อินเดียระงับส่งออกข้าว เสี่ยงกระทบความมั่นคงด้านอาหารในเอเชียอาคเนย์
<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-09-30 13:31</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>รายงานพิเศษจากสื่อเบนาร์นิวส์ เผยวิกฤตเอลนีโญทำอินเดียระงับส่งออกข้าว เสี่ยงกระทบความมั่นคงด้านอาหารในเอเชียอาคเนย์</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/7834/32208867677_4837520ec9_k_d.jpg" /></p>
<p>
เบนาร์นิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2566 ว่า“ข้าว” นับเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตที่สำคัญในภูมิภาคนี้ คำว่า “กิน” ในภาษาของกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ มักมีความหมายว่า “กินข้าว” </p>
<p>ข้าวเป็นธัญพืชที่ให้พลังงานและสารอาหารที่สำคัญสำหรับผู้คนที่นี่ โดยข้าวเป็นอาหารหลักถึง 50-70 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณแคลอรีที่บริโภค นอกจากนี้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ของผลผลิตข้าวทั่วโลก</p>
<p>แต่ข้าวกำลังกลายเป็นอาหารที่ผู้คนหลายสิบล้านในเอเชียอาคเนย์เข้าไม่ถึง เพราะราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ปลายปี 2565 จากการที่อินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกมีมาตรการห้ามส่งออกข้าว และปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศ “เอลนีโญ” ที่ทำให้ผลผลิตข้าวลดลง</p>
<p>โจเซฟ เกลาเบอร์ นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันวิจัยนโยบายอาหารระหว่างประเทศในกรุงวอชิงตัน ระบุว่า หากราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจกลายเป็นวิกฤตการณ์ที่แท้จริงได้</p>
<p>“สำหรับประเทศที่ข้าวเป็นอาหารหลักและให้พลังงานแก่ประชากรจำนวนมาก เช่น ประเทศในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากราคาข้าวเพิ่มขึ้นสองหรือสามเท่า จะเป็นวิกฤตการณ์ความมั่นคงด้านอาหารที่แท้จริง” เกลาเบอร์ กล่าวกับเบนาร์นิวส์</p>
<p>การที่อินเดียห้ามส่งออกข้าวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมก่อนหน้า ทำให้ในช่วงหนึ่งของเดือนสิงหาคม ราคาข้าวขาวหัก 5 เปอร์เซ็นต์ของไทย ซึ่งเป็นข้าวเกณฑ์มาตรฐานของเอเชีย พุ่งสูงขึ้นไปถึงระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ที่มากกว่า 650 ดอลลาร์ (ราว 23,500 บาท) ต่อตัน หรือสูงขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ จาก 400 ดอลลาร์ (ราว 14,500 บาท) ในปลายเดือน พ.ย.</p>
<p>แม้ว่าราคาข้าวจะลดลงเล็กน้อยนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม แต่นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันกล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า ในระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ราคาข้าวจะพุ่งขึ้นไปถึงอย่างน้อย 700-750 ดอลลาร์ต่อตัน (ราว 25,500 ถึง 27,400 บาท) และหากมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติม ราคาข้าวอาจสูงถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (ราว 36,500 บาท) </p>
<p>ในขณะเดียวกัน ผู้คนต่างเห็นว่าผลกระทบเต็มรูปแบบของเอลนีโญ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศที่มีสภาพอากาศรุนแรง จะไม่ปรากฏจนกว่าจะถึงปลายปีนี้ หรือต้นปี 2567</p>
<p>"แม้ว่าผลผลิตจะลดลงเพียง 5-10 เปอร์เซ็นต์ ก็จะทำให้ราคาเพิ่มขึ้น เพราะเรากำลังพูดถึงปริมาณที่มหาศาล" เกลาเบอร์ กล่าวเพิ่มเติม</p>
<p>แมรี่ แองจี้ ทาลิก ชาวฟิลิปปินส์วัย 29 ปี เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวในกรุงมะนิลา ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านและอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดกับญาติ 10 คน ต้องลดการรับประทานอาหารของครอบครัวให้เหลือวันละมื้อเท่านั้น</p>
