สหรัฐฯ แฉ จีน ใช้งบหลักพันล้าน ปรับภูมิทัศน์ข่าวสารโลก สร้างภาพลักษณ์ใหม่
<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-10-10 16:02</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ นำเสนอรายงาน ระบุ ทางการจีนใช้งบหลายพันล้านดอลลาร์ สร้างโฆษณาชวนเชื่อ ปรับภาพลักษณ์ให้กับประเทศและพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยการชักใยหรือปั่นข้อมูลข่าวสารต่างประเทศ ไม่ว่าจะในประเด็นไต้หวัน, กรณีสิทธิมนุษยชน หรือเศรษฐกิจในจีน รวมถึงข้อพิพาททะเลจีนใต้ ขณะที่จีนโต้ตอบว่าสหรัฐฯ สร้าง "ข้อมูลเท็จ" เพื่อใส่ร้ายจีน</p>
<p> </p>
<p>10 ต.ค. 2566 เว็บไซต์รัฐบาลสหรัฐฯ นำเสนอรายงานจากกระทรวงการต่<wbr></wbr>างประเทศ เกี่ยวกับเรื่องที่ทางการจี<wbr></wbr>นพยายามปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมด้านข้อมูลข่าวสารโลกในแบบที่ใช้วิธีการ "หลอกลวง" และ "บีบบังคับ" รวมถึงมีการ "โฆษณาชวนเชื่อ, ใส่ร้ายป้ายสี และการเซนเซอร์" ด้วย</p>
<p>ในรายงานที่ชื่อ
"Global Engagement Center Special Report: How the People’s Republic of China Seeks to Reshape the Global Information Environment" (รายงานพิเศษศูนย์พันธกิจสัมพั<wbr></wbr>นธ์โลก : สาธารณรัฐประชาชนจีนมุ่งปรับภู<wbr></wbr>มิทัศน์ทางข้อมูลข่าวสารโลกได้<wbr></wbr>อย่างไร) ระบุว่า ถึงแม้ทุกประเทศควรจะมี<wbr></wbr>ความสามารถในการบอกเล่าเรื่<wbr></wbr>องราวของตัวเองให้กับโลก แต่ว่าชุดคำอธิบายตั<wbr></wbr>วเองของประเทศต่างๆ ควรจะตั้งอยู่บนฐานของข้อเท็<wbr></wbr>จจริงไม่ใช่วิธีการชักใยข้อมู<wbr></wbr>ลข่าวสารแบบที่ระบุไว้ข้างต้น</p>
<p>รายงานของสหรัฐฯ มีการยกตัวอย่างปฏิบัติการข้อมู<wbr></wbr>ลข่าวสารที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่เกิดขึ้นกับบัญชีกลุ่มสิทธิ<wbr></wbr>มนุษยชน Safeguard Defender โดยระบุว่ามีบัญชีผู้ใช้งานที่<wbr></wbr>ต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีปลอมจากจี<wbr></wbr>นทำการรุมวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มสิ<wbr></wbr>ทธิมนุษยชนในแบบที่มี<wbr></wbr>กการวางแผนร่วมมือกันโจมตี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวอย่างปฏิบัติ<wbr></wbr>การชักใยข้อมูลข่าวสารของจีน</p>
<p>ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า ถ้าหากไม่มีการถ่วงดุ<wbr></wbr>ลความพยายามของรัฐบาลจี<wbr></wbr>นในการปรับภูมิทัศน์ทางข้อมูลข่<wbr></wbr>าวสารโลก ก็จะทำให้เกิดการสร้างอคติ<wbr></wbr>และสร้างช่องว่างที่<wbr></wbr>อาจจะนำประเทศต่างๆ ไปสู่การตัดสินใจในแบบที่เป็<wbr></wbr>นรองจีนในเรื่องผลประโยชน์<wbr></wbr>ทางเศรษฐกิจและทางความมั่นคง</p>
