[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
23 พฤษภาคม 2567 18:52:26 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: 36 นาทีที่แล้ว 
เริ่มโดย Kimleng - กระทู้ล่าสุด โดย Kimleng

เย็นตาโฟทะเลแห้ง สั่งรับประทานที่จังหวัดระยอง ใส่กุ้งสด ลูกชิ้นปลา ปูอัด
ความแปลกอยู่ตรงที่ใส่ถั่วลิสงคั่วบดหยาบมาให้ด้วย



เย็นตาโฟแห้ง มีน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวใส่ถ้วยมาให้ซดคล่องคอ

เย็นตาโฟแห้ง

   เย็นตาโฟ มีความแตกต่างจากก๋วยเตี้ยวทั่วไป ตรงที่ใส่น้ำซอสสีแดง ซึ่งได้จากการนำซอสพริก ซอสมะเขือเทศ
พริกขี้หนูสดสีแดง เต้าหู้ยี้ น้ำกระเทียมดอง และน้ำตาลทราย มาปั่นจนละเอียด ซึ่งจะให้รสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอม
เครื่องเย็นตาโฟจะมีผักบุ้งไทยหั่นชิ้นเล็กลวกพอสุก  ลูกชิ้นปลา ปลาหมึกกรอบ แมงกระพรุน เลือดหมูต้ม เต้าหู้ทอด
ปลาเส้นหั่นบาง เกี๊ยวทอดกรอบ  

 2 
 เมื่อ: 1 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"จูน นาตาชา" เข้าพิธีรับใบประกาศนียบัตร พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบก รุ่นที่ 30
         


"จูน นาตาชา" เข้าพิธีรับใบประกาศนียบัตร พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบก รุ่นที่ 30" width="100" height="100  จูน นาตาชา เข้าพิธีรับใบประกาศนียบัตรจบหลักสูตร พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบก รุ่นที่ 30 พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือประเทศชาติ เป็นปีที่ 10
         

https://www.sanook.com/news/9389754/
         

 3 
 เมื่อ: 3 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"ปราง" ปล่อยคลิปหวาน ขอบคุณ "โอบ" คอมเมนต์ฝ่ายชายทำคนโสดตายเรียบเลย
         


"ปราง" ปล่อยคลิปหวาน ขอบคุณ "โอบ" คอมเมนต์ฝ่ายชายทำคนโสดตายเรียบเลย" width="100" height="100  หูยยยย ปราง-โอบ ผลัดกันซบ แคปชั่นฝ่ายหญิงว่าหวานแล้ว แต่เจอฝ่ายชายตอบกลับทำกรี๊ดสลบแทนเลยจ้า
         

https://www.sanook.com/news/9389582/
         

 4 
 เมื่อ: 4 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย ใบบุญ - กระทู้ล่าสุด โดย ใบบุญ


Amazon ป่ามหัศจรรย์


ลักษณะทั่วไปทางภูมิศาสตร์
          แอมะซอน (Amazon) ป่ามหัศจรรย์ของโลกก็เนื่องมาจากลักษณะสำคัญต่าง ๆ อย่างมากมาย เช่น ความหลากหลายทางชีวภาพ ขนาดพื้นที่และอีกมากมาย นับเป็นป่าที่ถูกยกให้เป็นป่าลึกลับและเป็นปอดของโลก อันเนื่องมาจากเป็นป่าดิบชื้นเขตร้อนที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในโลก โดยมีอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร กินพื้นที่ประมาณ 9 ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ คือ บราซิล เปรู โคลอมเบีย เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ โบลิเวีย กายอานา ซูรินาม และเฟรนช์เกียนา โดย 60% ตั้งอยู่ในประเทศบราซิล และมีแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกไหลผ่าน คือ แม่น้ำแอมะซอน  ทิศตะวันตกของป่าคือภูเขาแอนดีส ส่วนทิศตะวันตกคือมหาสมุทรแอตแลนติก มีปริมาณน้ำตลอดปี เนื่องจากมีลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งขนาดใหญ่รวมถึงแม่น้ำใต้ดินที่ชื่อว่า แม่น้ำริโอแฮมซ่า ที่มี

