|
หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - 'จักรภพ เพ็ญแข' กลับไทย หลังลี้ภัยทางการเมืองเกือบ 15 ปีเต็ม เริ่มหัวข้อโดย: สุขใจ ข่าวสด ที่ 29 มีนาคม 2567 14:21:48 'จักรภพ เพ็ญแข' กลับไทย หลังลี้ภัยทางการเมืองเกือบ 15 ปีเต็ม
<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2024-03-28 16:30</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: จักรภพ เพ็ญแข </p> <p>อัพเดท เมื่อ 29 มี.ค. 2567 เวลา 12.03 น.</p> </div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'จักรภพ เพ็ญแข' กลับไทยหลังลี้ภัยทางการเมืองเกือบ 15 ปี เปรยเสียดายเวลา ขอตั้งใจกลับมารับใช้ชาติ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เตรียมเสนอตัวเป็นผู้ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลับมาสู้คดีในไทย</p> <p> </p> <p>สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) จักรภพ เพ็ญแข (https://www.facebook.com/photo?fbid=938093491089755&set=a.473329060899536) อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียุคสมัคร สุนทรเวช และผู้ลี้ภัยทางการเมืองตั้งแต่ปี 2552 โพสต์ภาพบนสื่อโซเชียลมีเดีย 'เฟซบุ๊ก' เมื่อเวลาประมาณ 11.21 น. เปิดเผยว่า ตนจะกลับถึงไทยในวันที่ 28 มี.ค. 2567 เวลา 7.35 น. </p> <p style="text-align: center;"> <iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="497" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpermalink.php%3Fstory_fbid%3Dpfbid02FGNpY4Uk2rJsVDz9fmX22VCsGKtTHsnL3UoDGr7CCvjxCLH6JtRTssm9St3M5XFEl%26id%3D100046673393139&show_text=true&width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p> <p>28 มี.ค. 2567 เว็บไซต์ มติชน ออนไลน์ (https://www.matichon.co.th/politics/news_4496189)รายงานวันนี้ (28 มี.ค.) ระบุว่า จักรภพ จะเดินทางถึงสุวรรณภูมิ และจะออกทางประตู 9 ชั้น 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยไฟลต์บินลง 07.35 น. จากนั้น จะเดินทางไปกองปราบปรามฯ กรณีมีหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ที่ฟ้องโดยศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศาลอาญา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นคนพามาที่กองปราบฯ เพื่อทำบันทึกการจับกุม </p> <p>เมื่อเวลา 9.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานที่กองบังคับการปราบปราม โชคชัย อ่างแก้ว ทนายความประจำตัวของจักรภพ ได้เดินทางมา โดยให้สัมภาษณ์สื่อก่อนขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่ โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้น จะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และเหตุผลที่เขาตัดสินใจกลับมา ตั้งใจกลับมาทำงานรับใช้ประเทศเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังไม่ขอให้ความเห็น เนื่องจากวันนี้เขามาในฐานะทนายความ</p> <p>ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่ามีการพาตัวจักรภพ ขึ้นไปบนอาคารของกองบังคับการปราบปรามแล้ว โดยไม่ได้เข้าจากทางด้านหน้าอาคารที่ผู้สื่อข่าวหลายสำนักดักรออยู่</p> <div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/7116/6895471170_0baa4ff9a8_o.jpg" /></div> <p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">จักรภพ เพ็ญแข เมื่อปี 2555</span></p> <p>ต่อมา รายงานจากเว็บไซต์ มติชน ออนไลน์ (https://www.matichon.co.th/politics/news_4497259)และการถ่ายทอดสดออนไลน์โดย The reporters (https://www.facebook.com/100069361344864/videos/775171237875455) เมื่อเวลา 13.36 น. จักรภพ ได้เดินมาออกมาให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว หลังพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อบันทึกการจับกุม และให้การเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง เบื้องต้น จักรภพ กล่าวว่า เขากลับประเทศไทยครั้งนี้ เพื่อกลับมารับใช้ชาติ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตอนนี้ตนมีหมายจับดำเนินคดีอยู่ 