14 พฤษภาคม 2567 14:43:51
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
.:::
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ (อ่าน 22595 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5482
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
«
เมื่อ:
24 พฤษภาคม 2557 14:47:02 »
Tweet
.
ภูมิปัญญาไทย
จากใบกะพ้อ
ต้นกะพ้อ หรือที่คนใต้เรียกว่าต้นพ้อ นี้ เป็นพืชพื้นเมืองที่มีอยู่ทั่วไปทางภาคใต้ ขึ้นอยู่ในป่าพรุ หรือตามหัวไร่ปลายนา หรือตามระว่างแถวในสวนยางพารา เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับปาล์ม ลำต้นแตกหน่อออกเป็นกอ สูงประมาณ ๑-๓ เมตร ใบมีลักษณะคล้ายรูปพัด เป็นพืชที่ให้ประโยชน์ทั้งต้น ใบอ่อนใช้ห่อขนมต้ม ที่อ่อนมากๆ ทำแกงเลียง แกงส้ม หรือทำผัดน้ำพริกได้ ใบแก่เอามาทำเครื่องจักสาน เสื่อ พัด ลูกกะพ้อเป็นยาระบาย ลำต้นเอามาทำเสารั้วและนำมาปลูกไว้ข้างบ้านเพื่อความร่มรื่นสวยงาม
ส่วนใบพ้อ นำมาใช้ “แทงต้ม“ ขนมที่ชาวปักษ์ใต้รู้จักกันดี หรือที่เรียกกันว่า “ขนมต้ม” หรือ “ต้ม” เป็นข้าวต้มลูกโยนชนิดหนึ่งที่ทำในเทศกาลบุญชักพระของชาวใต้ และยังเป็นขนมที่ใช้ในงานประเพณีหลายๆ งานในท้องถิ่นภาคใต้ ที่ใช้กันเป็นหลักคือในงานบุญออกพรรษา การตักบาตรเทโว งานชักพระ งานเดือนสิบ และงานบวช ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วไปแต่ในที่นี้ขอนำเสนอภูมิปัญญาของชาวบ้านที่นำใบกะพ้อมาจักสานเป็นพัด เรียกว่า “พัดใบกะพ้อ” หรือ “พัดใบพ้อ” ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมจักสานประเภทหนึ่งที่เป็นผลผลิตจากภูมิปัญญาของชาวบ้าน นับเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของภาคใต้ โดยเฉพาะในอำเภอร่อนพิบูลย์ และที่บ้านสวนเลา อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พื้นที่ที่ผลิตกันจนมีชื่อเสียงในเรื่องพัดใบพ้อ ก็คือหมู่บ้านโคกยาง
ลวดลายในการสาน
เพื่อขึ้นรูปทรงเครื่องจักสานนั้น เป็นวิธีการของแบบแผนที่มีระบบอย่างหนึ่ง เพื่อการสร้างโครงสร้างให้เกิดการเชื่อมต่อซ้ำๆ กันไปโดยใช้ลักษณะการขัดกันของเส้นตอก หรือวัสดุอื่นที่ใช้จักสานได้ เพื่อให้เกิดแรงยึดเหนี่ยวระหว่างกันจนกลายเป็นผืนแผ่น เพื่อเป็นผนังของโครงสร้างเครื่องจักสานตามต้องการ ลายจักสานนั้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของการขึ้นโครงสร้างผลิตภัณฑ์ ประเภทเครื่องจักสาน จัดเป็นขบวนการความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เป็นระบบ ลายจักสานของไทยนั้น มีลวดลายและรูปแบบแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งที่แตกต่างกัน ด้วยลักษณะของวัสดุที่ใช้ในการจักสานด้วย ดังนั้นการเลือกใช้ลายจักสานใด จึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสม สนองประโยชน์ใช้สอยเป็นสำคัญ เช่น อาจใช้ลายขัดธรรมดา เพื่อให้เกิดความแข็งแรงทนทานและความสะดวกในการสาน หรือถ้าต้องการสานภาชนะที่มีตาต่างๆ เช่น ชะลอม เข่ง ก็มักจะสานด้วยลายเฉลา เป็นต้น
