[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 21 มีนาคม 2564 17:25:13



หัวข้อ: หลวงพ่อวัน จันทสโร วัดประสิทธิชัย ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 21 มีนาคม 2564 17:25:13
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/66108147634400_bud01p1_12_Copy_.jpg)

หลวงพ่อวัน จันทสโร
วัดประสิทธิชัย ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง

“พระบริสุทธ ศีลาจาร” หรือ “หลวงพ่อวัน จันทสโร” วัดประสิทธิชัย ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง พระเกจิพุทธาคมที่ชาวเมืองตรัง ให้ความเลื่อมใสศรัทธา

ถือกำเนิดในสกุล มะนะโส เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2421 ที่บ้านควนขัน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง บิดา-มารดา ชื่อนายจอก และนางคล้าย มะนะโส มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นบุตรคนโต ครอบครัวประกอบอาชีพทำการเกษตร

ในช่วงวัยเด็ก ทางบ้านส่งให้ไปอยู่กับญาติที่บ้านป่าพะยอม อ.ควนขนุน (ปัจจุบันเป็น อ.ป่าพะยอม) จ.พัทลุง เมื่อปี พ.ศ.2543 โดยฝากให้อยู่กับพระอธิการเรือง เจ้าอาวาสได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทย ขอม และเลขไทย จนอ่านออกเขียนได้

อายุ 17 ปี บรรพชา มีพระครูกาชาด วัดป่าลิไลย์ เป็นพระอุปัชฌาย์

ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม บาลี มูลกัจจายนะ และวิทยาคมต่างๆ

กระทั่งอายุครบบวช 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2441 ที่พัทธสีมาวัดป่าพะยอม อ.ควนขนุน จ.พัทลุงมีหลวงพ่อคง วัดบ้านมูล เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อใหม่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อปล้อง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากบวช 1 พรรษา ก็เตรียมที่จะลาสิกขาแต่พระอุปัชฌาย์ห้ามไว้ เพราะที่เล่าเรียนศึกษามายังไม่เพียงพอ

จึงตัดสินใจไม่ลาสิกขา พร้อมทั้งตั้งใจศึกษาปฏิบัติอย่างจริงจัง

พรรษาที่ 3 ได้กลับมาเยี่ยมครอบครัว ที่บ้านท่าจีน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ในครั้งนั้นญาติพี่น้องพร้อมใจกันอาราธนาให้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดประสิทธิชัย ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่า วัดท่าจีน

จึงกลับไปลาพระอุปัชฌาย์คง เพื่อมาจำพรรษาที่วัดประสิทธิชัย

หลังเจ้าอาวาสขอลาสิกขา จึงได้อยู่รักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่ 1 ปี กระทั่งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2445 ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประสิทธิชัย

เร่งจัดการงานบริหาร พัฒนาวัดให้รุ่งเรืองและก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ขึ้นมาตามลำดับ

ด้วยความเป็นพระที่มีเมตตาสูง ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของผู้ที่ประสบพบเห็น และรับฟังคำแนะนำสั่งสอน

ขณะเดียวกัน ยังมีความเป็นอยู่แบบเรียบง่ายสันโดษ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย จนเป็นที่นับถือยกย่องจากคณะสงฆ์ และพุทธบริษัททั่วไป ในฐานะปูชนียบุคคล ที่มีคุณธรรมอันสูงส่งยิ่ง

ต่อมา พ.ศ.2549 เป็นเจ้าคณะอำเภอห้วยยอด (เจ้าคณะแขวงอำเภอเขาขาวใน สมัยนั้น) พ.ศ.2469 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2479 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดตรัง พ.ศ.2490 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดตรัง

พ.ศ.2493 ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดตรัง พร้อมทั้งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระบริสุทธศีลาจาร

กล่าวได้ว่า เป็นพระนักปฏิบัติเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทำให้วิทยาคมต่างๆ ที่ท่านศึกษาเล่าเรียนมามีความเข้มขลัง จัดเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชาอย่างมากในสมัยนั้น

ไม่เคยอวดอ้างคุณวิเศษในตนเองแต่ อย่างใด ขณะที่ลูกศิษย์หรือผู้ที่ใกล้ชิดต่างได้พบเห็นประสบการณ์มากมาย

โดยเฉพาะจากวัตถุมงคลหลวงพ่อวัน ซึ่งมีเพียงไม่กี่รุ่น และปัจจุบันหาได้ยาก

ทำให้หลวงพ่อวัน ได้รับการยกย่องให้เป็นพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองตรัง

ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2503 เวลา 21.10 น. รวมอายุ 82 ปี 11 วัน
   ข่าวสดออนไลน์