้เศรษฐกิจ อาทิ ยาง ตะเคียน หลุมพอ ยูง สยา
ล่อเป้าให้เหล่ามอดไม้รุกรานก่อนกฎหมายจะต้วมเตี้ยมเข้าไปควบคุม
วันวานปี 2480 ขุนพิธานทัณฑทัยได้นำทีมสำรวจอ่าวตะโละอุดังฝั่งใต้กับตะโละวาวฝั่งตะวันออกเกาะตะรุเตา เพื่อใช้เป็นคุกธรรมชาติตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นโจรผู้ร้ายปี 2479 ปี 2481 จึงยกพื้นที่ป่ากันดารเคียงทะเลสงบขึ้นดังตั้งใจให้เป็นทัณฑสถานนิคมฝึกอาชีพนักโทษเด็ดขาด อีกทั้งนักโทษผู้มีสันดานเป็นโจรร้ายบนแผ่นดิน
ปี 2482 รัฐบาลคราวนั้นยังได้ส่งนักโทษการเมืองคดีกบฏบวรเดช 2476 กับกบฏนายสิบ 2478 ผสมโรงอีกจำนวน 70 นาย มาสมทบยังอ่าวตะโละอุดัง ทำให้มีนักโทษทั้งสิ้น 4,000 คน
และหนึ่งในนั้นมีนาวาเอกพระยาศราภัยพิพัฒน์ (เลื่อน ศราภัยวานิช) ผู้ช่วยปลัดทูลฉลอง กระทรวงกลาโหม เพื่อนร่วมรุ่นอัสสัมชัญกับพระยาอนุมานราชธนรวมอยู่ด้วย
พระยาศราภัยฯ ได้เขียนเล่าชีวิตอันแสนทารุณหฤโหด
ครั้งนั้นต้องเสี่ยงหนีข้ามทะเลลี้ภัยด้วยเรือตังเกสู่เกาะลังกาวีด้วยความยากลำบากกว่าจะสำเร็จ แล้วจึงเขียนประจานภายหลังถึงความชั่วร้ายขณะนั้นในชื่อ
“ฝันร้ายของข้าพเจ้า”
โดยบางตอนระทึกไม่แพ้นักโทษ
“ปาปิญอง”
ซึ่งเขียนโดยเฮนรี่ ชาร์รีแอร์ ที่พยายามแหกคุกนิคมทัณฑสถานเฟรนซ์เกียนา ฝรั่งเศส และถูกจับกุมถึง 9 ครั้งจนสุดท้ายถึงสามารถฝ่าดงฉลามได้ฉลุย
ตอนหนึ่งของฝันร้ายพระยาศราภัยฯ…
“ครั้นถึงเขตแดนหลักหินเราค่อยโล่งใจหน่อย แต่ก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี เพราะค่ำคืนเช่นนั้นผู้ติดตามจับอาจมุ่งเอาตัวให้ได้ และไม่เคารพต่อสัญญาระหว่างประเทศ ล่วงล้ำเข้ามาจับเราก็ได้ พอพายมาสักครู่หนึ่ง เราเห็นเกาะลังกาวีตะคุ่มๆ หายใจสะดวกยิ่งขึ้นทุกที เลือดฉีดแรงกว่าปกติ ยิ่งเห็นหาดทรายชัด คนพายไม่ทันใจ อยากโดดน้ำว่ายไปหลายครั้งแต่กลัวฉลาม เราช่วยกันจ้ำด้วยพายอะไหล่ที่มีติดเรือมาแรงยิ่งขึ้น”
“เรือจึงเกยหาดทรายเวลา ๒ น. ของวันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๒ ซึ่งข้าพเจ้าถือว่าเป็นวันเกิดของข้าพเจ้ายิ่งกว่าวันเกิดที่แท้จริงเสียอีก เราทั้ง ๕ คนเป็นอิสรภาพโดยปล่อยตัวเองเอาชีวิตเข้าแลก ไม่ต้องพึ่งพาอำนาจบุญบารมีของผู้ใดทั้งหมด”
อดีตปี 2482 คราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ตะรุเตาเป็นนรกขุมหมกไหม้ที่สุด เหล่าผู้คุมและนักโทษต่างประสบปัญหาอาหารไม่มียาไส้ ไร้ยารักษาไข้ป่าโดยเท่าเทียมกัน ชีวิตต้องสังเวยไปกว่า 700 ศพ ส่วนชีวิตที่รอดต้องผันตัวเองเป็นโจรสลัดปล้นเรือสินค้าผ่านไปมาด้วยภาวะจำยอม
อังกฤษซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมมาเลเซียขณะนั้น จึงส่งทหาร 300 นายจัดการกับหัวหน้าโจรคือขุนอภิพัฒน์สุรทัณฑ์กับเพื่อนร่วมแก๊งแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน โดยขีดวงให้นักโทษนั่งตากแดดบนดาดฟ้าเรือห้ามลุกไปไหน ถึงสตูลแล้วยังสั่งให้เดินเปลือยเท้าเข้าไปประตูเรือนจำ