<p> </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">การชักใยข้อมูลข่<wbr></wbr>าวสารโดยทางการจีน</span></h2>
<p>กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า จีนใช้งบประมาณหลายพันล้<wbr></wbr>านดอลลาร์ต่อปีในความพยายามชั<wbr></wbr>กใยข้อมูลข่าวสารในต่างประเทศ ทางการจีนได้ใช้ข้อมูลเท็จและมี<wbr></wbr>อคติในการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่<wbr></wbr>ดีให้กับประเทศจีนและพรรคคอมมิ<wbr></wbr>วนิสต์จีน และในเวลาเดียวกันก็มี<wbr></wbr>ความพยายามปิดกั้นข้อมูลข่<wbr></wbr>าวสารสำคัญที่ขัดแย้งกับชุ<wbr></wbr>ดคำอธิบายของพวกเขาเกี่ยวกับไต้<wbr></wbr>หวัน, การปฏิบัติในเรื่องสิทธิมนุ<wbr></wbr>ษยชนของทางการจีน, ประเด็นข้อพิพาททะเลจีนใต้, ประเด็นเศรษฐกิจภายในประเทศ และปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิ<wbr></wbr>จในระดับนานาชาติ</p>
<p>ในระดับกว้างๆ นั้น ทางการจีนพยายามปลูกฝังและรั<wbr></wbr>กษาไว้ซึ่งโครงสร้างการให้<wbr></wbr>ผลตอบแทนแก่กลุ่มคนต่างๆ ที่สนับสนุนจีน ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้รั<wbr></wbr>ฐบาลประเทศอื่นๆ, กลุ่มชนชั้นนำ, นักข่าว, ภาคประชาสังคม ยอมรับชุดคำอธิบายที่ทางการจี<wbr></wbr>นต้องการและหลีกเลี่ยงการวิ<wbr></wbr>พากษ์วิจารณ์<wbr></wbr>การกระทำของทางการจีน</p>
<p>ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยในรายงานว่า วิธีการที่ทางการจีนใช้ในการชั<wbr></wbr>กใยข้อมูลข่าวสารนั้นก็ด้วยวิธี<wbr></wbr>เช่น การใช้ประโยชน์จากโฆษณาชวนเชื่<wbr></wbr>อและการเซนเซอร์ ส่งเสริมให้มีลัทธิอำนาจนิยมดิ<wbr></wbr>จิทัล, หลอกใช้องค์กรนานาชาติและความสั<wbr></wbr>มพันธ์สองทาง, ใช้วิธีการคัดเลือกเข้าเป็<wbr></wbr>นพวกและวิธีการกดดันควบคู่กันไป และการใช้อำนาจควบคุมสื่อภาษาจี<wbr></wbr>น</p>
<p>รายงานจากสหรัฐฯ ระบุอีกว่า ทางการจีนได้อาศัยปัจจัยทั้ง 5 อย่างนี้ร่วมกันในการทำให้<wbr></wbr>พวกเขาสามารถปรับภูมิทัศน์ทางข้<wbr></wbr>อมูลข่าวสารโลกได้ รวมถึงมีการใช้วิธีการต่างๆ เช่น</p>
<p>วิธีที่ 1 คือ การส่งอิทธิพลอย่างลับๆ และอย่างล้นเกินต่อเนื้<wbr></wbr>อหาและแพล็ตฟอร์มเผยแพร่เนื้<wbr></wbr>อหาต่างๆ</p>
<p>ทางการจีนมุ่งเน้นทำให้เนื้<wbr></wbr>อหาสนับสนุนที่จีนในแบบที่อคติ<wbr></wbr>และไม่เป็นความจริงให้มีผู้เข้<wbr></wbr>าชมสูงสุด ด้วยอาศัยวิธีการพวกเขาได้เข้<wbr></wbr>าไปมีผลประโยชน์ร่วมกันกับสื่<wbr></wbr>อต่างประเทศทั้งจากวิธีที่เป็<wbr></wbr>นสาธารณะและไม่เป็นสาธารณะ รวมถึงทำการอุปถัมภ์อินฟลู<wbr></wbr>เอนเซอร์ในอินเทอร์เน็ตด้วย</p>