<p>"ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นมากจนเราแทบจะซื้อไม่ไหวแล้ว เมื่อก่อนเราเคยกินข้าวสามมื้อต่อวัน แต่ตอนนี้เรากินเพียงวันละครั้งเท่านั้น บางครั้งก่อนเที่ยงหรือหลังเที่ยงเล็กน้อย” เธอกล่าวกับเบนาร์นิวส์</p>
<h2><span style="color:#3498db;">มาตรการระงับส่งออกข้าวของอินเดีย คือต้นตอปัญหา</span></h2>
<p>ราคาข้าวในฟิลิปปินส์พุ่งสูงขึ้น 8.7 เปอร์เซ็นต์ ในเดือน ส.ค. จาก 4.2 เปอร์เซ็นต์ ในเดือน ก.ค. และเพื่อรับมือกับการพุ่งสูงขึ้นของราคาข้าว ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์คอส จูเนียร์ ได้ประกาศตรึงราคาข้าวปกติและข้าวขัดสีที่ 41 เปโซ และ 45 เปโซ (26 และ 29 บาท) ต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.</p>
<p>แม้จะดูเหมือนว่าฟิลิปปินส์จะไม่ได้รับผลกระทบจากการห้ามส่งออกข้าวของอินเดีย เนื่องจากนำเข้าข้าวส่วนใหญ่จากเวียดนาม ซึ่งในปี 2565-2566 เวียดนามเป็นแหล่งที่มาของการนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ถึง 90 เปอร์เซ็นต์</p>
<p>แต่จากมาตรการของอินเดีย ผู้ส่งออกข้าวทั่วโลกได้หันไปซื้อข้าวจากประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดสองประเทศถัดไป นั่นคือไทยและเวียดนาม ทำให้ราคาส่งออกข้าวของสองประเทศนี้พุ่งสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ตามที่กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ระบุในรายงาน “ธัญพืช : ตลาดโลกและการค้า” ฉบับเดือนกันยายน</p>
<p>ราคาข้าวที่ส่งออกจากไทยและเวียดนามพุ่งสูงขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่การห้ามส่งออกข้าวของอินเดีย ตามรายงานของรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 31 ส.ค.</p>
<p>และเมื่อเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังจะเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลผลิตข้าวในภูมิภาคอาจลดลงต่อไป ซึ่งอาจทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นยิ่งไปอีก</p>
<p>ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งกว่าปกติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ได้เกิดขึ้นพร้อมกันหรือก่อนช่วงเวลาที่ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นโดยตรง ตามความคิดเห็นของ BMI บริษัทในเครือ Fitch Solutions ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่วิเคราะห์เศรษฐกิจครอบคลุม 29 อุตสาหกรรมทั่วโลก</p>
<p>อุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ได้ส่งผลกระทบต่อพืชผลภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ราคาข้าวได้พุ่งสูงขึ้นแม้ในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ โดยราคาข้าวในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 14.5 ถึง 16 บาทต่อกิโลกรัม จาก 13 ถึง 14.5 บาทในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน</p>
<p>ในประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ เช่น เวียดนามและไทย ผลผลิตข้าวที่ลดลงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าว</p>
<p>ไพรัช ปุริทัง ชาวนาในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าของนาข้าว 10 ไร่ กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่าเขาไม่แน่ใจว่าจะคุ้มทุนในปีนี้หรือไม่</p>
<p>“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เราไม่สามารถคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนและควบคุมต้นทุนได้ ปีนี้ผมต้องลงเมล็ดข้าวสองครั้งเพราะภัยแล้ง” ไพรัช ระบุ</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ผลกระทบเต็มรูปแบบของปรากฏการณ์เอลนีโญยังไม่เกิดขึ้น</p>
<p>เอลิซา ลูเธอร์ และ พอล เทง จากโครงการความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุในบทความของสถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค ในสิงคโปร์ ว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญอาจ “รุนแรงมาก” ในช่วงปลายปีนี้</p>
