[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
15 พฤษภาคม 2567 04:09:24 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เผยวิธีตอน “ขันที” เตรียมตัวหลายวันก่อนผ่า ไร้ยาชา-ยาสลบ ตัดขาดในครั้งเดียว  (อ่าน 133 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2334


ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 115.0.0.0 Chrome 115.0.0.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 16 สิงหาคม 2566 14:08:45 »





เผยวิธีตอน “ขันที”
เตรียมตัวหลายวันก่อนผ่า ไร้ยาชา-ยาสลบ ตัดขาดในครั้งเดียว

ซูสีไทเฮา และราชสำนักฝ่ายใน รวมถึงขันที
ที่มา -   เจิ้งเหอ แม่ทัพขันที "ซำปอกง"
ผู้เขียน - ปริวัฒน์ จันทร
เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2566


ขันที หรือ ไท้เจี้ยน (Tai Jian) (คำว่าไท้เจี้ยน หมายถึง ผู้กำกับราชการใหญ่) จีนได้เริ่มมีขึ้นเป็นครั้งแรกในราชสำนักของราชวงศ์ฮั่น (ในระหว่างปี 206 ก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ.220 ในขณะที่บางตำนานก็ว่า มีมาตั้งแต่สมัยยุคหวงตี้ (Huang Di) กษัตริย์เหลือง-ปฐมกษัตริย์แห่งชาติจีนเมื่อสี่พันปีที่แล้ว) เพื่อไว้รับใช้งานในราชสำนักชั้นใน และเพื่อป้องกันมิให้ข่าวสารความลับต่าง ๆ ถูกแพร่งพรายออกไปยังสาธารณชนภายนอก

เชื่อกันว่าขันทีได้เริ่มมีขึ้นครั้งแรกในเปอร์เซีย โดยให้ตอนทาสชายที่กวาดต้อนมาไว้รับใช้ในราชสำนักและเรียกว่า ยูนุค (Eunuch) ต่อมาได้แพร่หลายเข้าไปในราชสำนักจีนและจักรวรรดิออตโตมาน ขันทีหรือยูนุคถูกยกให้เป็นอาชีพหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้พิทักษ์ฮาเร็ม (Harem) ขององค์สุลต่านหรือกษัตริย์ เมื่อมีนางในฮาเร็มอยู่มาก จึงจำเป็นต้องมีผู้ควบคุมดูแล

คนพวกนี้ต้องมีกำลังวังชาพอจะป้องกันคนภายนอกและบุรุษทั้งหลายมิให้รุกล้ำเข้ามายังฝ่ายใน ด้วยเหตุนี้ กษัตริย์จึงจำเป็นต้องใช้บุรุษเพศที่มีเรี่ยวแรงดีกว่าสตรีในวังเป็นผู้คอยควบคุมดูแล โดยจัดการตอนองคชาตเสียเพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้ไปประกอบกิจกรรมทางเพศกับนางสนมทั้งหลาย และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสายโลหิตของพวกเธอเหล่านั้นจะไม่ถูกแปดเปื้อนจากบุคคลอื่น

ยูนุคในจักรวรรดิออตโตมานนั้นมักจะมาจากทาสชายผิวดำชาวแอฟริกันที่ถูกกวาดต้อนมาจากอียิปต์และซูดาน เพื่อนำมาตอนแล้วส่งเข้ามารับใช้ในราชสำนัก เหตุผลที่ทาสผิวดำนี้ได้รับความนิยมก็เพราะเชื่อกันว่ามีความทรหดอดทนมากกว่าพวกผิวขาว

ดังนั้น ยูนุคของออตโตมานจึงมักเป็นชาวต่างชาติ ส่วนของจีนนั้นมักจะเป็นคนจีนด้วยกันเองที่ได้มาจากเชลยศึก หรือไม่ก็มีพวกที่สมัครใจมาเป็นขันทีเองเพื่อแสวงหาอำนาจและความมั่งคั่งในอนาคต โดยไม่พรั่นพรึงต่ออาการเจ็บปวดและความตายที่อาจมาเยือนได้จากการตอน




(ซ้าย) ภาพจิตรกรรมกลุ่มขันที จากสุสานเจ้าชาย Zhanghuai, 706. Qianling, Shaanxi
(ขวา) พระนางซูสีไทเฮา แห่งราชวงศ์ชิง พร้อมกับขันทีวังหลวง (ภาพจาก http://puyi.netor.com/gallery) Public Domain