พืชและสัตว์หลากหลายสายพันธุ์
          ป่าแห่งนี้เป็นป่าที่ถือว่ามีระบบนิเวศที่สมบูรณ์สุดในตอนนี้ แหล่งรวมพืชพันธุ์นานาชนิด ทั้งชนิดที่หายากและชนิดที่ยังรอการสำรวจและค้นพบอีกมากมาย  จากข้อมูลการสำรวจและประมาณการของนักสำรวจ กล่าวว่า พบต้นไม้ประมาณ 390 พันล้านต้นและมีพันธุ์ไม้ประมาณ 16,000 ชนิด  พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าทึบ ต้นไม้สูงใหญ่จะมีใบขึ้นในส่วนที่สูงที่สุดของลำต้น ทำให้แสงอาทิตย์ไม่สามารถสอดส่องไปยังพื้นดินได้ ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เพียง 1% เท่านั้น  ดินในผืนแห่งนี้จะมีลักษณะไม่หน่าแน่น ทำให้ต้นไม้ต้องหยั่งลึกรากลึกลงไปกินรัศมีในวงกว้าง

          พืชพรรณหายากสามารถหาได้จากผืนป่าแห่งนี้ เช่น ต้นไม้ระเบิด ที่เป็นต้นไม้ที่มีการขยายพันธุ์ที่โดยการระเบิดตัวเองกลายเป็นเม็ดพันธุ์ โดยสามารถขยายพันธุ์ด้วยแรงระเบิดไปได้ไกลถึง 150 ฟุต

          สัตว์ป่าหายากก็สามารถพบได้ที่ป่าแอมะซอนได้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างสัตว์ที่พบในป่านี้เท่านั้นก็อย่างเช่น เคเมนหรือไคเมน สีขาว (Caiman) ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานกลุ่มเดียวกับจระเข้

          ในป่าแห่งนี้จึงขึ้นชื่อว่าเป็นป่าที่รวบรวมสัตว์ดุร้าย รวมถึงมีพิษมากที่สุดในโลก เช่น มดหัวกระสุน ชื่อก็บอกถึงความเจ็บปวดราวกับถูกกระสุนปืนยิงได้เลย โดยความเจ็บนี้อาจเทียบได้ 30 เท่าเมื่อเทียบกับการถูกผึ้งต่อย  เสือจากัวร์ ที่มีความดุร้ายรุนแรงจนสามารถทำกะโหลกของสัตว์ที่เป็นเหยื่อแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ในพริบตา นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่น ๆ อีกมากมายเช่น กบลูกศรพิษ ที่มีความสวยงามแต่มีพิษร้ายแรง รวมไปถึงสัตว์น่ากลัวที่เรารู้จักกันดีอย่าง อนาคอนด้างูยักษ์ และปลาที่ดุร้ายที่สุดอย่างปลาปิรันยา

แม่น้ำสายสำคัญ
          ป่าแอมะซอนมีแม่น้ำสำคัญหลายสายไหลผ่าน เช่น แม่น้ำแอมะซอน ซึ่งถือเป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีความยาวประมาณ 4,100 ไมล์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนและสัตว์ป่าในกลุ่มลุ่มแม่น้ำแอมะซอน

กลุ่มชาติพันธุ์
         จากข้อมูลนักสำรวจ ได้รายงานว่า ป่าแอมะซอนเป็นบ้านเกิดของกลุ่มคน 300 กลุ่ม รวมถึงยังมีหลายชนเผ่า ที่คงยังเป็นชนเผ่าที่ปิดตัวเองจากโลกภายนอก ไม่ติดต่อและรับคนต่างถิ่นเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด




