13 พฤษภาคม 2567 12:37:58
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ อนามัย
.:::
ผลไม้-แม้แต่แอปเปิ้ล ก็ทำเราป่วยตายด้วยโรครวมมิตร
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ผลไม้-แม้แต่แอปเปิ้ล ก็ทำเราป่วยตายด้วยโรครวมมิตร (อ่าน 13755 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
ลั้ลลา
ผู้ดูแลบ้านสุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +8/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 2097
【ツ】ต้นไม้แห่งแสง
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 36.0.1985.143
ผลไม้-แม้แต่แอปเปิ้ล ก็ทำเราป่วยตายด้วยโรครวมมิตร
«
เมื่อ:
02 กันยายน 2557 11:40:03 »
Tweet
ผลไม้-แม้แต่แอปเปิ้ล ก็ทำเราป่วยตายด้วยโรครวมมิตร
"แอปเปิ้ลวันละลูก ช่วยให้คุณห่างไข้ไกลหมอ" อาจารย์สุวรรณา ผู้กราบไหว้เจ้าแม่กวนอิมเป็นประจำ กำลังป่วยด้วยโรคอ้วน พาเอาร่างกายที่หนัก 90 ก.ก. มาหาด้วยความเหน็ดเหนื่อย
"ดิฉันเพิ่งกลับจากไต้หวัน เพราะลูกศิษย์ลูกหาที่นั่นเยอะ งานก็เยอะมาก ดังนั้น ทุกเช้าลูกศิษย์จะทำอาหารให้กิน ดิฉันก็บอกว่า กินง่ายๆ ขอแอปเปิ้ลสักลูกละกัน เพราะสุภาษิตที่ไต้หวันก็บอกว่า แอปเปิ้ลวันละลูกทำให้เราห่างไข้ไกลหมอนะ"
"ใช่แล้วครับ แต่แอปเปิ้ล 30 ลูกใน 1 เดือนก็อาจพาอาจารย์ให้ป่วยหนักเพราะโรคอ้วนและจะกลายเป็นเบาหวานในที่สุด" ผมแย้ง แล้วต่างคนต่างก็หัวเราะ เพราะเป็นอันรู้กันทั้งเธอและผมว่า เธอเป็นคนหนึ่งที่เคยดิ้นทุรนด้วยปัญหาโรคอ้วน ซึ่งแก้ปัญหาตัวเองไม่หลุดซะที
"ตื่นเช้าอาจารย์ก็กินไก่ย่างสักตัวกับผักสักจาน" ผมเริ่มทบทวนอาหารให้
"ไม่ได้หรอกค่ะ ดิฉันกินเจตอนเช้า" นั่นทำให้ผมชะงัก นึกสงสารว่าคนกินเจอย่างเธอมักจะหาของกินอร่อยๆ ได้ยาก
แล้วสุดท้ายก็มัวแต่เชื่อว่าผลไม้ดีต่อสุขภาพ แล้วกินเข้าไปทุกวันๆ จนอ้วนเละเทะ
เอาละ ท่านผู้อ่าน ผมกำลังจะเปิดศักราชต่อต้านการกินผลไม้และน้ำผลไม้กันจริงจังเสียที หลังจากที่ปล่อยผู้รักสุขภาพพากันชื่นชมกับการกิน "ผักผลไม้" ว่าเป็นหนทางออกของสุขภาพ แต่เอาเข้าจริงๆ ผักมักจะไม่ยอมกินเพราะขื่นและเตรียมให้พร้อมกินได้ยาก คนก็เลยเอาความสะดวกเข้าว่า กินผลไม้กันอย่างมักง่ายๆ แล้วปากก็พาป่วยด้วยประการฉะนี้
ผมกำลังจะบอกคุณว่าปัญหาสุขภาพที่รุมเร้าเราอยู่ทุกวันนี้ มีเหตุมาจากการกินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ซึ่งหลายๆ คนมัวแต่หลีกเลี่ยงของหวาน แต่ลืมคิดไปว่าคาร์โบไฮเดรตที่อันตรายมาในรูปรสจืด อันได้แก่ แป้งข้าว ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว วุ้นเส้น และมากับหวานอมเปรี้ยวได้แก่ผลไม้ชนิดต่างๆ คือตัวร้าย
