สส.เสียงข้างมากโหวตส่งร่างแก้ไข พรบ.คุมเหล้าเบียร์ให้ ครม.พิจารณาก่อนส่งกลับพิจารณาวาระ 1 อีกรอบ
<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-01-10 19:44</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สภาฯ พิจารณาวาระรับหลักการร่างแก้ไข พ.ร.บ.คุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มาจากภาคประชาชนทั้งฝ่ายเพิ่มการควบคุมและฝ่ายส่งเสริมธุรกิจรายย่อย รวมถึงร่างสุราก้าวหน้าของก้าวไกลรวม 3 ร่าง แต่ ครม.ขอดึงไปพิจารณาก่อน 60 วันก่อนส่งกลับเข้าสภามาพิจารณาวาระ 1 ใหม่ สุดท้ายเปิดโหวต สส.เสียงข้างมากเห็นด้วยส่งให้ ครม.พิจารณาก่อน</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="
https://www.youtube.com/embed/MW7dZLh6k4o?si=sDVO9Pj7ra4NPdEp" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<p>10 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ซึ่งเสนอโดยภาคประชาชนสองกลุ่มโดยมีของธีรภัทร์ คหะวงศ์ เป็นผู้เสนอและประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 92,978 คน และของกลุ่มเจริญ เจริญชัย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 10,942 คนเสนอ และร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล นำเสนอ รวม 3 ร่าง</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ร่างเพิ่มมาตรการควบคุม</span></h2>
<p>ธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ผู้นำเสนอร่วมกับธีรภัทรได้อธิบายถึงสถานการณ์ผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นผลร้ายกับผู้ดื่มและผลกระทบกับบุคคลอื่นต่อเนื่องเช่น อุบัติเหตุ การทำร้ายร่างกายหรือความรุนแรงในครอบครัวมากที่สุดในบรรดาสารเสพติดอื่นๆ และความเป็นพิษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นเหตุให้เกิดโรคและบาดเจ็บ 200 ชนิดรวมถึงการเสพติด ดังนั้นการเสนอแก้ไขร่างกฎหมายครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อไม่เพิ่มจำนวนผู้ดื่มและผลกระทบที่ตามมา</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53454141352_bcedb6c226_b.jpg" /></p>
<p>ธีระกล่าวว่าต่อว่าเมื่อการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายสรรพสามิต การผลิตของรายย่อยเพื่อจำหน่ายหรือดื่มเองทำได้ง่ายมากขึ้น การโฆษณาจะต้องมาผ่านกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ยังมีเรื่องที่ต้องแก้ไขคือการมีโฆษณาแฝง เช่นการนำโลโก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปติดในสินค้าประเภทอื่นเช่น น้ำดื่มหรือเสื้อ แต่การแก้ไขกฎหมายที่จะทำเพื่อเอื้อผู้ผลิตฝ่ายหนึ่งจะต้องไม่ไปขยายให้ผู้ผลิตรายใหญ่ได้ประโยชน์จึงจะทำให้กฎหมายมีประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขจะต้องทำให้การซื้อขายที่ทำได้ง่ายมีการจำกัดสถานที่และบุคคลที่ซื้อ อายุ วันเวลา รวมถึงการโฆษณาและส่งเสริมการขาย</p>
