[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 พฤษภาคม 2567 16:34:44 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เงื่อนงำปริศนา ของภาพวาดสีน้ำมันโบราณ  (อ่าน 28248 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2337


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 07 สิงหาคม 2556 07:10:48 »

.

http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/03/361199/hr1667/630.jpg
เงื่อนงำปริศนา ของภาพวาดสีน้ำมันโบราณ

ภาพตรึงกางเขนพระเยซู

http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/03/361199/o7/420.jpg
เงื่อนงำปริศนา ของภาพวาดสีน้ำมันโบราณ

ภาพขยายยานบินลึกลับในฉากตรึงกางเขนพระเยซู

คงจะไม่แปลก ถ้าใครสักคนจะกล่าวอ้างว่าครั้งหนึ่งในอดีต โลกของเราเคยมีสิ่งมีชีวิตสุดแสนชาญฉลาดจากนอกโลกมาเยือนแล้วหลายต่อหลายครั้ง เพราะชนเผ่ามนุษย์ถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์อย่างเช่นชาวอะบอริจิน (Aborigin) ในทวีปออสเตรเลียและชนเผ่าอีกหลายทวีปทั่วโลก ได้บันทึกภาพวาดของสิ่งมีชีวิตศีรษะกลมเกลี้ยงมีดวงตาคู่ใหญ่เอาไว้บนผนังถ้ำเหมือนๆกันโดยมิได้นัดหมาย ว่าแต่นอกจากหลักฐานเหล่านี้แล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกไหมที่แสดงให้เห็นถึงความน่าจะเป็นในการติดต่อกันระหว่างมนุษย์เดินดินธรรมดากับสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก

ทีมงานนิตยสารต่วย’ตูน ขอนำแฟนานุแฟนไปชมภาพวาดศิลปะพรีโมเดิร์น (Pre-Modern) ในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1300 ถึง ค.ศ. 1800 ซึ่งพอจะมีเงื่อนงำบางอย่างให้ติดตาม เพราะเมื่อลองพินิจพิจารณาดูคร่าวๆ แล้ว ก็เหมือนว่าจะมีภาพของจานบินหรือยูเอฟโอ (UFO) ปรากฏอยู่หลายภาพเหมือนกัน

มาดูกันที่ภาพแรก ภาพนี้มีชื่อเรียกยาวเหยียดว่า “มาดอนน่าและทายาทกับทารกจอห์น แบ็พทิสต์” (Madonna and Child with the infant John the Baptist) เป็นภาพวาดสีน้ำมันสมัยช่วงประมาณปี ค.ศ. 1400 ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในประเทศอิตาลี ถ้ามองดูที่มุมขวาบนของภาพก็จะเห็นว่ามีวัตถุลึกลับคล้ายจานลอยตัวอยู่!! ดูแล้วไม่น่าจะใช่ก้อนเมฆธรรมดาๆ อีกทั้งด้านล่างของจานปริศนาก็มีภาพของคนและสุนัขกำลังเพ่งมองขึ้นไปยังวัตถุชิ้นนั้น นั่นหมายความว่ามันถูกวาดขึ้นอย่างจงใจ หรือจะเป็นสิ่งที่ช่างศิลป์มองเห็นบนฟากฟ้าในขณะที่เขากำลังรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้!?

มาดูกันที่ภาพแรก ภาพนี้มีชื่อเรียกยาวเหยียดว่า “มาดอนน่าและทายาทกับทารกจอห์น แบ็พทิสต์” (Madonna and Child with the infant John the Baptist) เป็นภาพวาดสีน้ำมันสมัยช่วงประมาณปี ค.ศ. 1400 ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในประเทศอิตาลี ถ้ามองดูที่มุมขวาบนของภาพก็จะเห็นว่ามีวัตถุลึกลับคล้ายจานลอยตัวอยู่!! ดูแล้วไม่น่าจะใช่ก้อนเมฆธรรมดาๆ อีกทั้งด้านล่างของจานปริศนาก็มีภาพของคนและสุนัขกำลังเพ่งมองขึ้นไปยังวัตถุชิ้นนั้น นั่นหมายความว่ามันถูกวาดขึ้นอย่างจงใจ หรือจะเป็นสิ่งที่ช่างศิลป์มองเห็นบนฟากฟ้าในขณะที่เขากำลังรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้!?