<p>นอกจากนี้ในบางครั้งทางการจีนยั<wbr></wbr>งสามารถทำข้อตกลงกับสื่<wbr></wbr>อในประเทศต่างๆ ในการเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกจำกั<wbr></wbr>ดไม่ให้เผยแพร่ได้ด้วย เรื่องนี้ส่งผลให้คนที่เป็นหั<wbr></wbr>วเรือใหญ่ผู้มีความน่าเชื่อถื<wbr></wbr>อของสื่อนั้นๆ ทำการช่วยปกปิดว่าเนื้อหาที่<wbr></wbr>พวกเขานำเสนอนั้น เป็นเนื้อหาที่มาจากรัฐบาลจีน</p>
<p>อีกอย่างหนึ่งที่ทางการจีนทำ คือการตีซี้กับคนที่มีชื่อเสี<wbr></wbr>ยงในแวดวงข้อมูลข่าวสารนานาชาติ<wbr></wbr>เพื่อเอาพวกเขามาเป็นพวก เช่น นักการเมืองระดับสูงของต่างชาติ<wbr></wbr>และนักข่าว นอกเหนือจากการส่งอิทธิพลต่อผู้<wbr></wbr>ผลิตเนื้อหาแล้ว ทางการจีนยังตั้งเป้าเข้าไปมีอิ<wbr></wbr>ทธิพลต่อพื้นที่แพล็ตฟอร์<wbr></wbr>มเผยแพร่เนื้อหาต่างๆ เช่น ช่องโทรทัศน์ในแอฟริกาทั้งดิจิ<wbr></wbr>ทัลและช่องที่เผยแพร่ดาวเทียม อีกด้วย</p>
<p>วิธีที่ 2 ที่ทางการจีนใช้คือ การลิดรอนเสรี<wbr></wbr>ภาพในการแสดงความคิดเห็นในระดั<wbr></wbr>บโลก</p>
<p>ในประเด็นที่ทางการจีนเห็นว่าอ่<wbr></wbr>อนไหว พวกเขาก็จะใช้วิธีการข่มขู่คุ<wbr></wbr>กคามทั้งทางออนไลน์และในโลกจริ<wbr></wbr>งเพื่อปิดปากเสียงที่ต่อต้<wbr></wbr>านและเอื้อให้เกิดการเซนเซอร์ตั<wbr></wbr>วเอง นอกจากนี้ทางการจีนยังใช้<wbr></wbr>มาตรการต่อบรรษัทต่างๆ ในสถานการณ์ที่พวกเขาถูกมองว่<wbr></wbr>าทำการท้าทายชุดคำอธิ<wbr></wbr>บายของทางการจีนในประเด็นต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ประเด็นซินเจียง</p>
<p>ในประเทศประชาธิปไตย ทางการจีนก็อาศัยข้อได้เปรี<wbr></wbr>ยบของสังคมที่เปิดกว้างในการใช้<wbr></wbr>กฎหมายเพื่อปิดกั้นเสียงวิพากษ์<wbr></wbr>วิจารณ์จีน บนแอพฯ WeChat ที่มีชุมชนคนพูดภาษาจี<wbr></wbr>นนอกประเทศจีนใช้งานอยู่เป็<wbr></wbr>นจำนวนมากก็มีการปิดกั้<wbr></wbr>นและการคุกคามผู้ใช้งานเกิดขึ้<wbr></wbr>นจากรัฐบาลจีน มีเรื่องอื้อฉาวที่เป็นข่าวคื<wbr></wbr>อเรื่องที่บริษัทสัญชาติจีนที่<wbr></wbr>มีฐานอยู่นอกประเทศทำการเก็บข้<wbr></wbr>อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานจนทำให้<wbr></wbr>ทางการจีนสามารถปรับปรุ<wbr></wbr>งการเซนเซอร์นอกประเทศโดยตั้<wbr></wbr>งเป้าหมายไปที่ตัวบุคคลและองค์<wbr></wbr>กรต่างๆ ได้</p>
<p>วิธีที่ 3 ที่ทางการจีนใช้คือการส่งเสริมให้เกิ<wbr></wbr>ดชุมชนอำนาจนิยมดิจิทัลมากขึ้<wbr></wbr>นเรื่อยๆ ทางการจีนได้ส่งเสริมเรื่องนี้<wbr></wbr>ด้วยการอาศัยโครงสร้างระบบดิจิ<wbr></wbr>ทัลในการปิดกั้นเสรี<wbr></wbr>ภาพในการแสดงออก เซนเซอร์สื่ออิสระ ส่งเสริมการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบื<wbr></wbr>อน และปฏิเสธสิทธิมนุษยชนของผู้อื่<wbr></wbr>น</p>