<p>ไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สรุปเนื้อหาร่างกฎหมายว่าจะมีการส่งเสริมภาคประชาชนโดยจัดให้มีการประชุมสมัชชาเครือข่ายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับจังหวัดหรือภูมิภาคเพื่อเป็นกลไกในการติตดามประเมินผลนโยบายและกฎหมายควบคุมเครื่องแอลกอฮอล์ในพื้นที่ เพราะตอนนี้กรรมการในพื้นที่ขาดการประชุมทำให้การดำเนินงานควบคุมเครื่องดื่มขาดความต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด โดยในร่างจะมีการกำหนดการติดตามประเมินผลและปรับปรุงประสิทธิภาพของคณะกรรมการจังหวัดโดยให้มีการจำทำแผนปฏิบัติการประจำปีที่จะมีภาคประชาชนและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย</p>
<p>ไพศาลกล่าวต่อถึงมาตรการควบคุมแอลกอฮอล์ ที่กฎหมายเดิมมีการห้ามโฆษณายกเว้นเข้าเงื่อนไขที่กำหนด แต่มาตรการดังกล่าวยังมีจุดอ่อนอยู่และการตีความกฎหมาย จึงเสนอให้มีการขออนุญาตก่อนการโฆษณาโดยผู้ขออนุญาตจะต้องยื่นคำขอและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย แต่จะมีข้อห้ามบางประการเช่นการห้ามโฆษณาในสื่อที่เข้าถึงเด็กและเยาวชน สื่อออนไลน์ต่างๆ แต่จะผ่อนคลายเรื่องบทลงโทษที่จำแนกตามประเภทของผู้ฝ่าฝืนโดยไม่ได้เหมารวมว่าผู้กระทำความผิดในเรื่องของการโฆษณาจะใช้อัตราโทษเดียวกัน โดยมีการแบ่งประเภทเป็นกลุ่มผู้ประกอบการ ผู้รับจ้างโฆษณา และกลุ่มประชาชนทั่วไป ถ้าเป็นประชาชนทั่วไปก็จะมีการปรับโทษลงมา และยังมีการควบคุมการโฆษณาแฝงโดยมีการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสินค้าอื่น เช่น น้ำดื่มน้ำแร่ที่มีการจัดทะเบียนการค้าด้วยสัญลักษณ์ใกล้เคียงกัน จึงจะมีการห้ามการโฆษณาแฝงลักษณะนี้ ไปจนถึงการควบคุมการทำ CSR</p>
<p>ไพศาลกล่าวอีกว่าจะมีการกำหนดหน้าที่ของผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยมีการแบ่งประเภทผู้ขาย คือ ขายดื่มที่ร้าน และประเภทซื้อกลับ เนื่องจากผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในไทยไม่ได้มีระบบใบอนุญาตแต่ในต่างประเทศผู้ขาย บาเทนเดอร์หรือบริกรจะต้องมีใบอนุญาตด้วย โดยหน้าที่ที่จะมีการกำหนดเพิ่มมานี้คือผู้ขายจะต้องคอยดูแลไม่ให้มีการทะเลาะวิวาท ก่อความวุ่นวายหรือไม่จำหน่ายแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่มีอาการมึนเมา ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันทางกฎหมายที่จะทำให้ผู้ดื่มไปขับรถ โดยโทษก็จะเป็นโทษทางปกครองเช่นการ เพิกถอนใบอนุญาตเป็นการชั่วคราว</p>
<p>ไพศาลอธิบายถึงการเพิ่มสิทธิการฟ้องทางแพ่งของผู้เสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้เป็นคดีผู้บริโภคและให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สมาคมหรือมูลนิธิที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคให้การรับรองเป็นผู้ฟ้องคดีแทนได้ เพราะแต่เดิมก็ยังมีปัญหาว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสมและลดภาระในการดำเนินคดีของผู้เสียหาย</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ลดการควบคุมที่กระทบเสรีภาพการประกอบอาชีพและเสรีภาพแสดงความเห็น</span></h2>
