หัวข้อ: ประวัติย่อ หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 19 ตุลาคม 2566 17:00:00 (https://scontent.fbkk9-3.fna.fbcdn.net/v/t1.6435-9/97302347_2549795918605102_2415928290935046144_n.jpg?_nc_cat=105&ccb=1-7&_nc_sid=7f8c78&_nc_ohc=Xp4KTNRCsvwAX9gjDej&_nc_ht=scontent.fbkk9-3.fna&_nc_e2o=s&oh=00_AfCKbYAWEWBftivKRPgpTtvejg_ikBSW68ZpNdcLYj8Oqw&oe=65586B7B) ประวัติย่อ หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๖ มุทิตาอาจาริยบูชาคุณ ๘๗ ปี หลวงปู่เชอรี่ (พอ.จอร์จ) อภิเจโต "สมณะผู้ทำตนเรียบง่ายแห่งวัดป่าบ้านตาด" พระอาจารย์เชอรี่ อภิเจโต เป็นพระภิกษุชาวต่างชาติ รุ่นเดียวกับท่านพระอาจารย์ปัญญา ปัญญาวุฑโฒ ที่ดำรงขันธ์อยู่ องค์ท่านเข้ามาศึกษาธรรมะกับหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน และญัตติเป็นธรรมยุติพร้อมท่านพระอาจารย์ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ • ประวัติย่อหลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต นามเดิม นายยอจ รอดเน นามสกุล เชอรี่ (CHERRY GEORGE RODNEY) เกิดเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๔๗๙ ณ เมืองโพรวิเดนซ์ โรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา บิดาชื่อ นายวิลเลี่ยมแอส มารดาชื่อ นางลีนัวร์ เชอรี่ มีน้องสาวร่วมบิดามารดา ทั้งหมด ๑ คน การศึกษา ระดับไฮสกูล พระอาจารย์เชอรี่ อภิเจโต เดินทางเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรก ในปี พ.ศ.๒๕๐๗ โดยเดินทางผ่านประเทศมาเลเซีย เข้าสู่ประเทศไทย ผ่านทางภาคใต้ เที่ยวเรื่อยมาจนถึงกรุงเทพมหานคร (พระนคร) ได้พบ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เกิดความศรัทธา ในพระพุทธศาสนา มีความประสงค์จะบรรพชาเป็นสามเณร จึงได้เขียน จดหมายไปขอมารดา เมื่อได้รับอนุญาตจากมารดาแล้ว จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๐๗ (ขณะมีอายุ ๒๘ ปี) ณ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีพระสาสนโสภณ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออายุ ๒๘ ปี (ย่างเข้า ๒๙ ปี) พระอาจารย์เชอรี่ ได้เข้าพิธีอุปสมบทพร้อมกับท่านพระอาจารย์ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ (พระฝรั่งชาวอังกฤษ เดิมเป็นวิศวกร) ในวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๐๘ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร แขวงบางลำภู เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็น "พระยอจ รอดเน" ได้รับฉายาว่า “อภิเจโต" ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้มีจิตใจอันยิ่งใหญ่” โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (หรือ พระสาสนโสภณ ราชทินนามในขณะนั้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระเทพญาณกวี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมปันโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เกร็ดประวัติหลวงปู่ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ พระอาจารย์ปัญญา อุปสมบทครั้งที่ ๒ ขณะอายุ ๓๙ ปี อุปสมบทซ้ำในฝ่ายธรรมยุตินิกาย (ทำพิธีบวชซ้ำอีกโดยมิได้ลาสิกขาบทไปเป็นฆราวาสก่อน) เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๐๘ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับนามฉายา ภาษามคธว่า “ปญฺญาวฑฺโฒ” แปลว่า ผู้เจริญด้วยปัญญา ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์ลูกหาทั่วไปจึงได้เรียกชื่อท่านสั้นๆ ว่า “ปัญญาๆ” ตั้งแต่นั้นมา จากปี พ.ศ.