แท้ที่จริงแล้ว ภาพนี้เกี่ยวข้องกับการประสูติของพระเยซูโดยมีพระนางมารีย์ (Mary) ปรากฏเด่นอยู่ตรงกลางภาพ ส่วนทารกที่ยืนอยู่ก็คือจอห์น แบ็พทิสต์ และถ้าอ้างอิงจากพระคัมภีร์ฉบับพันธสัญญาใหม่ (New Testament) ได้กล่าวถึงคนเลี้ยงแกะแห่งเบธเลเฮม (Bethlehem) ที่กำลังเฝ้าดูฝูงแกะของพวกเขาในช่วงเวลาแห่งการประสูติของพระเยซู โดยมีทูตสวรรค์และชาวสวรรค์ (Heavenly host) หมู่หนึ่งร่วมกันสรรเสริญพระเจ้า ดังนั้น บุคคลปริศนาและสุนัขของเขาก็คือกลุ่มของคนเลี้ยงแกะที่กำลังเพ่งมองขึ้นไปยังสิ่งที่ช่างศิลป์ต้องการสื่อถึง “ชาวสวรรค์” เท่านั้นเอง

ภาพต่อมาชื่อว่า “พระเยซูรับศีลจุ่ม” (Baptism of Christ) วาดโดยช่างศิลป์ชาวเนเธอร์แลนด์ ประมาณปี ค.ศ. 1710 ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในประเทศอังกฤษ จะเห็นจานวงกลมบริเวณด้านบนกำลังยิงลำแสงสี่เส้นลงมายังพื้นด้านล่าง ส่องให้เห็นบุคคลสำคัญสองท่าน ซึ่งก็คือพระเยซูและจอห์น แบ็พทิสต์

เราอาจจะตีความภาพนี้ออกเป็นสองทางด้วยกัน ทางแรก เจ้าจานปริศนาที่ปรากฏอยู่นั้นคือยูเอฟโอ หรืออีกทางหนึ่งก็คือเป็นเพียงแค่การแสดงออกทางศิลปะที่เกี่ยวข้องกับศาสนาเท่านั้น



http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/03/361199/o5/420.jpg
เงื่อนงำปริศนา ของภาพวาดสีน้ำมันโบราณ

ภาพมาดอนน่า และ ทายาทกับทารก จอห์น แบ็พทิสต์

เมื่อมองเข้าไปชัดๆที่เกือบกึ่งกลางของวงกลมปริศนาก็จะพบว่ามันมีจุดแต้มสีขาวๆปรากฏอยู่ นั่นคือภาพของ “นกพิราบ” (Dove) สีขาว เรื่องราวที่ปรากฏจึงพาพวกเราย้อน กลับไปหาพระคัมภีร์ฉบับพันธสัญญาใหม่กันอีกครั้งในบทจอห์น 1:32 (John 1:32) ที่กล่าวว่า “ข้าพเจ้าเห็นพระวิญญาณเหมือนดังนกพิราบเสด็จลงมาจากสวรรค์”

ดังนั้น วงกลมในภาพนี้จึงเป็นการแสดง ออกถึงการปรากฏหรือการดำรงอยู่ของพระเจ้า โดยใช้แสงสี่เส้นในภาพเป็นตัวเน้นความโดดเด่นของบุคคล โดยจงใจใส่นกพิราบเข้าไปในภาพเพื่อสื่อถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์ด้วย

ภาพที่สาม ดูแล้วทำให้หวนคิดถึงหนังเรื่อง ID4 สงครามวันดับโลก (Independence Day) ที่เข้าฉายเมื่อปี ค.ศ. 1996 เพราะในภาพปรากฏ ให้เห็นวัตถุทรงแบนขนาดใหญ่คล้ายจานบิน ลอยละล่องเหนือกรุงโรม พร้อมด้วยวัตถุทรงคล้ายจานบินเช่นนี้อีกร่วม 30 ลำด้านหลัง หรือมันจะเป็นวันดับโลกของกรุงโรมเมื่อ ค.ศ. 1428 ปีที่ภาพนี้ถูกวาดขึ้นกันแน่!?



http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/03/361199/o9/420.jpg
เงื่อนงำปริศนา ของภาพวาดสีน้ำมันโบราณ

