[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปเที่ยว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 09 มีนาคม 2557 16:52:07



หัวข้อ: วัดป่าดาราภิรมย์ จ.เชียงใหม่ ศิลปล้านนาโบราณ จำลองจากหอคำหลวงเจ้าหลวงเชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 09 มีนาคม 2557 16:52:07
.

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/90241798841290__3615_1.JPG)
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระอนุสาวรีย์พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
ประดิษฐานในวัดป่าดาราภิรมย์ จ.เชียงใหม่

วัดป่าดาราภิรมย์
ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

วัดป่าดาราภิรมย์ ตั้งอยู่ที่ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากที่ว่าการอำเภอแม่ริมและค่ายดารารัศมี ประมาณ ๑.๐๐ กิโลเมตร ห่างจากศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ ๑๐.๐๐ กิโลเมตร

อาณาเขตของวัด ๒๖ ไร่ (เนื้อที่กว้าง ๑๗.๐๐ เมตร ยาว ๓๐.๐๐ เมตร) ประกาศกระทรวงศึกษาธิการตั้งเป็นวัด ลงวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๑ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๒  

ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๓ ได้รับพระบรมราชานุญาต ให้ยกเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๒ อันเป็นปีเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ ๖ รอบ แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/61102597705191__3615_2.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/38090075097150__3615_4.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/73089299061232__3615_9.JPG)
พระวิหารหลวง วัดป่าดาราภิมย์

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/31269073858857_SAM_3046.JPG)
เชิงเทียนศิลปล้านนาโบราณ ในพระวิหารหลวง

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/69827020706401__3615_.JPG)
เชิงเทียนศิลปล้านนาโบราณ ในพระวิหารหลวง

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/89640413886970__3615_2.JPG)
เชิงเทียนศิลปล้านนาโบราณ ในพระวิหารหลวง


พระวิหารหลวง มีขนาดกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๔๖ เมตร สร้างในวโรกาสที่วัดได้รับสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ และถวายพระราชกุศลเชิดชูบารมีในเสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นศิลปล้านนา จำลองมาจากหอคำของเจ้าหลวงเชียงใหม่ในสมัยโบราณ เป็นที่รวมศิลปการแกะสลัก ปูนปั้นและลายคำแบบล้านนา ภายในพระวิหารประดิษฐานพระประธานทรงเครื่องในมณฑปปราสาทพร้อมทั้งพระบรม สารีริกธาตุ และแวดล้อมด้วยพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ นับว่ามีความงดงามเป็นที่เชิดชูศิลปท้องถิ่นหลังหนึ่ง ใช้เวลาในการก่อสร้าง พ.ศ. ๒๕๔๒ - ๒๕๔๖ สิ้นทุนทรัพย์ประมาณ ๑๕ ล้านบาท


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/77024461825688__3615_8.JPG)
พระธาตุเจดีย์พระพุทธบาทสี่รอย

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/64414723010526_SAM_3069.JPG)
พระพุทธบาทสี่รอยจำลอง ประดิษฐานในพระธาตุเจดีย์

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/22789514644278__3615_11.JPG)
พระพุทธการุญกิตติคุณขจร พระประธานในพระบรมธาตุเจดีย์

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/23119149895177_SAM_3041.JPG)

พระธาตุเจดีย์พระพุทธบาทสี่รอย เป็นมหาปูชนียสถานสำคัญของวัดและของท้องถิ่น เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและพระบรมสารีริกธาตุซึ่งได้รับพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานวางศิลาฤกษ์ เมือวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๐สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จเป็นองค์ประธานยกฉัตรประดิษฐานบนยอดพระบรมธาตุสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๓ พระธาตุเจดีย์องค์นี้ เป็นที่รวมศรัทธาในพระพุทธศาสนา และความจงรักภักดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระเกียรติในพระราชพิธีเฉลิมพระชนพรรษาครบ ๕ รอบ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒ ศิลปกรรมในพระธาตุเป็นศิลปะล้านนาประยุกต์ ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทสี่รอยจำลอง มีพระประธานขนาด ๑๗๕ เซนติเมตร ศิลปสุโขทัยประยุกต์ลงรักปิดทองสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ถวายพระนามว่า พระพุทธการุญ กิตติคุณขจร

พระธาตุประจำปีเกิดของชาวเหนือ พระพุทธประวัติ และขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวบ้าน ชั้นบนประดิษฐานซุ้มพระพุทธรูปประจำทิศ ๘ องค์ มีที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณเก่าใหม่ พร้อมด้วยวัตถุมงคล บนยอดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุพระราชทาน และพระบรมสารีริกธาตุที่ประทานจากสมเด็จพระสังฆราช พระบรมธาตุเจดีย์จัดสร้างถวายโดย คุณนิลวรรณ อุดมศรีสุข, คุณนิวัธน์ และคุณบุญทอง ทิพย์กมล พร้อมลูกหลาน และคณะศรัทธาสาธุชน
 ข้อมูล. watphadarabhirom.com[/size]


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/96888201062877_SAM_3028.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/97083729464146__3615_5.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/49817281381951__3615_6.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/80277312629752__3615_7.JPG)
พระอุโบสถวัดป่าดาราภิรมย์