แรกเริ่มของพัดใบกะพ้อ
เกิดจากเพื่อนพ้องน้องพี่ที่อาศัยอยู่ที่บ้านโคกยาง หมู่ที่ ๑๐ ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปทำสวนยางพาราและสวนผลไม้ที่บ้านสวนเลา หมู่ที่ ๕ ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในปัจจุบัน บริเวณสวนยางหรือสวนผลไม้ มีต้นกะพ้อเป็นจำนวนมาก จึงได้ตัดใบกะพ้อมาตกแต่งให้มีขนาดพอเหมาะ พัดลมบรรเทาคลายความร้อนหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานในสวนยางพาราและสวนผลไม้
หลังจากนั้นก็เริ่มนำมาใช้ในบ้านเรือน โดยใช้พัดลมบรรเทาความร้อนในยามพักผ่อน และพัดลมในการติดไฟประกอบอาหาร ซึ่งใช้ได้ไม่นานก็เสื่อมสภาพ ต่อมามีการนำใบกะพ้อมาแยกเป็นกลีบแล้วสอดเป็นลายขัดทำเป็นพัดใบกะพ้อ ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเดิมแต่ฉีกขาดได้ง่าย เนื่องจากใบกะพ้อไม่เหนียวทน
วิวัฒนาการทำพัดใบกะพ้อจากการใช้ใบมาเป็นยอดกะพ้อที่ยังกลม โดยนำมาแยกกลีบใบแล้วลวกน้ำร้อนทำให้พัดใบกะพ้อมีความทนทาน ฉีดขาดได้ยาก มีสีขาวดูแล้วสวยงาม มีการตกแต่งด้ามพัดด้วยหวายที่มีความประณีต
การประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ นำผลไม้มาขายตามตลาดนัดต่างๆ และนำพัดใบกะพ้อมาใช้พัดลมในระหว่างที่ขายผลไม้ ทำให้แม่ค้าในตลาดนัดเกิดความสนใจพัดใบกะพ้อมาใช้แทนกระดาษหนาที่ใช้พัดลม
การทำพัดใบกะพ้อเพื่อจำหน่ายจึงเริ่มขึ้นจากตลาดนัดเล็กๆ เป็นตลาดประจำอำเภอ ประจำจังหวัด และจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ ตลอดจนตลาดในกรุงเทพมหานคร
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
ในปัจจุบันพัดใบกะพ้อได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอร่อนพิบูลย์ และอำเภอจุฬาภรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการจัดตั้งเป็นกลุ่มในหมู่บ้านดังนี้
๑. กลุ่มหัตถกรรมจักสานพัดใบกะพ้อบ้านโคกยาง หมู่ที่ ๑๐ ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
๒. กลุ่มหัตถกรรมจักสานพัดใบกะพ้อบ้านสวนเลา หมู่ที่ ๕ ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