2 ข้อหา คือครอบครองอาวุธปืนที่ศาลจังหวัดอยุธยา และศาลอาญา โดยจักรภพ เผยว่า เบื้องต้น ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวทั้ง 2 ข้อหา และพนักงานสอบสวนให้ประกัน 2 ข้อหา ข้อหาละ 200,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข</p> <p>ทั้งนี้ ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน จักรภพ ได้ก้มลงกราบพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 </p> <p>จักรภพ กล่าวว่าเขากลับมาจากต่างประเทศเพื่อมอบตัวสู้คดี 2 คดี คือข้อหาครอบครองอาวุธฯ ที่ศาลจังหวัดอยุธยา และศาลอาญา ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาวันนี้เขามีการประสานงานล่วงหน้ากับทนายความโชคชัย อ่างแก้ว จึงนำมาสู่การประสานกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด และวันนี้ตนต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ว่าทำให้เขาตอบคำถามได้อย่างมั่นใจ และทำให้เขามั่นใจในการสู้คดีได้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม</p> <h2><span style="color:#2980b9;">ขอกลับมารับใช้ชาติ แต่ยันไม่สร้างความวุ่นวาย</span></h2> <p>จักรภพ กล่าวว่า ผมออกไปจากประเทศไทยในปี 2552 และกลับมาประเทศไทยในปี 2567 ซึ่งรวมระยะเวลา 15 ปี รู้สึกว่าเสียดายเวลาที่จะได้รับใช้ประเทศชาติไปเยอะ เพราะฉะนั้น จากนี้ไปตั้งใจว่าอะไรที่ทำได้ก็จะทำ การเมืองก็เป็นวิธีทางหนึ่ง การทำงานทางด้านการต่างประเทศ เขาก็จะรับทำต่อไปเรื่อยๆ </p> <p>"รู้สึกว่าเสียดายเวลาที่จะได้รับใช้ประเทศชาติไปเยอะ เพราะฉะนั้น จากนี้ไปอะไรที่ทำได้ก็จะทำ การเมืองก็เป็นวิถีทางหนึ่ง การทำงานทางด้านการต่างประเทศ ผมก็จะรับทำต่อไปเรื่อยๆ" จักรภพ กล่าว และระบุหลังจากนี้ถ้าพ้นเรื่องคดีความแล้ว จะขอทำตัวให้มีประโยชน์ต่อชาติในเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิต</p> <p>อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ใช้คำว่า "กลับมารับใช้ประเทศชาติ" ซึ่งความหมายว่าบทบาทใดก็ตาม การเมืองก็เป็นหนึ่งในนั้นไม่ได้คิดที่จะทิ้ง แต่ที่แน่นอนก็คือว่าไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงหรือสร้างความวุ่นวายอะไรทั้งสิ้น เราจะสร้างบทบาทเล็กๆ ของเรา และเมื่อไรที่จะมีการสร้างหรือการเสริมบทบาทของเราขึ้นมา ก็แค่เข้ามาตอนนั้น</p> <p>อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า มีใครในติดต่อรัฐบาลที่ติดต่อมาเพื่อให้มาทำงาน ไม่มีครับ และคงไม่ติดต่อใคร เพราะว่าเราอยากจะให้เขาสบายใจว่าทิศทางกำลังดำเนินไปอย่างดี และถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ก็ไม่เกี่ยวกับเรา เพราะว่าถ้าเรากลับเข้ามาช่วยชาติ ต้องอย่าไปสร้างปัญหาเพิ่ม </p> <p>จักรภพ กล่าวว่า คำว่า "การเมือง" ตรงนี้ไม่ได้จำเป็นต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือมีตำแหน่งทางการเมือง แต่อาจจะเป็นเรื่องการทำแนวนโยบายการเมืองก็ได้ ซึ่งอันนั้นไม่ปฏิเสธ </p> <p>ส่วนบทบาทของสื่อจะได้กลับมาเห็นไหม จักรภพ มองว่า บทบาทสื่อถ้ายังต้องการคนหัวโบราณ เขาค่อยไปเสริมตรงนั้น ใจอยากให้คนไทยพร้อมต่อความเปลี่ยนไปในระดับระหว่างประเทศ โลกเปลี่ยนไปเยอะมาก ยกตัวอย่างเทคโนโลยี AI อย่างเดียว ถ้าไม่ปรับตัวคนอาจตกงานค่อนประเทศ ซึ่งอาจจะต้องหาอะไรมาทดแทน ซึ่งเขาอยากทำเรื่องบทบาทเหล่านี้ หรือการเปลี่ยนแปลงด้านสภาวะภูมิอากาศ (climate change) พวกเราก็ทราบว่าวิกฤตขนาดไหน ก็ต้องประเมินล่วงหน้า ซึ่งอยากทำเรื่องนี้</p> <p>จักรภพ กล่าวว่า เขาเคยไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม หลังการทำรัฐประหารปี 2549 โดยคณะ คมช. (คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) ตอนนั้นไม่มั่นใจจริงๆ เขาคงไม่คิดจะย้อนไปแก้ไข โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมาได้คิดอะไรขึ้นเยอะ และประเทศไทย เปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก โดยเฉพาะการเมืองในภาพใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาธิปไตยอนุญาตให้เจริญเติบโตขึ้น อย่างระมัดระวัง