ภาพชนเผ่า - ที่มา https://pixabay.com/ , eismannhans

จะเห็นได้ว่าเป็นป่าที่มีความมหัศจรรย์และมีความสวยงามจากธรรมชาติเป็นอย่างมาก  ทำให้แอมะซอนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจจากคนทั่วโลกจากหลาย ๆ กลุ่ม เช่น นักสำรวจ นักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงนักท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากยอมจ่ายเงินให้กับไกด์ท้องถิ่น เพื่อเดินทางไปสัมผัสพืชพรรณหายากและสัตว์ป่าหายากเหล่านี้ แต่ที่เป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีก็คือ การบุกรุกและการรุกล้ำอาณาเขตจากกลุ่มนักลงทุนและแสวงหาผลประโยชน์จากธรรมชาติ ก็มุ่งหวังเข้าไปที่ผืนป่าแห่งนี้เช่นกัน

          ป่าแอมะซอนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีรายงานบันทึก ทุกปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากกว่า 700 ล้านคน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี และด้วยความที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และเริ่มมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเริ่มสนใจพื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ก็เลยทำให้พื้นที่ป่าแห่งนี้กลายเป็นที่หมายตาของนักลงทุนและแสวงหาผลประโยชน์

          เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มสนใจเข้าพื้นที่ป่า การบุกรุกเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างก็เริ่มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้าไปยังป่าแห่งนี้ และนั่นจึงเป็นที่มาของการตัดไม้ทำลายพื้นที่ป่านั่นเอง มีรายงานว่า ในช่วง 50-60 ปีที่ผ่านมา มีการทำลายป่าไปถึง 17% - 20 % ของพื้นที่ป่าทั้งหมด และมีการปลุกคืนพื้นที่เพียง 3 % เท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้กันเลยกับความเสียหายทั้งหมด

          กลุ่มนักวิจัยที่ชื่อว่า Global Forest Watch ในมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ (University of Merryland) ได้รายงานว่า ในปี 2018 กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์เป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียพื้นป่าหลายแห่งในโลก รวมไปถึง ป่าแอมะซอนแห่งนี้

          เมื่อไม่กี่ปีมานี้ นายทุนแสวงหากำไรได้จัดตั้งโครงการสำรวจ-ขุดเจาะน้ำมัน ในบริเวณที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองแอมะซอน แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ว่า ชนเผ่าพื้นเมืองแอมะซอนชนะคดีพิพาทนี้ โดยศาลระบุว่าชาวพื้นเมืองวาโอรานี่มีสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญของเอกวาดอร์ในการครอบครองที่ดินที่อาศัยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งรัฐจะต้องการคุ้มครองโดยไม่มีข้อแม้

         ที่ผ่านมามีการบุกรุกทำลายผืนป่าแอมะซอนอย่างต่อเนื่อง จากการแผ้วถางป่าเพื่อแปลงเป็นพื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงการตัดไม้และสำรวจแร่ธาตุอย่างผิดกฎหมาย

         ความเสียหายของป่าแห่งนี้เปรียบได้กับการทำลายปอดของโลก ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราควรช่วยกันปกป้องผืนป่าซึ่งเป็นป่าสำคัญของโลกแห่งนี้



ที่มา https://www.scimath.org/article-earthscience/item/10468-amazon-2

 5 
 เมื่อ: 5 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย ใบบุญ - กระทู้ล่าสุด โดย ใบบุญ

เจ้าชายสิทธัตถะเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์กับพระนางปชาบดีโคตมี
ภาพโดย Maligawage Sarlis, via Wikimedia Commons.


“พุทธทำนาย” ของแท้ ศาสนาพุทธจะล่มสลายใน “500 ปี” โดยมี “ผู้หญิง” เป็นต้นเหตุสำคัญ.