การทำพัดใบกะพ้อ เริ่มจะมีอุปสรรคเนื่องจากวัตถุดิบที่นำใช้ผลิตเป็นวัสดุเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ราษฎรที่ไม่ได้ประกอบอาชีพจักสานพัดใบกะพ้อ จะทำลายต้นกะพ้อในพื้นที่ของตน เพื่อปลูกยางพาราและผลไม้ ทำให้ยอดกะพ้อมีไม่เพียงพอ ซึ่งจะมีแต่ป่าสงวนแห่งชาติเท่านั้นที่ยังมีต้นกะพ้ออยู่ตามธรรมชาติ ราษฎรที่อาศัยอยู่ใกล้ป่าสงวนแห่งชาติ จะตัดยอดกะพ้อมาจำหน่าย ทางสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอจุฬาภรณ์ เทศบาลตำบลร่อนพิบูลย์ และองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งโพธิ์ จึงได้สนับสนุนงบประมาณให้กลุ่มหัตถกรรมจักสานพัดใบกะพ้อ ปลูกต้นกะพ้อเป็นพืชแซมในสวนยางพารา เพื่อเป็นการอนุรักษ์หัตถกรรมจักสานพัดใบกะพ้อ ให้คงอยู่ในชุมชน
ขั้นตอนการสานพัดใบกะพ้อ
การเตรียมใบกะพ้อก่อนนำมาใช้สานพัด
ตากแดดไว้ ๑ วัน ลวกน้ำร้อน ๑ นาที ตากแดดไว้อีก ๓ วัน
๑. การก่อพัด
นำน้ำอุ่นมาพรมใบกะพ้อที่จะใช้จักสานหรือชุบน้ำให้เปียกพอทั่ว ห่อด้วยผ้า ทิ้งไว้ประมาณ ๑๐-๒๐ นาที เพื่อให้ใบกะพ้อที่แห้งอ่อนตัว และเกิดความเหนียวไม่แตกขณะสาน นำยอดกะพ้อที่นิ่มดีแล้ว แยกตรงกลางนับตอกข้างซ้ายและข้างขวาให้เท่ากัน จำนวนตอกตามความเหมาะสม เช่น พัดขนาดกลางนับข้างละ ๑๘ ตอก พัดขนาดใหญ่ข้างละ ๒๒ ตอก ส่วนที่เหลือทั้งสองข้างก็ให้ดึงออกนำมาใช้เป็นตอกก่อสานพัด
๒. การขึ้นพัด
นำใบกะพ้อที่เตรียมไว้วางบนพื้น หันก้านเข้าหาตัวผู้สาน ใช้เท้าด้านหนึ่งเหยียบก้านใบกะพ้อให้กระชับ แผ่ใบกะพ้อออกเป็นตอก ทำเป็นตอกยืน นำตอกกะพ้อมาสลับหัวสลับหางซ้อนกันเป็นคู่ จะเริ่มวางตอกก่อข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ แล้วจัดสานขัดเป็นลายขัดให้ได้ ๓ คู่ จัดดึงตอกให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย พร้อมที่จะจัดสานก่อลายขัดอีกข้างหนึ่ง เมื่อก่อตอกก่อ ๓ คู่ ทั้งสองข้างเสร็จแล้ว ให้นำตอกสองข้างมาขัดกันเองสานขัดเข้ากับตอกยืนแบบลายขัดไทย โดยการยกตอก ๑ ตอก แล้วข่มตอกอีก ๑ ตอก ไปเรื่อยๆ จนสุดตอก ในกรณีที่ต้องการทำพัดย้อมสีตอกบางตอนให้นำตอกที่ย้อมสีแล้ว แทรกเข้าเป็นตอกยืนหรือตอกขัดตามแนวที่ต้องการ
๓. การเวียนพัด
เมื่อขึ้นพัดเสร็จแล้ว ต้องจัดตอกให้แน่นพอดี ปลายตอกที่เหลือให้สานกลับลงมา ดึงขัดและต้องจัดรูปทรงให้สวยงาม ปลายตอกที่เหลือให้รวบมัดไว้ที่ก้านให้มีขนาดพอเหมาะเพื่อเตรียมไว้ทำเป็นด้ามพัด
๔. การนำพัดที่สานเสร็จแล้วไปตากแดด
นำพัดที่สานเสร็จแล้วไปตากแดดจัดๆ อีกครั้งเพื่อป้องกันเชื้อรา
๕. การพันด้ามพัด
ทำท่อนหวายสั้นๆ หรือไม้ไผ่ที่เตรียมไว้นำมาตัดให้โค้งประกบค่อมปลายก้านใบกะพ้อไว้ ให้ช่วงโค้งห่างจากปลายก้านใบราว ๑ นิ้ว นำเชือกหวายมาพันทับหวายที่ประกบก้านใบ พันให้แน่นและละเอียดที่สุด จากนั้นจึงสอดห่วงหูตรงปลายด้ามของพัดให้ประณีตและตกแต่งให้สวยงาม
อธิบายความตามลำดับภาพ
ภาพ ๑.