แต่ก็เจริญเติบโตขึ้น ซึ่งตรงนี้มันดีกว่าจะหัวไปชนกำแพงและบอกว่าเราจะเอาเดี๋ยวนี้</p> <p>จักรภพ กล่าวย้ำว่า ไม่ได้มีการพูดคุยว่ากลับมาแล้วจะกลับมาทำอะไรต่อ พูดแต่เพียงว่าเรากลับมาเพราะกระบวนการยุติธรรม เพราะว่ามีความถูกต้องมีความดีงาม เป็นที่พึ่งในการแก้ไขปัญหาได้ พอได้ตรงนั้นก็ไม่ยาก</p> <h2><span style="color:#2980b9;">ยันไม่มีดีลลับ แค่พูดคุยปกติ ย้ำกลับมาเพราะว่าเชื่อกระบวนการยุติธรรมและการเมืองภาพใหญ่ดีขึ้น</span></h2> <p>จักรภพ กล่าวว่า เรื่อง "ดีล" ฟังแล้วอาจจะดูไม่ค่อยดี แต่ว่าทุกอย่างที่มาถึงขนาดนี้มันไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการพูดคุย พี่จะบอกอย่างนี้นะ การคุยกันไม่ได้หมายความว่า กลับมาแล้วแลกกันอันนี้ มันเป็นการพูดว่ามันถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง แต่ที่สำคัญที่สุดที่อยากจะเน้นย้ำที่มันเป็นไปได้ เพราะว่าการเมืองในภาพใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในที่ดีขึ้น ซึ่งพูดไม่ได้มากกว่านี้ สิ่งที่พัฒนาขึ้น ดีขึ้นตรงนั้นทำให้การพูดจากันจากเดิมมันพูดไม่ได้ กลายเป็นพูดได้</p> <p>จักรภพ กล่าวเสริมว่า แม้กระทั่งผู้ที่มีส่วนในการยึดอำนาจก็ปรับวิธีคิดไปเยอะ และก็ย้อนกลับไปดูว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาใน 9-10 ปีมันเกิดอะไรขึ้น พูดง่ายๆ คือหลายอย่างที่เกิดขึ้น เพราะว่าทุกๆ ฝ่ายยอม คือฝ่ายนี้ที่ต้องการสร้างประชาธิปไตยก็มุ่งมั่นสร้าง และฝ่ายที่เคยทำลายประชาธิปไตยมันลดบทบาทในการทำลายลงไปเยอะ ตรงนี้ทำให้บรรยากาศดีขึ้น แต่อาจจะไม่ได้เปลี่ยนทันใจ ก็ต้องใจเย็นๆ </p> <h2><span style="color:#2980b9;">มีการพบทักษิณ?</span></h2> <p>ต่อคำถามสื่อ ถ้ามีการทาบทามจากรัฐบาลให้เข้ามาทำงาน จักรภพ กล่าวว่า ยินดีรับๆ บอกได้เลย แต่จะไม่ไปในลักษณะที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคเดียวกัน หรือพรรคใดก็ตาม จะเข้าไปเฉยๆ ไปดูแล้ว ถ้าทำกันได้ดีก็ขออยู่เบื้องหลัง</p> <p>จักรภพ กล่าวว่า โทรศัพท์คุยกับทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยรักไทย กันครั้งหนึ่ง เพื่อถามไถ่เป็นอย่างไรบ้าง แต่ว่าเขาก็ต้องต่างคนต่างทำการบ้านในเรื่องคดีการเมืองเหมือนกัน มีการคุยกัน แต่ไม่ได้มีการปรึกษา เขายืนยันว่ามีแผนจะเข้าไปสวัสดีทักษิณ แต่ยังไม่มีกำหนดการ </p> <h2><span style="color:#2980b9;">เตรียมใช้ตัวเองเป็นหนูลองยา สร้างความมั่นใจกระบวนการยุติธรรม</span></h2> <p>อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า ต่อจากนี้ เขาจะเตรียมเสนอตัวเป็นคนที่ช่วยเหลือสำหรับคนที่อยากจะกลับมา และสามารถกลับมาได้เรื่องคดีความ เช่น จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยดูตามคดี</p> <p>"ไม่ได้แค่เฉพาะคนเสื้อแดง แต่ทุกคนที่ต้องไปเพราะการเมือง เราจะช่วยทั้งหมด แต่เจ้าตัวต้องเต็มใจนะ เราไม่ได้ไปบังคับใครกลับ" จักรภพ กล่าว</p> <p>จักรภพ กล่าวต่อว่าเรื่องการช่วยเหลือจะช่วยอย่างไรนั้น ต้องให้ความมั่นใจโดยเขาอยากใช้ตัวเองเป็นหนูทดลองยา และเมื่อมั่นใจแล้ว นำมาสู่การทำการบ้านในเรื่องคดี และเราสู้ข้อกฎหมายแบบไหน กฎหมายอยู่ที่เดิม แต่มีกฎหมายใหม่ๆ มาเยอะ วันนี้กลับมาสนามบินสุวรรณภูมิ ก็เพิ่งทราบว่ามีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมานฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องติดบอดีแคเมราบันทึกบรรยากาศระหว่างการจับกุม ซึ่งอันนี้ต้องสื่อสารไปยังคนที่อยู่ต่างประเทศว่าตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองมันเปลี่ยนไปแล้ว</p> <p>จักรภพ กล่าวว่า จากนี้จะเข้ามารายงานตัวและสอบปากคำในวันที่ 22-23 เม.ย. 2567 และจากนี้จะไปไหว้อัฐิพ่อแม่ หลังจากที่ลี้ภัยไปนานกว่า 15 ปี </p> <p>ทั้งนี้ ข้อมูลจาก iLaw (https://freedom.ilaw.or.th/case/91#additional_information) ระบุว่า จักรภพ เคยถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ คดีมาตรา 112 จากการกล่าวปาฐกถา หัวข้อ "ระบบอุปถัมภ์ ในฐานะที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความเป็นประชาธิปไตย" เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2550 ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) แต่คดีนี้ อัยการสั่งยกฟ้องเมื่อช่วงเดือน ก.