17 พฤษภาคม 2567 00:53:17
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ไปเที่ยว
.:::
ตำนานพระมหาธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน และตำนานสิงห์ล้านนา
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ตำนานพระมหาธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน และตำนานสิงห์ล้านนา (อ่าน 3282 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5493
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0
ตำนานพระมหาธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน และตำนานสิงห์ล้านนา
«
เมื่อ:
22 ธันวาคม 2555 14:06:19 »
Tweet
.
ตำนานพระมหาธาตุหริภุญชัย
จังหวัดลำพูน
ตามตำนานมูลศาสนาชินกาลมาลินี กล่าวว่าเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าประทับ ณ เมืองพาราณสี เพลาเช้าพระองค์ทรงจับบาตรแลจีวร เสด็จลำพังแต่ผู้เดียวโดยนภากาศ (เหาะ) เที่ยวโคจรบิณฑบาตไปในอัฏวีคามแห่งหนึ่ง ฝูงชนชาวบ้าน ณ แห่งนั้นมีศรัทธาเลื่อมใส ถวายโภชนาหารแก่พระพุทธองค์ พระพุทธองค์ทรงดำรัสธรรมเทศนาแก่ชาวบ้านเหล่านั้น ให้ดำรงตนตั้งอยู่ในพระไตรสรณาคมและศีลห้า แล้วเสด็จพระพุทธดำเนินโดยอากาศมาจากที่นั้น เสด็จลงในที่แห่งหนึ่ง ทรงตั้งบาตรลงไว้เหนือแผ่นศิลา กระทำซึ่งภัตกิจ (ฉันอาหาร) เสร็จแล้วจึ่งมีพระพุทธพยากรณ์ไว้ว่า เมื่อพระตถาคตนิพพานแล้ว นานไปเบื้องหน้า ณ ที่แห่งนี้จักเป็นพระมหานครอันใหญ่ พญาอาทิจราช (อาทิตยราช) จักได้เสวยพระราชสมบัติในพระนคร ที่อันนี้ตรงนี้ จะเป็นที่บรรจุพระบรมธาตุของพระตถาคต พญากาเผือกได้ยินเช่นนั้น จึงได้บอกกล่าวข่าวนี้แก่ลูกหลานของตนว่า ให้ช่วยกันเฝ้ารักษาสถานที่แห่งนี้สืบต่อไป
ครั้นจุลศักราช ๔๐๙ ปี พญาอาทิจราช ได้ราชาภิเษกครองเมืองหริภุญไชย ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างปราสาทกลางพระนครนั้น
วันหนึ่งพระองค์เสด็จไปสู่เวจศาลา (ส้วม) กากะปักษี (อีกา) ตัวหนึ่งถ่ายมูลคูธตกลงเหนือเศียรเกล้าแห่งพระองค์ พระองค์แลขึ้นไปพลางตรัสให้เสนาอำมาตย์จับตัวกาให้ได้เร็วๆ กาตัวนั้นก็ถ่ายมูลคูธให้ตกลงในพระโอษฐ์อีก พระองค์ทรงพิโรธนักหนา รับสั่งราชบุรุษทั้งหลายให้ตามจับกาให้จงได้ เมื่อได้กามาถวายแล้ว ทรงจะฆ่ากานั้นเสีย
อมัจ์เจ ปุจ์ฉิ ยุต์ ตรูโป นวายํ