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อุฏฐานยีมหาเถร) วัดมกุฏกษัตริยาราม เสด็จวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๐ เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑ ขนาดกว้าง ๑๗ เมตร ยาว ๓๐ เมตร สิ้นทุนทรัพย์ ๗๒๓,๐๐๐ บาท ตัวอุโบสถสร้างเป็นศิลปล้านนา พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปสุโขทัย ลงรักปิดทอง พระนามว่า "พระสยัมภูโลกนาถ" สร้างถวายโดยนางสาวสร้อยทิพย์ เอื้อวิทยาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ทรงตัดลูกนิมิตอุโบสถ เมื่อวันเสาร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๓ พร้อมทั้งลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธยในแผ่นหินอ่อน และทรงปลูกต้นไม้ไว้เป็นที่ระลึกด้วยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสนมหาเถร) วัดราชบพิธฯ เสด็จเป็นประธานสงฆ์ในการเจริญชัยมงคลคาถารับเสด็จด้วย พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถใหม่ทั้งหมด สิ้นทุนทรัพย์ประมาณ ๘๐๐,๐๐๐ บาทอุโบสถเป็นที่รวมศิลปล้านนา หน้าบันไดเป็นลวดลายเครือเถาล้านนา ล้อมรอบดาว ๓ ดวง ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ประตู หน้าต่าง แกะสลักด้วยลวดลายล้านนาลงรักปิดทอง มีพญานาค ๓ คู่, สิงห์ ๑ คู่, เทวาดา ๑ คู่, และมอม ๑ คู่


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/31016540734304_SAM_3022.JPG)
มณฑปพระจุฬามณีศรีบรมธาตุ (หอแก้ว)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/49328473210334__3615_4.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/72351091851790__3615_5.JPG)

มณฑปพระจุฬามณีศรีบรมธาตุ (หอแก้ว) ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุเจ้า องค์ประเสริฐ เป็นมณฑปสี่เหลี่ยมจตุรัสกว้างด้านละ ๒๑ เมตร สูง ๔ ชั้น มีหลังคาซ้อนกัน ๔ ชั้น ยอดมณฑปเป็นรูปทรงปราสาทเจดีย์ปิดทองคำหุ้ม จังโก มีขนาดสูงจากฐานถึงยอดฉัตร ๓๙ เมตร ศิลปะล้านนาไทยผสมผกุลไต

บริเวณที่ก่อสร้างมณฑปตั้งอยู่ใจกลางวัดซึ่งเป็นชัยมงคล เดิมเป็นศาลาปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งวัด งานออกแบบสถาปัตยกรรมวางผังยึดเอาอคติความเชื่อในจักรวาลทางพระพุทธศาสนา โดยสมมุติเอามณฑปเป็นเขาพระสุเมรุ อันหลักของจักรวาล โดยแต่ละชั้นของมณฑปเปรียบเหมือนสวรรค์วิมานต่างๆ โดยชั้นที่๒ เปรียบเหมือนดาวดึงส์ ตรงกลางมีมณฑปจุฬามณีแทนพระเกศแก้วจุฬามณีศรีบรมธาตุในสรวงสวรรค์ อันเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุโมลีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่องค์อัมรินทราธิราช อัญเชิญไปประดิษฐาน พร้อมกับพระทันตธาตุพระเขี้ยวแก้วที่โทณพราหมณ์ขโมยเสียบมวยผมในวันแบ่งพระบรมสารีริกธาตุองค์อมรินทร์ก็อัญเชิญไปประดิษฐานในพระจุฬามณีเช่นกัน ทุกวันพระวันโกน องค์เทพยดาทั้งหลาย ตั้งแต่ท้าวอัมรินทร์ (ท้าวสักกะ) ตลอดจนพระบรมโพธิสัตว์ ทั้งหลายมีองค์พระศรีอริยเมตไตย เป็นต้น จะลงมาสักการะไหว้พระสวดมนต์เวียนเทียน  เป็นต้น พระจุฬามณีจำลองนี้ก็จะประดิษฐานพระทันตธาตุพระบรมสารีริกธาตุเพื่อเป็นการบูชาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายบนยอดสุดจะบรรลุพระบรมธาตุที่ได้รับประทาน มอบจากสมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปรินายก เปรียบเหมือนจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือพระนิพพาน โดยมีพระวิหารหลวงหอคำ พระอุโบสถดารารัศมี หอกิตติคุณ มณฑป พระเจ้าทันใจ เปรียบเหมือนชมพูทวีป ป่าไม้ในวัด วัดเปรียบเหมือนป่าหิมพานต์ รูปปั้นพญานาค สิงห์ เปรียบเหมือนสัตว์ในหิมพานต์ ซุ้มประตูโขงเปรียบเหมือนประตูแห่งจักรวาล คลองชลประทานหน้าวัด และสระแห่งพระอุปคุต เปรียบเหมือนคงคา สนามหญ้าที่อยู่รายรอบแทนสนามทราย เปรียบเหมือนมหาสมุทร ศรีทันดร ทั้งหมดเป็นการจำลองคติความเชื่อทางระบบจักรวาลในคติโบราณของ ชาวพุทธ โดยอาศัยยอดมณฑป องค์พระบรมธาตุ เป็นแกนของจักรวาล


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/23325226662887__3615_10.JPG)