ย. 2554</p> <p>อีกคดีคือ คดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ 496/53 กล่าวหาข้อหามาตรา 112 เหตุจากเขียนบทความในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เมื่อเดือนมิถุนายน 2552-2 กรกฎาคม 2552 เนื้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ โดยทาง iLaw (https://freedom.ilaw.or.th/case/91#additional_information)ระบุว่าอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเท่านั้น</p> <h2><span style="color:#2980b9;">ชมเปาะ รัฐบาลขยันทำงาน</span></h2> <p><span style="color:null;">จักรภพ เสริมว่า นายกฯ ขยันมาก คือเราไม่ค่อยได้เห็นนายกฯ ที่เหมือนกับว่าขอลุยทำงาน เดี๋ยวค่อยมาพูดว่าจะวิจารณ์ยังไง จะชอบไม่ชอบ พูดง่ายๆ ว่า "บาลานซ์ สกอร์การ์ด" หรือขอทำข้างหน้าไปก่อน เดี๋ยวมาสรุปกันว่าดีไม่ดี </span></p> <h2><span style="color:#2980b9;">"เศรษฐา" ยัน จักรภพต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม</span></h2> <p>ในวันเดียวกัน เว็บไซต์ Thai PBS (https://www.thaipbs.or.th/news/content/338522) รายงานว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความยุติธรรมอยู่แล้ว ใครที่มีปัญหาในอดีต ถ้ากลับเข้ามาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามกรณีของนายจักรภพ ว่ามีรายละเอียดอย่างไร เมื่อนักข่าวถามมา ก็ต้องบอกว่าต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอใช้คำนี้เป็นหลัก</p> <p>ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จักรภพ ไม่ได้ประสานมาทางกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง ปกติถ้ามีบุคคลที่ฝ่ายความมั่นคงเป็นกังวลจะหารือมาที่กต. และไม่ใช่หน้าที่ของ กต.โดยตรง</p> <p>เมื่อถามว่า ผู้ที่ลี้ภัยในต่างประเทศหากต้องการกลับประเทศ สามารถประสานมาที่ กต.ได้หรือไม่ ปานปรีย์ กล่าวว่า คงจะแจ้งมาได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครประสานมาที่ กต. น่าจะเกี่ยวข้องกับฝ่ายความมั่นคง และทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมากกว่า ยืนยันยังไม่ได้รับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น และยังไม่ได้รับรายงานด้วย</p> <p>เมื่อถามว่า ปกติคนที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ทาง กต.จะต้องติดตามพฤติกรรมของเขาด้วยหรือไม่ ปานปรีย์ กล่าวว่า ถ้าไม่มีปัญหา หรือไม่มีประเด็นอะไร ก็ไม่ได้ติดตามอะไรอย่างใกล้ชิด เพียงแต่รับรู้ เพราะมีสถานทูตอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว ไม่ได้ไปติดตามความเคลื่อนไหวอะไร เพราะเขาก็อยู่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศนั้นๆ อยู่แล้ว</p> </div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่าว[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-category field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">การเมือง[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สิทธิมนุษยชน[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-tags field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B8%9E-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B9%87%E0%B8%8D%E0%B9%81%E0%B8%82" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">จักรภพ เพ็ญแข[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B8%98" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ครอบครองอาวุธ[/url]</div><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ผู้ลี้ภัยทางการเมือง[/url]</div><div class="field-item odd"><a href="/category/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">กองบังคับการปราบปราม[/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div> https://prachatai.com/journal/2024/03/108603 |