พระองค์ตรัสถามอำมาตย์ว่า เราควรจะฆ่ากาตัวนี้ควรหรือมิควรประการใด อำมาตย์ทั้งหลายกราบทูลว่าอย่าเพิ่งฆ่า ควรถามผู้รู้ซึ่งเหตุเบื้องหน้าก่อน
โหรัญ์ญุโน ปุจ์ฉก
โหรทั้งหลายทูลถวายพยากรณ์ว่า ให้เลี้ยงกานั้นไว้ อันความสวัสดีจักมีแก่พระองค์ พญาอาทิตยราชจึงให้ทำกรงใส่กานั้นเลี้ยงไว้ ครั้นราตรี ก็ทรงพระสุบินว่า มีเทพยดาองค์หนึ่งมาทูลแก่พระองค์ว่า แม้นพระองค์ใคร่จะรู้ซึ่งเหตุนั้น ให้นำทารกอันเกิดได้ ๗ วัน มาเลี้ยงไว้และให้นอนใกล้กรงกา พระองค์จะสามารถรู้ซึ่งเหตุนั้นได้
สมเด็จพระบรมกษัตริย์ก็ทรงทำตามพระสุบินนิมิตทุกประการ ครั้นทารกนั้นอายุได้ ๗ ปี ก็รู้ซึ่งภาษาของกาและมนุษย์ พระองค์จึงถามถึงเหตุนั้นแก่ทารก ทารกก็สนทนาพูดจากับกา กาก็เล่าให้ทารกนั้นฟังว่า ปู่ของเราเป็นพญากาเผือก บัดนี้อยู่ป่าหิมพานต์ แก่หง่อมแล้ว พญากาปู่เรานั้นบังคับเราว่า ที่นี้เป็นที่บรรจุพระบรมธาตุแห่งพระชินสีห์เจ้า เจ้าจงอยู่เฝ้ารักษาที่แห่งนี้ ท่านสอนเราเท่านี้ ทารกได้ฟังคำแห่งพญากา จึงทูลเหตุทั้งปวงนั้นแก่พญาอาทิจราช
พญาอาทิจราชได้ฟังแล้ว จึงมีรับสั่งให้รื้อเวจศาลา ทำพื้นที่ให้ราบเรียบเสมอกัน รมด้วยเครื่องหอมทั้งปวงให้สถานที่สะอาดบริสุทธิ์ แล้วให้ตีกลองป่าวชาวพระนคร ส่วนพระองค์ทรงเครื่องอลังการแห่งกษัตริย์ เสด็จพระราชดำเนินไปในที่นั้น อันเป็นที่ประชุมชนชาวพระนครและภิกษุ ทรงประทับเป็นองค์ประธาน ยกอัญชลีน้อมนมัสการบูชาสถานที่แล้วตั้งสัตยาธิษฐานให้พระบรมธาตุสำแดงพระปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่มหาชนคนทั้งปวงบัดนี้เถิด
สธาตุโก สุวัณ์ณกรัณ์ฑโก เมื่อจบคำอธิษฐานแห่งพระมหากษัตริย์ ด้วยเทวานุภาพผอบทองพระบรมธาตุอันพระเจ้าอโสกราชบพิตร์ทำไว้ด้วยเทวานุภาพก็เลื่อนลอยขึ้นไปประมาณ ๓ ศอก เปล่งฉัพพรรณรังสีอยู่ในที่นั้น ประชุมชนชาวพระนครทั้งหลายมีพระเจ้าอาทิจราชเป็นประธานเห็นเหตุมหัศจรรย์ก็ยิ่งโสมนัส สรรเสริญสาธุการด้วยบุบผามาลาธูปเทียน
ขณะนั้น พระเจ้าอาทิจราชมีพระทัยปรารถนาจะนำผอบพระบรมธาตุไปไว้ยังที่แห่งอื่น ธาตุรัณ์ฑโก ผอบพระบรมธาตุแห่งสมเด็จพระชินสีห์ ก็บันดาลแทรกทรุดหายลงไปในพื้นพสุธา
เหตุดังนั้น พญาอาทิจราชจึงกระทำอาราธนาด้วยเครื่องสักการบูชาต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง ผอบทองพระบรมธาตุก็เสด็จผ่อนผันขึ้นมาพ้นเหนือพื้นปฐพีสูงประมาณ ๓ ศอก
ฉัพ์พัณ์ณรํ สิโย สิสัช์เชสิ