<p>สหรัฐฯ ระบุว่า ทางการจีนพยายามแพร่<wbr></wbr>กระจายเทคโนโลยี<wbr></wbr>การสอดแนมและเซนเซอร์โดยมั<wbr></wbr>กจะรวมอยู่ในโครงการที่เรียกว่า "สมาร์ท" หรือ "เซฟ" ซิตี้ โดยที่ทางการจีนนำเอาบางแง่มุ<wbr></wbr>มของโครงการในประเทศเหล่านี้<wbr></wbr>มาใช้กับที่อื่นๆ ในโลก นอกจากนี้ทางการจีนยังได้ใช้ยุ<wbr></wbr>ทธวิธีควบคุมข้อมูลข่<wbr></wbr>าวสารโดยเน้นที่ภูมิภาคแอฟริกา, เอเชีย และลาตินอเมริกา โดยมีการส่งเสริมบรรทั<wbr></wbr>ดฐานแบบอำนาจนิยมดิจิทัลไปพร้<wbr></wbr>อมๆ กัน ซึ่งประเทศอื่นๆ ได้รับเอาบรรทัดฐานของจีนที่ว่<wbr></wbr>านี้ไปทำตาม พอพวกเขามีสภาพแวดล้อมทางข้อมู<wbr></wbr>ลข่าวสารแบบเดียวกับจีนแล้ว ก็ทำให้รับเอาโฆษณาชวนเชื่อ, ข้อมูลบิดเบือน และการร้องขอให้เซนเซอร์จากจี<wbr></wbr>นได้ง่ายๆ</p>
<p> </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ผลกระทบต่ออนาคต</span></h2>
<p>สหรัฐฯ ระบุว่า การบิดเบือนข้อมู<wbr></wbr>ลโลกโดยทางการจีนนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อการทูตสาธารณะเท่<wbr></wbr>านั้น แต่ยังเป็นการท้าทายบู<wbr></wbr>รณภาพของพื้นที่ข้อมูลข่<wbr></wbr>าวสารโลกด้วย ถ้าหากยังปล่อยให้จีนทำแบบนี้ ก็อาจจะทำให้ในอนาคตจีนจะใช้<wbr></wbr>เทคโนโลยีที่พวกเขาส่<wbr></wbr>งออกไปในการแทรกซึมรั<wbr></wbr>ฐบาลในประเทศหนึ่งๆ ทำให้มาเป็นพวกเดียวกับจีนได้ และความกลัวการโต้<wbr></wbr>ตอบโดยตรงจากจีนก็จะส่งผลให้มี<wbr></wbr>การลิดรอนเสรี<wbr></wbr>ภาพในการแสดงออกของโลก</p>
<p>อาจทำให้ทางการจีนสามารถเล่<wbr></wbr>นบทที่มักจะเป็นไปอย่างลับๆ ในการที่จะตัดสินว่าข้อมูลไหนที่<wbr></wbr>ผู้รับสารในประเทศกำลังพั<wbr></wbr>ฒนาควรจะได้รับ การจัดประชุมแบบพหุภาคี<wbr></wbr>และความสัมพันธ์แบบแลกเปลี่ยนกั<wbr></wbr>นแบบทวิภาคี อาจจะทำให้จีนเน้นย้ำชุดคำอธิ<wbr></wbr>บายของตัวเองได้มากขึ้นในประเด็<wbr></wbr>นอย่างไต้หวันและเศรษฐกิจโลก</p>
<p>การที่จีนเข้าถึงข้อมูลโลกได้<wbr></wbr>รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีปั<wbr></wbr>ญญาประดิษฐ์จะทำให้รัฐบาลจี<wbr></wbr>นเจาะจงเป้าหมายส่งอิทธิพลต่<wbr></wbr>อการตัดสินใจทางเศรษฐกิ<wbr></wbr>จและความมั่นคงให้เป็นประโยชน์<wbr></wbr>กับรัฐบาลจีนได้ สุดท้ายแล้วการพยายามเซนเซอร์<wbr></wbr>ในระดับโลกอาจจะส่งผลให้เกิ<wbr></wbr>ดภาวะที่ข้อมูลข่าวสารถูกควบคุ<wbr></wbr>มคัดสรรอย่างหนัก</p>
<p>สหรัฐฯ เตือนว่าข้อมูลข่าวสารที่เปิดต่<wbr></wbr>อสาธารณะให้กับสื่อ, ภาคประชาสังคม, ภาคส่วนวิชาการ และรัฐบาลต่างๆ ที่ปฏิสัมพันธ์กับจีน อาจจะเป็นข้อมูลที่ถูกบิดเบื<wbr></wbr>อนโดยโฆษณาชวนเชื่อ ข้อมูลที่ผิด และข้อมูลที่ถูกตัดบางส่วนออกผ่<wbr></wbr>านการเซนเซอร์ได้</p>