ผู้เขียน - อดิเทพ พันธ์ทอง
เผยแพร่ - www.silpa-mag.com - วันพฤหัสที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2567


พุทธทำนาย” ของแท้ พระพุทธศาสนาจะล่มสลายใน 500 ปี โดยมี “ผู้หญิง” เป็นต้นเหตุสำคัญ

หมอดูเขาว่าคู่กับหมอเดา” สำนวนไทยที่มักถูกใช้เพื่อลดคุณค่าของโหราศาสตร์ ซึ่งจะได้ยินบ่อยๆ เมื่อคำทำนายออกมาไม่ตรงใจ หรือเมื่อเวลาผ่านไปแล้วผลของคำทำนายไม่เกิดขึ้น แต่โหราศาสตร์ก็อยู่คู่กับคนไทยมาโดยตลอด ในฐานะที่พึงทางใจ ที่แม้ผลทำนายออกมาไม่ดีแต่ก็ล้วนมีทางแก้ ซึ่งบางครั้งกลายเป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์จนเกินส่วนของผู้ทำนายไปด้วย

ความผูกพันของคนไทยกับคำทำนายและโหราศาสตร์ เห็นได้จากกิจกรรมสำคัญต่างๆ ของคนไทยที่มักพึ่งพาหมอดูหรือผู้รู้ในด้านโหราศาสตร์ ในการหาฤกษ์ยามเพื่อความเป็นสิริมงคล ตั้งแต่งานบวช งานแต่ง ไปจนถึงงานตาย และในคัมภีร์ หรือบันทึกโบราณของชาวพุทธเองก็มีการกล่าวถึงคำทำนาย ซึ่งว่ากันว่าเป็นคำทำนายของพระพุทธเจ้า ที่มักจะเรียกกันว่า “พุทธทำนาย

ตั้งแต่เด็กผู้เขียนได้ยินบ่อยครั้งว่า “พระพุทธเจ้าเคยทำนายเอาไว้ว่า พระศาสนาของพระองค์จะดำรงอยู่ได้ 5 พันปี” และผู้เขียนก็เชื่อมาโดยตลอดว่า คำทำนายดังกล่าวเป็น “พุทธทำนาย” ของแท้ ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เอง

จนกระทั่งไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้ลองตรวจสอบหาที่มาของคำทำนายดังกล่าว โดยอาศัย “พระไตรปิฎก” แหล่งรวมพุทธพจน์ที่น่าจะมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด แต่สิ่งที่พบไม่ได้เป็นตามความที่ผู้เขียนได้รับฟังมา กลับกันพระพุทธองค์ทรงทำนายว่า พระธรรมของพระองค์จะอยู่รอดได้เพียง “500 ปี” เท่านั้น และ “ผู้หญิง” ยังเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้พระธรรมของพระองค์อายุสั้นกว่าที่ควร

พุทธทำนายดังกล่าวปรากฏอยู่ใน พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม 7 ภาค 2 ในตอนที่พระนางมหาปชาบดีโคตมี พระมาตุจฉาของพระพุทธองค์ พยายามทูลขอออกบวชหลายครั้ง แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาต จนกระทั่งพระอานนท์โน้มน้าวให้พระพุทธองค์ทรงยอมให้พระนางปชาบดีโคตมีออกบวชได้ในที่สุด แต่ขณะเดียวกันพระองค์ตรัสว่า

“ดูก่อนอานนท์ ก็ถ้าสตรีจักไม่ได้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว พรหมจรรย์จักตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมจะพึงตั้งอยู่ได้ตลอดพันปี ก็เพราะสตรีออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว

บัดนี้ พรหมจรรย์จักไม่ตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมจักตั้งอยู่ได้เพียง 500 ปีเท่านั้น ดูก่อนอานนท์ สตรีได้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตในธรรมวินัยใด ธรรมวินัยนั้นเป็นพรหมจรรย์ไม่ตั้งอยู่ได้นาน เปรียบเหมือนตระกูลเหล่าใดเหล่าหนึ่งที่มีหญิงมาก มีชายน้อยตระกูลเหล่านั้นถูกพวกโจรผู้ลักทรัพย์กำจัดได้ง่าย…”