ภาพอัศจรรย์แห่งหิมะ

ภาพนี้ได้ชื่อว่า “อัศจรรย์แห่งหิมะ” (Miracle of the Snow) อยู่ในประเทศอิตาลี สื่อถึงตำนานที่คนกลุ่มหนึ่งได้มีนิมิตเห็นพระแม่มารีย์ มีพระประสงค์ให้สร้างโบสถ์ในกรุงโรม โดยจะทำการระบุตำแหน่งของโบสถ์แห่งนั้นด้วยหิมะที่ตกลงมาจากฟากฟ้า

และแล้วเรื่องอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นกลางฤดูร้อนตอนเช้าของวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 358 หิมะได้ตกลงมาบนเนินเขาเอสควิลีน (Esquiline hill) ทิ้งร่องรอยเป็นแบบร่างของโบสถ์เอาไว้อย่างงดงาม

เมื่อดูภาพโดยรวมก็จะเห็นว่าหิมะกำลังตกอยู่ โดยที่ส่วนหนึ่งได้ปกคลุมที่พื้นเรียบร้อยแล้ว เหนือขึ้นไปด้านบนคือพระเยซูและพระแม่ มารีย์ประทับอยู่บนก้อนเมฆปริศนา ถัดลงมาด้านล่าง ปรากฏภาพพระสันตะปาปา (Pope) และชนชั้นสูงอีกจำนวนหนึ่งกำลังตรวจสอบร่องรอยของหิมะบนพื้น ดูเหมือนว่าหิมะจะมาจากก้อนเมฆปริศนาที่พระเยซูและพระแม่มารีย์ประทับอยู่ ซึ่งก้อนเมฆขนาดเล็กอีก 30 ก้อนคาดกันว่าน่าจะมีขนาดเท่ากับเจ้าก้อนใหญ่สุดทางด้านหน้านี่ล่ะครับ เพียงแต่ว่ามันอาจจะอยู่ไกลออกไปเท่านั้นเอง



http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/03/361199/o8/420.jpg
เงื่อนงำปริศนา ของภาพวาดสีน้ำมันโบราณ

ภาพพระเยซูรับศีลจุ่ม

อีกหนึ่งความเป็นไปได้ก็คือภาพของก้อนเมฆนั้น อาจจะแสดงให้เห็นถึงเส้นแบ่งระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์ ดังนั้นภาพที่สามนี้ก็น่าจะเป็นเพียงแค่ตำนานเรื่องราวความมหัศจรรย์ของหิมะที่ตกในฤดูร้อนมากกว่าที่จะสื่อถึงจานบิน

ภาพที่สี่ เขยิบเวลามาจากภาพหิมะมาอีก 58 ปี คราวนี้เราได้เห็นภาพของจานบินปริศนาที่ยิงแสงเลเซอร์ลงมาใส่สตรีท่านหนึ่ง ภาพสีน้ำมันนี้มีชื่อว่า “ประกาศแห่งนักบุญอีมิดีอุส” (The Annunciation, with Saint Emidius) ถูกวาดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1486 ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในประเทศอังกฤษ

เรื่องราวในภาพนี้เกี่ยวข้องกับพระคัมภีร์ฉบับพันธสัญญาใหม่ เมื่อทูตสวรรค์ได้มาแจ้งแด่พระนางมารีย์ถึงการตั้งครรภ์และการถือกำเนิดของพระเยซู



http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/03/361199/o10/420.jpg
เงื่อนงำปริศนา ของภาพวาดสีน้ำมันโบราณ

ภาพประกาศแห่งนักบุญอีดิมีอุส

เราจะเห็นวัตถุวงกลมปริศนาปรากฏอยู่บนฟากฟ้าทางมุมซ้ายบนของภาพ มันยิงแสงออกมายังสตรีในบ้านทางมุมขวาล่างของภาพ ซึ่งก็คือพระแม่มารีย์นั่นเอง และเมื่อมองตามแสงเลเซอร์ขึ้นไปแล้วก็จะพบว่าเหนือศีรษะของนางไปเพียงเล็กน้อย  มีนกพิราบตัวหนึ่งขวางลำแสงอยู่ เป็นไปได้ว่าช่างศิลป์ต้องการให้ลำแสงคล้ายเลเซอร์และนกพิราบมีความหมายประกอบกันถึงฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (Holy Spirit) ที่ส่งผลให้นางตั้งครรภ์