ตากแดด ๑ วัน
ภาพ ๒.
ลวกน้ำร้อน ๑ นาที
และ ภาพ ๓.
นำไปตากแดดไว้อีก ๓ วัน
ในอดีตพัดใบกะพ้อ ใช้ประโยชน์ในการพัดลมคลายความร้อนเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ได้จัดตั้งกลุ่มผู้ผลิตพัดใบกะพ้อ ก็ได้ส่งเสริมให้มีการทำผลิตภัณฑ์จากพัดใบกะพ้อ อย่างเช่น การทำพัดใบกะพ้อขนาดเล็ก กว้างประมาณ ๘-๑๐ เซนติเมตร ย้อมเป็นสีต่างๆ สวยงาม ใช้เป็นของที่ระลึกในเทศกาลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส งานศพ
การนำพัดใบกะพ้อ มาตกแต่งเป็นดอกไม้ประดับแจกัน ตั้งโต๊ะรับแขก หรือกระเช้าของขวัญ
การนำพัดใบกะพ้อมาตกแต่งในเทศกาลต่างๆ เช่น ตกแต่งกระทง ตกแต่งขบวนหฺมฺรับ
นอกจากนั้นวิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช ได้นำพัดใบกะพ้อมาใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบการแสดง และนำมาประยุกต์เป็นเครื่องประดับการแต่งกายของนักแสดง “ระบำพัดใบกะพ้อ” ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมและอนุรักษ์ สืบทอดอาชีพทำพัดใบกะพ้อให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
ที่มา
:
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ วารสาร "สารนครศรีธรรมราช" จัดพิมพ์เผยแพร่โดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช
ขอขอบคุณ : สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 พฤศจิกายน 2558 15:16:56 โดย กิมเล้ง
»
บันทึกการเข้า
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5482
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
Re: ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
«
ตอบ #1 เมื่อ:
24 พฤษภาคม 2557 15:11:24 »
.
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
กะพ้อ
ใบ
นั้นหรือ คือ
ใบกะพ้อ
ไม่ได้ใช้ทำขนม แต่ใช้ห่อขนม เป็นใบของต้นกะพ้อ ชื่อวิทยาศาสตร์
Licuala spinosa Thunb
. ชื่อวงศ์
Palmae
ชื่อสามัญ
Mangrove fan palm
ชื่อพื้นเมือง
กะพ้อ กะพ้อเขียว พ้อ กูวา
จัดเป็นพืชชนิดปาล์มแตกกอ มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางภาคใต้ของไทย ไม่ว่าจะในป่าพรุ หรือตามไร่นาเรือกสวน รวมถึงในมาเลเซียและอินโดนีเซีย
กะพ้อ