<p>"ด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นซึ่งมักเกิดขึ้นหลังจากช่วงเวลาที่แห้งแล้ง ภัยแล้งและคลื่นความร้อนอาจกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปรากฏการณ์เอลนีโญ" ส่วนหนึ่งใน
บทความระบุ</p>
<p>ในบทความระบุด้วยว่า เขตปลูกข้าวสำคัญทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากฤดูเพาะปลูกข้าวในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ</p>
<p>“ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าว โดยเฉพาะผลผลิตข้าวในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ จะลดลงอันเป็นผลมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ” ส่วนหนึ่งจากบทความ</p>
<p>ชาวนาปลูกข้าวในเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เช่นเดียวกับชาวนาอีกนับไม่ถ้วนในภาคเหนือและภาคกลางของเวียดนาม ปลูกข้าวขณะยังมืด ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ฮานอย วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 (เอเอฟพี)</p>
<p>ภัยแล้งที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญคาดว่าจะทำให้ผลผลิตข้าวในประเทศไทยลดลง 5.6 ถึง 6 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว ตามข้อมูลของกรมการข้าวและศูนย์วิจัยกสิกรไทย ซึ่งการลดลงดังกล่าวจะส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลงเหลือ 25.1 ล้านถึง 25.6 ล้านตัน</p>
<p>รายงานกสิกรไทยยังระบุอีกว่า ผลผลิตอาจลดลงมากขึ้นอีก ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปรากฏการณ์เอลนีโญ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">หกสัปดาห์ข้างหน้า ‘สำคัญอย่างยิ่ง’</span></h2>
<p>ปีเตอร์ ทิมเมอร์ ศาสตราจารย์กิตติคุณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ปรึกษาด้านนโยบายอาหารและการพัฒนาการเกษตร โดยมีสาขาเชี่ยวชาญในการปรับราคาข้าว เขาได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ตั้งแต่ยุค 1970 แล้ว (ราวปี 2513 เป็นต้นมา)</p>
<p>ทิมเมอร์กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า สถานการณ์ข้าวอาจจะชัดเจนขึ้นเล็กน้อยหลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่เขาระบุว่าสำคัญอย่างมาก</p>
<p>“ถึงตอนนั้น เราจะได้รู้ว่าอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์กำลังเผชิญกับวิกฤตราคาข้าวอย่างไร และเราจะได้ทราบเช่นกันว่าผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญจะยืดเยื้อหรือไม่ ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดแคลนข้าวที่ยาวนานและรุนแรงขึ้น" ทิมเมอร์ ระบุ</p>
<p>เกลาเบอร์ จากสถาบันวิจัยนโยบายอาหารระหว่างประเทศ ระบุเช่นกันว่า หกสัปดาห์ข้างหน้าจะช่วยบ่งชี้ถึงสิ่งที่ผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ เช่น ไทยและเวียดนาม กำลังวางแผนไว้ด้วยเช่นกัน</p>
<p>"ในช่วงหกสัปดาห์ข้างหน้า เราจะได้เห็นว่าสถานการณ์จะดีหรือไม่ เช่น เอลนีโญที่ไม่รุนแรง ฤดูมรสุมปกติ หรือฤดูมรสุมที่สิ้นสุดเร็วกว่ากำหนด สิ่งที่หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นคือการดำเนินการเพิ่มเติมที่คล้ายกับอินเดีย จากประเทศไทยและเวียดนาม เพราะแบบนั้นอาจทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นมาก” เกลาเบอร์ ระบุ</p>
<p>ประเทศอย่างอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซีย ซึ่งผลิตข้าว แต่ก็ต้องนำเข้าเพราะไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ได้รับผลกระทบจากทั้งการขาดแคลนผลผลิตอันเนื่องมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ และการห้ามส่งออกของอินเดีย</p>
<p>ในเดือน ก.ย. ราคาข้าวในอินโดนีเซียสูงขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2565</p>
<p>อันนาห์ วัย 38 ปี แม่บ้านในเมืองซูคาบูมี ชวาตะวันตก ได้ลดปริมาณโปรตีนสำหรับครอบครัวใหญ่ของเธอที่มี 6 คนลง เนื่องจากสามีของเธอซึ่งเป็นแรงงานชั่วคราวที่ติดตั้งหลังคาเหล็กน้ำหนักเบา ไม่ได้มีงานทำตลอดเวลา</p>
<p>“เราไม่สามารถทดแทนข้าวด้วยอาหารอื่น ๆ ได้ เพราะข้าวเป็นอาหารหลักของเรา และเราก็ไม่สามารถลดการบริโภคได้ด้วยเช่นกัน” อันนาห์ กล่าวกับเบนาร์นิวส์</p>