แล้วเจ้าวัตถุคล้ายจานบินนั้นคืออะไรล่ะ ถ้าได้ลองขยายออกมาดูให้ชัดๆกันแล้วล่ะก็ จะพบว่าเป็นวงแหวนที่เกิดจากเหล่าทูตสวรรค์สองวงซ้อนกัน และมองเห็นรายละเอียดหน้าตาของทูตสวรรค์ในวงกลมปริศนานั้นได้คร่าวๆ อีกด้วย

ภาพพิศวงภาพสุดท้าย ภาพนี้ปรากฏเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1350 เป็นภาพพระเยซูถูกตรึงกางเขน (Crucifixion) เมื่อสังเกตที่มุมซ้ายบนและมุมขวาบนของภาพแล้วก็ต้องฉงนกับยานบินลึกลับที่เสมือนว่าขอมีส่วนเอี่ยวในเหตุการณ์นี้ด้วยยังไงยังงั้น


http://static.cdn.thairath.co.th/media/content/2013/08/03/361199/o6/420.jpg
เงื่อนงำปริศนา ของภาพวาดสีน้ำมันโบราณ

ภาพยานบินปริศนาที่จริงแล้วคือวงแหวนทูตสวรรค์

ภาพนี้เป็นส่วนหนึ่งของภาพปูนเปียก (Fresco) บนผนังวิหารแห่งหนึ่งทางตะวันตกของโคโซโว (Kosovo) เมื่อลองพิจารณาที่ยานบินลำขวามือในภาพ (ซ้ายมือของพระเยซู) ก็จะพบว่ามันเป็นยานบินสีเงิน ภายในปรากฏร่างของมนุษย์ที่น่าจะเป็นสตรี เนื่องจากมีผมเผ้ายาวสวยกำลังหันหน้ามาด้านหลัง มองข้ามไหล่ตัวเองมายังภาพของพระเยซู ส่วนภาพยานบินลำซ้ายมือมีสีแดง ปรากฏภาพของมนุษย์ผมสั้น ซึ่งคาดว่าเป็นบุรุษในชุดผ้าคลุมยาว กำลังขับยานปริศนามุ่งเข้ามาหาพระเยซู

นั่นหมายความว่ามีใครบางคนจากนอกโลกเข้ามาร่วมสังเกตเหตุการณ์ตรึงกางเขนพระเยซูด้วยเช่นนั้นหรือ แต่ทว่าในมุมมองของนักประวัติศาสตร์แล้ว พวกเขาเสนอว่าโดยปกติแล้ว ในศิลปะไบเซนไทน์ (Byzantine) ที่ปรากฏในโบสถ์ยุคกลางนั้น  มักจะมีแบบแผนการแสดงภาพที่ค่อนข้างเป็นมาตรฐานอยู่ ซึ่งยานอวกาศสีแดงหมายถึงดวงอาทิตย์ ส่วนยานอวกาศสีเงินนั้นก็หมายถึงดวงจันทร์ เนื่องด้วยถ้าต้องมีการแบ่งเพศแล้ว พวกเขามักจะให้ดวงจันทร์เป็นเพศหญิงและพระอาทิตย์เป็นเพศชาย อีกทั้งพวกเขามักจะแสดงภาพของดวงอาทิตย์เอาไว้ทางด้านขวามือของพระเยซูและดวงจันทร์อยู่ทางด้านซ้ายมือของพระเยซู

ถึงอย่างนั้นก็ต้องบอกว่า การตีความที่เสนอไปส่วนใหญ่อ้างอิง “ตรรกะ” ที่ฟังดูแล้วสมเหตุสมผลเท่านั้น ยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้อย่างชัดเจน ว่าวงกลมปริศนาที่ปรากฏในภาพศิลปะยุคพรีโมเดิร์นทุกชิ้น  จะไม่ได้มีความหมายอื่นใดนอกเหนือไปจากสิ่งที่เราสามารถอธิบายได้ด้วยตรรกะจริงหรือไม่ เพราะไม่แน่นะครับ ภาพเหล่านี้แท้ที่จริงแล้วอาจจะเป็นหลักฐานชั้นดีที่แสดงให้เห็นว่าโลกของเราเคยมียานบินจากต่างดาวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยียนหลายต่อหลายครั้งแล้วก็เป็นได้.



โดย  ทีมงานนิตยสาร ต่วย'ตูน...ณัฐพล เดชขจร
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.482 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 24 กุมภาพันธ์ 2567 17:22:05