หลังการเสด็จปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ได้มีผู้ออกมาตั้งข้อกังขาในพุทธทำนายดังกล่าวของพระองค์ หนึ่งในนั้นคือ พระเจ้ามิลินท์ หรือเมนันเดอร์ที่ 1 กษัตริย์ชาวกรีกผู้นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล (ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 4 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 5) ดังปรากฏใน “มิลินทปัญหา” (เอกสารบันทึกการโต้ตอบระหว่างพระเจ้ามิลินท์ กับพระนาคเสน ปราชญ์ชาวพุทธ ซึ่งเชื่อว่าต้นฉบับน่าจะแต่งขึ้นเป็นภาษาสันสกฤตในช่วงศตวรรษที่ 1 หรือศตวรรษที่ 2 [ราว พ.ศ. 544-743, หลังรัชสมัยของพระเจ้ามิลินท์นับร้อยปี] โดยนักเขียนนิรนาม ถือเป็นเอกสารสำคัญที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์บาลีของพม่าด้วย) พระเจ้ามิลินท์ทรงถามพระนาคเสนว่า

“หลังจากที่ผู้หญิงออกบวช พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสว่า พระธรรมอันบริสุทธิ์จะดำรงอยู่ได้เพียง 500 ปี อย่างไรก็ดีพระองค์ทรงเคยตรัสกับพระสุภัททะว่า ‘ตราบเท่าที่หมู่สงฆ์ยังคงยึดถือพระธรรมเป็นแนวปฏิบัติโดยสมบูรณ์แล้ว โลกนี้ย่อมไม่ขาดแคลนซึ่งพระอรหันต์’ คำพูดทั้งสองย่อมขัดกันเอง”

พระนาคเสนตอบกลับไปว่า คำพูดของพระพุทธองค์ทั้งสองประโยคถูกกล่าวในบริบทที่ต่างกัน หนึ่งคืออายุขัยของพระธรรมอันบริสุทธิ์ อีกหนึ่งคือแนวปฏิบัติในโลกของพระธรรม ซึ่งพระนาคเสนมองว่า ต่างกัน โดยเชื่อว่า หากศิษยานุศิษย์ของพระพุทธองค์ยังคงปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ คำสอนของพระพุทธองค์ย่อมคงอยู่ไม่สูญหาย (แต่อาจจะไม่บริสุทธิ์แล้ว?)

ทั้งนี้ เนื้อหาในมิลินทปัญหาที่ผู้เขียนยกมานั้นเป็นฉบับภาษาอังกฤษ (The Debate of King Milinda) โดย Bhikku Pesala พระชาวอังกฤษที่ได้รับการบวชให้โดยพระชาวพม่า และเข้ามาศึกษาพระธรรมทั้งในพม่าและไทย ตำราอ้างอิงที่พระรูปนี้ใช้จึงเป็นคัมภีร์บาลีของพม่า (รวมไปถึงฉบับแปลในภาษาอื่นๆด้วย) ซึ่งบันทึกไว้ต่างจากฉบับศรีลังกา (และไทย) ที่ระบุว่า “พระสัทธรรมของตถาคตจะตั้งอยู่นานประมาณกำหนดห้าพันปี”

การที่บันทึกฝ่ายไทยไปแปลมิลินทปัญหาโดยระบุระยะเวลาเช่นนั้น ถือเป็นเรื่องแปลก เพราะเนื้อหาในส่วนที่พระเจ้ามิลินท์อ้างถึงคือการบวชของผู้หญิงนั้น “พระไตรปิฎก” ฉบับภาษาไทยก็ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าจะทำให้ “สัทธรรมจักตั้งอยู่ได้เพียง 500 ปี”