ระหว่างสงคราม…พระยาศราภัยฯ ซึ่งลี้ภัยได้ทำหน้าที่โฆษกวิทยุออสเตรเลีย ภาษาไทย สนับสนุนขบวนการเสรีไทย ปี 2488 ได้รับนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองไทยทั้งหมด ถึงได้กลับเมืองไทยและสู่สนามการเมืองอีกครั้ง เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ก่อนจบชีวิตด้วยโรคหัวใจขณะวัย 79 ปีเมื่อปี 2511
ชุมชนเก่าบนเกะตะรุเตา
นับจากวันไฟสงครามดับลงหลังจากนั้นถัดมาอีก 2 ปี กรมราชทัณฑ์ถึงยุตินิคมฝึกอาชีพตะรุเตา ทิ้งวันวานเหลือเพียงโซ่ตรวนกับกระทะทำอาหารเลี้ยงนักโทษมีสนิมจับเขรอะไม่น้อย สนิมหนาเตอะจับขั้วประวัติศาสตร์ชั่วร้ายครั้งกระนั้น ที่บ่งบอก…ตะรุเตาคือแดนนรกบนหาดทรายแสนสวยและป่าไม้แสนงามขณะนั้น
ครั้นสงครามสิ้นสุดลง…เท่ากับเปิดโอกาสให้เหล่ามอดไม้นายทุนเริ่มหวนกลับมาคืนชีพบนเกาะตะรุเตาอีกครั้งหนึ่ง การโค่นล้มชักลากทางทะเลสู่โรงเลื่อยบนฝั่งเพื่อแปรรูปโดยกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลเป็นไปอย่างเสรี เนื่องด้วยมาตรการทางกฎหมายเวลานั้นยังไล่ตามแทบไม่ทัน
ขณะเดียวกันปัญหาใหม่จากราษฎรชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ไหลเข้าจับจองที่ดินทำกินโดยถางป่าทำนาและไร่ชา โดยปราศจากเอกสารสิทธิ์นับได้ 800 ครัวเรือน
นานจนถึงปี 2515 ที่ทรัพยากรจะย่อยยับไปมากกว่านี้ กรมป่าไม้ถึงได้ตื่นขึ้นมาป้องกันและปลุกปั้นตะรุเตากับอาดัง-ราวี และเกาะบริวารอีก 51 เกาะ เป็นอุทยานฯ ภายใต้ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ
การอพยพราษฎรออกจากเกาะตะรุเตา
ด้วยเหตุผลมีธรรมชาติป่าเขาหาดทรายสวยงาม สัตว์ป่าชุกชุมบนบกและสัตว์น้ำสารพัดสารพันอยู่ในท้องทะเล จึงได้จัดส่งนักวิชาการด้านพฤกษศาสตร์ป่าไม้ไปสำรวจความเป็นไปได้
จากนั้นอีก 1 ปี…ถึงส่งนายบุญเรือง สายศร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติคนแรกเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ปี 2503-2506 ไปดำเนินการเตรียมประกาศ
โดยรู้ทั้งรู้ว่า…การปฏิบัติงานครั้งนี้ย่อมเสี่ยงเผชิญกับปัญหารุนแรงอาจถึงขั้นแลกกันด้วยชีวิต ระหว่างกลุ่มนายทุนมอดไม้กับชาวบ้านดื้อแพ่ง 800 ครัวเรือนที่โมเมไม่ยอมสละพื้นที่เกาะทำกินเสียที
ที่สุดความขัดแย้งได้กลายเป็นปรปักษ์ระหว่างฝ่ายหนึ่งถือคัมภีร์กฎหมาย ขณะอีกฝ่ายถือการดื้อรั้นและอิทธิพลที่เบ่งบารมี จนคืนหนึ่ง…มีกลุ่มชายฉกรรจ์อาศัยเรือเร็วเป็นพาหนะแล่นมายังอ่าวพันเตมะละกา แล้วจากนั้นบุกขึ้นไปซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ป่าไม้จนเกิดการปะทะกัน ครู่ใหญ่กลุ่มชายนิรนามจึงล่าถอยกลับไปลงเรือ โดยฝ่ายป่าไม้คิดว่านี่คือการจงใจข่มขู่เสียมากกว่า
มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานเพียงคนเดียวถูกกระสุนเจาะเข้าที่โคนขา ต้องรีบนำลงเรือโทงติดเครื่องของอุทยานฯ เพื่อส่งโรงพยาบาล จ.สตูล โดยใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง
ทว่า…เหยื่อเกิดสูญเสียเลือดมากกับเวลาที่เนิ่นนาน ทำให้เขาต้องสิ้นลมลงอย่างน่าอนาถที่สุด
ผิดกับฝันร้าย พระยาศราภัยฯ ที่การหลบหนีกลางแสงจันทร์คืนเดือนหงายสู่ลังกาวี ซึ่งมีแต่ภัยรายรอบทั้งสายตาผู้คุม ฝูงจระเข้กับฉลามพร้อมบูลลี่เกลื่อนทะเล – แต่รอดราวปาฏิหาริย์?