ทรรศนะของผมในเรื่องนี้มันช่างตรงกับแพทย์และนักวิชาการในต่างประเทศคนอื่นๆ ด้วย เริ่มต้นตั้งแต่ นพ.ริชาร์ด จอห์นสัน แพทย์อายุรศาสตร์ทางเดินปัสสาวะ มหาวิทยาลัยโคโลราโด เดนเวอร์ ที่กล่าวว่า "ทุกครั้งที่ผมศึกษาสาเหตุเบื้องลึกของโรคภัยไข้เจ็บแต่ละโรคในสมัยนี้ ก็มักจะไปจบลงที่สาเหตุจากความหวานนั่นเอง"
"คิดดูก็แล้วกัน ทำไมผู้คนทั่วโลกเวลานี้กว่า 1 ใน 3 จึงมีโรคความดันเลือดสูง เทียบกับเมื่อปี ค.ศ.1900 จะมีคนเป็นโรคความดันเลือดสูงเพียง 5% เท่านั้น? แล้วทำไมจึงมีคนทั่วโลกที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน 153 ล้านคนในปี ค.ศ.1980 เมื่อเทียบกับเวลานี้ที่เรามีผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลก 347 ล้านคน? ทำไมคนอเมริกันจึงป่วยด้วยโรคอ้วนมากขึ้นทุกที? ก็น้ำตาลหรือความหวานนั่นแหละที่เป็นสาเหตุใหญ่"
มองย้อนหลังไปเมื่อปี ค.ศ.1675 ตอนนั้นยุโรปกำลังระเบิดระเบิงด้วยความหวาน นพ.โทมัส วิลลิส ซึ่งเป็นสมาชิกก่อตั้งราชสมาคมบริทิช เป็นคนแรกที่บันทึกไว้ว่า "ปัสสาวะของคนเบาหวานช่างหวานเจี๊ยบราวกับใส่น้ำผึ้งหรือน้ำตาลเอาไว้" ต่อจากนั้นอีก 250 ปี ฮาเวน อีเมอร์สัน มหาวิทยาลัยโคลัมเบียก็ตั้งข้อสังเกตว่ามีผู้ตายมากขึ้นทุกทีนับจากปี ค.ศ.1900 ถึง ค.ศ.1920 ที่พบว่ามีสาเหตุสัมพันธ์กับการกินหวาน
ครั้นถึงปี ค.ศ.1960 นักโภชนาการชาวอังกฤษชื่อ จอห์น ยุดกิน ก็ได้ทำการทดลองทั้งในสัตว์และในคนซึ่งแสดงให้เห็นว่าสัตว์หรือคนที่กินอาหารที่มีน้ำตาลมากจะนำไปสู่การมีไขมันและอินซูลินในเลือดสูง
อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตของยุดกินก็ถูกกลบด้วยเสียงโพนทะนาของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ที่ต่างก็กล่าวโทษสารคอเลสเตอรอลที่ได้มาจากไขมันอิ่มตัวในอาหารว่าเป็นสาหตุของโรคอ้วนและโรคหัวใจที่มีอัตราสูงขึ้น
ผลก็คือไขมันถูกลดทอนลงให้เหลือนิดเดียวในอาหารของคนอเมริกันเมื่อเทียบกับ 20 ปีก่อน
แต่กระนั้นก็ตามสถิติของผู้ป่วยเป็นโรคอ้วนแทนที่จะลดลงก็กลับถีบตัวสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง "สาเหตุสำคัญก็มาจากน้ำตาลนั่นเอง" นพ.จอห์นสันกล่าว
"โดยเฉพาะน้ำตาลฟรุกโตส (หรือน้ำตาลผลไม้)"
นํ้าตาลซูโครส คือน้ำตาลที่วางอยู่บนในพวงเครื่องปรุงอาหารของเรา มันประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำตาล 2 โมเลกุล หนึ่งคือกลูโคส อีกหนึ่งคือ ฟรุกโตสซึ่งก็คือน้ำตาลธรรมชาติที่เจอในผลไม้
ความรู้ประการหนึ่งที่ผู้คนทั่วไปมักจะไม่ได้ใส่ใจก็คือ เมื่อกินน้ำตาลซูโครสจากกระปุกน้ำตาลบนโต๊ะอาหาร จากเครื่องดื่มหวานๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวานผสมโซดา น้ำอัดลม หรือลูกอม กระทั่งความหวานจากผลไม้ น้ำตาลซูโครสที่กินเข้าไปจะแตกตัวเป็นกลูโคส+ฟรุกโตส น้ำตาลกลูโคสจะถูกใช้ไปอย่างง่ายดายโดยเซลล์ทั่วร่างกาย แต่น้ำตาลฟรุกโตสที่ตกค้างอยู่จะมีอวัยวะเดียวที่จะหมุนใช้มันได้คือ ตับ