<p>เจริญ เจริญชัย ผู้นำเสนอขอแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยได้กล่าวถึงจุดมุ่งหมายของการขอแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายเดิมจำกัดสิทธิ์บุคคลเกินจำเป็นและเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพของประชาชน ซึ่งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูยมาตรา 77 ด้วย ซึ่งกฎหมายนี้ก็กระทบกับผู้ประกอบการและประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53455189758_57dc1017c3_b.jpg" /></p>
<p>มาตรา 32 วรรคหนึ่ง ที่ห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งคำในกฎหมายที่ว่าห้ามทั้งโดยตรงและโดยอ้อมนั้นเป็นคำที่ห้ามไว้กว้างขวางครอบคลุมไปหมดเลย เช่นเขาเองเป็นอาจารย์ที่สอนในมหาวิทยาลัยราชมลธัญบุรีเรื่องการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สอนนักศึกษาเพื่อที่จะเข้าไปทำงานในอุตสาหกรรมอาหารที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่เมื่อสอนไปแล้วกลับไม่สามารถสื่อสารให้กับประชาชนได้ทั้งที่มีหน้าที่ต้องให้บริการวิชาการต่อสาธารณะ ซึ่งตัวเขาเองก็ทำเพจและเว็บไซต์ให้ความรู้เรื่องการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่เขาและเพื่อนที่เป็นนักรีวิวสุราก็ได้รับผลกระทบจากมาตรา 32 จนต้องปิดเพจหรือเว็บไซต์ไป ไม่สามารถแสดงชื่อหรือเครื่องหมายได้เพราะกฎหมายไม่ให้ทำ ซึ่งการควบคุมอย่างเหมาะสมไม่จำเป็นต้องเกิดผลกระทบอย่างกว้างขวางขนาดนี้</p>
<p>เจริญยกตัวอย่างเพจประชาชนเบียร์ที่ถูกดำเนินคดี 15 โพสต์ค่าปรับเกือบล้านบาท หรือเพจรีวิวเบียร์เพจหนึ่งที่ต้องเจอค่าปรับ 2 แสนบาท และค่าปรับรายวันอีกวันละ 5,000 บาท และโทษจำคุก 8 เดือน หรือร้านอาหารที่ในเมนูมีภาพแก้วเบียร์ก็ถูกดำเนินคดีและมีคำพิพากษาลงโทษปรับเกือบล้านบาท แต่เมื่อไปดูเมนูอาหารในร้านอาหารทั่วไปก็ยังมีอยู่ เพียงแค่เจ้าหน้าที่เลือกจะไปทำร้ายใครเท่านั้น และยังมีกรณีอื่นๆ อีกหลายกรณี ซึ่งเป็นภาระให้กับประชาชนที่ต้องเดินทางไปสู้คดี ไปจนถึงผู้ประกอบการที่ไม่สามารถสื่อสารสินค้าตัวเองกับผู้บริโภคได้</p>
<p>นอกจากนั้น เจริญยังได้นำเสนอปัญหาของการตั้งส่วนแบ่งค่าปรับให้กับเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนนำจับหรือแจ้งจับตามกฎหมายด้วย โดยหน่วยงานด้านควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังเสนอให้มีการเพิ่มค่าปรับขึ้นไปอีกจากค่าปรับสูงสุด 5 แสนบาทให้สูงขึ้นไปอีกเป็น 1 ล้านบาทในร่างกฎหมายหนึ่งและ 3 ล้านบาทในร่างกฎหมายอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งเขาตั้งข้อสังเกตว่าการมีส่วนแบ่งให้เจ้าหน้าที่นำจับหรือแจ้งจับนี้เป็นตัวเร่งให้เกิดการไล่ล่าจับเพื่อหาส่วนแบ่งและจะเห็นการไลจับแบบนี้มากขึ้นอีกหากมีการเพิ่มค่าปรับ</p>
