[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 16:20:16



หัวข้อ: สะเดา : หวานเป็นลม ขมเป็นยา
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 16:20:16
.

(http://4.bp.blogspot.com/-m8amaZEcGd0/VS5bXskr8dI/AAAAAAAAABM/0LLYM6KP4dw/s1600/Herb_1.jpg)

สะเดา

สะเดาเป็นไม้ป่ายืนต้นขนาดกลาง ที่ขึ้นได้ดีในประเทศไทย สูงตั้งแต่ ๔-๑๐ เมตร เปลือกสีน้ำตาลเป็นร่องตกสะเก็ดขรุขระ กิ่งก้านแตกแขนงมาก ทรงต้นเป็นพุ่มกลม  ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยออกสับหว่างกัน รูปใบหอกเล็กๆ ขอบใบจัก ใบแก่สีเขียวเข้ม ใบอ่อนสีเขียวอ่อนอมแดง  ออกดอกเป็นช่อสีขาวนวล มีผลเป็นพวง เนื้อผลใส

โดยทั่วไป สะเดาจัดเป็นอาหารประเภทผักที่มีรสขม นิยมกินเป็นยาและเป็นอาหารประจำฤดูกาล

ยอดสะเดาออกเป็นกลุ่มที่ปลายกิ่ง ใบอ่อนนุ่มสีใส ถ้าใบอ่อนสีเขียวอ่อน จะมีรสขมมัน ถ้าสีแดงจะมีรสขมจัด แต่ก็กินได้

ดอกสะเดาออกเป็นช่อกระจาย แต่ละช่อมีตะแง้เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยดอก ดอกตูมรูปกลมรีสีนวล เมื่อบานจะเป็นสีขาว มีกลีบ ๕ กลีบ กลีบบางยาวปลายกลีบมน มีท่อเกสรติดเกสรรสีเหลืองละเอียดเป็นประกายอยู่กลางดอก ซึ่งมีขนาด ๑ เซนติเมตร เป็นดอกไม้เล็กๆ ที่สวยยามพิศ

เวลาบานทั้งต้นจะเห็นสีขาวโพลนสว่างไสว เพราะใบร่วงหมด เมื่อดอกโรยจะติดผลเป็นพวง ยังอ่อนสีเขียว แก่แล้วสีเหลือง เนื้อผลใส ฉ่ำ คล้ายองุ่น

๑ ผล มี ๑ เมล็ด สำหรับขยายพันธุ์

ดอกสะเดาและใบอ่อน นิยมนำมากินเป็นอาหารประเภทผัก โดยเฉพาะช่อดอกที่ยังไม่บาน ถ้าดอกบานไม่นิยม เพราะจะมีรสเปรี้ยว ยอดสะเดากินดิบสดๆ หรือลวกให้สุกก็ได้ ทั้งใบอ่อนและช่อดอกตูม เป็นยอดไม้และดอกไม้ที่สวยงาม น่ากิน และกินได้อร่อยแม้จะขมไปนิด

วิธีกิน นำยอดอ่อนและช่อสะเดาไปลวกน้ำร้อน หรือห่อใบตองย่างไฟ กินกับน้ำปลาหวาน กุ้งเผา หรือปลาดุกย่าง ถือว่าเป็นอาหารรสเลิศ และที่ชาวบ้านแนะนำให้กิน คือยอดสะเดาดิบ กินกับปลาร้าสับ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ ลองกินดู อร่อยจริงๆ

คนไทยนิยมกินสะเดาน้ำปลาหวาน ถือเป็นอาหารประจำฤดูกาล เพราะสะเดาจะออกดอกหน้าหนาว กินให้ร่างกายอบอุ่นและสร้างภูมิคุ้มกัน

วิธีเก็บสะเดา ให้เอามือหักยอด หรือใช้ไม้สอย ไม่ควรขึ้นต้นเก็บ เพราะสะเดากิ่งกรอบ เคยมีคนตกต้นสะเดาแขกหักมาแล้ว

ประโยชน์ของสะเดา จัดเป็นอาหารประเภทผัก และเป็นยาแก้ไข้ บำรุงธาตุ บำรุงสายตา ลดความเครียด แก้เลือดกำเดาออก แก้โรคผิวหนัง และบางส่วนของสะเดาสามารถรักษาโรคไข้จับสั่น

นอกจากนี้ ยังใช้ใบ ผล เปลือก มาหมัก ทำน้ำยาปราบแมลงศัตรูพืช ได้ผลดี

สะเดามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Azadirachta indica Juss. Var. Siamensis Val. ชื่อสามัญ Siames.Neem Tree. ชื่อท้องถิ่นเรียกต่างกัน เช่น ภาคเหนือเรียก สะเลียม ภาคใต้เรียก กะเดา อีสานเรียก ผักกะเดา อยู่ในวงศ์ MELIACEAE

สะเดาน้ำปลาหวานอร่อยจริงๆ เจริญอาหารด้วย เป็นอาหารยอดนิยมของพื้นบ้านไทย และปัจจุบันได้เลื่อนฐานะเป็นอาหารมีระดับ

เคยไปกินอาหารที่ภัตตาคารริมแม่น้ำป่าสัก สระบุรี มีเมนูสะเดาฟาดไฟ อร่อยแปลก ชวนลิ้มลอง

วิธีทำน้ำปลาหวานสะเดา ทำได้ไม่ยาก โดยคั้นน้ำมะขามเปียก ผสมน้ำปลา น้ำตาลปีบ ตั้งไฟให้เข้ากันดี ชิมดูมีรสหวานเค็ม เปรี้ยว กลมกล่อม แล้วนำหอมซอยทอดกรอบ กุ้งแห้งตัวเล็กทอดกรอบ พริกแห้งทอดกรอบ หรือจะใส่ถั่วลิสงคั่วบดหยาบก็ได้

เวลากิน ค่อยผสมเครื่องทอดกรอบลงในน้ำปลาหวานที่ทำไว้ กินกับสะเดาลวก ให้มีความหอม กรอบ หวาน มัน และขมนิดอยู่ในปาก แนมด้วยกุ้งเผา หรือปลาดุกย่าง พร้อมข้าวสวยร้อนๆ เท่านี้ก็เป็นอาหารที่อร่อยอย่างวิเศษแล้ว

อย่ากลัวสะเดาขม เพราะสะเดากินแล้วหายไข้ ลองทำกินดูเถิด
...มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ ๑๒-๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRfRDtyvfxFM9uX6GLkZtAQ6-5HuZ4StU78abVQ_DTTIvu-QLNJ1A)