ด้วยเหตุนี้เมื่อใดที่เรากินหวานๆ เข้าไปมาก ฟรุกโตสเมื่อถูกลำเลียงมาตามกระแสเลือดจนถึงตับ ตับก็จะสลายฟรุกโตสแล้วสร้างขึ้นมาเป็นไตรกลีเซอไรด์ ไตรกลีเซอไรด์ที่มีมากขึ้นส่วนหนึ่งจะถูกส่งเข้ากระแสเลือดโดยตับจะสร้างรถบรรทุกขึ้นมา คือไลโปโปรตีนนั่นเอง โครงสร้างของไลโปโปรตีนนั้นประกอบด้วยโปรตีนกับคอเลสเตอรอล เป็นเหตุให้คอเลสเตอรอลสูง
ไลโปโปรตีนที่ถูกสร้างขึ้นจะลำเลียงไตรกลีเซอไรด์ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เซลล์ตามอวัยวะต่างๆ เอาไปใช้
แต่ถ้ามีเหลืออีกก็จะลำเลียงไปเก็บซุกไว้ใต้ผิวหนัง เป็นสาเหตุของความอ้วน
ส่วนไตรกลีเซอไรด์อีกส่วนหนึ่งจะตกค้างอยู่ในตับ สะสมอยู่ในเซลล์ กลายเป็นภาวะไขมันพอกตับในที่สุด
ไขมันที่ล่องเลยอยู่ในกระแสเลือดจะเกิดการสะสมอยู่ในหลอดเลือด เป็นเหตุให้หลอดเลือดแข็งตัว เกิดโรคความดันเลือดสูง และโรคหัวใจ อัมพาตตามมา
ในอีกด้านหนึ่ง น้ำตาลที่เข้าสู่กระแสเลือดจะไปกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลิน อินซูลินออกมาบ่อยๆ นานๆ เข้าเซลล์ก็จะเกิดอาการดื้อด้านต่ออินซูลิน กลายเป็นเบาหวานนั่นเอง
ถึงตอนนี้แหละคนคนนั้นก็จะตกเข้าสู่ภาวะของกลุ่มโรคเผาผลาญผิดปกติ (metabolic syndrome)
อันเป็น "ชามรวมมิตร" ของความผิดปกติทั้งหลายแหล่ ได้แก่ อ้วน น้ำตาลเลือดสูง อินซูลินในเลือดสูง แต่เซลล์ดื้อต่ออินซูลิน มีเบาหวาน ความดันเลือดสูง แถมด้วยไตรกลีเซอไรด์สูง HDL ต่ำ และ LDL ชนิดเม็ดเล็ก (ซึ่งเป็นไขมันที่ดี) ต่ำอีกด้วย ซึ่งบางทีเราเรียกว่าซินโดรมเอ็กซ์ (Syndrome X)
ผมขอเรียกว่า "โรครวมมิตร" น่าจะเหมาะ
สถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกาประกาศว่า ทุกวันนี้คนอเมริกันผู้ใหญ่กว่า 1 ใน 3 กำลังป่วยด้วยโรครวมมิตรกลุ่มนี้
เมื่อไม่นานมานี้สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศคำเตือนแล้วว่า ให้ลดปริมาณน้ำตาลที่ใส่ลงในอาหาร แต่เหตุผลเพียงระบุว่า "เพราะน้ำตาลไปเพิ่มแคลอรี โดยไม่ได้ให้ประโยชน์ใดๆ อย่างอื่น"
แต่เหตุผลของสถาบันสุขภาพฯ นี้สำหรับ นพ.จอห์นสัน แล้ว ถือว่าเป็นการประกาศที่พลาดเป้าหมาย "เพราะน้ำตาลไม่แต่เพียงเป็นแคลอรีเปล่าเปลือง แต่สำคัญกว่านั้นก็คือ...มันเป็นพิษ"
เช่นเดียวกับ โรเบิร์ต ลัสติง ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการต่อมไร้ท่อ เขากล่าวว่า "มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องแคลอรีเกินสักกะหน่อย เหตุผลที่สำคัญก็คือ น้ำตาลคือสารพิษ ถ้ากินมากเกินไป"
