หัวข้อ: นาฏกรรมการแสดงโขนของไทย ทำไมจึงต้องใช้ศรในการสู้รบกัน เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 พฤศจิกายน 2561 16:08:05 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/89421413052413_1_1024x768_.jpg) นาฏกรรมการแสดงโขนของไทย ทำไมจึงต้องใช้ศรในการสู้รบกัน โขน ศิลปะการแสดงชั้นสูงอย่างหนึ่งของไทยที่มีมาแต่โบราณ จัดว่าเป็นมหรสพหลวงและเป็นเอกลักษณ์ของชาติ แต่เดิมพระมหากษัตริย์ของไทยทรงถือว่า โขนเป็นราชูปโภคส่วนพระองค์อย่างหนึ่ง จนปรากฏว่าในสมัยโบราณจัดเป็นการแสดงที่ต้องห้ามมิให้เอกชนมีไว้ นอกจากโขนหลวงที่มีประจำอยู่ในราชสำนักเท่านั้น โขนจึงเป็นนาฏกรรมหลวงที่พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์สืบมาถึงปัจจุบัน เห็นได้จากพระปรีชาสามารถที่เด่นชัดในการพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ในรัชกาลที่ ๑ รัชกาลที่ ๒ รัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๖ ที่กรมศิลปากรนำมาเรียบเรียงเป็นบทการแสดงโขน นอกจากนี้พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ยังมีคุณูปการต่อการแสดงโขนในด้านต่างๆ เป็นอย่างมาก เรื่องที่นิยมนำมาแสดงโขน คือ รามเกียรติ์ ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงเป็นขัตติยะกวีของไทยแต่โบราณ ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเป็นบทร้อยกรองจากเรื่องรามายณะของอินเดียที่รู้จักกันแพร่หลายทั่วโลก แต่มีบางตอนดำเนินเรื่องต่างไป และดำเนินความยืดยาวกว่ารามายณะ เนื้อหาส่วนใหญ่ของเรื่องรามเกียรติ์กล่าวถึงสงครามระหว่างพระรามกษัตริย์แห่งกรุงอโยธยากับทศกัณฐ์พญายักษ์ผู้ครองกรุงลงกา ตัวละครแบ่งเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายพระราม ซึ่งมีเสนาวานรเป็นกองทัพ เรียกว่า “ฝ่ายพลับพลา” และฝ่ายทศกัณฐ์ ซึ่งมีเสนายักษ์กับพวกพ้องพงศ์พันธุ์เป็นกองทัพเรียกว่า “ฝ่ายกรุงลงกา” ต้นเหตุของสงคราม คือ พระรามกับนางสีดาพระมเหสี และพระลักษมณ์ พระอนุชา ไปบำเพ็ญพรตอยู่ในป่า แล้วทศกัณฐ์ไปลักพานางสีดามาไว้ในกรุงลงกา พระรามกับพระลักษณ์จึงยกกองทัพวานรติดตามมา แต่เนื่องจากเรื่องรามเกียรติ์มีเนื้อเรื่องยืดยาวมาก ในการแสดงโขนแต่ละครั้งจึงนิยมนำเรื่องเฉพาะตอนใดตอนหนึ่งมาปรับปรุงแสดงให้เหมาะสมแก่เวลาและโอกาส เรียกว่า “ชุด” และแต่ละชุดต่างก็มี “กลเม็ด” ที่ปรมาจารย์ทางศิลปะการแสดงโขนได้แทรกเข้าไว้ในแต่ละตอนด้วย การทำสงครามระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์และพวกพ้องพงศ์พันธุ์ อาวุธที่ใช้ในการรบส่วนมากจะเป็นศร เพราะปรากฏตามบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งปรมาจารย์ด้านศิลปะการแสดงโขนของไทยได้สร้างสรรค์กระบวนท่ารบด้วยการใช้ศรเป็นอาวุธอย่างหลากหลาย ตามบทพระราชนิพนธ์ไว้อย่างวิจิตรสวยงาม ตามหลักทฤษฎี แบบแผน จารีตประเพณี และมีสุนทรียะทางด้านนาฏศิลป์ ศร เป็นอาวุธชนิดหนึ่งที่ใช้ยิงด้วยกำลังสายให้ลัดลูกออกไป มีคันศรและลูกศร สำหรับศรที่ใช้ในการแสดงโขนนั้นมีความแตกต่างจากศรทั่วๆ ไป คือไม่มีสาย มีรูปร่างโค้งเล็กน้อย ปลายศรด้านบนเป็นรูปพญานาค ปลายศรด้านล่างแหลม มีขนาดยาวประมาณ ๑ เมตร เป็นอาวุธประจำกายของตัวละครที่ใช้สู้รบกัน ในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ดังปรากฏเรื่องศรของพระรามที่ได้รับจากพระวสิษฐ์กับพระสวามิตร ซึ่งเป็นศรที่พระอิศวรได้ชุบในขณะที่ทั้งสองพระมุนีตั้งพิธีกองกูณฑ์กาลากิจ เพื่อชุบศรในบทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ว่า