เกาะตะรุเตากลางช่องแคบมะละกา
วันวานต่อมา…หลังตะรุเตาเป็นอุทยานฯ ปี 2517 จนขจัดมอดไม้และอพยพชาวบ้านได้สำเร็จ จำนวนทัวร์ซอฟต์แอดเวนเจอร์วินเทจ คือย้อนความจำแสวงหาประสบการณ์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
คืนหนึ่งขณะคน 20 ชีวิตกำลังสรวลเสเฮฮาตอยู่ในชายคาร้านอาหารสวัสดิการ มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งข่าวร้ายให้ทราบเกิดมี “วาฬ” ตัวหนึ่งพลัดหลงมาเกยตื้นหาดตะโละวาว
ทุกคนฟังแล้วรีบบึ่งด้วยรถเก่าๆ ของอุทยานฯ ไปยังหาดที่ห่าง 12 กิโลเมตรทันที พบวาฬผิวดำมะเมื่อมลำตัวยาวราว 10 เมตรกำลังนอนเกยชายหาดไม่ไหวติง พลางทำตาปริบๆ สันนิษฐานว่ามันคงตกใจกลัวการลอบทำประมงในเขตอุทยานฯ ซึ่งมีบ่อยครั้งจากลงอวนตาถี่หรือใช้ปืนฉมวกและระเบิดบึ้มปลาแบบมักง่าย วาฬถึงตื่นว่ายหนีอย่างเร็วจนเกิดอาการเสียศูนย์เกยหาด
อีกอย่างวาฬเป็นสัตว์มีครีบหางเหมือนเงือกในวรรณคดี ที่ตีน้ำขึ้นลงให้เคลื่อนไหว ส่วนปลาใช้ครีบหางแกว่งซ้ายขวาไปมาขยับสรีระ บวกน้ำหนักตัวมหึมา วาฬจึงยากที่มนุษย์จะช่วยยกหรือผลักดันให้ขยับเขยื้อนลงทะเลได้
ทางเดียวที่พอทำได้คือหาภาชนะช่วยกันวาดน้ำจากทะเลขึ้นมาใช้เลี้ยงลำตัวเอาไว้ไม่ให้แห้ง กับอาศัยวิทยุสื่อสารแจ้งหน่วยงานบนฝั่งให้จัดหาเรือพร้อมปั้นจั่นมาช่วย…นับจากนั้นเวลาที่ผ่านแต่ละนาทีล้วนมีค่าเทียบได้กับลมหายใจเข้าออก ทุกคนยินดีทำจิตอาสารดน้ำเลี้ยงวาฬตลอดคืนให้มีชีวิต…จนฟ้าเริ่มสางแววตานั้นยังขยับคล้ายบอกสัญญาณชีพแบบเหนื่อยล้า แล้วค่อยๆ หรี่ดับก่อนจะนิ่งสนิท ก่อนที่เรือกู้ชีพจะมาถึงเพียงไม่กี่นาที อนิจจา…ช่างน่าเวทนาที่สุด!
นี่คือดราม่าฉากรันทดที่เกิดกับ “ตะรุเตา” อันเป็นบทเล่าขานยาวนานจากวันวานถึงวันนี้
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...