ผู้เขียนจึงเชื่อว่า มิลินทปัญหาฉบับศรีลังกาและไทย น่าจะใส่เลขศูนย์เกินไปหนึ่งตัว

ความผิดพลาดดังกล่าวอาจเกิดขึ้นด้วยความจงใจ ด้วยชาวพุทธมักเชื่อว่า พระพุทธองค์ทรง “ตรัสรู้” ย่อมเป็นผู้รู้ในทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นอดีตปัจจุบัน และอนาคต ทำให้คำทำนายของพระองค์ต้องเป็นจริงแน่นอน การที่พระองค์ตรัสว่าพระธรรมของพระองค์จะตั้งอยู่ได้เพียง 500 ปี แต่พุทธศาสนากลับดำรงอยู่ได้เลยช่วงเวลาดังกล่าว ย่อมทำให้ความเชื่อที่ว่าพระองค์คือผู้รู้ในทุกสรรพสิ่งสั่นคลอน

การเติมศูนย์เพิ่มเข้าไปในเอกสารชั้นรองอย่างมิลินทปัญหา ผู้บันทึกชาวไทยและศรีลังกาคงเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การเติมศูนย์เพิ่มเข้าไปในพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นเอกสารที่สำคัญที่สุดของชาวพุทธ ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม พระเถระจึงใช้ “อรรถกถา” หรือคำอธิบายเสริมพระไตรปิฎก เพื่อขยายความคำพูดของพระพุทธองค์ออกไปว่า แท้จริงที่พระองค์ตรัสว่า พระสัทธรรมจะตั้งอยู่ได้เพียง 500 ปี เพราะมาตุคามบวช แต่กลับไม่ได้เป็นดังที่พระองค์ทรงตรัส เพราะพระองค์ได้ทรงบัญญัติครุธรรมเพื่อกันความละเมิดไว้ก่อน “ทำให้พระสัทธรรมจักตั้งอยู่ตลอดพันปีที่ตรัสทีแรกนั่นเอง”

นอกจากนี้ อรรถกถายังอธิบายต่อไปว่า การคงอยู่ของพระสัทธรรมหนึ่งพันปีตามที่พระพุทธองค์ตรัสถึงก็ด้วยอำนาจ “พระขีณาสพผู้ถึงความแตกฉานในปฏิสัมภิทา” (พระอรหันต์ขั้นสูง) เท่านั้น แต่พระสัทธรรมจะยังคงอยู่ไปอีกพันปีด้วยอำนาจ “พระขีณาสพสุกขวิปัสสกะ” (พระอรหันต์ขั้นรองลงมา) อีกพันปีด้วยอำนาจ “พระอนาคามี” อีกพันปีด้วยอำนาจ “พระสกทาคามี” และอีกพันปีด้วยอำนาจ “พระโสดาบัน” ทำให้พระสัทธรรมของพระพุทธองค์จะคงอยู่ได้รวม “5,000 ปี”

ด้วยเหตุนี้จึงพอจะกล่าวได้ว่า ความเชื่อในพุทธทำนายที่ว่า พระพุทธศาสนาจะอยู่ได้ 5,000 ปี แท้จริงแล้วมิได้มาจากพระพุทธองค์เอง แต่เป็นการตีความพุทธพจน์ที่เกิดขึ้นภายหลัง (เนื่องจากไม่อาจตีความตามตัวอักษรได้อีกต่อไป) ซึ่งมีการผลิตซ้ำในเอกสารชั้นรองว่า คำทำนายดังกล่าวเป็นของพระพุทธองค์เองเช่นในมิลินทปัญหาฉบับศรีลังกาและไทย

นอกจากนี้ ยังมีการอ้างว่า เมื่อครั้งที่คณะธรรมทูตไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่อินเดียเมื่อ พ.ศ. 2484 ได้พบศิลาจารึกในเขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน ซึ่งได้ลงจารึกไว้ว่า โลกจะแตกหลังพระพุทธองค์ปรินิพพานแล้ว 5,000 ปี (ไปไกลกว่าเดิม) แต่ก็เป็นเพียงการอ้างลอยๆ ไม่มีการระบุชื่อผู้พบและผู้แปลเป็นที่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด.