ฯ ๒ คำ ฯ
เมื่อกรมศิลปากรนำบทละคร เรื่องรามเกียรติ์มาจัดทำเป็นบทการแสดงโขน ดำเนินเรื่องด้วยการ พากย์ เจรจา และขับร้อง จึงปรากฏบทโขนตอนที่ตัวละครสู้รบกันด้วยอาวุธศรอยู่หลายตอน เช่น บทโขน ตอนพระรามรบทศกัณฐ์ในการแสดงโขนชุดหนุมานอาสา ณ โรงละครแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๔๙๕ ดังบทเจรจาโขนว่า ทศกัณฐ์ขุนมาร เข้าต่อกรรอนราญมิได้หยุดยั้ง เสียงเทพศัตราวุธกระทบกระทั่งดังฉาดๆ ประดุจสายอัสนีฟาดเห็นเป็นประกาย ต่างเขม้นหมายมุ่งล้างชีวิตของกันและกัน ครั้นจอมอสุรกุมภัณฑ์พลาดพลั้งเสียท่วงที พระจักรีก็หวดด้วยคันพระแสงศรทะนง ต้องพระองค์จอมพระนครลงกา หันเหเซถลาปิ้มว่าชีวิตจะวายปราณ สมเด็จพระอวตารก็ชักศรขึ้นพาดสาย พระเนตรหมายทศกัณฐ์จอมอสุรินทร์ แล้วผาดแผลงพระแสงศิลป์ไปด้วยศักดา ต้องพระหัตถ์ตัดพระเศียรจอมอสุราขาดกระเด็นในทันที บัดนี้ฯ - ศรทะนง - บทโขน ตอนอินทรชิต (แปลงเป็นพระอินทร์) แผลงศรต้องพระลักษมณ์ ในการแสดงโขน ชุดพรหมาสตร์ ณ โรงละครศิลปากร พุทธศักราช ๒๕๐๓ ดังบทขับร้องว่า ร้องเพลงเห่เชิดฉิ่ง
- ปี่พาทย์ทำเพลงรัว - ร้องเพลงร่ายรุด
- ปี่พาทย์ทำเพลงโอด - บทโขน ตอนอินทรชิต (แปลงเป็นพระอินทร์) ตีหนุมาน ในการแสดงโขน ชุดพรหมมาสตร์ ณ โรงละครศิลปากร พุทธศักราช ๒๕๐๓ ดังบทขับร้องว่า ร้องเพลงลิงลาน
- ปี่พาทย์ทำเพลงโอด - บทโขนตอน ทศกรรฐ์ไล่ตีพิเภษณ์๑ ในการแสดงโขน ชุดพิเภษณ์ถูกขับ บทพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังบทเจรจาโขนว่า
- ปี่พาทย์ทำเพลงเชิด - บทโขน ตอนพระรามตามกวาง ในการแสดงโขน ชุดสีดาหาย บทพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังบทขับร้องว่า ร้องเพลงขึ้นพลับพลา
- ปี่พาทย์ทำเพลงเชิดฉิ่ง – ศรทะนง – รัว - บทโขนตอนพระรามรบพญาขร พญาทูษณ์ ในการแสดงโขน ชุดปราบพญาขร พญาทูษณ์ ของกรมศิลปากร ดังบทเจรจาโขนว่า
- เจรจา -
- ปี่พาทย์ทำเพลงรัว – เชิด - (พญาขร พญาทูษณ์ แผลงศร ตลกลูกศร ๒ คน ออก ต่างเข้ารบกับพระราม ตลกลูกศรพญาขรตีคันศรพระรามหล่นลงพื้นเวที สมมติว่าคันศรหัก และเก็บเข้าเวที) - เจรจา -
- ปี่พาทย์ทำเพลงรัว – เชิด – โอด - (พระรามตบหัตถ์ขอศร พระวรุณออกนำคันศรมาถวายพระราม แล้วเข้าเวที) (พระรามแผลงศรฆ่าพญาขร พญาทูษณ์ แล้วเข้าเวที) ----------------------------------------------------------- ๑ ตัวสะกดตามบทพระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๖ ที่มา : นาฎกรรมการแสดงโขนของไทย ทำไมจึงต้องใช้ศรในการสู้รบกัน โดย ชวลิต สุทรานนท์ นักวิชาการละครและดนตรีทรงคุณวุฒิ กรมศิลปากร ตีพิมพ์ใน นิตยสารศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ฉบัยที่ ๔ ก.ค. - ส.ค. ๒๕๖๑ |