เปล่งฉัพพรรณรังษีพระรัศมีหกประการแล้วก็ประดิษฐานเลื่อนลอยอยู่ ณ ที่นั้น ฝ่ายพญาอาทิจราชจึ่งเอาพระหัตถ์ทั้งสอง ค่อยๆ ประคองรองรับซึ่งผอบพระบรมธาตุ วางลงเหนือพื้นแผ่นศิลาอันหนึ่ง อันสะอาดบริสุทธิ์ แล้วมีพระราชโองการสั่งให้สร้าง
ปาสารทถูปํ
ปราสาทสถูปพระองค์หนึ่ง สูง ๑๒ ศอก มีพระทวารบานประตูเข้าออกทั้งสี่ทิศ เสา ๔ เสา ขึ้นไว้บนแผ่นศิลานั้น เพื่อประดิษฐานพระบรมธาตุไว้ในสกลชมพูทวีปทั้งปวง อันพระมหาธาตุก็บังเกิดมีในเมืองหริภุญไชย ในกาลเมื่อพญาอาทิจราชราชาภิเศกได้ ๑๖ ปี เป็นปีที่พระพุทธศาสนาล่วงได้ ๑๓๘๓ พระวรรษา ถ้าจะนับถอยหลังลงไปตั้งแต่ปีที่สมเด็จพระมหากรุณาเจ้าเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพานมานั้น ก็นับได้ ๑๖๐๐ พระวรรษา
พระบรมธาตุหริภุญชัย เป็นโบราณสถานที่สำคัญของวัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร พระเจ้าอาทิตยราช เป็นผู้สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ อันมีธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อย เต็มบาตรหนึ่ง ตามพุทธทำนาย
เมื่อพญามังรายตีเมืองหริภุญชัยได้ โปรดให้ซ่อมแซมดัดแปลงองค์พระธาตุขึ้นใหม่ การปฏิสังขรณ์ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทรวดทรงขององค์พระธาตุฯ จากทรงปราสาทเป็นทรงเจดีย์ฐานกลมแบบทรงลังกา ต่อมาในปี พ.ศ. ๑๗๒๒ พระเจ้าสัพพสิทธิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูน ได้สร้างโกศทองเสริมต่อขึ้นไปอีกหนึ่งศอก รวมเป็นสูงสี่ศอก และสร้างพระมณฑปสูงต่อขึ้นอีก ๒ วา รวมเป็นห้าวา พร้อมทั้งสร้างทองจังโก (แผ่นทองแดงปนนาก) หุ้มตลอดองค์พระเจดีย์ จำนวน ๑๕,๐๐๐ แผ่น ในปี พ.ศ. ๒๐๐๐
พระเมืองแก้ว เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ได้สร้างสันติบัญชร (ระเบียงหอก) จำนวน ๕๐๐ เล่ม ล้อมเป็นรั้วไว้ ณ ฐานล่างสองชั้น
ต่อมาในสมัยพระยาอุปโย เจ้านครเชียงใหม่ พระราชโมลีมหาพรหม และพระสังฆราชา ได้ชักชวนชาวเมืองทำสันติบัญชรต่อเพิ่มเติมอีก ๗๐๐ เล่ม จนแล้วเสร็จสมบูรณ์
อาทิจ์จัส์ส รัญ์โญ ปน อัค์คมเหสี ปทุมวดีนาม เทวี
พระนางปทุมวดี พระราชเทวีแห่งสมเด็จพระเจ้าอาทิจวงษ์
ทรงมีพระราชศรัทธาให้สร้างพระสุวรรณเจดีย์อีกองค์หนึ่งไว้ในพระศาสนา
เพื่อเป็นที่สักการบูชาแก่เทพยดาและเหล่ามนุษย์ทั้งปวง
สัพ์พาสิท์ธิราชา