๒๕๐๘ พระอาจารย์เชอรี่ ได้ติดตามหลวงตาพระมหาบัว มาจำพรรษา ณ วัดป่าบ้านตาด จนถึงปัจจุบัน โดยท่านเป็นพระที่ตั้งมั่นถือปฏิปทาพระธุดงค์กรรมฐานตามแบบหลวงตาพระมหาบัว เป็นผู้มักน้อย สันโดษ ถือข้อวัตร มีเพียงผ้าสามผืน อัฐบริขาร ใบมีดโกน ในกุฏิไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก วัตถุสิ่งของ และปัจจัย ๔ พระอาจารย์เชอรี่ มีจริตชอบอดอาหาร (ไม่ออกฉันที่ศาลา) และนั่งภาวนาเป็นเวลานาน ๆ ไม่ชอบพบปะผู้คน มักน้อย สันโดษ ทำข้อวัตรปฏิบัติไม่เคยขาด เก็บเศษขยะรอบวัดป่าบ้านตาดเป็นประจำ ไม่บกพร่องในกิจของสงฆ์ ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์มาก ให้ความเมตตาช่วยเหลือสงเคราะห์ชาวบ้านอย่างกว้างขวาง แต่ไม่เปิดเผย ไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ท่านชอบทำบุญให้ทาน และเป็นผู้ให้ที่ให้เกียรติแก่ผู้รับ หลวงตาพระมหาบัวเคยกล่าวถึงท่านพระอาจารย์ว่า "ท่านเชอรี่ท่านไม่ยึดติดอะไรปล่อยวางหมดแล้ว" มาระยะหลัง หลวงตาช่วยชาติ พระอาจารย์จึงเริ่มสงเคราะห์โลก เมตตาสอนธรรมะแก่ลูกศิษย์และนักภาวนา โดยเฉพาะเรื่องเจโต การรู้วาระจิต ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดี่ยวกันว่า "ท่านรู้วาระจิตจริงๆ" ทำอะไรให้ระวังให้ดีท่านจะรู้เจโตวาระจิต มีบุคคลท่านหนึ่งไปกับเพื่อนในงานบุญประทายข้าวเปลือก เพื่อนขอยืมเงินทำบุญ ๖๐ บาท จริงแล้วเพื่อน ๆ มีเงิน ๕๐๐ แต่ครุ่นคิดว่าจะทำบุญดีหรือไม่ บุคคลท่านนี้คิดในใจว่า "ยืมเงิน ๖๐ บาท ขอบุญครึ่งหนึ่งล่ะกันเพื่อน" อยู่ดี ๆ พระอาจารย์มาจากไหนไม่รู้มาจับมือเพื่อนแล้ว บอกว่า "การทำบุญอย่าตระหนี่ถี่เหนียวนะ ทำบุญให้ตั้งอกตั้งใจให้ได้ทั้งบุญนอกบุญใน เข้าใจมั่ย" แล้วท่านก็เดินจากไป ทั้งสองคนต่างตกใจ ว่าท่านรู้ได้ยังไง เพราะคุยกันสองคนและท่านก็ไม่ได้อยู่แถวนั้นด้วย อยู่ดี ๆ ท่านเดินมาจากไหนไม่รู้ ทำให้ทั้งสองศรัทธาและเห็นผลในพระพุทธศาสนา โดยมีพระอาจารย์เป็นเครื่องยืนยัน อีกเรื่อง จริง ๆ มีอีกมาก เล่าพอสังเขป มีพี่ท่านหนึ่ง ทะเลาะกับพ่อแม่ แล้วหนีออกมาจากบ้าน ต้องการหลักใจเลยมาวัดป่าบ้านตาด แล้วมากราบพระประธานที่ศาลา ปรากฏว่าพระอาจารย์มาจากไหนไม่รู้ แล้วเดินขึ้นศาลา แล้วกล่าวว่า "ตี๋ (ขออนุญาตสมมุติชื่อ) ตี๋อยู่ไหน เราจะคุยกับตี๋" พี่ท่านนี้แปลกใจมากว่า ท่านรู้ชื่อเราได้ยังไง แล้วพระอาจารย์ก็เทศน์สอนพี่ว่า "พ่อแม่เราอย่าไปทะเลาะกับท่าน ให้มีความเคารพกตัญญูท่าน ท่านเป็น on 1. " พี่ท่านนี้ทราบว่า ท่านรู้วาระจิตจริง ๆ เพราะพึ่งทะเลาะกับพ่อแม่มาและท่านทราบชื่อทั้งที่เจอครั้งแรก และไม่ได้บอกมาก่อนด้วย ทำให้พี่ท่านนี้เกิดความศรัทธาตั้งมั่นในพระอาจารย์และถือธรรมของท่านเป็นหลักในการดำรงชีวิต... สมแล้วที่ท่านพระอาจารย์ ได้ฉายาว่า"อภิเจโต" ผู้มีจิตใจอันยิ่งใหญ่ อาการอาพาธ ปัจจุบันพระอาจารย์เชอรี่เข้าสู่ปัจฉิมวัย มีอาการเจ็บป่วยตามอายุที่เพิ่มขึ้น ไม่สามารถออกรับบิณฑบาตได้ มีโยมอุปฐากคอยดูแลเรื่องอาหาร พระอาจารย์เชอรี่ฉันอาหารได้เฉพาะปลา สลัดผัก ประเภทของเหลว น้ำผลไม้ และช็อกโกแลต เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๖๓ ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอุดรธานี เนื่องจากมีแผลเรื้อรังที่ศีรษะ และผ่าตัดโดยได้ส่งก้อนเนื้อตรวจหาเชื้อมะเร็ง ผลปรากฏว่า ไม่พบเชื้อมะเร็งเป็นก้อนเนื้อปกติ ปัจจุบันหายเป็นปกติแล้ว ปัญหาสุขภาพในปัจจุบัน พระอาจารย์เชอรี่ มีโรคประจำตัว ถุงลมโป่งพอง หลอดเลือดหัวใจ ริดสีดวงทวาร เส้นเลือดขอด บริเวณขาสองข้างอาการเป็นปกติ การรักษาจะเข้าพบแพทย์ ณ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีและศูนย์โรคหัวใจสิริกิตติ์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อติดตามอาการและรับยา เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอุดรธานี เนื่องจากมีอาการรอยจุดซ้ำ และแดงใต้ผิวหนังที่เป็น ๆ หาย ๆ มีเส้นเลือดฝอยขอด ผิวช้ำ ผิวหนังกระ แบบผิวชาวต่างชาติสูงอายุ และเป็นมะเร็งผิวหนังเฉพาะจุด (ไม่รุนแรง) แต่สุขภาพทั่วไปสมวัย ไม่มีภาวะเบาหวานหรือความดันสูง ลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ กราบอาราธนาอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยขอให้หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต มีธาตุขันธ์แข็งแรงอยู่เป็นร่มโพธิธรรม สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาสืบนานเท่านานเทอญ เพจ ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น |