 6 
 เมื่อ: 6 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"เมย์ เฟื่องอารมย์" ไลฟ์สไตล์สุดชิคโชว์ผลงานจัดบ้าน แต่ละมุมสวยอลังการมาก
         


"เมย์ เฟื่องอารมย์" ไลฟ์สไตล์สุดชิคโชว์ผลงานจัดบ้าน แต่ละมุมสวยอลังการมาก" width="100" height="100  เมย์ เฟื่องอารมย์ เปิดบ้านหลังงามอลังการงานสร้างทุกมุม ล่าสุดกับโซน Art Toy จัดเต็มแน่นๆ เลย
         

https://www.sanook.com/news/9389482/
         

 7 
 เมื่อ: 8 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"แจ็ค แฟนฉัน" อบอุ่นเปิดคาถาให้ลูกฟัง แต่ยังมีคนคอมเมนต์เรื่องชื่อ "น้องคากิ"
         


"แจ็ค แฟนฉัน" อบอุ่นเปิดคาถาให้ลูกฟัง แต่ยังมีคนคอมเมนต์เรื่องชื่อ "น้องคากิ"" width="100" height="100  "แจ็ค แฟนฉัน" เปิดคาถาให้ลูกฟัง ยังมีคนคอมเมนต์ขอร้องเรื่องชื่อ "น้องคากิ"
         

https://www.sanook.com/news/9389386/
         

 8 
 เมื่อ: 11 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
เปิดภาพล่าสุด "อ๋อม อรรคพันธ์" ปรากฎตัวในงานครั้งแรก หลังป่วยโรคมะเร็ง
         


เปิดภาพล่าสุด "อ๋อม อรรคพันธ์" ปรากฎตัวในงานครั้งแรก หลังป่วยโรคมะเร็ง" width="100" height="100  เปิดภาพล่าสุด "อ๋อม อรรคพันธ์" ปรากฎตัวในงานครั้งแรก หลังป่วยโรคมะเร็ง
         

https://www.sanook.com/news/9389334/
         

 9 
 เมื่อ: 13 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
นักท่องเที่ยวรีวิว อ่างอาบน้ำใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ ฝูงนักบินบุก กลายเป็นผู้ประสบภัย
         


นักท่องเที่ยวรีวิว อ่างอาบน้ำใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ ฝูงนักบินบุก กลายเป็นผู้ประสบภัย" width="100" height="100  นักท่องเที่ยวรีวิวที่พัก มีอ่างอาบน้ำวิวธรรมชาติ กะว่าจะแช่น้ำกลีบกุหลาบ ตกค่ำกลายเป็นผู้ประสบภัยทางอากาศซะงั้น


         

https://www.sanook.com/news/9389322/
         

 10 
 เมื่อ: 16 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
ฮือฮาอาทิตย์ทรงกลด พิธียกยอดฉัตรทองคำ พระธาตุแสงนคร มงคลวันวิสาขบูชา
         


ฮือฮาอาทิตย์ทรงกลด พิธียกยอดฉัตรทองคำ พระธาตุแสงนคร มงคลวันวิสาขบูชา" width="100" height="100  ฮือฮาอาทิตย์ทรงกลด พิธียกยอดฉัตรทองคำ พระธาตุแสงนคร ในวันวิสาขบูชา เชื่อเป็นพุทธบารมี
         

https://www.sanook.com/news/9389326/
         

หน้า:  [1] 2 3 ... 10
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.223 วินาที กับ 21 คำสั่ง

Google visited last this page 04 เมษายน 2567 20:52:25