พระเจ้าสรรพสิทธิราช ทรงโปรดให้ปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมพระมหาธาตุปราสาทเจดีย์
ที่สมเด็จพระไอยกา (พญาอาทิจราช) ทรงสร้างไว้แต่กาลก่อน
------------------------------------------------
ตำนานสิงห์ แห่งวัดล้านนา
เกี่ยวกับสิงห์แห่งวัดล้านนา อาจารย์สนั่น ธรรมธิ นักวิชาการสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้มีผลงานดีเด่นการอนุรักษ์ด้านภาษาและวรรณกรรมล้านนา อรรถาธิบายไว้ว่า รูปอนุสรณ์สัตว์ชนิดหนึ่งที่พบเห็นโดยทั่วไปในเขตล้านนา โดยเฉพาะประตูวัด ได้แก่
รูปสิงห์
ซึ่งรูปอนุสรณ์ดังกล่าวอาจมีมานานแล้ว
ในโคลงนิราศหริภุญชัย ซึ่งเป็นโคลงเก่าแก่อายุราว ๕๐๐ ปี มีกล่าวถึงรูปสิงห์ ๒ ตัวที่ประตูวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ในบทที่ ๑๑ ว่า "ลาเถิงปราสาทสร้อย สิงห์สอง" อย่างไรก็ตาม ความเป็นมาของรูปสิงห์ยังไม่มีการศึกษาโดยละเอียด แต่เชื่อกันว่า
เป็นความนิยมที่รับจากพม่า
โดยมีเรื่องเล่าว่า
นานมาแล้ว ณ นครแห่งหนึ่ง พระราชามีพระธิดาที่ทรงแต่งงานกับเจ้าชายหนุ่มและมีพระโอรสกับพระธิดา ๒ องค์ กาลนั้นมีราชสีห์ตัวหนึ่งมีความพึงพอใจในตัวเจ้าหญิง รวมถึงพระโอรสและพระธิดา จึงเข้าลักพาทั้งสามพระองค์ไปเลี้ยงดูอย่างดีในป่า ราชสีห์รักพระโอรสและพระธิดาเสมือนลูก เมื่อทั้งคู่เจริญวัยราชสีห์ได้สอนสรรพวิชาโดยเฉพาะเวทมนตร์และวิชาการใช้ธนูที่เรียกว่า
ธนูสิงห์
แก่พระโอรสจนมีความสามารถแก่กล้า
แต่ตลอดมา ๒ พระองค์มีความสงสัยว่า ทำไมตนและพระมารดามาอยู่กับสัตว์ พระบิดาเป็นใคร เมื่อทูลถามพระมารดา เจ้าหญิงก็ทรงเล่าความจริงให้ฟัง พระโอรสจึงพยายามเดินสำรวจป่าอยู่หลายวัน จนทราบเส้นทางดี วันหนึ่งขณะที่ราชสีห์ออกไปหากิน พระโอรสก็ทรงพาพระมารดาและพระขนิษฐาหนีออกจากป่าจนถึงบ้านเมือง เมื่อไปถึงพระราชวังปรากฏว่าพระราชาเสด็จสวรรคตแล้ว เจ้าชายสวามีได้เป็นพระราชาสืบราชสมบัติแทน ทั้งสี่พระองค์ดีพระทัยมากที่ได้พบกันอีกครั้ง
กล่าวถึงราชสีห์ เมื่อกลับมาไม่พบเจ้าหญิง พระโอรสและพระธิดา จึงออกตามหาด้วยความแค้นเคืองใจเป็นกำลัง มันเข้าไปในเมืองด้วยความบ้าคลั่ง พบเจอมนุษย์ตรงไหนก็คำรามแผดสีหนาทซึ่งเป็นเสียงมรณะใส่มนุษย์นั้น
กล่าวกันว่าเสียงคำรามของราชสีห์ใครได้ยินจะสิ้นใจในพริบตา ราชสีห์ฆ่ามนุษย์มาตามทาง ผู้คนเดือดร้อนไปทั่ว พระราชาจึงทรงสั่งให้ปราบทันที แต่ไม่มีใครทำอะไรได้เพราะราชสีห์มีฤทธิ์มาก พระโอรสทรงรำพึงว่าที่ผู้คนล้มตายเพราะตนเป็นต้นเหตุจึงอาสาไปปราบ
