หัวข้อ: สะตอ ต้นไม้ประจำภาคใต้ เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 29 พฤษภาคม 2556 16:34:46 .
(http://www.thaipoem.com/common/images/m-content-fiction/10124-48193.jpg) สะตอ ภาพจาก : www.thaipoem.com สะตอ ต้นไม้ประจำภาคใต้ “ตอ” หรือ “สะตอ” เป็นพืชตระกูลถั่วที่ไม่เป็น “ย่าน” หรือเถาเหมือนถั่ว แต่เป็นลำต้นยืนต้นเช่นเดียวกับ “ตอแต” กระถิน หรือมะขาม ลูกเหนียง มีชื่อตามวิชาพฤกษศาสตร์หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า วงศ์ Mimosaceae สกุล Parkia ชื่อ ParkiaSpeciosaHassk การตั้งชื่อพืชและสัตว์จะตั้งตามชื่อผู้ค้นพบและวงศ์สกุลหรือ Species หรือตามลักษณะธรรมชาติของพืช เช่น ตระกูลปาล์ม มีพืชปาล์ม หมาก มะพร้าว เป็นต้น สะตอคือ “ตอแต” หรือ กระถินขนาดใหญ่ปักษ์ใต้เม็ดโต ส่วนต้นโตสูงใหญ่ รสชาติเหม็น ลูกเดียวให้รสชาติสอดรับรสเผ็ดและกลิ่นรุนแรง ฝักสีเขียวเวลาสุกจะเป็นสีดำ หลายๆ ฝักจะเรียกว่า “มูน” สะตอมี ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ สะตอป่าและสะตอบ้าน ซึ่งอธิบายได้ดังนี้ ๑. สะตอป่าจะงอกเองตามธรรมชาติ ส่วนของฝักจะเล็ก เม็ดเล็กรสชาติออกขม ขื่นนิดๆ ๒. สะตอบ้าน รสชาติจะเหม็นพอหรอยหรืออร่อย รสออกมันและเหม็นเขียวเล็กน้อย แต่ทั้งสะตอป่าและสะตอบ้านก็แบ่งเป็น ๒ ประเภทคือ ๒.๑ ฝักเล็กจะเรียกว่าตอข้าว ฝักจะเล็ก เม็ดจะเล็กออกมัน ฝักเรียวพลิ้ว ๒.๒ ฝักโตจะเรียกตอดาน หรือโตขนาด ๓ นิ้วเรียงกัน หรือโตเหมือนกระดานนั้นเอง รสชาติเหม็น เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ เวลาผัดหรือแกงจึงดูน่ากินกว่าตอข้าว ตามปกติสะตอจะงอกงามและออกฝักดก โดยปลูกตามชายป่าหรือแซมพืชสวนชนิดอื่น เช่น ริมรั้วชายสวนเงาะ ชายสวนยาง ชายสวนลองกอง ฯลฯ “สะตอ” เป็นอาหารพื้นบ้านพื้นเมืองของชาวปักษ์ใต้ โดยใช้ประกอบอาหารได้ดังนี้ ๑. กินดิบๆ แก้หิว ทั้งสะตอแก่สีเขียวและเปลือกสุกสีดำที่เปลือกนุ่มเม็ดด้านในสีแดงออกรสหวาน คนขึ้นสะตอบางคนถือโอกาสกินแก้หิว ๒. จิ้มน้ำพริกทานดิบๆ ๓. ต้มจิ้มน้ำพริก ๔. ใช้สะตออ่อนเป็นผักหนอก เช่น แกงเผ็ด แกงส้ม แกงพุงปลา แกงคั่วฯ ๕. ใช้ใส่แกงคั่วหรือแกงพุงปลา คือ นอกจากใช้เป็นผักหนอกอาหารแล้ว ยังใช้สะตอใส่แกงได้อีกด้วย ๖. ใช้ต้มกะทิร่วมกับหน่อไม้ ถั่วฝักยาว ชะอม ไก่หรือกุ้ง จะเป็นอาหารรสวิเศษอีกอย่างหนึ่ง หากใส่ผักครบ ๙ อย่าง จะเรียกว่า “ต้มนพรัตน์” ๗. ผัดสะตอกับหมู ๓ ชั้นใส่กะปิ – เคย และใส่ดีปลีดอกใหญ่อร่อยเด็ดไปอีกแบบ ๘. ผัดเม็ดสะตอกับกุ้งใส่เครื่องแกงและโหระพาแกล้มกับแม่โขงรสอร่อยเด็ดมาก และอาจจะมีวิธีกินอีกหลายวิธี แต่หากทำเป็นผักหนอกต้องใช้มีดตัดซ้าย-ขวา เพื่อให้เม็ดของสะตอออกมา เม็ดที่เหลือตรงกลางก็ใช้มีดปาดครึ่งเม็ดให้เป็นฝาปิดอยู่เช่นนั้น เวลากินเป็นผักหนอกจึง “ง้าง” ฝาที่ครอบเม็ดออก (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRSoVqc8ZwccbA70KCdWtmh7rPyS9DzmJ43eBlGeRcfpxbfN8t_CA) ภาพจาก : pitchaya.net ข้อมูล : สะตอ ต้นไม้ประจำภาคใต้ วารสาร “สารนครศรีธรรมราช” จัดพิมพ์เผยแพร่โดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช และขอขอบคุณ ผอ.กองส่งเสริมการท่องเที่ยวฯ ที่กรุณาเอื้อเฟื้อข้อมูลดังกล่าวค่ะ |