นพ.จอห์นสันให้ข้อสรุปการเจ็บป่วยของคนอเมริกันว่า คนอเมริกันกันกินมากและออกกำลังกายน้อย เหตุผลที่กินมากและออกกำลังกายน้อยก็เพราะว่าพวกเขาเสพติดความหวาน มันไม่แต่เพียงทำให้พวกเขาอ้วนขึ้น แต่ทันทีที่พวกเขากินโด๊สแรกของความหวาน มันก็จะดูดกลืนเรี่ยวแรงออกไปจากตัวเขาทันที ทำให้พวกเขาอ่อนปวกเปียกลงไปนอนกองที่เก้าอี้ การที่คนอ้วนชอบดูโทรทัศน์นั้น ไม่ใช่เพราะโทรทัศน์ดูแล้วสนุกหรอก แต่เป็นเพราะพวกเขาหมดเรี่ยวหมดแรงเกินกว่าที่จะลุกขึ้นมาออกกำลังกายได้
"หมดเรี่ยวแรงเพราะการกินหวานนั่นเอง"
ทางออกก็คือ ตัดการกินหวานซะทันที
เมื่อหยุดกินหวาน โรคต่างๆ ที่ป่วยอยู่ก็จะดีขึ้น เพราะน้ำตาลในเลือดลดลง ไตรกลีเซอไรด์ถูกใช้ไป ทำให้หายอ้วน คอเลสเตอรอลลดลง หลอดเลือดสะอาดขึ้น ความดันลดลง หัวใจปลอดโปร่ง สมองแจ่มใส เรี่ยวแรงจะคืนกลับมา
แต่ปัญหามีว่าทุกวันนี้เราช่างหลีกเลี่ยงความหวานได้ยากเสียเหลือเกิน เพราะเราเคยตกอยู่ในโลกของความกลัวไขมัน อุตสาหกรรมอาหารจึงเอาความหวานมาเสนอขายแทนความมัน ไม่เชื่อหันไปมองดูสิ บรรดาอาหารที่ว่าไขมันต่ำก็ล้วนออกรสหวานๆ ทั้งนั้น
นั่นเป็นเรื่องของชาวอเมริกัน แต่ถ้าเป็นคนไทยแล้ว ความหวานที่เรานิยมกินกันและหลงเชื่อว่าดี ก็คือผลไม้ เรากินผลไม้และน้ำผลไม้อย่างไม่บันยะบันยัง
แถมหลงว่าเป็นอาหารสุขภาพเสียด้วย ทั้งที่มันทำให้เราป่วยด้วยโรครวมมิตรพอๆ กับที่ฝรั่งหลงกินของหวานกัน
เรื่องจริงจึงมีว่า ผลไม้-แม้แต่แอปเปิ้ลก็มีผลให้เราอ้วนตายได้!!!
เรื่องเศร้าจึงมีว่า ทุกวันนี้เรากำลังมุ่งหน้าสู่การป่วยตาย ทั้งๆ ที่เรายอมอดอาหารที่แสนอร่อยอย่าง หมูหัน ไก่ตอนและลดทอนไข่แดง โดยต้องทนกินของไม่อร่อยที่หวานแสบไส้
สุดท้ายอาหารที่ต้องทนกินนี้กลับทำให้เราตายเร็วลงซะฉิบ!!
...........
(ที่มา:มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22-28 สิงหาคม 2557)
บันทึกการเข้า
เราช่วยกันนำต้นรักที่เพาะได้
ส่งไปตาม บ้านที่ต้องการ
อยากจะได้...
หรืออยากจะเติม
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
ผลไม้ ที่สีสันสวยงามที่สุดในโลก
สุขใจ ตลาดสด
-NWO-
0
2210
12 กันยายน 2555 11:36:46
โดย
-NWO-
เกษตรน่ารู้ (ผลไม้ - Fruit) : ส้มสายน้ำผึ้ง
«
1
2
»
สุขใจ จิบกาแฟ
Kimleng
24
1916
02 เมษายน 2567 10:44:41
โดย
Kimleng
มะปราง - เกษตรน่ารู้ (ผลไม้ - Fruit)
สุขใจ จิบกาแฟ
Kimleng
0
174
09 ตุลาคม 2566 16:08:25
โดย
Kimleng
[ข่าวเด่น] - ผัก-ผลไม้ ควรล้างและแช่ด้วยน้ำเกลือไหม? หลายคนเข้าใจผิด ผู้เชี่ยวชาญมาเฉลย
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด
0
46
14 เมษายน 2567 02:15:47
โดย
สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวเด่น] - ผัก-ผลไม้ ควรล้างและแช่ด้วยน้ำเกลือไหม? หลายคนเข้าใจผิด ผู้เชี่ยวชาญมาเฉลย
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด
0
47
14 เมษายน 2567 04:51:29
โดย
สุขใจ ข่าวสด
กำลังโหลด...