มีบันทึกในประวัติศาสตร์ได้เขียนถึงกรรมวิธีเกี่ยวกับการตอนขันทีของจีน ที่ถือว่าเป็นวิทยาการทางการแพทย์ชั้นสูงของจีนในสมัยนั้น ไว้ดังนี้

“ผู้ถูกจับตอนหรือสมัครใจที่จะถูกตอน จะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการตรวจคัดเลือกว่าเป็นผู้มีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มีอายุที่เหมาะสมคือเป็นเด็กชายพรหมจรรย์ในวัยแปดถึงสิบปีที่ยังไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศทั้งกับตัวเองและผู้อื่น

ก่อนเข้าสู่พิธีการตอนนั้น ว่าที่ขันทีจะต้องงดอาหารทุกชนิดเพื่อให้ท้องว่างเป็นเวลาอย่างน้อยสามวัน โดยระหว่างนั้นจะต้องอยู่ในห้องผ่าตัดที่มิดชิดสะอาด ห้ามติดต่อกับบุคคลภายนอก ต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่เท่านั้น

เมื่อถึงเวลาผ่าตัด ว่าที่ขันทีจะต้องนอนบนเตียงพิเศษที่มีห่วงยึดแขนขาทั้งสี่ข้างให้ร่างกายตรึงแน่น เพราะระหว่างการผ่าตัดนั้นไม่มีการใช้ยาสลบหรือยาชา ต้องการให้ผู้เข้าพิธีมีความรู้สึกอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อพิสูจน์ว่ามีความตั้งใจเป็นขันทีอย่างแท้จริง

เมื่อพร้อมแล้ว ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดอย่างสายฟ้าแลบ ด้วยมีดผ่าตัดเป็นรูปวงโค้งเหมือนเคียวเกี่ยวข้าว จะผ่าตัดทีเดียวเท่านั้น ไม่มีการทำซ้ำ ทันทีที่เลือดพุ่งกระฉุดออกจากบาดแผล ผู้ช่วยแพทย์จะใช้ผ้าสะอาดอุดและคอยซับโลหิตที่ทะลักออกมา ผู้ช่วยอีกคนหนึ่งจะใช้สุราเกาเหลียงหรือแอลกอฮอล์อื่น ๆ ทำความสะอาดรอบ ๆ แผล พร้อมกับใช้แท่งโลหะเผาไฟร้อน ๆ นาบไปทั่วบริเวณเพื่อห้ามเลือดให้หยุดโดยเร็ว หลังจากนั้นจะเสียบแท่งวัสดุพิเศษที่ทำด้วยเทียนไขอย่างดี หรือก้านขนนกที่ผ่านการฆ่าเชื้อเข้าไปในรูรั่วนั้น เพื่อให้ขันที่สามารถใช้เป็นช่องปัสสาวะได้

ศัลยแพทย์เมื่อตัดอวัยวะแล้วจะรีบทำความสะอาดแล้วดองอวัยวะสำคัญนั้นไว้ในขวดแก้วที่มีน้ำยารักษาสภาพมิให้เน่าเปื่อย เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ผนึกชื่อเจ้าของและวันเดือนปีที่ทำการผ่าตัด ส่วนที่เก็บไว้นี้จะคืนให้เจ้าของเมื่อพ้นตำแหน่งขันที หรือนำไปฝังรวมกับร่างเจ้าของในตำแหน่งที่เคยอยู่ เพื่อว่าหากมีโอกาสเกิดใหม่ในภพหน้า จะได้มีอวัยวะชิ้นนี้ติดตัวอยู่ มิต้องเป็นขันทีเสียตั้งแต่เกิด

ในระหว่างพักฟื้นจะต้องงดน้ำและอาหารเป็นเวลาอีกอย่างน้อยสามวัน และเมื่อพ้นระยะพักฟื้นแล้วแพทย์จะตรวจอีกครั้งให้แน่ใจว่า เป็นขันทีบริสุทธิ์หรือไม่ ถ้าเห็นว่ายังเหลือตออยู่ก็จะจัดการอีกครั้งให้สิ้นเสีย

จากนั้นขันที่ใหม่จะต้องเข้าไปรายงานตัวกับกองงานขันที โดยจะมีขันทีรุ่นพี่คอยแนะนำและสอนให้รู้จักงานตามหน้าที่และงานพิเศษแล้วแต่โอกาสและความสามารถของแต่ละคน บางคนได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว บางคนก็เป็นเพียงขันทีรับใช้ไปตลอดชีวิต”

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 สิงหาคม 2566 14:12:56 โดย ใบบุญ » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.317 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 11 พฤษภาคม 2567 09:53:49