พระโอรสออกไปประจันหน้ากับราชสีห์ เตรียมประหัตประหารกัน แต่เหล่าเทวดาไม่อยากให้พระโอรสฆ่าผู้มีพระคุณ ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้ราชสีห์ฆ่าพระโอรสที่จะสืบราชสมบัติ จึงบันดาลให้ทั้งสองฝ่ายใจอ่อน ทั้งสองจึงต่อสู้กันธรรมดา แต่การต่อสู้กันนั้นเนิ่นนานไม่มีใครแพ้ชนะ ที่สุดราชสีห์ระงับอารมณ์ไม่อยู่จึงอ้าปากเพื่อจะแผดสีหนาท พระโอรสเห็นจึงยิงธนูสิงห์เข้าไปในปาก ราชสีห์ก็ล้มลงสิ้นใจตายทันที
ชาวเมืองเซ็งแซ่สรรเสริญพระปรีชาสามารถ ตั้งแต่นั้นมาบ้านเมืองก็สงบสุข และเมื่อพระราชาสวรรคตพระโอรสได้ขึ้นครองราชย์ แต่พระองค์ประชวรมีพระอาการปวดพระเศียรเสมอ แพทย์หลวงก็มิอาจรักษาได้ ทรงทุกขเวทนามาก (บางตำราว่าบ้านเมืองเกิดอาเพศด้วย)
กระทั่งมีปุโรหิตาจารย์ทูลว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะบาปกรรมที่ทรงฆ่าผู้มีพระคุณที่เคยเลี้ยงดูมา ทางแก้คือต้องสร้างรูปสิงห์ไว้บูชา แต่ด้วยพระองค์เป็นกษัตริย์มนุษย์จะสร้างรูปสัตว์ไว้บูชาย่อมไม่สมควรกระทำ แต่เพื่อให้หายจากโรคร้ายจึงทรงเลี่ยงไปสร้างรูปราชสีห์ไว้ตามประตูวัดแทน
เรื่องไม่ได้เล่าต่อว่าพระราชาทรงหายปวดพระเศียรหรือไม่ แต่ก็เกิดธรรมเนียมการสร้างรูปราชสีห์หรือรูปสิงห์เป็นสิงห์คู่ปรากฏอยู่ตามวัดทั่วไป ในเขตล้านนาอย่างที่พบเห็น
ทั้งนี้โบราณาจารย์ล้านนามีความเชื่อเป็นข้อห้ามสืบต่อกันว่า
ห้ามมีรูปสัตว์ ๕ ประเภทอยู่ในบ้าน
หนึ่งในนั้นคือ
รูปสิงห์
ดังที่ปรากฏในตำราสัพพะขึด ว่า "รูปอันบ่ดีอยู่ในบ้านมี ๕ ประการ คือว่ารูป
ช้าง นาค เสือ ราชสีห์
และรูป
ราหู
หลอนมีไว้ดั่งอั้น ก็ขึดนักแล" ถ้าเชื่อตามนี้รูปสิงห์ควรอยู่ในวัดเท่านั้น
ที่มา
: เหนังสือพิมพ์ข่าวสด
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กันยายน 2558 14:37:52 โดย กิมเล้ง
»
บันทึกการเข้า
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
พระเจดีย์ ศรีวิชัยจอมคีรี ตำบลดงดำ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng
2
1334
29 สิงหาคม 2564 18:15:37
โดย
Kimleng
วัดพระยืน ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng
0
317
22 พฤษภาคม 2566 14:30:09
โดย
Kimleng
กำลังโหลด...