<p>เจริญ กล่าวว่านอกจากมาตรา 32 แล้วกฎหมายยังให้อำนาจคณะกรรมการตามฎหมายสามารถออกกฎโดยไม่มีข้อจำกัด เช่น การห้ามขายตามสถานที่ต่างๆ ก็เพิ่มได้ มีการห้ามขายออนไลน์ แต่กรรมการที่ตั้งมาจากฝ่ายต้านเหล้าทั้งหมด ดังนั้นร่างที่กลุ่มของเขาเสนอจึงขอให้มีกรรมการจากฝั่งผู้ประกอบการทั้งผลิตหรือจำหน่ายเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องไม่ใช่นักวิชาการที่ได้รับงบสนับสนุนมาจากฝ่ายต้านเหล้าเท่านั้น แต่คนอย่างเขาที่เป็นผู้สอนการผลิตกลับไม่มีโอกาสอยู่ในคณะกรรมการเลย และในสังคมประชาธิปไตยก็ต้องฟังความเห็นจากรอบด้าน ฝ่ายที่ถูกกฎหมายควบคุมก็ควรจะมีพื้นที่ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการแต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้รับฟังความเห็นของผู้ที่จะได้รับผลกระทบด้วย</p>
<p>ศุภพงษ์ พรึงลำภู ตัวแทนผู้ผลิตสุรารายย่อย สะท้อนปัญหาว่า ผู้ผลิตรายย่อยอย่างพวกเขากว่าจะผลิตสุราอย่างถูกกฎหมายออกมาได้ต้องผ่านกระบวนการควบคุมหลายขั้นตอนทั้งสรรพสามิตร เขตหรือเทศบาล หรืออนามัย แต่เมื่อได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจได้อย่างถูกกฎหมายแล้วแต่กลับต้องเจอปัญหาจาก พ.ร.บ.ควบคุมแอลกอฮอล์ 2551 ซึ่งทำให้การนำเสนอสินค้าด้วยข้อเท็จจริงกลายเป็นเรื่องการจูงใจตามมาตรา 32 ไปหมดแล้วจะขายสินค้าได้อย่างไรถ้าไม่สามารถอธิบายสินค้าตัวเองได้ว่าแตกต่างจากสินค้าอื่นอย่างไรหรือสะท้อนอัตลักษณ์ของผู้ผลิตในท้องถิ่นได้อย่างไร และมาตรา 32 ยังถูกตีความกว้างไปกว่าการขายสินค้าแต่ไปจนถึงการแสดงตราสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายการค้าไปจนถึงรูปเบียร์เฉยๆ แล้วก็ถูกดำเนินคดี บางคนก็ถูกเรียกไปชี้แจงและก็ต้องไปศาล แต่เมื่อไม่สามารถสู้ไปจนถึงศาลได้ก็ต้องยอมจ่ายค่าปรับกับสำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ร่างสุราก้าวหน้า</span></h2>
<p>เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กรุงเทพฯ เขต 24 พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอกฎหมายกล่าวว่า ร่างนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางการเมือง (Political Project) ที่ชื่อ “สุราก้าวหน้า” แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตสุรา ตนเสนอเพราะตั้งคำถามว่าที่ผ่านมากฎหมายได้ผลสัมฤทธิ์จริงหรือไม่ ใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่มากเกินไปหรือเปล่า ยืนยันว่าตนไม่ต้องการให้กฎหมายนี้อ่อนลง แต่ต้องการให้เข้มแข็งขึ้น</p>
<p>โดยประเด็นที่เป็นข้อแตกต่างของแต่ละร่าง ได้แก่ ข้อแรก คณะกรรมการนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างแรกต้องการเพิ่มสัดส่วนกรรมการในสัดส่วนสมัชชาประชาชนรณรงค์สุราระดับจังหวัด ร่างที่สองเพิ่มสัดส่วนกรรมการในสัดส่วนผู้ประกอบธุรกิจสุรา ขณะที่ร่างของตนและพรรคก้าวไกลก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้วยการยกเลิกคณะกรรมการฯ ไปเลย และให้การออกกฎหมายลำดับรองเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรูปแบบกฎกระทรวง</p>
<p>เพราะคณะกรรมการฯ ที่ผ่านมาไม่มีความรับผิดชอบทางการเมืองอย่างเพียงพอ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ขัดกับหลักการการแบ่งแยกอำนาจเพราะหน่วยงานที่เป็นผู้ออกกฏ กลับเป็นผู้ใช้กฎหมาย ถือเป็นการตีเช็คเปล่าให้คณะกรรมการฯ ไปออกกฎเกณฑ์ตามอำเภอใจ นี่คือมรดกบาปจากรัฐประหาร 2549 ที่ทำให้รัฐเป็นรัฐข้าราชการ</p>