<p>อย่างไรก็ตามทางการสหรัฐฯ ก็ระบุว่า อนาคตอาจจะไม่ได้มืดมนขนาดนั้น เพราะว่าการโฆษณาชวนเชื่<wbr></wbr>อและการเซนเซอร์ของจีนก็ถูกโต้<wbr></wbr>ตอบกลับโดยภาคประชาสังคมและสื่<wbr></wbr>อในท้องถิ่นของประเทศประชาธิ<wbr></wbr>ปไตยทำให้ผลการโฆษณาชวนเชื่อได้<wbr></wbr>ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ซึ่งทางการสหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนเลิกบิดเบื<wbr></wbr>อนและขอให้มีการแข่งขันด้านข้<wbr></wbr>อมูล ข่าวสาร ค่านิยมต่างๆ อย่างยุติธรรม</p>
<p> </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">จีนโต้ สหรัฐฯ เองที่ "บิดเบือน" ข้อมูล</span></h2>
<p>ทางการจีนโต้ตอบรายงานดังกล่<wbr></wbr>าวของสหรัฐฯ อ้างว่าตัวรายงานเองเป็น "การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารที่<wbr></wbr>นำเสนอแบบไม่ตรงกับข้อเท็จจริ<wbr></wbr>งและความเป็นจริง"</p>
<p>โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนโต้<wbr></wbr>ตอบอีกว่า "สหรัฐฯ เองนั่นแหละที่คิดค้นวิธี<wbr></wbr>การหลอกใช้พื้นที่ข้อมูลข่<wbr></wbr>าวสารโลก" และระบุอีกว่า "เป็นข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ให้<wbr></wbr>เห็นอย่างทะลุปรุโปร่งอีกครั้<wbr></wbr>งว่าสหรัฐฯ นั้นเป็น 'จักรวรรดิแห่งการลวงหลอก' "</p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
<p>เรียบเรียงจาก</p>
<p>Global Engagement Center Special Report: How the People’s Republic of China Seeks to Reshape the Global Information Environment, U.S. Department of State, 28-09-2023</p>
<p><a href="
https://www.state.gov/gec-special-report-how-the-peoples-republic-of-china-seeks-to-reshape-the-global-information-environment/" target="_blank">
https://www.state.gov/gec-<wbr></wbr>special-report-how-the-<wbr></wbr>peoples-republic-of-china-<wbr></wbr>seeks-to-reshape-the-global-<wbr></wbr>information-environment/[/url]</p>
<p>China rejects State Dep’t report claiming Beijing spends billions to spread disinformation globally, HKFP, 01-10-2023</p>
<p><a href="
https://hongkongfp.com/2023/10/01/china-rejects-state-dept-report-claiming-beijing-spends-billions-to-spread-disinformation-globally/" target="_blank">
https://hongkongfp.com/2023/<wbr></wbr>10/01/china-rejects-state-<wbr></wbr>dept-report-claiming-beijing-<wbr></wbr>spends-billions-to-spread-<wbr></wbr>disinformation-globally/[/url]</p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">/url]</div></div></div><div class="field field-name-field-promote-end field-type-text field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even">ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/10/106302