<p>ในมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งผลิตข้าวในประเทศได้ 70 เปอร์เซ็นต์ ของอุปทานข้าวในหนึ่งปี ผู้คนกำลังประสบปัญหาในการหาข้าวในท้องถิ่น</p>
<p>อิสมาอิล ซัลเลห์ ประธานองค์การพัฒนาการเกษตร (MADA) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลมาเลเซียที่ดูแลการเพาะปลูกทั่วประเทศ กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า การผลิตข้าวในท้องถิ่นไม่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์อากาศที่รุนแรง</p>
<p>ถึงกระนั้น ข้าวท้องถิ่นก็ไม่สามารถหาซื้อได้ตามชั้นวางของในซูเปอร์มาร์เก็ต</p>
<p>โมฮัมหมัด ซาบู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและความมั่นคงทางอาหารมาเลเซีย ยอมรับว่ามีข้าวท้องถิ่นขาดแคลน แต่โทษว่าเป็นเพราะการกักตุนสินค้าของผู้บริโภคที่เห็นว่าราคาข้าวนำเข้าเพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์</p>
<p>"การขาดแคลนของข้าวเจ้าท้องถิ่นในตลาดทั่วประเทศเกิดขึ้นเนื่องจากการความตื่นตระหนกจากการที่ผู้บริโภคหันมาซื้อข้าวเจ้าท้องถิ่นหลังจากที่ราคาข้าวนำเข้าพุ่งสูงขึ้น" ซาบู กล่าวกับเบนาร์นิวส์</p>
<p>ในทางกลับกัน ชาฮาร์ดี อับดุลเลาะห์ ชาวนาในรัฐปะลิสของมาเลเซีย กล่าวว่าสภาวะเอลนีโญส่งผลต่อการเก็บเกี่ยวของเขา</p>
<p>“ตอนนี้ก็เดือนกันยายนแล้ว แต่ผมยังเก็บเกี่ยวข้าวไม่ได้ ซึ่งปกติจะเก็บเกี่ยวในเดือนสิงหาคม เราล่าช้าไปสองเดือนเนื่องจากฤดูแล้งที่ยาวนาน ซึ่งกินเวลาจนถึงเดือนมิถุนายน” ชาฮาร์ดี กล่าวกับเบนาร์นิวส์</p>
<p>"ปกติแล้วผมสามารถผลิตข้าวได้สองตันในทุกฤดูเก็บเกี่ยว และมีรายได้ประมาณ 2,500 ริงกิต (ราว 19,500 บาท) อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ผมไม่แน่ใจมากนัก มันอาจจะน้อยกว่าที่เคยเป็นมา" ชาฮาร์ดี ระบุ</p>
<h2><span style="color:#3498db;">ข้าวคือ 'อาหารของคนจน'</span></h2>
<p>ก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2561 มีประชาชนมากกว่า 73 ล้านคน หรือ 11 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรเกือบ 654 ล้านคนในประเทศสมาชิกอาเซียน อาศัยอยู่ในความยากจนข้นแค้น ตามรายงานขององค์การอ็อกแฟม ซึ่งเป็นกลุ่มบรรเทาความยากจนระหว่างประเทศ</p>
<p>ตัวเลข 73 ล้านคนดังกล่าวไม่รวมถึงผู้คนที่อาจอยู่เหนือเส้นความยากจน แต่ยังเปราะบางทางเศรษฐกิจ เนื่องจากธนาคารโลกนิยามผู้ที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนว่า เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยรายได้น้อยกว่า 2.15 ดอลลาร์ต่อคนต่อวัน (ราว 75 บาท) และมีผู้คนที่เข้าร่วมกลุ่มนี้หลายล้านคนในระหว่างและหลังการระบาดใหญ่ เนื่องจากเศรษฐกิจพยายามฟื้นตัว</p>
<p>ด้วยตัวเลขดังกล่าว อัตราเงินเฟ้อของข้าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจนำไปสู่ปัญหาความมั่นคงทางอาหารที่รุนแรง เพราะไม่เพียงแต่เป็นอาหารหลักของภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่คนยากจนพึ่งพาเพื่อการยังชีพอีกด้วย ทิมเมอร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าว</p>
<p>ศาสตราจารย์ทิมเมอร์ จากฮาร์วาร์ด กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยตัวเลขดังกล่าวการเพิ่มขึ้นของราคาข้าวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถนำไปสู่ปัญหาความมั่นคงด้านอาหารที่ร้ายแรง เพราะไม่เพียงแต่ว่ามันเป็นอาหารหลักของภูมิภาคนี้เท่านั้น แต่มันยังเป็นที่พึ่งพาสำหรับคนยากจนในการดำรงชีวิตด้วย </p>
<p>“ข้าวเป็นอาหารหลักของคนจนในเอเชียและอาฟริกา การเพิ่มขึ้นของราคาข้าวจะส่งผลให้เกิดความหิวโหยอย่างแพร่หลาย แม้ว่าประชากร 10 เปอร์เซ็นต์ ของอาเซียนจะยากจน แต่เรากำลังพูดถึงปัญหาร้ายแรง ความอดอยากในระดับที่กว้างขวาง” ทิมเบอร์ ระบุทิ้งท้าย</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">รายงานพ
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/09/106146