<p>ประเด็นต่อมาคือมาตรา 32 การห้ามโฆษณา ร่างฉบับแรกเพิ่มในกฎหมายให้เข้มงวดขึ้นโดยห้ามเพิ่มโฆษณาตราเสมือนโลโก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างที่สอง โฆษณาได้แต่ต้องเกินจริง ส่วนร่างของตน ห้ามผู้ผลิต โฆษณาหรือจำหน่ายแก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี คนธรรมดาโพสต์ไม่ผิดหากพิสูจน์ว่าไม่ได้มีผลประโยชน์ร่วม</p>
<p>“ปัจจุบันค่าปรับของการทำผิดกฎหมายเรื่องนี้ แพงกว่าคดีเมาแล้วขับเสียอีก ประเทศนี้มองว่าถ้าคนเห็นโฆษณาเบียร์ในทีวีแล้วจะวิ่งไปซื้อ เป็นการดูถูกประชาชน ถ้าวันหนึ่งสุราก้าวหน้าหรือสุราพื้นบ้านผ่านสภาฯ ผู้ประกอบการรายเล็กทำสุราได้ แต่โฆษณาไม่ได้ แล้วเขาจะขายใคร” เท่าพิภพกล่าว</p>
<p>สส.กรุงเทพฯ เขต 24 กล่าวต่อว่า อีกประเด็นคือมาตรา 28 เรื่องเวลาขาย ร่างแรกคงเดิมทุกประการ ร่างที่สองและร่างของตนยกเลิกการจำกัดเวลาขาย จากประสบการณ์ในบางประเทศพบว่าการจำกัดเวลาขายไม่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลายเป็นว่าทำให้คนดื่มเยอะขึ้น เมามากขึ้น</p>
<p>เท่าพิภพย้ำด้วยว่าไม่เห็นด้วยกับวิธีที่ ครม. จะอุ้มร่างนี้ไปศึกษาอีก 60 วัน เหตุใดไม่ให้ผู้แทนประชาชนเป็นผู้พิจารณา เราควรเชื่อมั่นในกรรมาธิการของสภาฯ ว่าจะเป็นกลไกสำคัญแก้ไขความขัดแย้ง สภาฯ มีไว้ให้คนถกเถียงกัน และเราควรเชื่อในการตัดสินใจของประชาชน ดังนั้นขอให้ที่ประชุมฯ ผ่านทั้ง 3 ร่างในวาระหนึ่ง ไปถกเถียงกันต่อในชั้น กมธ.</p>
<p>อย่างไรก็ตาม สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ระบุข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อ 118 ให้ ครม. นำร่างไปศึกษาภายใน 60 วันก่อนส่งกลับสภาฯ เพื่อลงมติวาระ 1 ให้เหตุผลว่าเพราะเป็นร่างที่มีเนื้อหาหลักการเดียวกันกับร่างที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอเข้าสู่สภาฯ เพื่อความรอบคอบในการดูทุกฉบับให้สมบูรณ์ จึงขอรับร่างฉบับนี้ไปพิจารณาก่อน</p>
<p>ทำให้ ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายช่วงหนึ่งว่า พรรคฝ่ายค้านพิจารณาร่วมกันเห็นว่า ร่างดังกล่าวของภาคประชาชนไม่ได้เสนอครั้งแรก แต่เสนอเข้ามา ตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว เชื่อว่า สส. พิจารณาได้ จะรับหรือไม่รับก็ต้องมีเหตุผลอธิบาย ไปว่ากันต่อในชั้น กมธ. แต่วิธีอุ้มไปศึกษานั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อมีร่างของ สส. หรือของภาคประชาชนเข้าสภาฯ ครม. ทำแบบนี้เหมือนไม่ได้ศึกษาร่างกฎหมายมาก่อน ต้องตั้งคำถามว่าทำงานกันอย่างไร ตนไม่เห็นด้วยและขอใช้สิทธิคัดค้าน</p>
<p>ผลการลงมติ ที่ประชุมสภาฯ เห็นด้วยให้ ครม. รับร่างไปศึกษาไม่เกิน 60 วันทั้ง 3 ร่าง โดยร่างแรกของภาคประชาชน (เสนอโดย ธีรภัทร์ คหะวงศ์) มีผู้ลงมติ 397 คน เห็นด้วย 241 คน ไม่เห็นด้วย 159 คน ส่วนอีก 2 ร่างคือร่างของภาคประชาชน (เสนอโดย เจริญ เจริญชัย) และร่างของพรรคก้าวไกล ที่ประชุมสภาฯ มีผู้ลงมติ 420 คน เห็นด้วย 257 คน ไม่เห็นด้วย 156 คน งดออกเสียง 7 คน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/01/107579