มีต้นเป็นกอสูงประมาณ ๑๕-๒๐ ฟุต ใบรูปใบพัด ก้านใบยาวเล็ก มีใบย่อยแตกออกจากกันและแตกออกจากจุดเดียวกัน ที่ก้านใบแต่ละใบจะมีใบย่อยประมาณ ๑๒-๑๘ ใบ ตามใบย่อยมีรอยจีบ ปลายใบตัด ใบย่อยยาวประมาณ ๑ ฟุต และกว้าง ๔-๕ นิ้ว ใบสีเขียวเข้ม เมื่อเจริญเติบโตไปสักระยะหนึ่งจะเกิดหน่อออกมาตามบริเวณโคนต้นมากมาย ดอกสีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงระหว่างกาบใบ ดอกสมบูรณ์เพศ ช่อดอกยาวได้ถึง ๒ เมตร ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร ส่วนผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว ทรงกลมถึงรูปไข่ ขนาดกว้างประมาณ ๐.๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๑ เซนติเมตร ออกเป็นช่อๆ แตกแยกออกจากก้านช่อดอกใหญ่ ผลสุกสีแดง เปลือกเรียบ
กะพ้อ
เจริญเติบโตได้ดีในที่โล่งแจ้ง ชอบดินปนทรายที่ชุ่มชื้น ชอบความชื้นปานกลาง-สูง แสงแดดจัด สามารถปลูกในสนามหญ้าเพื่อให้มันแตกกอเป็นพุ่มหรือจะทำเป็นสวนหย่อมก็ได้ เป็นการใช้งานด้านภูมิทัศน์เนื่องจากทรงพุ่มสวย ปลูกเป็นไม้กระถางหรือในแปลงริมน้ำ เป็นแนวรั้วบังสายตา
ยังนำไปทำงานประดิษฐ์ได้ เช่น งานจักสานพัดใบกะพ้อ รวมไปถึงใบกะพ้อที่แก่จัดๆ นำไปทำหลังคาแทนการมุงด้วยใบจาก ก้านจากใบแก่ๆ นำไปทำกระด้ง แข็งแรงได้เทียบเท่าไม้ไผ่เลยทีเดียว
ชาวภาคใต้จะนำยอดอ่อนของใบกะพ้อที่ยังไม่บานมา
ห่อข้าวต้ม
ซึ่งภาษาถิ่นใต้เรียกว่า
ต้ม
คือขนมที่ทำจากข้าวเหนียว ห่อด้วยใบกะพ้อรูปทรงสามเหลี่ยม แล้วนำไปต้มให้สุก ใช้ในงานบุญตามประเพณีท้องถิ่น เช่น วันทำบุญสารทเดือนสิบ ชักพระ งานบวช และอีกหลายงาน โดยก่อนวันทำบุญจะต้องเตรียมใบกะพ้อไว้ล่วงหน้า ๒-๓ วัน นำมาคลี่ออกแล้วรีดให้เรียบ ตัดให้เสมอ รีดได้หลายใบแล้วนำมาห่อเป็นสามเหลี่ยมเพื่อขึ้นรูปไว้ห่อจริง
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
ภูมิปัญญาไทยจากใบกะพ้อ : วิธีสานพัดใบกะพ้อ และวิธีห่อขนมต้มใบกะพ้อ
สำหรับวิธีทำขนมต้ม
มีดังนี้
๑. คั้นมะพร้าวให้ได้น้ำกะทิ ๒ ถ้วยตวง
๒. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาด ใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ เทใส่กระทะ เติมน้ำกะทิ เกลือ ตั้งไฟ ผัดไฟปานกลางจนข้าวเหนียวแห้ง
๓. เติมถั่วดำที่ต้มแล้ว เติมน้ำตาล ผัดให้ทั่วจนได้ที่ยกลง
๔. ตัดใบกะพ้อ แบ่งส่วนของใบกะพ้อให้มีความกว้างของแต่ละใบเท่ากันเพื่อเวลาห่อขนมจะได้เท่าๆ กัน
๕. พับส่วนปลายของใบกะพ้อเป็นรูปกรวย ตักข้าวเหนียวใส่กดลงให้แน่นจนสุดกรวย แล้วพับเป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว
สอดส่วนโคนของใบกะพ้อออกมาทางยอดแหลมของกรวย ดึงให้แน่น หรือจะขมวดปมตรงปลายกรวยเพื่อกันหลุดก็ได้
๖. นำไปต้มหรือนึ่งให้สุก
ข้อมูล
: หนังสือพิมพ์รายวันข่าวสด
ภาพ
: เว็บไซต์ พันทิปดอทคอม
บันทึกการเข้า
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...